ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 817
เป็นอย่างที่เขาคิดเอาไว้ ชิงจือพยักหน้า
“แต่ตอนนี้ฉันไม่สามารถลงมือได้”
เฉินเฟิงรู้สึกสงสัย
“เพราะอะไร?”
“ฉันมีเหตุผลของฉัน แกไม่ต้องถาม ฉันจะอยู่ที่นี่คอยปกป้องพวกเขา แกไปขับไล่มันซะ”
ชิงจืออธิบายแบบขอไปที เฉินเฟิงเองก็ไม่ได้ถามต่อ แค่มองเด็กผู้หญิงที่นอนอยู่ในโอบกอดของชิงจือ แล้วค่อยๆลูบหัวของเธอ
เสือดาวเองก็สังเกตเห็นว่าเฉินเฟิงกำลังใกล้เข้ามาแล้ว มันค่อยๆก้าวเท้าของตัวเอง กำลังมองหาโอกาสที่ดีที่สุดเพื่อเข้าไปโจมตีเฉินเฟิง
และในเวลาเดียวกัน เฉินเฟิงเองก็ไม่ได้ประมาทศัตรู สายตาทั้งสองข้างจ้องมองไปปยังสัตว์ร้ายตัวนี้
ระยะห่างของทั้งสองค่อยๆเข้าใกล้ไปเรื่อยๆ บางทีนาทีต่อไปคงได้เวลาต่อสู้กันแล้ว
และมันก็เกิดขึ้นไวมาก พอเฉินเฟิงกระพริบตา เสือดาวก็อยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ
การตอบสนองของเขาเองก็รวดเร็ว พอโค้งตัว ก็หลบเขี้ยวของเสือดาวไปได้
จากนั้นก็หันกลับมา เตรียมต้านรับการโจมตีต่อไปของเสือดาว
ประสบการณ์ต่อสู้กับคนนั้นมีมากมาย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินเฟิงต้องรับมือกับสัตว์ร้าย
แต่ว่าเมื่อกี้ เขารู้สึกได้แล้ว ตรงมือได้กำหมัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว พอรอให้มันโจมตีมาในครั้งต่อไป เขาสามารถสวมกลับไปได้
อย่างที่คิดการโจมตีครั้งต่อไปมาอย่างรวดเร็ว
รู้สึกว่าความเร็วจะมากยิ่งกว่าเมื่อกี้เล็กน้อย แต่เฉินเฟิงเตรียมรับมือเอาไว้แต่แรกแล้ว เสือดาวพุ่งกระโดดเข้ามา ระหว่างที่อยู่กลางอากาศ เฉินเฟิงก็ลงมือโจมตีกลับไปทันที
กำปั้นใหญ่ถูกซัดเข้าไปที่หน้าท้องของเสือดาว หน้าท้องถูกซัดจนยุบลงไป เฉินเฟิงสามารถรับรู้ได้ว่า กำปั้นของเขาโจมตีไปโดนอวัยวะข้างในของเสือดาว
สัตว์ร้ายคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวด จากนั้นเสือดาวก็ล้มลงไปทันที นอนอยู่ตรงนั้น ร่างกายยังคงกระตุกอยู่ บางทีคงยืนขึ้นมาไม่ได้อีกแล้ว
เฉินเฟิงยืนมองพักนึง จากนั้นก็ตัดสินใจเข้าไปจบชีวิตของมันซะ สถานการณ์ตอนนี้ของเสือดาว มีเพียงแค่ความเจ็บปวด
เขานั่งอยู่ข้างๆเสือดาว มองมันเป็นครั้งสุดท้าย
“อย่าโทษฉัน แกเป็นคนเล็งพวกเราก่อน ถ้าเกิดฉันไม่ลงมือ แกก็คงจะลงมือ”
พอพูดจบ ก็ไม่ลังเลอีกต่อไป โจมตีไปที่หัวกะโหลกของเสือดาวทันที สังหารมันในครั้งเดียว
เอาล่ะ ภัยอย่างเสือดาวก็ถูกจัดการแล้ว เฉินเฟิงเตรียมที่จะกลับไปข้างกายชิงจือ แต่ระหว่างที่เขาหันกลับมา ทุกกอย่างก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
ชิงจือล้มนอนอยู่บนพื้น ข้างๆมีเด็กผู้หญิงอยู่ เธอคุกเข่าอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ไม่มีการตอบสนองใดๆ
ส่วนคนที่ยืนอยู่ข้างๆชิงจือก็คือเซวี่ยผิง ผู้ชายอ่อนโยนที่สวมแว่นตาคนนั้น
บนมือของเขาถือมีดสั่นเล็กๆอยู่หนึ่งเล่ม ปลายดาบมีของเหลวบางอย่างที่กำลังหยดลงไป ใบหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เฉินเฟิงไม่อยากเชื่อภาพที่ปรากฏในสายตาตัวเอง ฝีมือของชิงจือเขาได้รับรู้ด้วยตัวเองแล้ว ระดับมหาปรมาจารย์ ต่อให้หลังจากที่เขาเปลี่ยนร่างก็ไม่สามารถสู้ได้ แต่ทำไมถึงถูกอีกฝ่ายโค่นล้มได้ง่ายๆแบบนี้ล่ะ
มีความเป็นไปได้หนึ่งอย่างที่เขาคิดขึ้นมาได้ หรือว่าอีกฝ่ายเองก็มีฝีมือระดับเดียวกันกับเธอ
เฉินเฟิงหวาดกลัวสักพัก
แต่พอเห็นเด็กผู้หญิง ที่คุกเข่าอยู่ตรงนั้น เฉินเฟิงไม่อย่าทิ้งเธอไว้แบบนั้น
เขาจึงเดินไปข้างหน้า รอดูว่าจะมีโอกาสพาเด็กผู้หญิงออกมาได้อย่างเงียบๆไหม หรือบางทีเป้าหมายของคนพวกนี้คงมีแค่ชิงจือ
เขาคิดแบบนั้น แต่ก็รู้ว่าความคิดนี้ดูไม่สมเหตุสมผลเอาสักเลย
แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก
อยู่ห่างจากพวกเขาแค่ไม่กี่สิบเมตร แต่เขาเดินช้ามาก
แต่ขอแค่เดินต่อไป มันก็สามารถไปถึงได้ เขาเดินไปอยู่ตรงหน้าของคนพวกนี้
แต่ละคนต่างก็จ้องมองไปยังเฉินเฟิง
โจวซิงไห่พูดว่า
“พวกเราไม่อยากเป็นศัตรูกับแก เธอตายไปแล้ว ภารกิจของพวกเราก็จบลงแล้ว พวกเราต่างก็แยกย้ายกันกลับ แกเองก็คงไม่อยากสู้กับพวกเราสี่คนหรอกจริงไหม”
ดูเหมือนว่าเขากำลังเจรจากับเฉินเฟิง ดูเหมือนจะไม่ค่อยมั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะเฉินเฟิงได้
เฉินเฟิงรู้สึกว่าบางทีฝีมือพวกเขาคงไม่ถึงระดับมหาปรมาจารย์ ส่วนการที่ชิงจือถูกโจมตีอาจจะเป็นเพราะตัวเธอเอง
เขานึกถึงสิ่งที่ชิงจือเคยบอกกับเขาว่าตัวเธอมีเหตุผลส่วนตัว เพราะงั้นมันก็ยิ่งแน่ใจขึ้นเรื่อยๆ
มองคนพวกนี้ แล้วเฉินเฟิงก็ถามขึ้นมาว่า
“ทำไมพวกแกถึงทำแบบนี้? หรือว่าทุกอย่างล้วนถูกวางแผนไว้แต่แรกแล้ว? เธอกับพวกแกมีความแค้นอะไรกัน?”
เฉินเฟิงเป็นคนพาพวกเขามาหาชิงจือ เพราะงั้นเขารู้สึกผิดที่ตัวเขาเองก็เป็นคนทำร้ายชิงจือด้วย
แต่นึกไม่ถึงเซวี่ยผิงจะพูดว่า
“พวกเราวางแผนไว้แต่แรกแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าจะเจอกับแก เฉินเฟิงแกคิดว่าพอแกปิดบังตัวเองแล้ว พวกเราจะไม่รู้ว่าแกเป็นใครใช่ไหม? พวกเรารู้ว่าแกแข็งแกร่งมาก เพราะงั้นระหว่างที่พวกเรากำลังจะยกเลิกแผนที่เตรียมเอาไว้ แกกลับพาผู้หญิงคนนี้ขึ้นมายอดเขา
ฟ้าเป็นใจ อย่างที่คิดไว้วันนี้เป็นวันตายของผู้หญิงคนนี้ แค่ถูกเลือกสถานที่ตายเป็นที่นี่ก็เท่านั้นเอง”
พอเฉินเฟิงได้ยิน ก็รู้สึกประหลาดใจ เขานึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัวจริงของเขาแต่แรกแล้ว เป็นเรื่องน่าขำที่เขายังคิดว่าสามารถปิดบังเอาไว้ได้
พอมองไปยังชิงจือและเด็กผู้หญิงคนนั้นที่อยู่บนพื้น เฉินเฟิงมีตัวเลือกไม่มาก เขาไม่สามารถปกป้องเด็กผู้หญิงคนนี้พร้อมกับสู้กับสี่คนนี้ไปพร้อมกันได้
เพราะงั้นเขาจึงมีแต่ต้องเลือกเห็นด้วยกับข้อเสนอของอีกฝ่าย
“ได้ ฉันจะไม่ลงมือกับพวกแก พวกแกลงเขาไปเถอะ แต่ฉันขอศพของเธอ”
เซวี่ยผิงมองเฉินเฟิง ลังเลไปหลายวินาทีแล้วพูดออกมาว่า
“ได้! ผู้หญิงคนนี้ตายไปแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรที่พวกเราต้องเอาศพไปด้วย”
พอพูดจบ ทั้งสี่คนก็จ้องมองเฉินเฟิงด้วยความระมัดระวัง แล้วค่อยๆเดินห่างออกไปจากเฉินเฟิง
พอรอจนทิ้งระยะได้ประมาณนึง และรู้ว่าเฉินเฟิงไม่มีความคิดที่จะตามมา ถึงได้กล้าวิ่งตรงไปข้างหน้า
ส่วนเฉินเฟงก็เดินไปข้างๆร่างของชิงจือ เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าเขากับเธอเพิ่งรู้จักกันได้แค่ไม่กี่วัน ก็ต้องเก็บศพให้กับเธอซะแล้ว
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเศร้า แต่ก็ไม่พูดอะไร
เด็กผู้หญิงคุกเข่าอยู่ตรงนั้น ไม่ได้ร้องไห้โวยวาย และก็ไม่ได้พูดอะไร เอาแค่จ้องมองชิงจืออยู่อย่างนั้น
บางทีชิงจือยังคงเป็นเหมือนกับคนแปลกหน้าสำหรับเธอ
เฉินเฟิงอยากจะดึงเด็กผู้หญิงขึ้นมา แต่เด็กผู้หญิงก็สะบัดมือเขาออก นั่งอยู่ตรงนั้นยังคงไม่ยอมขยับเขยื้อน ถึงแม้จะอยู่กันแค่ไม่กี่วัน แต่เธอก็ยังเกิดความรู้สึกผูกพันขึ้นมาแล้ว
ระหว่างที่เขากำลังคิดอยู่ ก็ได้ยินเสียงของเด็กผู้หญิงพูดขึ้นมา
“เธออยากให้ฉันกลับมา ตอนนี้ฉันกลับมาแล้ว แต่เธอกลับไม่อยู่แล้วงั้นเหรอ?”
น้ำเสียงของเด็กผู้หญิงแฝงไปด้วยความแน่วแน่ที่ไม่ตรงกับอายุของเธอ แต่มันกลับดูเหมือนเป็นผู้ใหญ่
เฉินเฟิงมองไปยังเด็กผู้หญิงด้วยความประหลาดใจ ส่วนเด็กผู้หญิงก็พูดต่อว่า
“ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรออกห่างจากเธอ ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าการพบกันระหว่างเราจะเป็นแบบนี้ ฉันควรจะกลับมาหาเธอให้เร็วกว่านี้ ถ้าเกิดเป็นไปได้…… แต่ตอนนี้ไม่มีถ้าเกิดแล้ว ฉันทำผิดต่อเธอ”
พอพูดจบ จู่ๆเด็กผู้หญิงก็สลบไป นอนกองอยู่ข้างๆร่างของชิงจือ
ดูราวกับอยู่ในความฝัน เฉินเฟิงไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้จริงๆ
น้ำเสียงที่แปลกประหลาดนั้น ดูยังไงเด็กคนนี้ก็ไม่ได้เป็นแค่เด็กผู้หญิงธรรมดา
แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะสลบไปซะแล้ว เฉินเฟิงอึ้งอยู่สักพักถึงกลับมันมีสติอีกครั้ง
“ฉันคงต้องจัดการศพก่อนดีกว่า!”
จู่ๆเขาก็ไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องนี้ยังไงดี คงต้องเริ่มจากชิงจือก่อน
เขาเอาร่างของเด็กผู้หญิงออกมา และเตรียมที่จะพาร่างของชิงจือลงไปยังตีนเขา
แต่พอแตะตัวของชิงจือ ก็รู้สึกได้ถึงความผิดปรกติ
ศพที่เดิมที่ไม่มีลมหายใจแล้วกลับเริ่มหายใจออกมา เธอยังไม่ตาย
เฉินเฟิงมองชิงจือด้วยความตกใจ มันเป็นไปได้ยังไงกัน