ศพ - ตอนที่ 234 ให้ของขวัญ
ตอนที่ 234 ให้ของขวัญ
ตอนได้ยินเสียงนางพญาจิ้งจอกดึงมือเธอกลับ แก่นพลังที่อยู่เหนือหัวผม ก็กลับเข้าไปในปากเธออีกครั้ง
ว่าความเจ็บปวดที่มีหายไปทันที
เหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่วินาทีที่ ความเจ็บปวดหายไป ความเหนื่อยล้า กลับกระหน่ำเข้ามาเหมือนสายฝน
ผมอยากล้มตัวลงนอนทันที แต่ผมกลับไม่ได้ทําแบบนั้น ผมกัดฟันแน่น ทํามือคารวะนางพญาจิ้งจอก
“ ศิษย์ ศิษย์ติงฝาน ขอบ ขอบคุณที่เจ้าแม่คายเชี่ยวให้!”
หลังจากพูดจบ ผมก็ค่อยๆคารวะนางพญาจิ้งจอกหนึ่งครั้ง
นางพญาจิ้งจอกที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม พยักหน้าให้เล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอพอใจมาก
“ ไม่เลว สามารถทนคายเชียวของข้าได้ แถมตอนนี้ยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้ ความอดทนของเจ้าไม่ธรรมดาจริงๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าติงฝาน เป็นชูหม่าของข้าเย่เสี่ยวซีคนนี้ และเป็นศิษย์สํานักหูแห่งเขาฉิน
เจ้าจะได้รับการดูแลจากเผ่าจิ้งจอกของข้า จงยึดถือหัวใจอันดีงาม ทําคุณแทนสวรรค์ ซื่อสัตย์เที่ยงธรรม !” นางพญาจิ้งจอกพูดเสียงดัง ประกาศว่าผมเป็นชูหม่าของเผ่า จิ้งจอก
และนับตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา ผมก็กลายเป็นศิษย์ของเผ่าจิ้งจอก
ในเวลาเดียวกัน นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินชื่อของนาง พญาจิ้งจอกเย่เสี่ยวซี
แม้จะแปลกนิดหน่อย นางพญาจิ้งจอกควรแซ่หูชิ แต่นางกลับมีแซ่เย่
แต่ตอนนี้ผมเหนื่อยจนแทบนอนตรงนั้น แล้วผมจะมีอารมณ์มานั่งสนใจเรื่องพวกนี้ได้ยังไง
ผมรีบคารวะนางพญาจิ้งจอกสามครั้ง “ ศิษย์ติงฝาน จะทําตามคําสอนของเจ้าแม่ ! ”
หลังจากพูดจบ ผมมือสั่นหยิบโสมที่ยายโม่ให้ออกมาจากกระเป๋าคาดเอว “ ศิษย์มีของมาคารวะเจ้าแม่ ขอให้เจ้าแม่ได้โปรดรับเอาไว้ด้วย !”
“ โห มีของขวัญด้วย ? ” นางพญาจิ้งจอกทําหน้าสงสัย
จิ้งจอกอาวุโสที่อยู่ข้างๆต่างกระซิบกันว่า “ เจ้าศิษย์นี่ เข้าใจคิดจริงๆ !”
“ ไม่เลว ฉลาดดี !”
“…..”
ผมค่อยๆยกห่อผ้าขึ้น “ ขอให้เจ้าแม่รับเอาไว้ด้วย !”
นางพญาจิ้งจอกก็ไม่ได้ลังเล หยิบห่อผ้าไปไว้ในมือจากนั้นก็ค่อยๆเปิดออก
เมื่อเห็นโสมปาอยู่ข้างใน เธอก็ไม่ได้แสดงท่าทางตื่นตกใจเกินไป เพราะจิ้งจอกเฒ่ามีชีวิตยืนยาวหลายร้อยปี โสมป่าเพียงต้นเดียว นางคงเห็นมานับไม่ถ้วนแล้ว
ตอนนี้นางพญาจิ้งจอกยิ้มออกมาเล็กน้อย เธอดมมันหนึ่ง
“ คือนี่คือโสมปาอายุ 500 ปี หายากสุดๆ เจ้าจะมอบให้กับข้าจริงๆเหรอ !” นางพญาจิ้งจอกยิ้ม
“ ใช่ครับ ศิษย์มอบให้กับเจ้าแม่ ! ” ผมพูดด้วยความเหนื่อยล้า
“ ถ้างั้น ข้าก็จะรับเอาไว้นะ ” ขณะที่พูด นางพญาจิ้งจอกก็เก็บโสมปา
หลังจากเก็บโสมปาเรียบร้อย นางพญาจิ้งจอกก็พูดกับผมอีกครั้ง “ ในฐานะที่ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้า
และรับของขวัญจากเจ้าแล้ว เป็นธรรมดาที่ข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี ! ลุกขึ้นเถอะ ข้ามีของจะมอบให้ !”
ผมไม่มีอารมณ์อยากรู้ว่ามันคืออะไร ผมจึงขอบคุณและลุกขึ้น
เมื่อนางพญาจิ้งจอกเห็นผมลุกขึ้นแล้ว นางก็แบมือออก เผยให้เห็นขวดยาสีขาว
ยาขวดนั้นไม่มีอะไรพิเศษ และไม่รู้ว่าใส่อะไรไว้ข้างใน
อาจารย์และคนอื่นๆที่อยู่ข้างๆ ต่างมองขวดยาด้วยความสงสัย
ส่วนพวกจิ้งจอกอาวุโส กลับตื่นเต้นมาก ดวงตาเบิกกว้างจ้องขวดยาสีขาว ตาเป็นมัน
“ ในขวดยาของข้า มียาบํารุงกําลังอยู่สามเม็ด มันทํามาจากหินที่หลงเฉียนใช้รักษาอาการบาดเจ็บ มันได้ผลดีมากเลยละ ตอนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าใช้แค่เม็ดเดียว ก็จะสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้แล้ว” นางพญาจิ้งจอกพูดอย่างจริงจัง
ผลลัพธ์เสียงของนางพญาจิ้งจอกเพิ่งเงียบลง ท่านนักพรตตู้ที่อยู่ข้างๆกลับนั่งไม่ติดอีกต่อไป
“ ตี้ ตี้หลงเฉียน !”
“ ตี้หลงเฉียนจริงๆเหรอครับ ? ” อาจารย์ตะโกนออกมา พร้อมกับแสดงสีหน้าตื่นตกใจ
นางพญาจิ้งจอกกลับพยักหน้าเล็กน้อย แต่ไม่ได้อธิบายอะไรมากมาย
อาจารย์และท่านนักพรตตู้กลับสูดหายใจเข้าลึกๆ พวกเขาแสดงสีหน้าตื่นตกใจ มองยาขวดนั้น ด้วยสายตาที่เป็นกระกาย
ผมจะไปรู้จักตี้หลงเฉียนที่ไหนละ แถมไม่เคยได้ยินแม้แต่ ครั้งเดียวด้วยซ้ำ
ในเวลานี้ผมยังเหนื่อยจนแทบจะเป็นลมอยู่แล้ว ผมแค่อยากให้มันจบๆไปจะได้ไปพักเท่านั้น
ผมจึงไม่มีอารมณ์มาสนใจว่ายานี้จะมีค่าหรือหายากขนาดไหน
ผมคํานับขอบคุณ แล้วหยิบขวดยามาเก็บเอาไว้
นางพญาจิ้งจอกเห็นผมรับขวดยาไปแล้ว เธอจึงหัวเราะ “ ฮ่าฮ่า ” “ เสี่ยวติง ข้าอยู่ในเขามาตลอดดังนั้น เรื่องทั่วๆไป ก็ให้พวกจิ้งจอกอาวุโสช่วยเจ้าก็แล้วกันนะ !”
ขณะที่พูด นางพญาจิ้งจอกก็ชี้ไปที่จิ้งจอกผมสีขาวสองข้างที่อยู่หน้าสุด “ นี่คือตาเฒ่าสาม นี่ตาเฒ่าสี่…”
เรื่องก็เป็นแบบนี้ นางพญาแนะนําให้ผมฟังสั้นๆ ถือว่าเป็นการทําความรู้จักคราวๆ ให้ได้คุ้นหน้าคุ้นตากันไว้ เท่านั้น
ระหว่าง ผมก็เห็นจิ้งจอกเฒ่าที่สู้กับพวกเราครั้งที่แล้ว
ในหมู่จิ้งจอก ฐานะของเขาค่อนข้างสูงส่ง เขาเป็นถึงผู้อาวุโสลําดับที่ 6
หลังจากแนะนําทุกคนเสร็จ นางพญาก็พูดกับผมอีกครั้ง “ เผ่าจิ้งจอกของข้าไม่เหมาะใช้ชีวิตในเมืองมนุษย์ แต่เพื่อความสะดวกของเจ้า ข้าจะให้ตาเฒ่าหกอยู่กับเจ้า ! แต่ถ้ายังมีปัญหาอะไรที่แก้ไขไม่ได้อีก เจ้าก็ค่อยเรียกผู้อาวุโสคนอื่น หรือข้าก็ได้”
หลังจากพูดจบ ก็มีตาแก่คนหนึ่ง เดินออกมาจากกลุ่มเซียนจิ้งจอก
ตาแก่คนนั้นไม่ใช่ใครอื่นๆ เขาก็คือจิ้งจอกเฒ่าที่สู้กับพวก เราเมื่อครั้งที่แล้ว ผู้อาวุโสหกแห่งเผ่าจิ้งจอก
ปู่หูลิ่ว
คิดไม่ถึงว่านางพญาจิ้งจอกจะสั่งให้จิ้งจอกตัวนี้มาดูแลผม แต่ไม่รอให้ผมได้พูดออกมา จิ้งจอกเฒ่าตัวนั้นก็พูดกับผมว่า “ ข้าคือหลิว ในอนาคตจะมาอยู่ที่ศาลเจ้าหลักเมือง หากชูหม่ามีเรื่องอะไร สามารถมาหาข้าได้ตลอด !”
หลังจากที่หูลิ่วพูดจบ นางพญาจิ้งจอกก็พูดออกมาอีกครั้ง “ ก่อนหน้านี้ พวกเจ้าเข้าใจผิดกันนิดหน่อย
แต่ก็เป็นวาสนาของพวกเจ้า ดังนั้นข้าเลยสั่งให้ตาเฒ่าหกอยู่ดูแลเจ้า”
เมื่อได้ยินนางพญาจิ้งจอกพูดแบบนั้น ผมจะทําอะไรได้อีกละ
แต่ถ้าพูดอีกอย่าง ตอนนี้ผมก็เป็นชูหม่าแล้ว เรื่องก่อนหน้านี้ ก็คงหายไปด้วยมั้ง ?
ผมไม่ได้เสียมารยาท ยกมือคํานับหูลิ่วทันที “ ท่านปู่หูลิ่ว ต่อไปขอฝากตัวด้วยนะครับ !”
หลิวเองก็คํานับกลับ “ ชูหม่าพูดเกินไปแล้ว ตอนนี้คุณเป็นชูหม่าของถางหยินแล้ว ต่อไปพวกเราก็ถือเป็นครอบครัวเดียวกัน ถ้าชูหม่าอยากให้ข้าทําอะไร หูลิ่วคนนี้จะต้องพยายามทําสุดความสามารถอย่างแน่นอน !”
หลิวคนนี้แสดงท่าทางสุภาพมาก และไม่วางท่าแม้แต่น้อย
เขาคลี่ยิ้มออกมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
นางพญาเห็นว่าเรื่องทุกอย่างเสร็จแล้ว เธอจึงสูดควันธูปจํานวนมาก หลังจากนั้นเธอก็พูดด้วยน้ำเสียงเกียจคร้าน “ โอเค ดึกมากแล้ว ขากลับเขาก่อนนะ ทุกคนเต็มที่เลยนะ !”
หลังจากพูดจบ นางพญาจิ้งจอกก็ไม่สนใจทุกคน เธอเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ทันใดนั้นร่างกายก็กลับมาเป็นจิ้งจอกขาวอีกครั้ง หลังจากนั้นก็วิ่งออกไปนอกศาลเจ้าหลักเมืองทันที
จิ้งจอกเฒ่าที่อยู่ในงานก็ไม่รอช้า พวกเขาต่างโค้งคํานับ และตะโกนว่า “ คารวะเจ้าแม่ !”
นางพญาจิ้งจอกเร็วมาก เพียงชั่วพริบตาร่างของเธอก็หายเข้าไปในความมืดแล้ว
หลังจากนางพญาจากไป จิ้งจอกเฒ่าที่อยู่ในงานก็เตรียมตัวกลับเช่นกัน พวกเขาแต่ตนต่างเข้ามาบอกลา
และหนึ่งในนั้นยังรวมถึงยายโม่ด้วย
แม้ผมจะเหนื่อยมาก แต่ทําอะไรไม่ได้ ได้แต่มองทุกคนที่เข้ามาด้วยรอยยิ้ม
ผ่านไปไม่นาน เซียนจิ้งจอกกลุ่มใหญ่ก็ออกไปจากศาลเจ้าหลักเมือง
ส่วนพวกที่อยู่ต่อ ล้วนเป็นพวกจิ้งจอกที่ปลายแถว
ในเวลานี้พวกนั้นกําลังหยิบอาหารบนโต๊ะบูชา กินดื่มกันอย่างมีความสุข
ส่วนพวกที่สามารถแปลงเป็นคนได้ ก็ไม่เกรงใจ เข้ามาลากอาจารย์ ท่านนักพรตตู้ เฟิงเฉิวหาน และคนอื่นๆ เข้าไปร่วมวงทันที
อาจารย์และคนอื่นๆก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง จึงจำใจต้องร่วมสังสรรค์กับพวกจิ้งจอก
หลิวเห็นผมเหนื่อยมาก และมองออกว่าผมอยากนอน “ ชูหม่า ! คืนนี้คุณเหนื่อยมากแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ ! เดี๋ยวข้าดูแลที่นี่เอง”
ผมง่วงมากจริงๆ จึงไม่เกรงใจ ทํามือคํานับหูลิ่วทันที “ งั้นก็รบกวนปู่หูลิ่วแล้ว ข้าน้อยขอตัวกลับก่อน !”
หูลิ่วพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมโบกมือไปด้านข้าง และพูดกับจิ้งจอกสีเหลืองว่า “ เสี่ยวเหมย ! มานี่ ชูหม่าง่วงแล้ว เจ้าเดินกลับไปเป็นเพื่อนชูหม่าหน่อย”
จิ้งจอกสีเหลืองตัวนั้นกําลังกินเนื้ออยู่ เมื่อได้ยินหูลิ่วพูดแบบนั้น เธอก็รีบวางเนื้อ กระโดดมาทางพวกเราทันที ในเวลาเดียวกันก็สะบัดตัว กลายร่างเป็นสาวน้อยคนสวย
สาวน้อยคนนั้นเพิ่งปรากฏตัว เธอก็พูดกับหูลิ่วด้วยความเคารพ “ ได้ค่ะ ท่านปู่ !”