ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 79
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 79 หญิงสาวที่หยิ่งทระนง
เหตุเพราะเวลาเร่งด่วน ทำให้เฉินเฟิงและอาเหาซื้อตั๋ว รถไฟแบบมีที่นอนไม่ได้ ซื้อได้แค่ตั๋วรถไฟแบบนั่ง
หลังจากที่ขึ้นไปบนรถไฟแล้วนั้น เฉินเฟิงนั่งอยู่ริม
หน้าต่าง
ทางด้านอาเหาก็นั่งอยู่ตรงทางเดินอย่างรู้ตัวดี
รถไฟถูกกับรางรถไฟ ทำให้ส่งเสียงปู่นๆออกมา เฉินเฟิงม องไปนอกหน้าต่าง ความคิดของเขาล่องลอย เขาอยู่ที่ เมืองชางโจวมานานสามปี ไม่เคยออกไปจากเมืองชางโจว แม้เพียงครึ่งก้าว การไปจินหลิงในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่เขา ออกเดินทางไปไกล
หลังจากที่ไปถึงสถานีจิ้นโจว รถไฟจอดอยู่พักหนึ่ง ชาย หนุ่มวัยกลางคนสวมชุดสูทที่มีพุงเดินเข้ามาในรถไฟ
ชายวัยกลางคนเดินขึ้นมาถึงบนรถก็เอามือปิดจมูก สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ
หลังจากที่มาถึงข้างๆเฉินเฟิงและอาเหาแล้วนั้น ชายวัย กลางคนหยิบตั๋วรถไฟออกมา ปรายตามองดูครู่หนึ่ง แล้ว นั่งลงฝั่งตรงข้ามเฉินเฟิง
หลังจากที่นั่งลงแล้ว ชายวัยกลางคนหยิบเอากระเป๋า เอกสารสีดำของตนเองออกมาวางบนโต๊ะ กวาดตามอง เฉินเฟิงและอาเหา เมื่อเห็นเสื้อผ้าที่เฉินเฟิงและอาเหาสวม ใส่นั้น รวมกันแล้วยังไม่แพงเท่าเสื้อเชิ้ตหนึ่งตัวของเขาชายวัยกลางคนหัวเราะเยาะด้วยความเย้ยหยัน จากนั้น หลับตาลง ไม่อยากที่จะพูดคุยกับเฉินเฟิงและอาเหา
ผ่านไปอีกไม่กี่นาที ตามด้วยกลิ่นหอมแตะจมูก ร่างสวย ปรากฏตัวออกมาในสายตาของทุกคน
เธอคือหญิงสาวที่สวมเสื้อเชิ้ตสีชมพู สะพายกระเป๋าชา
แนล
หญิงสาวมีใบหน้ารูปไข่ที่สวยและขาวเนียน เธอสูงและมี สง่า ออร่าของเธอนั้นเย็นสดชื่น มีดวงตาที่งดงาม นอกจาก นี้ยังมีความหยิ่งทระนงเล็กน้อย
เป็นเหมือนกับชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเฉินเฟิง หลังจากที่หญิงสาวเดินเข้ามาด้านในรถไฟแล้วนั้น เมื่อเห็น สภาพแวดล้อมที่สกปรกและวุ่นวายภายในรถไฟ คิ้วของ หญิงสาวเลิกขึ้นมาเล็กน้อย แต่ทว่าสีหน้าของเธอไม่ได้ ชัดเจนเท่ากับชายวัยกลางคน
จากนั้นหญิงสาวก็เดินก้าวเท้ายาวสวยๆของเธอมา มุ่ง หน้ามาทางเฉินเฟิง หลังจากที่เดินไปด้านข้างอาเหาแล้ว นั้น หญิงสาวหยิบตั๋วรถไฟออกมา หลังจากที่มองดูเลขที่ นั่งของตนเองแล้วนั้น เบะริมฝีปากกระจับของเธอขึ้นด้วย ความไม่พอใจ
จากนั้นหญิงสาวก็กวาดตามองชายวัยกลางคนที่หน้า เหมือนหมูและเฉินเฟิง เมื่อเห็นทั้งสองคนล้วนนั่งอยู่ริม หน้าต่าง หญิงสาวจึงมองไปที่เฉินเฟิง ชี้ไปที่เฉินเฟิงแล้ว ออกคำสั่ง : “คุณ เปลี่ยนที่นั่งกับฉันที! ”
แน่นอนว่าเฉินเฟิงไม่แม้แต่จะเงยหน้าไปมอง เขาเอาแต่ มองไปนอกหน้าต่าง
เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่มองตน หญิงสาวจึงโมโหขึ้นมาใน ทันที แล้วพูดตะคอก: “คุณมีมารยาทหรือเปล่า ไม่รู้หรือ ไงคะว่าควรสุภาพบุรุษกับผู้หญิงหน่อย?”
เฉินเฟิงจึงหันหน้ากลับไป ปรายตามองหญิงสาว แล้วพูด
เสียงเรียบ: “ไม่รู้”
“คุณ….” หญิงสาวพูดติดขัด
“คนสวยๆ อย่าไปถือสาคนแบบนี้เลย เดี๋ยวผมเปลี่ยนกับ คนเอง คุณมานั่งที่ผม” ชายวัยกลางคนที่มีพุงย้อยเพราะ เบียร์รีบลุกขึ้น สีหน้าของเขาเคล้าไปด้วยรอยยิ้ม พูดกับ เธอเสียงหวาน
เขามองไปที่หลิ่วอีอีตั้งแต่เดินเข้ามาในรถ หุ่นเหมือน
ปีศาจ หน้าตาเหมือนนางฟ้า ผู้หญิงสวยๆแบบนี้ ไม่แตก ต่างจากพวกดาราเท่าไหร่ อีกทั้งมองดูท่าทางของหลิ่วอีอีแล้วนั้น เห็นได้ชัดว่ายัง
คงเป็นนักศึกษาที่ยังไม่ได้เข้าสู่สังคม ขอเพียงแค่เขาลงมือ
นิดหน่อย ก็สามารถจัดการเธอได้อย่างแน่นอน
“ไม่จำเป็น! “หลิ่วอีอีมองไปที่ชายวัยกลางคนด้วยความ รังเกียจ เธอพูดเสียงเย็นยะเยือก เมื่อเทียบกับเฉินเฟิงแล้ว นั้น เธอรังเกียจชายวัยกลางคนคนนี้มากกว่า นับตั้งแต่เธอ เดินเข้ามาในรถ เขาก็เอาแต่จ้องมองมาที่เธอ คล้ายอยาก จะฉีกเสื้อผ้าเธอออกมา
“แล้วคุณจะนั่งที่ไหน คงจะยืนไปตลอดทางไม่ได้หรอก” ชายวัยกลางคนหน้าด้านมาก เขายังคงยิ้มแล้วพูด “ไม่ต้องมายุ่ง! “หลิวอีอีกลึงตามองดูชายวัยกลางคน จากนั้นนั่งลงข้างๆชายวัยกลางคน ซึ่งตรงข้ามกับอาเหา
เพียงแต่ดวงตาคู่สวยของเธอนั้น กลับเอาแต่มองไปที่
เฉินเฟิง ราวกับว่าจะกินเขาอย่างไรอย่างนั้น
เฉินเฟิงยิ้มบางๆ แล้วหันหน้าไป เขายังคงจ้องมองไปดูวิว ทิวทัศน์นอกหน้าต่าง ไม่คิดที่จะสนใจหลิ่วอีอี
“ห์ เล่นตัวต่อหน้าฉัน! ฉันจะดูสิว่าคุณจะเล่นตัวได้นาน แค่ไหน! “หลิ่วอีอีหัวเราะในใจ คนอย่างเฉินเฟิงเขาเห็นมา เยอะแล้ว อยากที่จะจีบเธอ แต่กลัวว่าเธอจะปฏิเสธ ดังนั้น ก็เลยแกล้งทำเป็นเย็นชากับเธอ
คนแบบนี้ เพียงแค่ทิ้งเอาไว้สักพัก สุดท้ายแล้ว ก็จะมา จีบเธอเหมือนคนอื่นๆ
หลิ่วอีอีมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก
“คนสวย ผมชื่อจวงเห่าหยิน คุณชื่ออะไรครับ” ชายหนุ่ม วัยกลางคนเลิกคิ้วขึ้นแล้วเอ่ยถาม เขาต้องจัดการกับหลิ่ว อีอี ก่อนที่เขาจะลงจากรถไฟให้ได้
“ไสหัวออกไป! “หลิ่วอีอีไม่แม้แต่จะมองดูจวงเห่าหยิน
แม้จะถูกด่า แต่จวงเห่าหยินก็ไม่ได้โกรธ เขาหรี่ตาลง แล้วพูดต่อ: “คนสวย คุณจะไปมหาวิทยาลัยจินหลิงใช่ ไหม ผมคุ้นชินกับจินหลิงมาก ผมมีบริษัทหลายบริษัทที่
นั่น…
“เกี่ยวอะไรกับฉัน ! “หลิวอีอีมองไปที่จวงเห่าหยินด้วย ความรังเกียจ ถ้ามีบริษัทหลายบริษัท แล้วคุณจะวิ่งมานั่ง รถไฟ
จวงเห่าหยินคลายยิ้ม ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงโมโหร้ายแบบ นี้ เหมือนกินระเบิดเข้าไป
“คนสวย คุณพูดแบบนี้ไม่ถูกละนะ จะไม่เกี่ยวกับคุณได้ ยังไง มีเพื่อนเยอะก็จะมีทางเลือกเยอะขึ้น ถ้าคุณเป็นเพื่อน กับผมจวงเห่าหยิน วันข้างหน้าเรื่องของคุณก็คือเรื่องของ ผม คุณมีปัญหาอะไร ก็สามารถมาขอความช่วยเหลือจาก ผมได้ โดยเฉพาะเรื่องเงิน ขอแค่คุณไม่มีเงิน โทรศัพท์มา หาผม กี่แสนหยวนก็ไม่เป็นปัญหา ผมแค่ขมวดคิ้วนิด หน่อยก็สามารถโอนให้คุณแล้ว คนสวย นี่คือนามบัตรของ ผมวันข้างหน้าติดต่อกันบ่อยๆ” จวงเห่าหยินยิ้มแล้วยื่น นามบัตรสีทองออกมา ยื่นไปตรงหน้าหลิ่วอีอี
ใครจะไปรู้ว่าหลิ่วอีอีรับนามบัตรมา จากนั้นก็โยนทิ้งขยะ โดยไม่แม้แต่จะมองดู
“ไอ้คนบ้านนอก คุณคิดว่าฉันจะต้องการเงินไม่กี่แสน หยวนของคุณหรอ?”หลิ่วอีอีหัวเราะในลำคอแล้วพูดขึ้น อย่างเย็นยะเยือก เธอคิดไม่ถึงว่า ออกมาด้านนอกสักครั้ง หนึ่ง จะเจอคนโง่และคิดไปเองอย่างจวงเห่าหยิน เธอเป็น ถึงดาวมหาวิทยาลัยจินหลิง คนที่มาจีบเธอนั้น แค่เลือก เล่นๆมาสักคนก็มีเงินเกินพันล้านหยวนแล้ว อีกทั้งยังทั้ง หนุ่มทั้งหล่อ คนรวยหน้าใหม่อย่างจวงเห่าหยิน ไม่มีสิทธิ์ แม้แต่จะเป็นคนถือรองเท้าของพวกคนที่ทั้งหนุ่มทั้งรวยเหล่านั้น
“คนสวย คุณพูดแบบนี้มันเกินไปแล้ว” โดนดูถูกอยู่หลาย ครั้ง ในที่สุดจวงเห่าหยินก็ทนไม่ได้อีกต่อไป เขาพูดด้วย สีหน้าไม่สบอารมณ์ : “แล้วถ้าคุณไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน คุณจะมานั่งรถไฟ?”
“ฉันมีเงิน แต่ฉันแค่อยากจะนั่งรถไฟ คุณจะยุ่งอะไร?” หลิวอีอีพูดขึ้นอย่างทระนง ทว่าภายในใจของเธอกลับรู้สึก เสียใจ เธอควรที่จะเชื่อฟังแม่ ให้คนขับรถมาส่งตนเองที่จิ นหลิง ที่เธอนั่งรถไฟนั้น ไม่ได้เป็นเพราะไม่มีเงินซื้อตั๋ว เครื่องบิน แต่เธออยากลองมีประสบการณ์ดูสักครั้ง ว่าการ นั่งรถไฟมันรู้สึกยังไง ตั้งแต่เล็กจนโต เธอไม่เคยนั่งรถไฟ แม้แต่ครั้งเดียว
ทว่าสิ่งที่คิดไม่ถึงก็คือ การนั่งรถไฟครั้งแรก ก็จะได้เจอ กับคนอย่างจวงเห่าหยิน และคนที่เสแสร้งอย่างเฉินเฟิง
“ผมไม่มีสิทธิ์ยุ่ง คุณมันยอดเยี่ยมมาก โอเคไหม”จวงเห่า หยินหัวเราะอย่างเย้ยหยันแล้วพูดขึ้น
“รู้ว่าฉันยอดเยี่ยม ก็รีบหุบปากเหม็นเน่าของคุณ ไป! “สีหน้าของหลิ่วอีอีเต็มไปด้วยความได้ใจ เหมือนแม่ ไก่ตัวน้อยๆที่หยิ่งทระนง
จวงเห่าหยินหัวเราะในลำคอ แล้วไม่พูดอะไร
เฉินเฟิงที่นั่งอยู่ตรงข้ามทั้งสองคนส่ายหน้าไปมา รู้สึกว่า เรื่องนี้ช่างน่าตลก ผู้หญิงคนนี้ แค่มองก็รู้แล้วว่าถูกที่บ้าน ตามใจมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยเจอกับความน่ากลัวของสังคมและจวงเห่าหยินเองก็ขวัญอ่อน ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่ใจ กล้า ไม่แน่ว่าอาจจะคิดไม่ดีกับผู้หญิงคนนี้แล้วก็ได้