ลูกเขยมังกร - ตอนที่ 853
แต่เมื่อในตอนที่ฝนปรอยลงบนใบหน้าจนเขาฟื้นขึ้นมา จากเดิมทีที่เขาคิดว่าจะยังคงเป็นดังทุกครั้ง แต่ปรากฏว่าอยู่ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป
หลี่จื่อเยว่หายตัวไป ตอนนี้ข้างกายของเขาไม่ได้มีหญิงสาวชุดแดงคนนั้นอีกแล้ว
ในใจของเฉินเฟิงตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เขารีบลุกขึ้นในทันทีก่อนจะเดินไปหาในบริเวณโดยรอบ แต่เมื่อตามหาจนวนครบหนึ่งรอบแล้ว เขาก็ยังไม่เห็นร่างของเธอเลย
อยู่ๆ คนก็หายไปกลางอากาศเสียอย่างนั้น
ไม่สิ เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาหมดสติไป เขายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลย คงจะต้องเป็นเวลานั้นที่มีคนเอาตัวหลี่จื่อเยว่ไปแน่นอน
แต่ว่ามันคือใครกันแน่ แล้วตอนนี้หลี่จื่อเยว่จะยังคงมีชีวิตปลอดภัยหรือเปล่านั้นเฉินเฟิงไม่อาจรู้ได้เลย
ตอนนี้ฝนที่ยิ่งตกก็ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ คนที่หลับอยู่ตรงพื้นต่างพากันตื่นขึ้นมากันหมดแล้ว พวกเขาเป็นเหมือนหนุ่มสาวที่สนุกสนานไปกับค่ำคืนแห่งงานรื่นเริง พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็กลายเป็นวันใหม่แล้ว
บางคนก็พากันออกไปจากที่นี่แล้ว ในขณะที่บางคนยังอยู่ที่นี่ต่อสักพัก
เฉินเฟิงเข้าไปถามไถ่พวกเขา แต่พวกเขากลับไม่มีใครรู้เลย พวกเขาอยู่ที่นี่เพียงแค่เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงนั้นพร้อมกับเชื่อว่าเป็นกระบวนการหนึ่งในการสวดภาวนาเท่านั้น
เฉินเฟิงเริ่มรู้สึกสิ้นหวัง แต่ในตอนที่เขาไร้ซึ่งเบาะแสที่จะไปตามหาเธอนั้น เขาก็ได้สังเกตเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินออกมาจากกลางทุ่งเพียงตัวคนเดียว
ในขณะที่คนที่อยู่ในทุ่งนั้นล้วนเป็นคู่หนุ่มสาวทั้งนั้น
เฉินเฟิงฉุกคิดขึ้นมาว่าเขาจะเจอเหตุการณ์เดียวกับตัวเองหรือเปล่าที่ว่าสูญเสียฝ่ายหญิงที่เป็นคู่เต้นรำไป
เขาจึงรีบวิ่งไล่ตามไปก่อนจะถาม: “คุณมาคนเดียวหรอครับ?”
ชายคนนั้นไม่ตื่นตัวจากการที่เฉินเฟิงเข้ามาหาเลย ก่อนจะตอบกลับอย่างเป็นกันเอง : “ผมมากับภรรยาของผม”
และมันก็เป็นอย่างที่เฉินเฟิงคิดเอาไว้ไม่มีผิด
“แล้วคุณหญิงของคุณไปไหนแล้ว?”
ชายคนนั้นยิ้มตอบ: “เธอถูกเทพเจ้ามงคลเลือกไปแล้ว ตอนนี้คงกำลังได้รับการประทานพร หลังจากนี้อีกสองวัน พิธีขอพรของพวกเราก็จะเสร็จสมบูรณ์สักที”
เฉินเฟิงถึงกับตกตะลึงก่อนจะรีบฉุดแขนของอีกฝ่ายพร้อมกับถามด้วยความลนลาน : “ถูกเลือกแล้ว หมายความว่ายังไง?”
แต่ชายคนนั้นกลับเข้าใจว่าเฉินเฟิงกำลังถามในสิ่งที่รู้อยู่แล้ว พร้อมกับตอบกลับ: “ถูกเลือกก็คือถูกเลือกแล้ว ไปเข้าเฝ้าเทพเจ้าแล้ว ”
เฉินเฟิงยากที่จะเข้าใจถึงคำพูดที่พูดออกมาง่ายดายแบบนั้นของอีกฝ่ายก่อนจะถามอีกครั้ง: “แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าเทพเจ้าอยู่ที่ไหน ?”
ตอนนี้เขามั่นใจอย่างมากว่าหลี่จื่อเยว่ก็ถูกเทพเจ้าคนนี้จับไปเช่นกัน
แต่ชายคนนั้นกลับส่ายหน้า: “ความลับนี้ของเทพเจ้า ไม่ใช่ว่าคนธรรมดาทั่วไปที่จะได้รับรู้ ”
เฉินเฟิงเริ่มวิตกขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้เขาเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของหลี่จื่อเยว่ แต่เมื่อคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็เปลี่ยนคำถาม : “แล้วคุณมั่นใจได้ยังไงว่าคุณหญิงของคุณจะกลับมา?ก่อนหน้านี้เคยมีคนผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้วหรอ?”
ชายคนนั้นพยักหน้า เขาตอบอย่างมั่นใจอย่างมาก
แต่ว่าเฉินเฟิงกลับยิ่งแปลกใจมากยิ่งขึ้น อีกฝ่ายไม่กลัวเลยหรือว่าที่อยู่ของตัวเองจะถูกเปิดเผย หรือว่าพวกเขามีความมั่นใจอย่างมากว่าคนที่กลับมาจากที่นั่นจะไม่มีทางเปิดเผยเรื่องของพวกเขา
เฉินเฟิงถือแผนที่เอาไว้ในมือ เดินทางมายังย่านเล็กๆแห่งหนึ่งในตำบลแห่งนี้
แผนที่นี้เป็นที่อยู่หนึ่งที่ชายคนนั้นได้บอกกับเฉินเฟิงว่าเป็นที่อยู่ของผู้หญิงคนหนึ่งที่กลับมาจากการเข้าเฝ้าเทพเจ้าที่เขารู้จัก
เมื่อมาถึงหน้าบ้านของอีกฝ่าย เฉินเฟิงก็เคาะประตูทันที และเพียงไม่นานด้านในก็มีคนตอบสนองกลับมา
คนที่มาเปิดประตูเป็นหญิงสาววัยรุ่นอายุราวๆยี่สิบกว่าปี หน้าตาสะสวย ท่าทางอ่อนโยน เป็นคนแบบที่ใครได้เห็นก็ไม่อาจละสายตาได้เลย
เฉินเฟิงเริ่มคิดขึ้นมาทันทีว่าสาเหตุที่หลี่จื่อเยว่ถูกพาตัวไปคงเป็นเพราะความสวยแน่นอน และนั่นยิ่งทำให้เขาเกิดความกังวลใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
หญิงสาวคนนั้นเมื่อเห็นชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านนอกก็ถามด้วยความสงสัย : “ไม่ทราบว่า คุณคือใครคะ?”
เฉินเฟิงตอบกลับ: “คุณจำงานรอบกองไฟได้หรือเปล่าครับ?”
หญิงสาวหรี่ตาลงมองเฉินเฟิง จากนั้นค่อยๆ พยักหน้า
เฉินเฟิงกล่าวแนะนำตัวทันที: “ผมเองก็เป็นหนึ่งในงานนั้น แต่ว่าภรรยาของผมถูกเทพเจ้ามงคลเลือกไป ผมเลยอยากมาถามว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ”
และคงเป็นเพราะได้ยินเฉินเฟิงพูดว่าเป็นคนหนึ่งที่มาจากงานรอบกองไฟนั้น ตอนนี้ความระวังตัวของเธอที่มีต่อเฉินเฟิงจึงลดน้อยลงไปอีก
เธอเชิญเฉินเฟิงให้เข้าไปด้านในบ้านของตัวเอง ก่อนจะช่วยรินชาให้กับเขา
จากนั้นเธอถึงค่อยพูดขึ้นมาอย่างอ่อนโยน
“ถ้าหากคุณเชื่อมั่นในตัวของเธอ พวกคุณก็จะได้พบกับเรื่องราวสวยงามอีกมากมาย คุณจะต้องขอบคุณแก่พรนั้น เพราะเขาจะทำให้คุณมีความสุขแน่นอน”
เฉินเฟิงไม่ได้มาที่นี่เพื่อฟังคำพูดเหล่านี้ สิ่งที่เขาอยากรู้คือตอนนี้หลี่จื่อเยว่อยู่ที่ไหน ดังนั้นเขาจึงรีบถามกลับทันที : “ผมได้ยินมาว่าคุณกลับมาจากที่นั่น?คุณพอจะบอกผมว่าที่นั่นคือที่ไหนได้หรือเปล่าครับ?”
แต่หญิงสาวคนนั้นกลับส่ายหน้าเบาๆ พร้อมกับพูด: “นั่นเป็นเรื่องที่ยากจะรู้ ทุกอย่างล้วนเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นอย่างนั้น ”
เฉินเฟิงถึงจะไม่รู้ว่าคนพวกนั้นใช้วิธีการไหนในการล้างสมองพวกเธอ แต่เฉินเฟิงจะต้องหาวิธีอื่นในการตามหาครั้งนี้เท่านั้น ก่อนที่เขาจะพูดขึ้น : “ผมสามารถใช้เงินซื้อข้อมูลนี้ของคุณ คุณเสนอราคามาได้เลย ไม่ว่าจะเยอะแค่ไหนผมก็ยอมครับ ”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายไม่เชื่อ หรือเป็นเพราะพลังของความลึกลับนั้นมันแข็งแกร่งเกินไปถึงได้ทำให้เธอไม่ยอมพูดออกมา
จากนั้นเธอก็กล่าวปฏิเสธ
“เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่เงินสามารถซื้อได้หรอกนะคะ นั่นคือความลึกลับของความสุข ซึ่งสามารถทำให้คนเรารู้สึกอิ่มเอมใจ ดังนั้นฉันไม่อยากที่จะหักหลังให้กับความรู้สึกของตัวเอง ”
เฉินเฟิงจ้องมองเธอ ถึงออร่าจากแววตาอันแสนสงบนั้นของเธอก็ทำให้เกิดความผ่อนคลาย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไรอยู่ดี
“หนึ่งล้าน ราคานี้มากพอที่จะใช้ซื้อคอนโดห้องนี้ได้เลย ” สุดท้ายเฉินเฟิงก็เป็นคนเสนอราคาออกมาเสียเอง
หญิงสาวอึ้งตะลึงทันที เมื่อได้ยินตัวเลขของจำนวนเงินนั้น และทำให้เธอเกิดความหวั่นไหวไม่น้อย
“คุณอย่ามายั่วยวนฉันเลย ฉันทรยศไม่ได้จริงๆ ค่ะ”
เฉินเฟิงเสนอราคาที่มากขึ้นไปอีก : “สองล้าน ผมสามารถเซ็นเช็คให้คุณตอนนี้เลย ”
เมื่อพูดไป เขาก็พลางหยิบเช็คเงินสดออกมาทันที
และเพียงเพราะการกระทำนี้ของเฉินเฟิงทำให้เธอถึงกับชะงักทันที เดิมทีเธอเหมือนจะเป็นคนที่ไม่อยากจะไปขึ้นเงินด้วยเช็ดเงินสดแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เหมือนว่าเธอจะทำความเข้าใจถึงการเสนอเงินอย่างไม่อั้นแบบนี้ของเฉินเฟิงนี้ใหม่อีกครั้งแล้ว
“คุณยอมจ่ายเงินสองล้านจริงหรอคะ?”
เฉินเฟิงพยักหน้า ทว่าหญิงสาวยังคงมีความลังเลอยู่
นี่ก็ถือว่าเป็นจำนวนตัวเลขที่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับตัวเลขนี้ อีกฝ่ายกลับยังมีความสับสนอยู่ดี แล้วมันต้องเป็นความศรัทธาแบบไหนกันแน่ถึงจะสามารถเปรียบเทียบได้กับเงินจำนวนสองล้านนี้ได้
แต่ในเมื่อไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถทำให้ความแน่วแน่นั้นสั่นคลอนได้เลย ดังนั้นเฉินเฟิงจึงไม่คิดอะไรมากมาย ในเมื่อสองล้านไม่พออย่างนั้นสามล้านก็ได้
“สามล้าน เพื่อซื้อข้อมูลเดียวของคุณ”
เฉินเฟิงรู้ดีว่าตอนนี้เหลืออีกเพียงขั้นตอนเดียวเท่านั้น จากนั้นเขาก็เขียนตัวเลขลงไปในเช็คเงินสดทันที ก่อนจะยื่นให้กับอีกฝ่าย
หญิงสาวมองดูตัวเลขบนเช็คเงินสดที่ถูกเขียนไว้อย่างชัดเจน จากนั้นเธอก็ไม่มีความคิดอะไรที่จะต้องแย้งอีกต่อไป
หญิงสาวยื่นมือไปจับขอบเช็คเงินสดใบนั้น ราวกับไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเลขที่เขียนอยู่บนนั้นจะเป็นของจริง ทั้งยังไม่อยากจะเชื่อว่าเฉินเฟิงจะทำแบบนั้นจริงๆด้วย
เธอเม้มริมฝีปากที่ค่อนข้างแห้งของตัวเองก่อนจะพูดกับเฉินเฟิง: “ฉันจะบอกเรื่องสถานที่แห่งนั้นให้กับคุณ แต่ว่าคุณห้ามบอกใครเด็ดขาดว่าฉันเป็นคนบอกเรื่องนี้กับคุณ ”
เฉินเฟิงเข้าใจอย่างง่ายดาย ก่อนจะพยักหน้า: “คุณวางใจได้เลย จนถึงตอนนี้แม้แต่ชื่อของคุณผมยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ต่อให้อยากจะพูดก็ทำไม่ได้อยู่ดี ”
และเมื่อคิดแล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ หญิงสาวคิดไปคิดมาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูด : “อันที่จริงตอนที่ฉันออกมาจากที่นั่นโดยที่ไม่ได้มีความทรงจำอะไรมากเกี่ยวกับที่นั่นเลย