ศพ - ตอนที่ 290 เรื่องน่าปวดหัวซ้ําสอง
ตอนที่ 290 เรื่องน่าปวดหัวซ้ําสอง
ผมลงมือไม่หนัก แต่ก็ไม่เบา
ตอนนี้ในบ้านมีแต่เสียงร้องโอดครวญของเจ้าหลงอ่าวเทียนเฟิงเฉวหานก็ไม่ได้สนใจ ยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างๆมองดูฉากนี้ต่อไปเรื่อยๆ
เจ้าหมอนี่กระดูกเปราะ ร่างกายก็อ่อนแอ จึงทํารุนแรงมากเกิน ไปไม่ได้
หลังจากโดนเตะไปสองสามครั้ง เจ้าหมอนี่ก็อ้อนวอนขอชีวิต ไม่หยุด
แม้จะยังโมโหอยู่ แต่ผมก็ไม่ได้คิดจะอัดเขาจนตาย
เมื่อเห็นเขาทนไม่ไหวแล้ว ผมก็หยุดมือ บอกให้เขาไสหัวกลับห้องของตัวเอง
หลงอ่าวเทียนกลัวผมจะทําร้ายเขาต่อ จึงรีบวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองทันที
ต่อจากนั้น ผมและเหล่าเฟิงก็เฝ้าอยู่ห้องรับแขกชั้นล่าง
พวกเราไม่กล้าแตะหุ่นฟาง เพียงนั่งลงบนโซฟาตัวข้างๆหาเรื่องคุยกันส่วนใหญ่ล้วนเป็นเรื่องเกี่ยวกับผีตานีในคืนนี้
ในเวลาเดียวกันพวกเราก็ลองเดาดูว่าผีตานีตัวนี้มีพลังขนาดไหนหากแผนแรกล้มเหลว ตอนเริ่มแผนสอง
เราจะมีโอกาสชนะเธอเท่าไหร่
แต่เหล่าเฟิงกลับส่ายหัว จากนั้นก็พูดว่า “ พูดยาก !ฉันติดตามอาจารย์มาก็ตั้งหลายปี ถึงจะไม่เคยเห็นผีตานีกับตาหรือจัดการมาก่อนแต่ฉันเคยได้ยินอาจารย์พูดว่า หากผีตานีบรรลุแล้วไม่เพียงสามารถยั่วยวนคนได้เธอยังมีอารมณ์ความรู้สึกเหมือนมนุษย์ สามารถควบคุมจิตใจผู้คนได้หรือแม้แต่มีพลังต่อสู้ที่ทรงพลัง
ถึงแม้พวกเราจะเอาชนะผีตานีได้แต่ก็ต้องแลกมาด้วยบางสิ่ง !
แม้เหล่าเฟิงจะไม่ชอบพูดแต่พอได้พูดแล้วก็จะดูน่าเชื่อถือมาก
ปัจจุบันดูเหมือน แผนนี้จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดใช้ตัวปลอมกําจัดผีตานี แม้จะใช้เวลาหน่อย ประมาณสามวัน
แต่ขอแค่คนไม่เป็นอะไร เวลาก็ไม่ใช่เรื่องสําคัญอีกต่อไปและถ้าดูจากสถานการณ์ในตอนนี้
วิธีนี้ก็ถือว่าได้ผลเลยทีเดียว
คุยกันไปคุยกันมา ผมและเหล่าเฟิงก็เริ่มง่วงแล้ว จึงพิงโซฟาแล้วนอนหลับไปทั้งๆแบบนั้น
พอฟ้าสางแล้ว อาจารย์และคนอื่นๆก็กลับมา
เมื่อได้ยินเสียงบางอย่าง ผมและเหล่าเฟิงก็ลืมตาขึ้น
เมื่อเห็นว่าเป็นพวกอาจารย์ ผมก็รีบถามขึ้นมาทันที “ อาจารย์เป็นยังไงบ้างเจอรังยัยนั่นไหม ? ”
อาจารย์พยักหน้า “ เจอ ที่ปากล้วยทางตะวันออก กลัวจะแหวกหญ้าให้งตื่นพวกเราก็เลยไม่ได้เข้าไป !”
เสียงเพิ่งเงียบ อาจารย์ก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ คือใช่ แล้วเจ้าเด็กนั้นละเป็นยังไงบ้าง ? ”
* ไม่เป็นอะไร ขึ้นไปนอนบนชั้นสองแล้ว ! ผมตอบกลับแบบลวกๆ
พวกอาจารย์พยักหน้า ไม่ได้ถามอะไรมาก เพียงให้พวกเราไปหาห้องนอนกันสักพัก..
เมื่อถึงเช้าวันรุ่งขึ้น คุณหลงและคุณนายหลงก็เข้ามาในบ้านกันตั้งแต่เช้าตรู่
เมื่อเห็นคุณหลงและคุณนายหลงเข้ามาพวกเราก็เล่าเรื่องเมื่อคืนให้พวกเขาฟังสั้นๆ
ในเวลาเดียวกันเมื่อพวกเขาเห็นหลงอ่าวเทียนกลับมามีสติเหมือนเดิมแม้หน้าจะฟกช้ําดําเขียวอยู่บ้าง
แต่ก็เห็นได้ชัดว่าดีขึ้นมากแล้ว พวกเราจึงสบายใจขึ้นไม่น้อย
ต่อจากนั้นก็ชมเราว่ามีวิชาเก่งกล้าไม่ขาดปากและยังบอกว่าจะเลี้ยงมื้อเที่ยงเราที่โรงแรม บอกให้เราต้องไปให้ได้
ผลลัพธ์กลับโดนท่านนักพรตตูและคนอื่นๆ ปฏิเสธทันทีเหตุผลก็คือทุกคนเหนื่อยมาก และงานก็ยังไม่เสร็จ ต้องพักผ่อนดีๆ ตอนบ่ายยังต้องวางแผนของคืนนี้อีก
คุณหลงอดรู้สึกลําบากใจไม่ได้ แต่ก็คิดว่าพวกเราไม่เหมือนกับพวกนักพรตต้มตุ้นพวกนั้น
พวกนักพรตต้มตุ้นแทบอยากจะไปกินอาหารห้าดาวทุกมื้อเวลากินดื่มยาวนานยิ่งกว่าตอนปราบสิ่งชั่วร้ายซะอีก.
เพื่อประหยัดเวลา ตอนเที่ยงพวกเราเลยสั่งให้มาส่งอาหารที่บ้านขณะเดียวกันพวกเราก็ปรึกษากันเรื่องแผนในคืนนี้
อาจารย์และท่านนักพรตติพูดแล้ว ผีตานีตนนี้ไม่ยุ่งยากเหมือนวิญญาณร้าย
ขอแค่หลงอ่าวเทียนไม่ทําพลาด ปีศาจสาวตนนั้นก็ไม่ได้จัดการยากอะไรเว้นแต่จะดึงยันต์ในหัวหุ่นฟางออกมา ไม่อย่างนั้นก็อย่าหวังจะดูกลลวงนี้ออกเลย
หลงอ่าวเทียนมีประสบการณ์แล้ว จึงมีความมั่นใจมากขึ้น ไม่กลัวเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
ในเวลาเดียวกัน นอกจากสติของหลงอ่าวเทียนจะกลับคืนมาไม่น้อยแล้วสิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือ
ความทรงจําบางส่วนของเขาก็กลับมาด้วย
แม้จะไม่ต่อเนื่อง แต่เรื่องไปยุ่งกับผีตานี เขายังจําได้พอสมควร
เขาบอกว่าเมื่อครึ่งเดือนก่อน หลังผมหักข้อมือเขา เขาก็รีบไปรักษาที่โรงพยาบาลทันที
ต่อจากนั้นก็มีลูกเศรษฐีชื่อชีคุน มาถามพวกเขาว่าอยากหาอะไรตื่นเต้นๆทําไหม หรือก็คือการไปยุ่งกับผีตานี จากนั้นเจ้าหมอนั้นก็โม้อีกยกใหญ่
ลูกเศรษฐีกลุ่มนี้ก็ไม่รู้ความ ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น และยังไม่คิดว่าจะดึงผีตานีอะไรนั่นออกมาได้จริงๆ
ดังนั้น ในคืนวันถัดไป พวกเขาสี่คนก็ไปที่ปากล้วยทางทิศตะวันออก
สําหรับความทรงจําหลังจากนั้น เขาก็จําไม่ค่อยได้ มันค่อนข้างคลุมเครือแต่เขารู้อย่างชัดเจนว่าทุกคืนหลังจากนั้น ผีตานีจะมาหาเขาทุกคืน
แต่ เรื่องที่ทําในวันนี้ เช้าวันรุ่งขึ้นเขาก็เกือบลืมแทบทั้งหมด ใช้ชีวิตอย่างไร้สติมาครึ่งเดือน
เมื่อได้ยินเรื่องพวกนี้ พวกเราก็นั่งไม่ติดอีกต่อไป
โดยเฉพาะเหล่าฉิน เขาถลึงตาทันที “ เมื่อกี้นายพูดว่า พวกนายไปที่ปากล้วยทางตะวันออกกันสี่คนใช่ไหม ? ”
หลงอ่าวเทียนพยักหน้าอย่างมั่นใจ “ อ๋อ ! ใช่ครับ เรื่องนี้ผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ นอกจากผมแล้วยังมีอีกสามคน ชีคุน ซุนเสี่ยว หลินและหวางฮ่าวล้วนเป็นลูกคนรวยในเมืองเราทั้งนั้น”
เมื่อเห็นหลงอ่าวเทียนมั่นใจขนาดนี้ พวกเราก็ไม่ค่อยสบายใจกต่อไป
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นอกจากเจ้าหลงอ้าวเที่ยนคนนี้ ยังมีอีกสามคนที่ไปยุ่งกับผีตานี
หรือจะพูดว่า เกรงว่าผีตานีจะไม่ได้มีแค่ตัวเดียวแต่ยังมีมากก
ว่านั้น
อาจารย์ทําหน้าเข้ม “ นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก นายติดต่อสามคนนั้นได้ไหมถ้าพวกเขาและนายมีปัญหาเดียวกัน
งั้นตอนนี้ก็คงตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆกับนาย !”
“ คงไม่หรอกมั้ง ?”
“ ไม่งั้นเหรอ ? พวกนายใช้วิธีเดียวกันนายยังดึงผีตานีออกมาได้แล้วพวกเขาจะทําไม่ได้งั้นเหรอ ?
ตอนนี้ต้องทําให้แน่ใจก่อนว่าพวกเราปลอดภัยดีตัดรากถอนโคลนในเมื่อมาเจอแล้วก็จัดการพวกมันที่เดียวเลย ”อาจารย์พูดต่อพร้อมแสดงท่าที่จริงจัง
หลงอ่าวเทียนเริ่มกลัวหน่อยๆ แต่ก็ยังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาทั้งสามคนนั้น
ผลลัพธ์สองคนแรกปิดเครื่องมีเพียงคนที่ชื่อหวางฮ่าวคนเดียวที่รับโทรศัพท์
พอรับโทรศัพท์แล้ว หวางฮาวคนนั้นยังหัวเราะทักทายหลงอ้าวเทียนถามเขาว่าช่วงครึ่งเดือนนี้เขาไปเที่ยวที่ร้านเหล้าไหนมาทําไมถึงไม่โทรหาเขาเลย
หลงอ่าวเทียนบอกว่าช่วงนี้เขาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านไม่ได้ออกไปไหนเลยต่อจากนั้นเขาก็ถามลวกๆว่าช่วงนี้เขาเป็นยังไงบ้าง
แต่เจ้าเด็กนั้นไม่เป็นอะไรเลยสักนิด ยังคงออกไปเที่ยวคลับเกี่ยวสาวทุกวัน
หลงอ่าวเทียนรู้สึกแปลกใจ เลยถามเรื่องผีตานีเมื่อครึ่งเดือนก่อน
พอถามแล้วถึงได้รู้ว่า เมื่อครึ่งเดือนก่อนถึงหวางฮ่าวจะไปหาผีตานีด้วยกันแต่ตอนเจ้าหมอนี่จะล่อผีตานีออกมา เขาดันไปรับโทรศัพท์ก่อน
พอคุยโทรศัพท์เสร็จแล้ว หลงอ่าวเทียนและคนอื่นๆก็ทําพิธีกรรมเสร็จแล้ว
ตอนนั้นเขาไม่ได้สนใจอะไรมากนัก และไม่เชื่อว่าผีตานีอะไรนั่นจะออกมาได้จริงๆ จึงโยนของทําพิธีกรรมทิ้ง แล้วตามพวกเขากลับมา
พูดอีกนัยหนึ่ง เจ้าคนที่ชื่อหวางฮ่าวคนนี้โชคดีไม่เลวเขาไปที่ปากล้วยก็จริง แต่ไม่ได้ทําอะไรเลย
จึงได้หนีเคราะห์กรรมครั้งนี้ไปได้
ต่อจากนั้น หลงอ่าวเทียนยังถามถึงเพื่อนอีกสองคนเรื่องเกี่ยวกับชีคุนและซุนเสียวหลิน
ผลลัพธ์พอถามถึงเรื่องนี้ถึงได้รู้ว่า ชีคุนหัวโจกของเรื่องนี้ได้เสียชีวิตอย่างไร้สาเหตุไปเมื่อสามวันที่แล้ว
ส่วนลูกเศรษฐีอีกคนซุนเสี่ยวหลิน ก็ปวยหนัก ช่วยตัวเองไม่ได้แล้วตอนนี้กําลังนอนอาการโคม่าอยู่ในโรงพยาบาล
หวางฮ่าวคนนี้รู้สึกตะหงิดๆใจ เลยพูดในโทรศัพท์ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับต้นกล้วยพวกนั้นหรือเปล่า
ตอนนี้เขาเองก็เริ่มกลัว ถามว่าหลงอ่าวเทียนเป็นอะไรหรือเปล่าต้องหาพวกนักพรตปราบสิ่งชั่วร้ายอะไรนั่นมาจัดการไหม
และเขายังบอกอีกว่าต่อไปถึงจะตีเขาให้ตายเขาก็จะไม่ไปหาเรื่องสนุกที่นั้นอีก จะได้ไม่หาเหาใส่หัว