ศพ - ตอนที่ 206 ค่าตอบแทน
ตอนที่ 206 ค่าตอบแทน
ขณะที่ผู้กํากับจางกรีดร้อง ถุงหอมที่อยู่ในมือของเขา ก็เกือบตกลงพื้นแล้ว
แต่ดูเหมือนตาของผมจะเร็ว ผมจึงได้เอื้อมมือไปจับเอาไว้ทัน
ในเวลาเดียวกันผมก็พูดกับผู้กํากับจางที่กําลังตื่นตกใจว่า “ ไม่ต้องกลัว ในร่างกายของทุกคนก็มีวิญญาณทั้งนั้น พอตายแล้วทุกคนก็จะเป็นเหมือนพวกเขา ไม่มีอะไรต้องกลัว !
ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ผมก็ไม่สามารถทําให้ทุกคนสงบลง
นักแสดงหลายคนก้าวถอยไปข้างหลัง พวกเขาเริ่มออกห่างจากถุงไกลขึ้นเรื่อยๆ
แต่ผู้กํากับจางยังกลืนน้ำลาย จากนั้นก็พูดด้วยความหวาดกลัว “ ใน ในถุงนี้ มี มีพวก เสี่ยวหลงอยู่จริงๆเหรอครับ ”
ผมเงียบไปพักหนึ่ง ผมจะไปรู้ชื่อพวกเขาได้ยังไง ผมเพียงแค่แยกแยะจากรูปร่างหน้าตาของพวกเขาเท่านั้น
เมื่อผู้กํากับจางได้ยิน เขาก็รู้ทันทีว่าใครคือช่างไฟ ใครคือคนดูแลอุปกรณ์ประกอบฉาก
ในเวลาเดียวกัน ผมยังพูดกับผู้กํากับจางว่า “ วิญญาณของพวกเขาถูกขังเอาไว้ที่นี่ เมื่อคืนพวกเราได้ช่วยเขาออกมา ตอนมีชีวิตพวกเขาเป็นคนในกองถ่ายของคุณ ตอนนี้คุณช่วยพวกเขาหน่อย เอาวิญญาณของพวกเขากลับไปไว้ ในหลุมศพของตัวเอง ทําแบบนี้แล้วพวกเขาจะมีโอกาสได้กลับไปเกิดเป็นคนอีกครั้ง !”
ขณะที่พูด ผมก็เอื้อมมือออกไป ยื่นถุงให้เขาอีกครั้ง
ผู้กํากับจางค่อนข้างหวาดกลัว แต่เขาก็ยังเข้ามา จับถุงในมือของผมอย่างระมัดระวัง
ตอนนี้งานสุดท้ายก็เสร็จแล้ว ผมจึงไม่คิดจะอยู่ที่นี่ต่อ
ผมโบกมือให้กับทุกคนทันที “ ทุกคนแสดงหนังกันดีๆ นะครับ พอหนังฉายแล้ว ผมจะรอดูตั้งแต่ตอนแรกเลย ! ”
หลังจากพูดจบ ผมและหยางเฉ่วก็หมุนตัว เดินออกไปจากคฤหาสน์ทันที
แต่พวกเราเพิ่งออกจากคฤหาสน์ได้ไม่ไกล จู่ๆอู่ฮุ่ยฮุ่ยก็วิ่งตามมา “ ติงฝาน พี่หยางเฉ่วรอก่อน…”
จู่ๆก็ได้ยินเสียงอู่ฮุ่ยฮุ่ยเรียกพวกเราสองคน ผมจึงสงสัยมาก รีบหันกลับไปมองทันที
หยางเฉ่วพูดออกมาทันที “ มีอะไรอีกเหรอ”
อู่ฮุ่ยฮุ่ยยิ้มออกมาเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ยื่นซองให้พวกเรา “ พี่หยาง ติงฝาน นี่คือค่าตอบแทนที่กองถ่ายของพวกเราให้พวกคุณ หวังว่าพวกคุณจะรับไว้”
ผมกวาดสายตามองซอง มันดูหนามาก อย่างน้อยก็จะมีเงินถึงสามพันหรือห้าพันหยวน
ผมเงียบไปแป็บหนึ่ง แต่ก็ไม่เกรงใจ เอื้อมมือออกไปรับทันที “ โอเค ! งั้นพวกเราขอรับเอาไว้นะ !”
อู่ฮุ่ยฮุ่ยเห็นผมรับไป เธอจึงยิ้มและพยักหน้าให้ “ เงินไม่มากเท่าไหร่ หวังว่าพวกคุณจะไม่ถือสา ครั้งนี้ขอบคุณพวก คุณมากจริงๆ ไม่อย่างนั้นกองถ่ายของพวกเราต้องถ่ายต่อไม่ได้แน่ๆ !”
“ ก็ไม่มีอะไรนิ ฉันทํางานนี้อยู่แล้ว ! แต่หวังว่าต่อไปเธอจะไม่หาเรื่องปวดหัวมาให้ฉันอีกนะ ! ” ผมพูดด้วยรอยยิ้ม
อู่ฮุ่ยฮุ่ยเองก็หัวเราะ “ แฮะแฮะ ” เห็นได้ชัดว่าเธอดีใจมาก
หยางเฉ่วเองก็เข้ามาร่วมวงสนทนา “ ฮุ่ยเอ๋อ เธอแสดงเก่งมากเลย สู้ๆนะ หลังจากพยาบาลตามหาผีฉายแล้ว ฉันจะต้องดูมันให้ได้แน่ !”
อู่ฮุ่ยฮุ่ยเห็นหยางเฉ่วจริงจัง และเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น เธอจึงขอแลกวีแชทกับหยางเฉ่ว
และยังบอกว่าพอถ่ายหนังพยาบาลตามหาผีเสร็จแล้ว เธอจะเชิญพวกเราไปเลี้ยงข้าวอย่างแน่นอน
ผมไม่ได้สนใจ เพียงยิ้มให้และบอกลาเธอเท่านั้น
สถานที่แห่งนี้อยู่ลึกมาก ดังนั้นหลังออกจากคฤหาสน์ หยางเฉ่วจึงเรียกรถผ่านแอปที่จีนเพิ่งเปิดตัวใหม่ ตีตี เนื่องจากมันเรียกง่ายและสะดวกสบาย
ตอนรอรถมาถึง ผมก็เปิดซองออก ดูว่าเป็นเงินสามพันหรือห้าพันหยวน
ผลลัพธ์หลังจากเปิดซอง ผมก็ต้องตกใจ ตัวแข็งที่อทันที
เพราะผมพบว่าในซอง เป็นเงินเหรียญ ส่วนมากเป็นเหรียญสิบ มีแบงค์ 100 หยวนเพียง 2 ใบ
ซองดูหนามาก หลังจากผมนับเงิน กลับพบว่าทั้งหมดมีไม่ถึง 600 หยวนด้วยซ้ำ
หยางเฉ่วมองเหรียญในมือของผม เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “ ดูเหมือนกองถ่ายนี้จะจนมาก ”
ผมไม่ได้คิดมาก เห็นได้ชัดว่าเงินพวกนี้เป็นเงินที่พวกเขารวบรวมกันในตอนนั้น
แต่งานของพวกเรา นอกจากต้องใช้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องแล้ว ก็ไม่ได้หวังกําไรอะไร
ดังนั้น ผมและหยางเฉ่วจึงไม่ได้ให้ความสําคัญกับสิ่งนี้
แม้ว่ากองถ่ายพยาบาลตามหาผีจะไม่ให้ค่าตอบแทนกับพวกเรา พวกเราก็จะไม่ถามถึง
เพราะหลังจากเห็นสภาพของกองถ่ายนี้ผมก็เข้าใจทันที ว่ากองถ่ายนี้จนจริงๆ
แน่นอนว่า พวกเราก็มีช่วงเวลาที่ได้รับเงินก้อนโตจากพวกคนรวย
แต่เงินพวกนั้นมักจะมาจากการเจอผีที่เต็มไปด้วยปริศนา ทําแต่เรื่องผิดศีลธรรมและส่วนใหญ่มักจัดการยาก
แต่คนพวกนี้มีน้อย ในหนึ่งปีอาจไม่เจอเลยสักครั้งก็มี
ผมหยิบเงิน 300 หยวนออกมาจากกอง 600 หยวน จากนั้นก็ยื่นให้กับหยางเฉ่ว “ หยางเฉ่ว อันนี้ของเธอ ”
หยางเฉ่วไม่เกรงใจ เธอยื่นมือมารับมันทันที
ในเวลาเดียวกัน ทันใดนั้นรถบรรทุกก็มาจอดที่ด้านหน้าของพวกเรา
ตอนนั้นผมและหยางเฉ่วคิดว่าเขามาถามทาง ผลลัพธ์เมื่อเห็นคนขับยื่นหัวออกมา เขาก็ตะโกนใส่พวกเราว่า “ พวกนายสองคนเรียกตีติใช้ไหม !”
เมื่อหยางเฉ่วได้ยิน เธอก็อึ้งในทันที “ พวกเราเรียกตีตี แต่ แต่คงไม่ใช่รถของคุณหรอกมั้ง”
คนขับรถกลับหัวเราะอย่างอึดอัดใจ “ ใช่แล้ว รถของฉันนี้แหละ ขึ้นรถมาเลย !”
เมื่อได้ยินคําพูดนี้ ผมและหยางเฉ่วก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองหน้ากัน
นี่มันบ้าอะไรวะ เจ้านี้เรียกรถบรรทุกมาได้ด้วยเหรอ
แต่สถานที่แห่งนี้ห่างไกลผู้คน พวกเราจึงคิดว่ารถบรรทุก ก็รถบรรทุก !
ดังนั้นผมและหยางเฉ่วจึงเดินขึ้นรถ หลังจากขึ้นรถถึงได้รู้ว่า
คนขับรถเป็นคนส่งของ บางครั้งก็ขับรถบรรทุกแล้วเบื่อ เลยใช้แอฟแท็กซี่นี้ทํางานส่วนตัว
แต่คนขับรถพูดเก่งมาก ระหว่างทางเขาชวนพวกเราคุยสารพัด………..
.
หลังจากลงรถ ก็เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว
ตอนแรกผมคิดว่าจะชวนหยางเฉ่วหาอะไรกินแถวนี้ เพราะหลังจากที่เธอรับสายของผม เธอก็รีบตอบรับว่าจะมาช่วยผมทันที
แต่หยางเฉ่วกลับหาว บอกว่าง่วงมาก เธอจะรีบกลับไปนอนที่หอ บอกว่าติดผมไว้ก่อน
หลังจากพูดจบ เธอก็โบกมือให้ผม และเดินไปอีกทางด้านหนึ่ง
ผมมองแผ่นหลังของหยางเฉ่ว แต่ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
นิสัยของเธอเป็นคนง่ายๆจริงๆ ถึงตอนนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
ในเวลานี้ผมเห็นหยางเฉ่วเดินจากไปแล้ว ผมเองก็ไม่อยากอยู่ในเมืองต่อ จึงเดินไปที่สถานีขนส่ง เพื่อนั่งรถกลับตําบลชิงฉือ
ระหว่างทางผมยังได้ข้อความจากอู่ฮุ่ยฮุ่ยอีกหนึ่งอัน เธอถามว่าผมถึงรึยัง และยังบอกว่ากองถ่ายของพวกเธอเริ่มถ่ายต่อแล้ว
ถ้าทุกอย่างออกมาราบรื่น อย่างมากก็น่าจะใช้เวลาสิบวันก็ถ่ายเสร็จแล้ว
ผมตอบกลับสั้นๆ ใกล้แล้ว ฉันจะรอดูหลังจากนั้นก็ส่งอีโมจิหน้ายิ้มสองตัว
หลังจากเก็บโทรศัพท์เรียบร้อย ผมก็นั่งพิงเบาะและหลับต่อ
เมื่อกลับมาถึงตําบล ก็เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว
ผมลากร่างที่อ่อนล้ากลับไปที่ร้าน ทันใดนั้นก็เห็นอาจารย์กําลังกินข้าวอยู่
อาจารย์เห็นผมกลับมา เขาก็กวาดสายตามองหนึ่งครั้ง หลังจากนั้นก็พูดลากเสียงยาว “ เป็นไงบ้าง ราบรื่นดีใช่ไหม”
ผมวางกระเป๋าลง และย่อนก้นลงที่โซฟา “ ผมละไม่อยากจะพูดถึงเลย ไปเจอกับองค์กรตาผีชั่วอีกแล้ว !”
อาจารย์กําลังกินข้าวอยู่ เมื่อได้ยินคําว่า “ ตาผี ” “ พรึบ ” สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
เขาวางตะเกียบลง ถามกับผมด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด “ เกิดอะไรขึ้น ทําไมถึงไปเจอพวกตาผีอีกแล้ว ”
ผมถอนหายใจ “ ผมก็ไม่รู้ แต่ถึงยังไงเราก็หนีจากองค์กรตาผีไม่พ้น ! ”
หลังจากนั้น ผมก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้น และวิธีที่เราใช้จัดการเล่าให้อาจารย์ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ
เมื่ออาจารย์ฟังจบ เขาก็พยักหน้าให้เล็กน้อย บอกว่าวิธีที่เราใช้จัดการค่อนข้างน่าพอใจ
แม้ผีจะชั่ว แต่ก็มีบาป ถึงจะเป็นผีร้ายก็ต้องรับกรรม
ช่วยได้ตนเดียวก็ต้องช่วย สามารถฆ่าได้น้อยลงหนึ่งตน ก็ถือว่าได้ทําบุญแล้ว
แต่ในเวลาเดียวกัน อาจารย์กลับเผยสีหน้าเศร้าใจ
ผมได้ยินเขาถอนหายใจ จากนั้นก็พูดกับผมว่า “ องค์กรตาผีช่วยปรากฏตัวต่อเนื่อง พวกเราเจอพวกมันติดๆกัน และยังฆ่าทาสผีของพวกมัน ทําลายคนสมรู้ร่วมคิดของพวกมันถ้าทําแบบนี้ต่อไป เราต้องถูกอีกฝ่ายบุกมาถึงถิ่นแน่ ”