ศพ - ตอนที่ 268 ยันต์สามแผ่นรวด
ตอนที่ 268 ยันต์สามแผ่นรวด
ผีร้ายเริ่มดุร้ายขึ้นเรื่อยๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร
แต่ เราสามคนไม่ได้มีฝีมือแค่นี้
ผมหันหน้าไปพูดกับหยางเฉ่วและเหล่าเพิ่งตรงๆ “ ใช้ยันต์ ! ”
พวกเราสามคน ไม่ได้มีวิชาดาบอะไรที่ร้ายกาจที่สุดสําหรับพวกเรา ดาบไม้พวกนี้เป็นแค่อาวุธเท่านั้น
มันไม่สามารถแสดงความสามารถของเราออกมาได้เต็มที่
สิ่งที่พวกเราเก่งที่สุด ยังเป็นยันต์เหมือนเดิม
ยังไม่พูดถึงวิชายันต์สะกดที่ร้ายกาจที่สุดของหยางเฉ่ว เพียงแค่ขั้นสามอย่างของผมคนเดียว ยันต์อัญเชิญเทพติงเจี่ย 12 องค์ ยันต์สยบวิญญาณ ยันต์ปราบมารร้ายในกลุ่มอักษร “ ทําลาย ” แค่นําสามยันต์นี้มารวมกัน
ก็มากเกินพอสําหรับผีตนนี้แล้ว
เสียงเพิ่งเงียบลง เราสามคนก็ถอยหลังไปสองสามก้าว
ในขณะเดียวกัน ก็หยิบยันต์ขึ้นมาหนึ่งแผ่น
เราสามคนก็รู้จักกันพอสมควร ตามกําจัดผีร้ายด้วยกันไม่ใช่แค่วันสองวัน
ปกตินอกจากเล่นเกมแล้ว พวกเรายังนัดเจอกันปรึกษาเรื่องวิธีปราบผีอีกด้วย จึงถือว่าพวกเรารู้ใจกันพอสมควร
ก่อนหน้านี้ มีความคิดบางอย่าง เพียงแค่ไม่มีโอกาสได้ลองทําดูเท่านั้น
ตอนที่ผมพูดขึ้นมาอย่างกระทันหัน เหล่าเฟิงและหยางเฉ่วก็เข้าใจในทันที พวกเขาจึงเตรียมตัวลองใช้จริงสักครั้ง
หยางเฉ่วเชี่ยวชาญยันต์สะกด เหล่าเฟิงชํานาญยันต์สยบ ส่วนตัวผมถนัดยันต์ทําลายล้างที่สุด
หรือก็คือยันต์สามประเภท “ สะกด สยบ ทําลาย ”
ขณะที่นํายันต์ออกมา ผีผู้ชายตนนั้นก็ไม่ใส่ใจเลยสักนิด มันคําราม “ โฮก ” ครั้งนึง แล้วพุ่งเข้าหา
หยางเฉ่วที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก
หยางเฉ่วเห็นผีตนนั้นพุ่งเข้ามา มุมปากก็ยกยิ้มอย่างเย็นชา
เธอสะบัดยันต์ไปข้างหน้า ทันใดนั้นมันก็ลอยออกไปทันที ขณะเดียวกันมืออีกข้างหนึ่งก็ประสานเป็นรูปดาบ
ผีผู้ชายเห็นยันต์ลอยเข้ามา จึงรีบดึงตัวหลบอย่างรวดเร็ว
หลังจากหลบยันต์แล้ว มันก็ยังทําหน้าได้ใจ เหมือนอีกไม่นานหยางเฉ่วก็จะตายด้วยมือของมัน
แต่หยางเฉ่วกลับไม่ได้รู้สึกอะไร ทันใดนั้นเธอก็พูดขึ้นมาว่า “ ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง ทําลาย !”
เสียงเพิ่งเงียบ ยันต์ที่ลอยออกไปแผ่นนั้น ก็ “ ฟู่” ลอยตรงไปหาผีผู้ชายตนนั้นทันที
บางที่อาจเป็นเพราะผีตนนั้นคิดไม่ถึงว่ายันต์ที่ลอยออกมาแผ่นนี้ จะสามารถควบคุมได้ดั่งใจคิด
นี่ก็เป็นจุดที่ร้ายกาจของหยางเฉ่ว และยังเป็นยันต์ที่หยางเฉ่วถนัดที่สุดอีกด้วย
แน่นอน ว่ามันอยู่ใกล้มาก ตอนนี้อยู่ห่างเพียงหนึ่งเมตรเท่านั้น
แต่หนึ่งเมตรก็เพียงพอแล้ว หนึ่งเมตรก็สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ได้แล้ว
โดยเฉพาะสถานการณ์ในปัจจุบัน ผีกําลังประมาท เราสามารถโจมตีที่เผลอกับมันได้ทันที
ยันต์แผ่นนั้นเร็วมาก ไม่รอให้ผีผู้ชายตอบโต้ มันก็แปะเข้าไปที่หลังของมันแล้ว
ตรงที่โดนยันต์แปะ ผีผู้ชายรู้สึกแค่ว่ามันร้อนทรมาน
ยันต์ก็ระเบิดขึ้น โดยที่ไม่รอให้เขาได้รู้ตัวว่ามันคืออะไร แสงสีขาวเปล่งออกมาเพียงแวบเดียว เสียงระเบิดดัง “ ปัง ” ก็ดังขึ้น
ในขณะที่ยันต์ระเบิด พลังหยางก็แผดเผาร่างของเขา ผีผู้ชายตนนั้นร้อง “ อ๊าก ” ออกมาพร้อมร่างที่กระแทกกับพื้น ตัวเขาได้รับบาดเจ็บแล้ว
ในเวลาเดียวกัน ผมก็เตรียมตัวพร้อมแล้ว วินาทีที่ยันต์ระเบิด ผมก็พุ่งเข้าไปแล้ว
ผีผู้ชายตนนั้นเพิ่งลุกขึ้นมา ผมก็ตวัดดาบเข้าไป
ผีผู้ชายตนนั้นทําหน้าตะลึง เบียงตัวหลบไปตามแนวดาบของผมอย่างรวดเร็ว
แต่ผมไม่สนใจ ยกยิ้มที่มุมปากอย่างเย็นชา พลิกฝ่ามือเข้าไป
ทันใดนั้นเองยันต์บนฝ่ามือของผมก็แปะเข้าที่หน้าผากของผู้ชายตนนั้น ผีผู้ชายตนนั้นก็ตกใจทันที
เขาไม่เคยคิดมาก่อน เมื่อกี้ยังสู้กับพวกเราได้อย่างทัดเทียม แต่เสี้ยววินาทีต่อมา เขากลับต้องตกที่นั่งลําบากเองถึงสองครั้งติด
ตอนนี้ยังโดนยันต์อีกแผ่นนึง เขาจึงร้อนรน อยากจะดึงมันออกทันที
แต่มันก็สายไปแล้ว เสียงผมดังขึ้นมาติดๆ “ ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง ทําลาย !”
“ ตูม” ยันต์ทําลายของผมระเบิดในทันที
เมื่อโดนคาถาที่ทรงพลังอีกระลอก ผีผู้ชายตนนั้นก็กรีดร้องโหยหวน พร้อมล้มลงกับพื้นอีกครั้ง
หลังจากโดนยันต์สองแผ่นติดกัน ผีผู้ชายตนนั้นจะยังทนไหวได้เหรอ ?
แก่นพลังหยินในร่างของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง พลังวิญญาณลงลดอย่างมาก จนแทบไม่เหลือพลังสู้แล้ว
แต่ การโจมตีสองครั้งลวดยังไม่จบ
ในการโจมตีสามครั้งติดที่เราคิดเอาไว้ ขอแค่คนแรกลงมือ สองคนที่เหลือก็จะลงมือตามมาติดๆ โจมตีทั้งซ้ายและขวา
การโจมตีแบ่งออกเป็นสามคาถา “ สะกด สยบ ทําลาย ” ลําดับการโจมตีจะเป็นอันไหนก่อนก็ได้
ถ้าศัตรูโดนยันต์โจมตีสามครั้งติดแล้วยังไม่ตาย ก็ต้องบาดเจ็บสาหัส
ด้วยเหตุนี้ เหล่าเฟิงจึงเป็นคนลงมือคนสุดท้าย
เขาเองก็กระโดดเข้ามา โจมตีด้วย “ ยันต์สยบวิญญาณ ”
“ แปะ” เสียงนี้ดังขึ้นบนหัวผีผู้ชายที่ยังไม่ทันได้ลุกขึ้นเมื่อยันต์แผ่นนี้แปะลงไป พลังยันต์ก็แล่นไปทั่วร่างผีทันที
ผีผู้ชายตนนั้นดิ้นรนอยู่สองสามครั้ง แต่สุดท้ายเขาก็โดนยันต์แผ่นนั้นสยบเอาไว้กับที่ ไม่อาจขยับตัวไปไหนมาไหนได้อีก
เมื่อเห็นว่าปราบผีผู้ชายได้แล้ว เราสามคนก็เผยความดีใจออกมาในใจไม่ได้
เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เราใช้วิธีนี้ในสนามรบจริง ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว ผลลัพธ์ของมันถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว
ทําให้ความแข็งแกร่งของพวกเรามาถึงขีดสุด เมื่อเทียบกับการสู่เดี่ยวในสมัยก่อน มันดีขึ้นไม่น้อย
เมื่อเห็นผีผู้ชายโดนปราบแล้ว ผมก็ไม่ได้สนใจอีกหันไป หาผลามกเฉิงต้าจือที่กําลังยืนตะลึงอยู่ไม่ไกล
เมื่อกี้เจ้าหมอนี้ยังวนรอบๆ คิดจะลอบโจมตีพวกเราอยู่เลย
แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่า “ พี่ชาย ” ของตัวเอง จะโดนเราใช้ยันต์สามแผ่นติด จัดการภายในไม่กี่วินาที เมื่อกี้ยังดุร้ายเกินบรรยาย แต่ตอนนี้กลับไม่ต่างอะไรกับหมาตายซาก โดนยันต์กดเอาไว้บนพื้นได้แต่ยอมรับชะตากรรมจากพวกเรา
เพิ่งต้าจือเห็นผมหันมามองเขา สีหน้าจึงเปลี่ยนไปทันที เผยความกลัวออกมา ตาเลิกลัก ถอยหลังสองก้าวอย่างไม่รู้ตัว
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผมก็พูดอย่างเย็นชา “ ตอนนี้ ถึงตาแกแล้ว !”
คําพูดนี้เหมือนกับสายฟ้า ที่ผ่าลงกลางกระหม่อมเจิงต้าจือทันที
เดิมที่เจ้าหมอนี่ก็มีพลังน้อยอยู่แล้ว แถมยังกลัวตาย
แม้แต่พี่เก้ายังโดนพวกผมจัดการแล้ว แล้วมันจะยังเอาพลังที่ไหนมาสู้กับพวกผม
เมื่อคิดถึงตรงนี้ มันก็ถอยไปอีกสองก้าว จากนั้นก็หมุนตัวคิดจะหนีอีกครั้ง
แต่หยางเฉ่วกลับปรากฏตัวด้านหลังเขาอย่างเทพไม่รู้ผีไม่เห็น “ คิดจะหนีไปไหน ? ”
หลังจากพูดจบ ดาบไม้ในมือ ก็ทําให้เพิ่งต้าคือตกใจจนตัวสั่น ขาอ่อนนั่งลงไปกับพื้นทันที
“ อย่า อย่า อย่าฆ่าฉัน ฉัน ฉันไม่อยากตาย ไม่อยาก ไม่อยากวิญญาณแตกสลาย ! ” เห็นได้ชัดว่าเพิ่งต้าคือกลัวมาก
เฟิงเฉิวหานกลับค่อยๆเดินเข้ามา จ้องเฉิงต้าจืออย่างไม่ละสายตา
เพิ่งต้าจือเห็นหน้าเย็นชาของเฟิงเฉิวหาน ก็ตกใจจนทําอะไรไม่ถูก สุดท้ายเขาก็ยอมเปิดปากพูดเสียงสั่น “ ท่าน ท่านนักพรต ผม ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ควรหนี ”
ผลลัพธ์เสียงเพิ่งถึงตรงนี้ เท้าของเฟิงเฉิวหานก็ประทับเข้าที่หัวของเฉิงต้าจือแล้ว
“ ปัก ” เจิงต้าจือโดนถีบจนลงไปนอนกองกับพื้น “ฮึ ! แกไม่ได้อีดนักหรือไง ? ทําไมไม่หนีต่อละ ?”
“ ไม่ ไม่หนีแล้ว ผมไม่หนีแล้ว !” เฉิงต้าจือในร่างของชายตัวใหญ่ โดนเฟิงเฉิวหานทําให้ตกใจจนร้องไห้ออกมาแล้ว
ผมเห็นว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว จึงเดินไปตรงหน้าเพิ่งต้าจือ
ก่อนอื่น พวกเราต้องทําลายร่างตุ๊กตาสีทองของเจ้าหมอนี่ก่อน และตัดความเกี่ยวข้องของเขากับฉิงหมิงเฉิว
ขอแค่ร่างตุ๊กตาสีทองที่ฉิงหมิงเฉิวให้เขาไม่มีอยู่แล้ว ถ้าเจ้าหมอนี่คิดอยากจะเข้าใกล้ฉิงหมิงเฉ่วอีก
ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้นแล้ว
เรื่องที่สามคือ พี่เก้าที่ผลามกเรียกเมื่อก่อนหน้านี้ คือใครกันแน่ “ อาจารย์ ” ที่อยู่เบื้องหลังของนักพรตจางคนนั้นยังมีที่มายังไงอีก พวกเขาจะทํางานอะไรให้สําเร็จก่อนและหลังยังมีอย่างอื่นมาเกี่ยวข้องด้วยหรือเปล่า
หรือจะพูดว่า เกี่ยวข้องกับองค์กรตาผีไหม