ลูกเขยมังกร - บทที่ 906 นักธุรกิจคนหนึ่ง
ไป๋ซิงรับแก้วน้ำจากมือของเขามา แต่กลับถือไว้ในมือ
เขาก้มศีรษะลงอยู่ที่นั่น ดูเหมือนว่าเกิดปัญหาเรื่องราวที่กลุ้มใจมากเป็นพิเศษ เฉินเฟิงก็นั่งลงไปข้างตัวเขา แล้วถามว่า “สีหน้าท่าทางแกทำไมเป็นอย่างงี้ล่ะ หรือว่าพวกแกแต่ละคนมาที่นี่ก็เอาแต่ทำสีหน้าให้ฉันดูทุกคนเลยเหรอ?”
เมื่อได้ยินที่ฉันพูดเช่นนั้นแล้ว ไป๋ซิงก็ค่อยๆปรับสีหน้าท่าทางของตัวเอง เขาพูดว่า “ที่จริงก็มีเรื่องกลุ้มใจบ้างนิดหน่อย แต่ก็คิดว่าไม่ได้มาเยี่ยมแกนานแล้ว ก็เลยรู้สึกว่ามาถามไถ่อาการของแกดีกว่า”
เฉินเฟิงยิ้มแล้วพูดว่า “แกเป็นห่วงฉันขนาดนี้ รู้สึกว่าแกเหมือนถูกบีบบังคับยังไงไม่รู้ ไม่ได้มาด้วยความเต็มใจเลย”
ไป๋ซิงก็ฝืนหัวเราะขึ้นมา “ถ้าแกคิดอย่างที่พูดจริงละก็ งั้นก็ไม่มาเสียดีกว่า ประเดี๋ยวจะทำให้แกเข้าใจความหมายของฉันผิดไป กลับจะทำให้แกเกลียดชังฉันอีก”
เฉินเฟิงดื่มน้ำไปหนึ่งคำ แล้วพูดว่า “พูดมาเลยว่าแกมีเรื่องอะไรกันแน่ ดูจากท่าทางแกแล้วฉันก็รู้ว่าแกจะต้องมีอะไรมาขอร้องฉันแน่นอน”
ส่วนเฉินเฟิงก็เอ่ยปากพูดถึงขนาดนี้แล้ว ไป๋ซิงก็ไม่มีอะไรที่จะต้องลังเลอีกแล้ว เขาก็ดื่มน้ำตามไปหนึ่งคำเช่นกัน จากนั้นก็พูดว่า “ที่จริงแล้วฉันก็มีบางเรื่องที่อยากจะไหว้วานแกหน่อย แต่ก็กลัวเสียหน้าเลยไม่กล้าพูดออกมา”
เฉินเฟิงมองไปยังไป๋ซิงอย่างจริงจังแล้วพูดว่า “ฉันบอกแล้วไงว่า แกเคยช่วยชีวิตฉันไว้ ถ้ามีปัญหาเรื่องอะไรละก็ บุญคุณนี้ฉันก็ย่อมต้องทดแทนให้แน่”
ไป๋ซิงถูกสายตานั้นจ้องมา ในที่สุดก็ไม่ลังเลอีกต่อไป “ฉันคิดว่าแกก็น่าจะรู้ว่าช่วงนี้บ้านตระกูลไป๋พวกเราเกิดเรื่องขึ้น เดิมทีฉันคิดว่าเรื่องนี้จะสามารถแก้ไขได้ง่ายๆ แต่ว่า…….”
สีหน้าของไป๋ซิงแสดงออกถึงความสับสนบ้างเล็กน้อย ดูเหมือนทำใจยอมรับไม่ได้กับความพ่ายแพ้ของตัวเองอย่างมากทีเดียว
ถึงแม้พอจะรู้เรื่องบ้างก็ตาม แต่รายละเอียดเกิดเรื่องอะไรขึ้นนั้นเขาก็ยังรู้ไม่ชัดเจนมากนัก ดังนั้นจึงได้แต่ถามว่า “แกอยากให้ฉันช่วยยังไงล่ะ?”
ไป๋ซิงคิดดูแล้วก็พูดว่า “คุณชายเฉิน ขอเพียงให้คุณช่วยฉันจัดการกับคนคนหนึ่งก็พอแล้ว”
เฉินเฟิงถามด้วยความสงสัยว่า “คนคนหนึ่งเหรอ? เป็นใครกัน?”
“เป็นนักธุรกิจมีชื่อเสียงคนหนึ่ง ช่วงนี้เขามาถึงแถบทะเลทรายนี้แล้วเตรียมจะเปิดโครงการหนึ่ง ส่วนโครงการนี้ก็เกี่ยวโยงกับตระกูลไป๋เรา ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้ไป๋ซูเข้าไปเกี่ยวข้องกับเขาด้วย ถ้าโครงการนี้สามารถทำสำเร็จละก็ อย่างน้อยตระกูลไป๋ก็จะสามารถพลิกฟื้นขึ้นมาอยู่ในเกรดที่สูงขึ้นอีกขั้นหนึ่งได้”
เฉินเฟิงครุนคิดสักครู่ ยิ้มแล้วพูดว่า “แกคิดอยากจะขัดขวางการค้าระหว่างไป๋ซูกับเขา จากนั้นก็ทำให้เขาหมดหนทางที่จะแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวตระกูลไป๋กับแกใช่ไหมล่ะ?”
ไป๋ซิงก็พยักหน้าอย่างเปิดเผย
“งั้นนักธุรกิจคนนี้เป็นใครกันแน่ อาศัยโครงการนี้โครงการเดียวถึงกับทำให้ตระกูลไป๋สามารถอัพเกรดให้สูงขึ้นอีกขั้นหนึ่งได้ ฉันคิดว่าเขาน่าจะเป็นนักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งเลย ใช่หรือเปล่าล่ะ?” เฉินเฟิงถามด้วยความอยากรู้
ไป๋ซิงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ผู้อำนวยการใหญ่ของสมาคมหลิวซิง ชื่อ Southco ”
เฉินเฟิงก็รู้สึกเซอร์ไพรส์มาก “เป็นตาเฒ่าคนนั้นเชียวเหรอ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาลงทุนที่ทะเลทรายแห่งนี้ ฉันจำได้ว่าคราวที่แล้วตอนเขามาลงทุนก็เป็นเวลาตั้งแต่ 20 ปีที่ผ่านมาแล้ว อยู่ฝั่งทะเลตะวันออกเฉียงใต้ ลงทุนก่อตั้งโรงงานอุปกรณ์การผลิตระดับไมโครที่ใหญ่ที่สุดในโลก”
ไป๋ซิงก็ได้แต่ถอนหายใจ “ไอ้หมอนั่นเป็นนักลงทุนที่มีพรสวรรค์คนหนึ่งจริงๆ ทุกครั้งที่ลงทุนก็คาดคะเนได้แม่นยำว่าเป็นธุรกิจที่จะต้องร้อนแรงในอีก10ปีข้างหน้า ทำให้เขา สามารถทำกำไรมหาศาลเป็นกอบเป็นกำจากการลงทุนเพียงครั้งเดียว”
เฉินเฟิงมองดูท่าทางของไป๋ซิงที่หมดกำลังใจ จึงพูดปลอบโยนว่า “ในเมื่อแกมาหาฉันถึงที่แล้ว งั้นฉันก็จะต้องช่วยเหลือแกอย่างแน่นอน แล้วก็พอดีเลย ที่ฉันพอสนิทสนมกับ Southcoคนนี้บ้าง”
ไป๋ซิงมองไปยังเฉินเฟิงด้วยความประหลาดใจ “แกก็รู้จักเขาด้วยเหรอ? เดิมทีฉันเพียงแต่อยากจะให้แกช่วยฉันขัดขวางไม่ให้เขามาลงทุนที่ทะเลทรายนี้เท่านั้น ขอเพียงแต่ให้เขาออกไปจากทางตะวันตกเฉียงเหนือได้ งั้นเขาจะไปลงทุนที่ไหนฉันก็ไม่สนใจอะไรหรอก แต่ถ้าแกรู้จักเขาล่ะก็ งั้นคุณชายเฉินคุณก็กรุณาช่วยเป็นสะพานทอดให้ฉันข้ามไปด้วยจะได้ไหม?”
ถึงแม้ไป๋ซิงจะขอร้องเช่นนี้ แต่ว่าเฉินเฟิงก็ไม่สามารถที่จะตกลงกับเขาได้ทันที ก็ยังพูดอย่างสงวนท่าทีว่า “นี่ฉันก็รับปากอะไรไม่ได้แน่นอนหรอกนะ ถึงแม้ฉันจะรู้จักกับเจ้าผู้เฒ่าคนนั้นก็จริง แต่เขาจะเห็นแก่หน้าฉันหรือเปล่า ฉันก็ยังไม่แน่ใจเลย”
ไป๋ซิงกลับไม่รู้สึกว่ามีปัญหาอะไร พูดอย่างดีใจว่า “ขอเพียงคุณชายเฉินช่วยพาฉันไปพบกับSouthco ฉันก็มีความมั่นใจที่จะทำให้เขาตกลงร่วมมือกับฉันได้”
เฉินเฟิงก็ไม่รู้ว่าเขาทำไมถึงได้มีความมั่นใจขนาดนี้ แต่คิดดูแล้วก็พูดตอบตกลงว่า “ได้ ฉันจะช่วยแกติดต่อกับตาแก่นั่นให้ สำหรับเรื่องต่อจากนั้น ฉันก็แค่ช่วยแกได้เท่านี้ แต่สำคัญที่สุดก็ต้องดูที่ตัวแกเองนั่นแหละ”
แต่ว่าเพียงแค่นี้ไป๋ซิงก็ดีใจมากแล้ว
ตอนเวลาที่เขาเข้ามาก็แลดูหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่ตอนที่จากไปกลับเปลี่ยนเป็นหน้าระรื่นสดใส
แต่ว่าเฉินเฟิงก็ไม่มีเบอร์โทรศัพท์โดยตรงของSouthco ดังนั้นเขาจึงติดต่อให้สือโพ่จุน ทางนั้นส่งหมายเลขโทรศัพท์มาให้
หลังจากที่เฉินเฟิงโทรไปแล้ว ผ่านไปสักครู่ก็มีคนรับสาย
“คุณคือใครครับ?” อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้น ดังนั้นSouthco จึงถามขึ้น
เฉินเฟิงตอบว่า “ฉันเอง เฉินเฟิงไง”
“เฉินเฟิง ไอ้หมอนี่นายทำไมจู่ๆก็โทรมาหาฉันกะทันหันอย่างนี้ล่ะ หรือว่านายคิดอยากจะมายืมเงินฉันเหรอ? ฉันจะบอกให้นะ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว”
เฉินเฟิงขมวดคิ้ว เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมไอ้หมอนี่ถึงได้พูดแบบนี้ เขาจึงรีบปฏิเสธไปว่า “ทำไมถึงคิดว่าฉันจะยืมเงินนายล่ะ ตอนนี้เงินนายมีมากกว่าฉันแล้วเหรอ? ถ้านายไม่มีเงินละก็ จำไว้นะมาหาฉันได้ ฉันจะให้เงินนายก้อนหนึ่งไปลงทุนต่อเลย”
Southco หัวเราะแล้วพูดว่า “ฮ่าๆ นายก็ยังตลกอย่างนั้นเหมือนเดิม แต่ว่า เร็วๆนี้ฉันก็สนใจโครงการใหญ่อยู่โครงการหนึ่งนะ โครงการใช้แร่แรร์เอิร์ธ เป็นไงล่ะ นายสนใจบ้างไหม ถ้านายจะมาร่วมลงทุนด้วยละก็ ฉันบอกนายได้เลยว่ารับรองนายจะได้เงินกำไรมหาศาลเลยทีเดียว”
เฉินเฟิงคิดแล้วก็พูดปฏิเสธไปว่า “นี่ฉันคงไม่ไปแย่งกับนายหรอกนะ ฉันคิดว่าลำพังนายคนเดียวคงไม่ขาดเงินลงทุนหรอก ถ้าถึงเวลาเข้าตลาดเมื่อไหร่ ฉันอาจจะคิดพิจารณาดูอีกทีก็ได้”
Southcoพูดด้วยความเสียดายว่า “งั้นมันน่าเสียดายจริงๆเลยนะ ที่จริงเรื่องเงินทองก็น่าจะ ร่วมมือช่วยกันหาด้วยกัน ดูไปแล้วนายคงต้องมีแหล่งที่หาเงินอะไรที่ไหนอีกล่ะสิ”
เฉินเฟิงก็ไม่ถกเถียงอะไรกับเขาในปัญหาเรื่องนี้ จึงถามเรื่องของไป๋ซิงขึ้นมา
“โครงการใหม่ของนายตอนนี้อยู่แถบทะเลทรายใช่หรือเปล่า?”
Southco พูดอย่างประหลาดใจว่า “เฉินเฟิง นายรู้ได้ยังไงล่ะ? นายแอบสอดแนมฉันเหรอ ถ้านายคิดอยากจะเข้ามาร่วมทุนด้วยละก็ ฉันย่อมต้องดีใจเป็นธรรมดา แต่นายก็ไม่น่ามาสะกดรอยตามฉันอย่างนี้เลยนะ……”
เฉินเฟิงฟังแล้ว นี่มันเป็นการคิดแบบมโนอะไรได้ถึงเพียงนี้ จึงรีบพูดตัดตอนเขาว่า “ฉันคงไม่คิดจะไปสอดแนมนายหรอกนะ พอดีฉันก็มาอยู่ทะเลทรายที่นี่ ดังนั้นจึงได้รู้เรื่องนี้ ตอนนี้ตัวนายอยู่ที่ไหนล่ะ?”
Southcoได้ฟังแล้วก็รู้ว่าเป็นเช่นนี้นี่เอง จึงพูดอย่างสำนึกผิดว่า “ขอโทษนะ เฉินเฟิง ฉันเข้าใจนายผิดเอง ตอนนี้นายยังอยู่ที่ทะเลทรายเหรอ? ช่วงนี้ฉันก็จะเข้าไปเหมือนกัน รอให้มาถึงทะเลทรายเมื่อไหร่ แล้วฉันจะไปหานายดีไหม?”
เฉินเฟิงยังไม่ทันพูดอะไรเลย Southcoกลับเสนอตัวมาเอง นี่ก็พอดีเลยไม่ต้องให้เฉินเฟิงเอ่ยปากพูดอีก
“ได้เลย แต่ว่าฉันจะพาอีกคนหนึ่งไปด้วยนะ เขาบอกว่าอยากจะมารู้จักกับนาย”
“งั้นไม่มีปัญหา”