ศพ - ตอนที่ 295 คืนสุดท้าย
สําหรับผีตานีหยางเนิ่วตั้งตารอเลยทีเดียว เธอไม่ต่างจากพวกเราเมื่อก่อนหน้านี้มากนัก ล้วนอยากรู้ว่าผีตานีมีหน้าตาเป็นยังไง
แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือ ขณะเสียง “ ต๊อกต๊อกต๊อก” ดังขึ้นหยางเฉ่วก็เผยสีหน้าช็อกออกมาทันที
เพราะเธอพบว่า ผีตานีที่ออกมาปรากฏตัวในขณะนี้ มีหน้าตาเหมือนเสี่ยวม่านเป๊ะ
เมื่อเห็นหยางเฉ่วเป็นแบบนั้น พวกเราก็ไม่ได้แปลกใจอะไร
ใครจะไปคิดละว่า เจ้าหลงอ่าวเทียนจะใช้หน้าตาของเสี่ยวม่านล่อผีตานีออกมาได้แบบนี้
สิ่งเดียวที่พวกเธอมีต่างกัน คือตาคู่นั้น และบนร่างของผีตานีก็มีพลังชั่วร่ายแพร่ออกมาบางๆ
ดูเหมือนหยางเนิ่วจะยังไม่ค่อยอยากเชื่อ เธอหันมามองผมและเหล่าเฟิง
ในแววตาสงสัยของเธอ เขียนว่าไม่อยากเชื่อเอาไว้เต็มๆ
แต่ผมกลับพยักหน้า แล้วใช้เสียงที่มีพวกเราเท่านั้นที่ได้ยิน “ นี่ก็คือผีตานี ! ตอนเจ้าหมอนี่ไปล่อผีตานีออกมา ดันคิดถึงเสี่ยว ม่านนะ”
หยางเฉวอดสูดหายใจเข้าไม่ได้ จากนั้นก็หันไปจ้องหลงอ้าวเทียนทันที
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคุยกัน จึงทําได้แค่จ้องเท่านั้น
ผีตานี้มาที่หน้าหุ่นฟางอีกครั้ง เธอยังพูดคําพูดพวกนั้นพี่อ้าวเทียนควรตื่นมาทําการบ้านอะไรพวกนั้น
พวกเราฟังจนชินแล้ว แต่หยางเนิ่วกลับรู้สึกขนลุกเป็นพิเศษ
หลังจากพูดจบ ผีตานีก็ยังพ่นควันสีเขียวใส่หุ่นฟางสิ่งนี้คงเป็นควันลุ่มหลง ทําให้จิตใจของมนุษย์ปั่นป่วน
เพียงแต่เมื่อของสิ่งนี้มาคู่กับหุ่นฟางแล้ว มันกลับไม่ได้ผลอย่างเห็นได้ชัด
“ พี่อ้าวเทียน พวกเรามาเริ่มกันเลยเถอะ !”
ครั้งนี้หลงอ่าวเทียนไม่รอให้ผมสะกิด เขาตอบกลับผีตานีที่อยู่ข้างนอกทันที “ คืนนี้ไม่ไหวแล้ว ง่วงมากเลย พรุ่งนี้แล้วกันนะ !”
ผีตานี้ไม่ได้สูบพลังหยางมาสองคืนติดแล้ว เมื่อคืนนี้ได้ยินคําพูดแบบนี้อีกครั้งเธอก็เลิกคิ้วขึ้นทันที
แต่ปากยังคงพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน “ ไม่เหรอ ! ฉันจะเอาวันนี้จะเอาวันนี้ ! เมื่อคืนเราไม่ได้คุยกันเอาไว้เหรอ ? ว่าจะทํากันจนฟ้าสางนะฉันเตรียมมาอย่างดีแล้วนะ !”
หลังจากพูดจบ ผีตานีตนนี้ก็เริ่มถอดเสื้อผ้าเผยให้เห็นผิวที่ขาวดุจหิมะ
หลงอ่าวเทียนพูดต่อทันที “ พรุ่งนี้เถอะ ! พรุ่งนี้พี่ต้องจัดให้แน่นอน ! ”
เมื่อผีตานีได้ยินคําพูดนี้ ก็โมโหขึ้นมาทันที จับหัวหุ่นฟางแน่นแล้วยัดเข้าไปที่หน้าอกของตัวเอง จากนั้นก็พูดออกมาอย่างดุดัน “ ไม่ได้ ต้องคืนนี้เลื่อนอีกไม่ได้แล้ว !”
ท่าทางแบบนั้นดูหิวมาก หรือจะเรียกว่าบ้าคลั่งเลยก็ได้
แต่หุ่นฟางยังไงก็คือหุ่นฟาง ไม่ว่าผีตานี้จะทํายังไง มันก็เป็นแค่หุ่นฟาง
ผมส่งสัญญาณให้หลงอ่าวเทียนพูดต่อ หลงอ่าวเทียนไม่ได้เปิดตาจึงเห็นแค่เงารางๆเท่านั้น
ตอนนี้เขาไม่ได้สนอะไรมาก ขยับปากพูดต่อทันที “ ไม่ไหวแล้วพรุ่งนี้เถอะ ! พรุ่งนี้พี่จะทําให้เธอสมปรารถนาทุกอย่างเลย ! ”
ผีตานียังข่วนบนตัวหุ่นฟาง เห็นได้ชัดว่าเธอจนปัญญาแล้วไม่ว่าเธอจะทํายังไงเธอก็ไม่อาจทําให้อีกฝ่ายตอบสนองเธอได้เลยสักนิด
แต่เพื่อดูดพลังหยางให้ได้มากกว่าเดิม และยึดชีวิตของหลงอ้าวเทียนจึงต้องใช้วิธีนี้เท่านั้นถึงจะทําให้ได้พลังขั้นสูงสุด บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่อย่างนั้นผีตานีตนนี้คงกัดหลงอ่าวเทียนตายไปนาน
แล้ว
ภายใต้เหตุผลนี้ หลังจากผีตานีลองพยายามอ่อยอีกสองสามครั้งท้ายที่สุดเธอก็ต้องยอมแพ้ แล้วเลือกมาหาใหม่ในวันพรุ่งนี้
เธอค่อยๆลุกขึ้น บนตัวมีผงชาดเปื้อนเต็มไปหมด แต่เธอไม่เห็นพวกมันเลยสักนิด
แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เธอกําลังโกรธมาก เธอจ้องหุ่นฟางตาไม่กระพริบ “ ไร้น้ํายาจริงๆ ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่ทําให้ฉันพอใจอีกฉันจะไม่ทนอีกต่อไป ! ”
พอพูดจบ ผีตานีก็พ่นควันสีเขียวใส่หุ่นฟางอีกครั้ง จากนั้นก็เค้นเสียงดังฮีแล้วหมุนตัวออกไปทันที
เมื่อเห็นฉากนี้ พวกเราก็รู้สึกดีใจสุดๆ ไม่ได้สนใจคําพูดของเธอเลยแม้แต่น้อย
พรุ่งนี้งั้นเหรอ ? พอกลับไปแล้ว เธอยังมีพรุ่งนี้อีกเหรอฮะ
ขอแค่ถึงพรุ่งนี้เช้า พระอาทิตย์ขึ้นเมื่อไหร่ ผงชาดที่ติดตามตัวผีตานีก็จะออกฤทธิ์แล้ว
อย่าพูดถึงคืนพรุ่งนี้เลย เธอจะมีชีวิตอยู่ถึงพรุ่งนี้เที่ยงหรือเปล่าก็ยังไม่รู้แล้ว
หลังจากทํางานหนักมาสองวัน เห็นได้ชัดว่าทุกคนรอให้ผีตานีออกไปสุดๆ
แต่ในช่วงเวลาสุดท้ายแบบนี้ เป็นธรรมดาที่พวกเราต้องข่มอารมณ์เอาไว้ถึงจะตื่นเต้นขนาดไหน
พวกเราก็ไม่ได้ส่งเสียงออกมาแม้แต่น้อย
ส่วนผีตานี หลังจากจ้องหุ่นฟางสักพัก เธอก็หมุนตัวออกไปด้วยความจนปัญญาและโมโหไม่น้อย
“ ต๊อกตอกต๊อก” เสียงส้นสูงดังขึ้น ผีตานีออกจากบ้านอย่าง รวดเร็ว
เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนก็ถอนหายใจออกมาทันที
ในที่สุดก็จบแล้ว แต่เพื่อเหตุไม่คาดคิด พวกเราจึงยังซ่อนอยู่ใต้โต๊ะอีกสองชั่วโมง
เพราะหลังจากผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว ก็จะเป็นเวลาไก่ขัน สิ่งชั่วร้ายพวกนี้ มักจะหลีกเลี่ยงช่วงเวลานี้ที่สุด
อีกเหตุผล คือเพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์พลิกกลางคัน ทําให้งานที่ทํามาล้มในตอนสุดท้าย
เห็นได้ชัดว่าทุกคนกําลังอารมณ์ดีมาก แต่ก็ต้องทําตามกติกาที่กําหนดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ทุกคนต่างรู้ดีแก่ใจ ไม่มีใครล้ําเส้นเลยสักคนเพียงรอให้เวลาผ่านไปอีกสองชั่วโมงอย่างเงียบๆ
แต่ เวลาเพิ่งผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิด
ขึ้น
ประตูบ้านที่ปิดไว้ จู่ๆก็มีเสียงดัง “ แอ๊ด ”
ในบ้านที่เงียบสงัด เสียงนี้ถือว่าดังมาก
ใจที่เคยสงบของทุกคน กลับมาเต้นแรงอีกครั้ง เผยให้เห็นความกังวลเล็กน้อย
ฮี ยัยผีตานีนั่นคงไม่ได้กลับมาอีกรอบหรอกนะ
ผมสงสัยในใจ แต่ก็มองออกไปที่ประตู ผ่านช่องว่างของผ้าคลุม
ประตูบ้านค่อยๆเปิดออก หลังจากนั้นก็เห็นหัวของใครบางคนโผล่เข้ามามองสํารวจข้างใน จากนั้นก็มีผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง
ผู้หญิงคนนั้นเพิ่งเข้ามา ผู้ชายวัยกลางคนอีกคนก็เดินตามมาติดๆ
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ในใจของพวกเราก็มีเสียงดัง “ อีก ”
นี้ นี่มันสองสามีสกุลหลงนิ คุณหลงกับคุณนายหลง ทําไมพวกเขาถึงมาที่นี่ในเวลานี้ละ ?
ตอนแรกพวกเรายังไม่ได้ผลีพลามออกไป กลัวจะเป็นภาพลวงตาของผีตานีจึงรอบคอบเอาไว้ก่อน
สุดท้ายหลังจากสังเกตดูสองสามครั้ง เราก็คิดว่าพวกเขาต้องเป็นสองสามีสกุลหลงแน่นอน
และพวกเขาเพิ่งเข้ามาในบ้าน คุณนายหลงก็ตะโกนเบาๆว่า “ เสี่ยวเทียนเสี่ยวเทียน ท่านนักพรตเสี่ยวติง ท่านนักพรตเสี่ยวเฟิงผีตานตัวนั้นไปแล้วเมื่อกี้พวกเราเห็นกับตา ”
เมื่อได้ยินคําพูดนี้ ผมก็กลอกตาทันที
ในบ้านมีคนอื่นเข้ามาแล้ว วงเวทย์โดนทําลาย ซ่อนอยู่ใต้โต๊ะต่อไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
ตอนนี้ดูเหมือน ต้องภาวนาขอให้ผีตานตัวนั้นไปได้ไกลแล้วเท่านั้น
ต่อจากนั้นผมก็เลิกผ้าคลุมโต๊ะขึ้นแล้วพูดว่า “ พวกคุณมาทําอะไรที่นี่ ? ใครให้พวกคุณมาตอนนี้ คําพูดเมื่อตอนกลางวันพวกคุณกันหมดแล้วเหรอ ? ”
ผมค่อนข้างโมโห ทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องไร้สาระทั้งนั้น
ขณะพูด ผม เหล่าเฟิง และหยางเฉ้วค่อยๆคลานออกมาจากใต้โต๊ะ
แต่ เผื่อเหตุฉุกเฉิน ผมยังให้หลงอ่าวเทียนซ่อนอยู่ใต้โต๊ะต่อ
ผมคิดว่า ถึงวงเวทย์จะถูกทําลายแล้ว หุ่นฟางไม่อาจหลอกผีตานีได้อีกแต่ขอแค่หลงอ่าวเทียนยังอยู่ใต้โต๊ะ ถึงผีตานีตนนั้นจะกลับมาจู่โจมอย่างกระทันหันเธอก็จะไม่รู้ว่าเขาอยู่ตรงไหน
ผลลัพธ์ไม่รอให้พวกเราพูด คุณหลงก็เปิดไฟในห้องรับแขกแล้ว
เพิ่งเฉ้วหานเห็นอีกฝ่ายเปิดไฟ จึงขมวดคิ้วแล้วพูดออกมาทันที “ทําอะไร ? ใครบอกให้พวกคุณเปิดไฟ
รีบปิดไฟเดี๋ยวนี้ ! ”
คุณหลงตะลึง แต่ก็รีบปิดไฟในห้องทันที
ในเวลาเดียวกัน คุณนายหลงกลับหัวเราะคิกคัก “ ท่านนักพรตเสี่ยวเฟิง ท่านนักพรตเสี่ยวติง พวกคุณไม่ต้องเครียดขนาดนั้นก่อนหน้านี้พวกเราซ่อนอยู่ข้างนอก เห็นผีตานีตัวนั้นออกไปแล้วไม่อย่างนั้นพวกเราไม่เข้ามาหรอก พวกคุณวางใจเถอะ ! ปลอดภัยแล้ว ! พวกคุณนี่เก่งจริงๆ ผ่านคืนนี้ไปลูกเราก็จะไม่เป็นอะไรแล้ว ”
คุณนางหลงพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ หัวเราะอย่างมีความสุข ไม่เห็นว่าอยู่ในช่วงเวลาสําคัญเลยสักนิด
แต่ใครจะรู้เสียงของเธอเพิ่งเงียบลง ประตูบ้านที่เคยปิดสนิท ก็มีเสียงเบิดดัง “ ปัง ”
ทันใดนั้นเองสายลมอันชั่วร้ายก็พัดเข้ามาในบ้าน ในเวลาเดียวกัน เสียงอันเย็นชาของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้น “ ถึงว่าควันหลงไหลของฉันใช้ไม่ได้ผล ที่แท้ก็มีเลศนัยจริงๆด้วย ที่แท้พวกแกก็เล่น
ลูกไม้