ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 802
เขากุมมือเซี่ยเมิ่งเหยาแน่น พูดเสียงค่อย
“คุณไม่เชื่อผมเหรอ”
เซี่ยเมิ่งเหยาถูกถามจนสับสน
เธอมักจะรู้จักเฉินเฟิงในมุมใหม่ๆเสมอ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ จนแต่งงาน จนหย่าร้าง จนแต่งงานใหม่ ทุกขั้นตอน เขาเหมือนกล่องชอตโกแลตที่ค่อยๆถูกเปิดขึ้น และมีชอคโกแลตหลากรสชาติ
“ไม่……ไม่ใช่ ฉันเชื่อคุณ”
“เมิ่งเหยา ผมมักจะรอให้พวกเราแก่ตัวลง ผมจะประคองคุณ นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ลานบ้าน มองดูลูกของเรา หลานของเรา กำลังเล่นกัน พอคุณเหนื่อย ก็จะเอนซบผมหลับไป ผมกลัวคุณหนาว เลยหยิบเสื้อคลุมห่มให้”
ได้ยินคำหวานหยาดย้อย จินตนาการถึงภาพอันอบอุ่น เซี่ยเมิ่งเหยาก็หน้าแดง
สองคนเคียงข้าง จนไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร
ถ้าเป็นผีมือคนตระกูลเซี่ยทำจริง ก็จะรู้ผลไม่นาน
เป็นเช่นนั้นจริง ไม่กี่วันต่อมา ข่าวในเน็ตก็ถูกลบไป พวกเกรียนคีย์บอร์ดที่คอยประโคมข่าวก็เงียบไปด้วย
แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ แต่คนที่ดาวน์โหลดคลิปมาก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล พวกคอมเมนต์ต่างๆถูกซ่อน
แต่ว่า นั่นเป็นเพียงแค่คนกลุ่มน้อย ไม่ได้กลายเป็นกระแส
เป็นเพื่อนเซี่ยเมิ่งเหยาอยู่ชางโจวเป็นนาน เยี่ยนจิงก็มีข่าวมา
ตงเป่ยไร้เทียมทานจะระบุชื่อคนประลอง
ข่าวคราวสือโพ่จุนง่ายมาก แค่คำเดียว ไม่มีหัวไม่มีท้าย เฉินเฟิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตงเป่ยไร้เทียมทานคือใคร แต่เขาก็ยังคงบอกลาเซี่ยเมิ้งเหยา กลับเยี่ยนจิง
ที่สนามบิน สือโพ่จุนมารับเขา
“ให้ผมรีบกลับมาขนาดนี้ ตงเป่ยไร้เทียมทานเก่งกาจมากหรือไง”
สือโพ่จุนยื่นเอกสารให้เขาฉบับหนึ่ง ด้านบนเขียนเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานของหวางลั่วปิง
ข้อมูลอื่นๆเฉินเฟิงไม่ได้สนใจ แต่ในส่วนของความสามารถเขียนถึงหั้วจิ้งขั้นสูงสุด ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ
“เขาได้กลายเป็นหั้วจิ้งขั้นสูงสุด ทำไมเมื่อก่อนไม่เคยได้ยิน”
สือโพ่จุนอธิบาย
“กำลังของเขาพวกเราก็เพิ่งรู้ไม่นานนี้ และเขาก็เป็นคนพูดออกมาเอง แต่ดูจากการต่อสู้ระยะนี้ ข่าวนี้น่าเชื่อถือได้”
เฉินเฟิงพยักหน้า
เขาเชื่อแหล่งข่าวชองพวกสือโพ่จุน จู่ๆต้องมาต่อสู้กับหั้วจิ้งขั้นสูงสุด เขาเองก็รู้สึกสนใจ
“อย่าเพิ่งดีใจไปเลย เขาเรียกให้ประลองยังไม่รู้สาเหตุอะไร อาจจะเป็นการท้าดวล”
“ท้าดวล ทำไม”
มาเจอยอดฝีมือหั้วจิ้งขั้นสูงสุด ตามล่าพัฒนาฝีมือตนเองถึงเป็นสิ่งที่เขาตามหา ของนอกกลายเป็นเพียงมายาสำหรับเขา
“ไม่รู้ พวกเราไม่มีข้อมูลเขามากนักหรอก”
“งั้นอย่าสนใจเลย ไปเจอเขาก่อน ถ้ารับเงื่อนไขท้าดวลไม่ได้ พวกเราก็อย่ารับปากก็สิ้นเรื่อง”
“ฉันก็คิดแบบนั้น”
กลับไปถึงเยี่ยนจิงคืนนั้น ฝ่ายตรงข้ามนัดเจอที่ร้านอาหารมังกร
แม้ว่าจะรีบหน่อย เฉินเฟิงยังคงไป
สถานที่พวกเขาเลือกหรูหรามาก อยู่ในห้องโถงหรูหราชั้นที่แปดสิบแปด รอจนเฉินเฟิงเดินไป พวกเขาก็รออยู่ที่นั่นแล้ว
พนักงานต้อนรับพาเฉินเฟิงกับสือโพ่จุนเข้าไป แล้วก็มีชายหน้าอ้วนอีกคนออกมาต้อนรับ
“คิดว่าท่านนี้คงเป็นคุณชายเฉินเฉินเฟิง!”
เขาหัวเราะคิกคัก ทุกครั้งที่พูดแก้มบนหน้าจะกระเพื่อม
แต่พวกเฉินเฟิงสองคนไม่กล้าดูแคลน คนๆนี้ฝีเท้ามั่นคง นิ่งสงบ ก้าวเท้าแต่ละก้าวมั่นคง ดูออกว่าเป็นผู้ที่ฝึกมาดี
แค่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้เฉินเฟิงประหลาดใจ ทำไมจู่ๆถึงมียอดฝีมือโผล่ออกมา
เฉินเฟิงกับสือโพ่จุนจึงถามออกไป แล้วเดินตามชายอ้วนไป
ด้านในใหญ่มาก เสามังกร เชิงมังกร เหมือนพระราชวัง ดูอลังการ
แต่นี่ไม่ใช่จุดที่ดึงดูดเฉินเฟิงได้ สิ่งที่ดึงดูดสายตาเขาคือชายชราเครายาวที่นั่งอยู่
ผมยาวถักเปียสามสี่ปล้อง แล้วหัวล้าน
พอเฉินเฟิงเข้ามา ชายชราก็หรี่ตามอง
สือโพ่จุนกระซิบข้างหูเฉินเฟิงว่าชายชราคนนี้คือหวางลั่วปิง
เฉินเฟิงเคยเห็นรูปฝ่ายตรงข้าม จึงไม่ต้องให้สือโพ่จุนเตือน เขาเองก็จำได้
นอกจากหวางลั่วปิง เฉินเฟิงยังรู้จักคนอีกคน
ก็คือชายวัยรุ่นที่สวมนาฬิกาคิงส์ตันที่เจอที่บาร์บาร์เยว่เฟยในวันนั้น
เฉินเฟิงเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่
รอจนทั้งคู่ไปนั่งตรงหน้าคนเจ็ดแปดคน ชายอ้วนจึงแนะนำตัวพูดว่า
“ทุกท่าน คิดว่าทุกท่านคงจะรู้จักแล้วว่าชายหนุ่มผู้นี้เป็นใคร แต่ผมก็ยังต้องแนะนำอยู่ดี คนที่มีพรสวรรค์ที่สุดในสมาพันธ์เยี่ยนจิงที่จะได้เป็นปรมาจารย์คนต่อไป อายุน้อยขนาดนี้สามารถเข้าใกล้หั้วจิ้งขั้นสูงสุด เคยออกสมรภูมิมานับร้อย คุณท่านหวังถ้าประมาทระวังจะเสียเปรียบ”
เขาพูดเหมือนล้อเล่น
แต่ความหมายของคำว่าพรสวรรค์ออกจะยกยอเฉินเฟิงไปหน่อย
ที่ผ่านมาวิทยายุทธ์เป็นที่หนึ่งเสมอ จะต้องมีการทดลองหน่อย แต่ไม่มีใครคิดว่าตัวเองอ่อนแอ
แต่เฉินเฟิงไม่ใส่ใจ คนกลุ่มนี้ก็ไม่ได้มีเจตนาดีอยู่แล้ว ถ้าเขาต้องเกรงใจคงจะเปลืองแรง
หลังจากทั้งสองเข้านั่ง เขาจึงเริ่มถาม
“ผมได้รับข่าวตั้งแต่ชางโจว ตงเป่ยไร้เทียมทานต้องการท้าดวลกับผม ที่จริงผมก็ยังมีหวัง แต่ไม่คิดว่าพวกคุณจะท้าดวล แบบนี้ไม่ค่อยเข้าใจ”
ชายอ้วนนั้นได้ยินคำพูดเฉินเฟิง ไม่รอให้คนอื่นพูด จึงรีบอธิบาย
“คุณชายเฉิน ไม่ได้จริงจังขนาดนั้นครับ”เขายิ้ม
“แค่สนุกๆเท่านั้นเอง ถ้าแค่ดวลธรรมดาออกจะจืดชืดไปหน่อย”
เรื่องท้าดวลเฉินเฟิงไม่สนใจเท่าไหร่นัก เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองจะอ่อนแอกว่าตงเป่ยไร้เทียมทานคนนี้ตรงไหน
“ผมก็ว่ามันจืดชืด ว่าแต่พวกคุณจะดวลอะไร ผมจะได้เตรียม”
“คุณชายเฉิน ไม่ต้องลำบากขนาดนั้น 《จี่เต้าเจินเจี่ย》เล่มนี้ไม่เลว”
ที่แท้พวกเขาเล็งหนังสือเล่มปรมาจารย์เล่มนี้ เฉินเฟิงแอบยิ้มในใจ สีหน้าไม่เปลี่ยน
“《จี๋เต้าเจินเจี่ย》ก็ไม่ใช่ว่าจะเอาออกมาไม่ได้หรอกนะ แต่การดวลต้องยุติธรรม ถ้าผมเอาเคล็ดลับออกมา ปรมาจารย์หวังจะเอาอะไรออกมา”
พวกเขาดูเหมือนเตรียมพร้อมอย่างดี
“คุณชายเฉินพวกเราไม่ให้คุณเสียเปรียบหรอก เคล็ดลับปรมาจารย์เล่มนั้นมูลค่าสูง ในโลกนี้คนที่จะมีเคล็ดลับเล่มนี้หาได้น้อยยิ่ง”
เฉินเฟิงได้แต่ฟังเงียบๆ ไม่แสดงความเห็น
“แต่ไม่กลัวว่าน้องชายจะหัวเราะ พวกเราอยากได้เคล็ดลับเล่มนั้นมานานแล้ว จึงได้หาของที่เทียบเคียงมานาน แต่ว่าสวรรค์ย่อมไม่ทารุณคน ให้พวกเราหาของที่สามารถเทียบเคียงคัมภีร์เคล็ดลับเล่มนั้นได้”