ศพ - ตอนที่ 313 เอาชีวิตคนงานก่อสร้าง
ศพ 3 เอาชีวิตคนงานก่อสร้าง
ตอนที่ 313 เอาชีวิตคนงานก่อสร้าง
ในช่วงเวลานี้ นอกจากเฝ้าร้าน ผมก็เล่นเกม ดื่มชาอะไรต่างๆนานาใช้ชีวิตสงบสุขอย่างน่าประหลาด
แต่ทุกคนต่างเก็บเรื่องหนึ่งเอาไว้ในใจ นั่นก็คือเรื่องของเหล่าเฟิง
เหล่าเฟิงมีสองวิญญาณในร่าง วิญญาณอีกดวงหนึ่งก็คือพี่ชายของเขาหานเฉ่วเฟิง
เพื่อปกป้องเหล่าเฟิงเมื่อสามปีก่อนท่านนักพรตต์ สัญญาเอาไว้กับพี่เฟิงว่าภายในสามปีหลังจากนั้นเขาจะหาแก่นหยินแดงมาให้หนึ่งเม็ดทําให้เลิกแย่งชิงอํานาจในการควบคุมร่างกับเหล่าเฟิง
แต่ระยะเวลาสามปีก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เหลือเวลาแค่อาทิตย์เดียวแล้ว
ยังไม่ได้แก่นหยินแดงมาครอง หรือแม้แต่เบาะแสเลยก็ว่าได้
พอถึงเวลา พี่เฟิงที่เคยสงบเงียบมาตลอดสามปี ก็จะเริ่มชิงอํานาจในการควบคุมร่างจากเหล่าเฟิงอีกครั้ง
ตอนนี้อาจยังดีอยู่ เพราะร่างกายของเหล่าเฟิงแข็งแรงดีจิตใจมั่นคง
แต่พอมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายเหล่าเฟิง ผลที่ตามมาก็คงยากจะคาดเดา
ภายในสถานการณ์แบบนี้ ทุกคนใช้ช่องทางทุกอย่างที่ตัวเองมี หาผีชุดแดงหนึ่งตน เพื่อจะได้เอาแก่นหยินแดงมาครอง
เหล่าฉันเป็นหัวหน้าในสุสาน เขาสามารถติดต่อกับคนในสุสานอื่นค้นหาเบาะแสตามสถานที่น้อยใหญ่ในเมืองได้
อาจารย์และท่านนักพรตต์ ก็มีช่องทางของตัวเอง เช่นติดต่อพวกคนที่ขายธูปเทียน กระดาษเงินกระดาษทอง
ใช้ช่องทางของพวกเขา ติดต่อร้านที่ขายของเกี่ยวกับงานศพในบริเวณใกล้เคียง เพื่อจะได้ข่าวคราวอะไรบ้าง
ท่านนักพรตตู้เดินทางไปทั่วทุกที่ มีคนรู้จักไม่น้อย หนึ่งในนั่นก็คือคนปราบสิ่งชั่วร้ายอย่างพวกเรา
เขามีช่องทางการติดต่อคนพวกนี้ไม่มากก็น้อย เขาก็สามารถใช้คนพวกนี้ตามหาเบาะแสของผีชุดแดงได้
แต่เดิมที่ผีชุดแดงก็เป็นสิ่งชั่วร้ายที่โหดหินสุดๆ ผีที่หายากแบบนี้มีไม่บ่อยนักที่จะมันจะเกิดขึ้นมาบนโลก
แต่พอปรากฏตัวขึ้นแล้ว ก็จะก่อเรื่องจนอีกฝ่ายอยู่ไม่เป็นสุขต่ําทรามสุดๆไปเลยละ
ถึงแม้ทุกคนจะมีช่องทางที่ว่ามา แต่ตอนนี้เราก็ยังหาเบาะแสของผีชุดแดงไม่เจอ
ในขณะที่ทุกคนท้อ คิดว่าไม่มีโอกาสแล้ว ผมก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง
เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดัง ผมก็ค่อยๆเดินเข้าไปหยิบมาดู
เมื่อเห็นว่าเป็นเสี่ยวม่าน ผมก็อึ้งไปพักหนึ่ง
นี่ก็ผ่านมาพักหนึ่งแล้วที่ผมไม่ได้ติดต่อกับเสี่ยวม่าน ตอนนี้จู่ๆเธอก็โทรมาหาผมเธอมีเรื่องอะไรกันนะ ?
ผมสงสัยในใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากกดรับสายทันที “ฮัลโหล !
“ ติงผ่านทําอะไรอยู่ ? ” เสียงที่คุ้นเคยของเสี่ยวม่านก็ดังขึ้น
ผมฉีกยิ้มให้คนในโทรศัพท์ทันที “ จะทําอะไรได้ละก็เฝ้าร้านนะซิ !โทรมาหาฉันมีเรื่องอะไรหรือเปล่า ? ”
พอเสียวม่านได้ยินผมพูดแบบนี้ น้ําเสียงก็เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาทันที “ มีเรื่องบางอย่างน่ะ เอ่อคือ คือว่า…”
เมื่อได้ยินเสี่ยวม่านทําเสียงอําๆอึ้งๆ ผมก็พูดกับเธอไปตรงๆ “เราสองคนเป็นอะไรกัน ? มีเรื่องอะไรเธอก็พูดออกมาเลยเถอะ !”
“ คือ ! ได้ ฉันมีเรื่องอยากรบกวนให้นายช่วยหน่อย และนายต้องช่วยฉัน ! ” เสี่ยวม่านพูดเสียงหนักแน่นมาก
เมื่อได้ยินน้ําเสียงของเสี่ยวม่าน มันก็บอกได้ทันทีว่าเธอกําลังเจอปัญหาบางอย่าง
ในฐานะเพื่อนตั้งแต่เด็กของผม ถ้าช่วยได้ ผมก็ต้องช่วยอย่างแน่นอน “ ว่ามาซิ ! เรื่องอะไร ? ไปเจอของสกปรกมาเหรอ ? ถ้าช่วยได้ฉันจะช่วยแน่นอน ”
ผมพูดอย่างหนักแน่น เพราะสิ่งที่ผมจะช่วยเสี่ยวม่านได้ก็คงมีแต่เรื่องขับไล่สิ่งชั่วร้ายหรือปราบปีศาจแล้ว
เมื่อเสี่ยวม่านได้ยินถึงตรงนี้ เธอก็ลดเสียงลงต่ํา แล้วพูดกับผมว่า “มันเป็นแบบนี้เมื่อไม่กี่วันก่อน ฉันเป็นตัวแทนบริษัท ได้ที่ดิน เขตทางใต้มาผืนนึงเดิมที่อยากจะสร้างผลงานให้แม่และคณะกรรมการบริษัทเห็น
แต่มันก็เกิดเรื่องขึ้น
”
ต่อจากนั้น เสี่ยวม่านก็เล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นออกมาทีละนิดๆ
ฟังมาประมาณสองสามนาที ผมถึงเข้าใจต้นสายปลายเหตุของ
เรื่องนี้
เรื่องครอบครัวของเสี่ยวม่านผมก็เล่าไปหมดแล้ว ครอบครัวของเธอเป็นเศรษฐีคนหนึ่ง แม่บุญธรรมของเธอเป็นประธานบริษัทคน ปัจจุบัน
ตอนนี้เสี่ยวม่านกําลังฝึกงานอยู่ที่บริษัท ที่จริงมันก็คือบริษัทสาขาย่อยของครอบครัวเธอที่อยู่ในเมืองของพวกเรา
เพราะเสี่ยวม่านได้ยินได้เห็นทุกอย่างจากแม่ เธอเลยเข้าใจการทําธุรกิจอย่างลึกซึ้ง
จากเด็กฝึกงาน เธอสามารถสร้างผลงานออกมาได้เร็วมาก
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน แม่เธอยกตําแหน่งรองผู้จัดการทั่วไปของบริษัทสาขาย่อยนั้นให้เธอ
เพราะอยากให้เธอได้ฝึกฝีมือมากกว่าเดิม
ในเวลาเดียวกันก็หวังว่าเสี่ยวม่านจะสร้างผลงานใหญ่ให้พวกคณะกรรมการบริษัทเห็น ว่าเธอไม่ได้สวยแต่รูป แต่มีความสามารด้วย
หลังจากเสียวม่านเข้ารับตําแหน่ง สิ่งแรกที่เธอต้องทําก็คือทําตามแผนบริษัทของเธอ เอาที่ดินมาสร้างอาคาร
นี่ก็คือธุรกิจที่ทํากําไรได้มากที่สุดในปัจจุบัน แต่ก็มีการแข่งขันสูงที่สุดเช่นกัน เป็นธุรกิจที่ล้างผลาญเงินมากที่สุด
บริษัทลูกมีข้อจํากัดด้านการเงิน ไม่อาจซื้อที่ทําเลทองได้ทําได้เพียงซื้อที่ดินที่รองลงมาเท่านั้น
เสี่ยวม่านไปเจอที่ดินทางใต้ผืนหนึ่ง หลังจากนั้นก็ซื้อกลับมา
ตอนนี้ผู้จัดการแนะนําเสียวม่านว่า ให้สร้างวิลล่าที่นี่ ทําเป็นบ้านพักต่างอากาศห่างไกลตัวเมืองชมทิวเขาและป่าไม้เขียวขจี
บอกว่าแบบนี้จะต้องดึงดูดพวกคนรวยให้มาซื้อได้แน่ๆ ในเวลาเดียวกันก็จะสร้างผลงานได้เร็วกว่าเดิม
หรือแม้แต่ทําเงินได้เร็วอีกด้วย
แต่เสี่ยวม่านกลับส่ายหัว ตามที่เสี่ยวม่านวางแผนเอาไว้ เธอจะสร้างที่พักอาศัยราคาถูกและพื้นที่เช่าแบบกลุ่มที่นี่
ห้องแต่ละชุดจะมีราคาต่ํากว่าตลาด 20 % ทํากําไรได้จากร้านค้าเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัยราคาประหยัด
การตัดสินใจครั้งนี้ถูกผู้บริหารระดับสูงของบริษัทลูกคัดค้านหรือแม้แต่พวกผู้บริหารอาวุโสในบริษัทแม่
ก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับความคิดทางธุรกิจของเสี่ยวม่าน
บอกว่าบริษัทของพวกเขาไม่ใช่พ่อพระ สร้างบ้านก็เพื่อหาเงินไม่ได้อยากช่วยเลือกคนยากไร้
ผลลัพธ์เสี่ยวม่านเถียงทุกคน และยืนกรานว่าจะทําสิ่งนี้ให้ได้
ดังนั้น เสี่ยวม่านเลยไปทําให้ทุกคนไม่พอใจ
ตอนนี้ไม่ได้มีแค่พวกคณะกรรมการบริษัทเท่านั้นที่หัวเราะเยาะเสี่ยวม่าน แม้แต่พนักงานในบริษัทลูก ก็ยังไม่ยอมฟังคําสั่งของเสี่ยวม่าน
แต่ก็ยังโชคดี ที่เสี่ยวม่านยุติเรื่องนี้ลงได้
แต่เมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อน ก็มีปัญหาเกิดขึ้น
ที่ไซต์งานก่อสร้างขุดเจอโลงศพโลงหนึ่ง เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเป็นปกติในงานก่อสร้าง มันเลยไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร
ผลลัพธ์พอถึงเช้าวันรุ่งขึ้น คนงานที่ขับรถขุดก็ถูกฆ่าตายในบ้านพักพนักงาน
หลังจากสามวันติด คนงานที่เคยแตะโลงศพโลงนั้น ก็ค่อยๆตายไปที่ละคนๆ จนถึงคนสุดท้าย
าดผวามาก :
ตอนนี้คนงานในไซต์ก่อสร้างหวาดผวามาก งานก่อสร้างถูกระงับเอาไว้สองวันแล้ว
ใครๆก็บอกว่าขุดเอาผีร้ายออกมา เจ้าผีร้ายตัวนี้คิดจะเอาชีวิตผู้
คน
เสี่ยวม่านรู้ดี ว่าบนโลกนี้ไม่ได้ดูสงบอย่างที่เห็น และเธอก็เชื่อเรื่องผีร้ายด้วย
ถ้าไม่จัดการโลงศพโลงนั้น งานก่อสร้างต้องดําเนินต่อไม่ได้แน่ๆหรือแม้แต่จะมีคนตายเพิ่มอีก
เสียวม่านอยากจะทําตัวเข้มแข็ง ไม่อยากเจอปัญหาแล้วเอาแต่วิ่งไปหาแม่ของเธอ
ด้วยเหตุนี้เธอก็เลยไม่ได้ไปหาลุงฉินคนนั้น กลับกันเธอก็คิดถึงผมขึ้นมา
ก็เลยโทรมาหาผม หวังว่าผมจะยอมออกโรง ช่วยเธอจัดการปัญหาที่ไซต์ก่อสร้าง
พอฟังที่มาที่ไปของเรื่องนี้จบ ผมก็พูดขึ้นมาทันที “ เสี่ยวม่านเธอวางใจได้ในเมื่อโทรมาหาฉันแล้ว
ฉันก็ต้องจัดการให้เธอแน่นอน ! ”
“ จริงเหรอ ? งั้นก็เยี่ยมไปเลย แล้วนายจะเข้ามาดูเมื่อไหร่ละ ? ”เสียงเสี่ยวม่านในโทรศัพท์ดูดีใจขึ้นมาเล็กน้อย
เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องด่วน ผมไม่ได้ลังเลอะไร ตอบกลับเสี่ยวม่านทันที “ เธอไปรอฉันที่นั่นเลย ฉันเก็บของเสร็จแล้ว จะออกไปหาเธอเลย ! ”
หลังเสี่ยวม่านได้ยินคําตอบของผม เธอก็ดีใจชวนผมคุยอีกสองสามประโยคหลังจากนั้นก็วางสายไป
เพิ่งวางสาย อาจารย์ที่นั่งเก้าอี้โยกอยู่ก็ถามผมว่า “เป็นอะไร ? มีปัญหาเหรอ ? ”
ผมพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ อ๋อ ! เสี่ยวม่านโทรมาครับ เธอบอกว่าที่ไซต์งานก่อสร้างขุดเจอโลงศพเก่าโลงหนึ่ง ตอนนี้มีคนตายไปหลายคนแล้ว! เธอเลยให้ผมเข้าไปดูหน่อย…”