ศึกสยิวเกราะศาสตรา - ตอนที่ 3
ตอนที่สาม ผู้กล้าไดอาร์ล็อกกับความรู้สึกผิด
หลังจากทานข้าวเสร็จก็คงจะต้องอาบน้ำ แต่ก่อนหน้านั้นก็ต้องล้างจานซะก่อน และผมคงไม่เลวขนาดให้เด็กอายุสิบหกล้างจานให้หรอก ถึงแม้จะเป็นโลกของเกมโป๊แต่ยังไงตอนนี้ก็กึ่งๆเป็นชีวิตจริงไปแล้วศีลธรรมอันดีบางอย่างของผมก็ยังอยู่ล่ะนะ
“พี่ชายจะยกจานไปไหนคะ?”
“ไปล้างจานน่ะสิทานเสร็จก็ต้องล้างไม่ใช่เหรอ?”
“พี่ใช้เครื่องล้างจานเป็นด้วยเหรอคะ?”
“เครื่องล้างจาน?”
ไม่ใช่อบแห้งจานแต่เป็นเครื่องล้างจานเลยเหรอ โลกแฟนตาซีในเกมโป๊ที่เน้นพลังงานจากเวทย์มนต์มีแม้กระทั่งเครื่องล้างจาน!! แน่นอนว่าผมใช้ไม่เป็น ไม่มีทางที่พนักงานบริษัทที่ไม่เคยทำงานพาร์ทไทม์ในศูนย์อาหารจะใช้เครื่องล้างจานเป็นหรอกนะ ยิ่งเป็นเครื่องล้างจานเวทย์มนต์ในต่างโลกยิ่งแล้วใหญ่
“ว่าแล้วเชียวส่งจานมานี่เลยค่ะ”
“อย่างน้อยให้พี่ช่วยถือไปเถอะนะ”
“ก็ได้ค่ะท่าพี่อยากช่วย”
และแล้วผมกับคุณน้องสาวก็ไปล้างจานด้วยกัน เครื่องล้างจานในต่างโลกนั้นใช้งานง่ายมากเพียงแค่ใส่จานเข้าไปเท่านั้นเอง แล้วกดปุ่มเลือกขนาดของจานและตั้งเวลาล้าง เอาเข้าจริงก็คล้ายๆเครื่องซักผ้าอยู่เพียงแค่มีข้อจำกัดใหญ่ๆคือล้างจานหลายขนาดรวมกันไม่ได้
ในที่สุดจานใบสุดท้ายก็ออกมาจากเครื่องล้างจาน ผมหยิบเอาจานทั้งหลายไปเก็บที่และพอหันกลับมาคุณน้องสาวของผมก็หายไปซะแล้ว ผมเลยเดินออกมาจากห้องครัวและผมก็เจอคุณน้องสาวที่จู่ๆก็หายตัวไปโดยไม่บอกกล่าวกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่
“พี่ครูสๆ มานี่สิคะหนูมีอะไรจะให้”
“เอ๋ อะไรเหรอน่าตื่นเต้นจัง”
ผมเดินตามน้องสาวที่กวักมือเรียกเข้าไปในห้องห้องนึงซึ่งมันน่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ภายในห้องมีเครื่องเสียงขนาดใหญ่กับทีวีจอยักษ์ และโซฟาหนังสีแดงเลือดหมูยาวเกือบสองเมตรที่มีลักษะขดเป็นตัวซี(C)อยู่หน้าทีวี รอบๆห้องมีชั้นวางหนังสือที่ทำจากไม้อยู่วางอยู่สองสามจุด
นี่สินะห้องนั่งเล่นในบ้านของคนรวย สรุปคือตัวเอกเกมArmorNGirlsรวยสุดๆสินะมิน่าล่ะถึงได้เป็นตัวเอกเกมโป๊ที่วันๆไม่ทำอะไรเอาแต่จีบสาวๆเพลย์บอยไปวันๆนึงได้ แต่ก็ดีแล้วล่ะผมไม่อยากสู้แบบไม่พักเหมือนพวกตัวเอกเกมต่อสู้หรอกนะ
แต่ผมก็ยังวางใจไม่ได้ในฐานะที่เป็นแฟนบริษัทผู้พัฒนาเกมนี้มานาน ผมรู้ดีว่าเกมของพวกเขามีคุณภาพมากและเกมเพลย์ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าฉากวาบหวิวเลยแม้แต่น้อย ถ้าประมาทผมอาจจบชีวิตลงได้ง่ายๆเลย
“พี่ชายนั่งลงก่อนสิคะ”
คุณน้องสาวผายมือไปยังโซฟาข้างๆเธอให้ผมนั่งลง เมื่อผมหย่อนตัวลงบนโซฟาอย่างนิ่มนวล ก็ต้องอุทานในใจว่าโอ้โหโคตรนุ่ม เจ้าโซฟาต่างโลกนี่มันรู้สึกนุ่มเป็นมิตรต่อแผ่นหลังแต่กลับไม่ได้ยุบลงยวบยาบ นี่มันทำได้ยังไงกันหรือว่านี่ก็เป็นพลังลี้ลับของสิ่งที่เรียกเวทย์มนต์
“นั่งใกล้ๆหนูหน่อยสิคะ”
คุณน้องสาวขยับเข้ามาแต่เดี๋ยวนี่มันใกล้ไปรึเปล่าคุณน้องสาวแทบจะนั่งบนตักผมอยู่แล้วนะเห้ย
ผมสัมผัสได้ถึงไออุ่นและกลิ่นหอมของเด็กสาวได้อย่างชัดเจนเลย เกมโป๊สุดยอด!! น่ะ..นี่คือเซอร์วิสเปิดเกมสินะ ต้องใช่แน่ๆ มันเป็นทำเนียมที่บทนำต้องมีอะไรชวนใจเต้นตึกตักสักหน่อย
“นี่ค่ะ พี่ชาย”
คุณน้องสาวส่งอะไรบางอย่างมาให้ผม โดยลักษณะภายนอกของมันเท่าที่ผมเห็นเป็นหินสีขาวที่มีรูปร่างคล้ายดาวห้าแฉก
“หนูขอนำเสนอสุดยอดชุดเกราะ เจ้าสตาร์ซีรีย์นี่ถือว่าเป็นตัวท็อปในบรรดายี่ห้อชุดเกราะเวทย์มนต์เลยนะคะ เชิญกลืนมันได้เลยค่าพี่ชาย”
“เดี๋ยวสิ ไม่มีคำอธิบายมากกว่านี้เหรอแล้วหินสีดำที่พี่ได้มาก่อนหน้านี้ล่ะ”
“โม่วว!! ช่วยไม่ได้นะคะ พี่ครูสนี่ช่างขี้สงสัยจริงเชียว จะอธิบายเกี่ยวกับเจ้าชุดเกราะของพี่ให้ฟังง่ายๆแล้วกันค่ะ”
เมื่อผมคาดคั่นจะเอาข้อมูลเพิ่มคุณน้องสาวก็พองแก้มด้วยความไม่พอใจ แต่สุดท้ายถึงจะบ่นอิดออดยังไงเธอก็อธิบายให้ผมฟังอยู่ดี สำหรับผมคิดว่าตรงส่วนนี้ของเธอเองก็ดูน่ารักใช่เล่น
“ชุดเกราะที่หนูให้พี่ไปเป็นชุดเกราะสตาร์ซีรีย์ที่ผลิตอย่างจำกัดค่ะ พูดง่ายๆก็คือเป็นรุ่นลิมิเตดส่วนความแตกต่างภายในด้านการใช้งานก็ไม่ต่างจากเกราะยี่ห้ออื่นหรือซีรีย์อื่นหรอกค่ะ หนูเตรียมไว้ให้พี่เพราะมันเข้าคู่กับหนู”
“เห~ งั้นเหรอแล้วที่น้องเล่าตอนเดินมาว่าชุดเกราะมีหลายรูปแบบล่ะมันเติบโตตามผู้ใช้อย่างเดียวเหรอ”
“อะ..เออเรื่องนั้นน่ะ เรื่องนั้นน่ะ”
พอถามเรื่องรูปแบบของชุดเกราะคุณน้องสาวก็ลนลานขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเลยแหะ เธอเนี่ยเป็นเด็กที่โกหกไม่เก่งสินะผมมองดูก็รู้แล้วล่ะว่าเธอมีอะไรแอบปิดบังอยู่
ผมล่ะไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวละครตัวแรกที่เจออย่างคุณน้องสาวจะพยายามปิดบังข้อมูลสำคัญกับผมตั้งแต่แรกอย่างนี้ เจ้าเกมนี้มันน่าสนใจจริงๆ เพราะว่าความท้าทายของเอโรเกะน่ะมันคือการเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุด ที่จะพาเราบรรลุเงื่อนไขในการเก็บฉากอย่างว่ายังไงล่ะ
การที่ตัวละครเริ่มต้นปิดบังข้อมูลพื้นฐานในการเล่นเกมเป็นอะไรที่ผมไม่เคยเจอมาก่อนเลย จิตวิญญาณของผู้พิชิตเอโรเกะของผมถูกปลุกเข้าให้แล้วสิ เอาล่ะนะจงลุกโชนขึ้นไดอาล็อก(dialogue**)ลุกโชนให้เหมือนจิตวิญญาณของผมเลย
**dialogue หรือบทสนทนา ในเกมเอโรเกะผู้เล่นจะต้องเลือกบทสนทนาเพื่อจีบตัวละคร ซึ่งถ้าเลือกถูดค่าความสัมพันธ์จะเพิ่มจ้า
“หึ!”
“พะ..พี่ชายจะ..จะทำอะไรคะ”
ผมพยายามฉีกยิ้มให้หล่อที่สุดเท่าที่จะทำได้ และใช้นิ้วชี้เชยคางของคุณน้องสาวที่นั่งข้างๆขึ้นเล็กน้อย ทำให้ตาของเราสบผสานเข้าหากัน คุณน้องสาวที่เดิมที่ลนลานเพราะโกหกอยู่แล้วก็ยิ่งลนลานหนักจนหน้าแดง
เอาล่ะเจอท่าไม้ตายของผมหน่อยถึงจะไม่ใช่คาเบะด้งอันโด่งดังแต่พลังทำลายล้างของท่าโพสนี่น่ะก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันหรอกนะ
สิ่งที่พวกมือใหม่ในการเล่นเกมจีบสาวมักจะพลาดไปน่ะคือการที่ไม่กล้ารุกสานสัมพันธ์ให้หนักข้อเมื่อค่าความสัมพันธ์เกินระดับเพื่อนไปแล้วยังไงล่ะ กับคุณน้องสาวที่ค่าความสัมพันธ์เกินสี่สิบเปอร์เซ็นไปแล้วน่ะจะต้องรุกหนักๆแสดงให้เธอเห็นว่าเราเองก็มีใจ
“ถ้าเวนดี้ไม่ยอมบอกความจริงมาเห็นทีคืนนี้พี่ชายคนนี้คงจะต้องลงโทษเด็กไม่ดีนะ”
“อึก!”
ผมก้มลงไปกระซิบข้างหูของคุณน้องสาว ในตอนนี้ด้วยท่าทางของเรา ถ้ามองจากภายนอกจะเห็นราวกับว่าผมกำลังโอบกอดเธออยู่ และดูท่ามันจะได้ผลดีเกินคาดเพราะตอนนี้ใบหน้าของคุณน้องสาวแดงก่ำไปจนถึงใบหูแล้ว สมกับเป็นใบหน้าหล่อๆของพระเอกเกมโป๊จริงๆถึงแม้ตอนนี้ร่างกายจะผอมแห้งไปหน่อยก็เถอะ
“อ๊างงง!~”
เมื่อผมเห็นหูแดงๆของคุณน้องสาวก็รู้สึกหมั้นเขี้ยวขึ้นมาเลยใช้ริมฝีปากขบลงไปเบาๆที่ติ่งหูของเธอ
“จะยอมบอกรึยังหึเด็กดื้อ”
ผมผละตัวออกจากคุณน้องสาวเล็กน้อยเพื่อเชยชมผลงานตัวเอง คุณน้องสาวสมกับเป็นตัวละครจีบได้ในเอโรเกะเธอทำหน้าตาได้ลามกดีจริงๆ
เด็กสาวในตอนนี้หอบหายใจรุนแรงใบหน้าแดงก่ำถึงใบหู ดวงตากลมโตของเธอมีน้ำตาคลอเล็กน้อย และเสื้อผ้าที่เริ่มยับนิดหน่อยจากการที่ผมเข้าประชิดตัวเมื่อครู่
“ยะ..ยอมบอกแล้วค่ะ”
สรุปจากที่ผมรีดเค้นข้อมูลจากคุณน้องสาวมาได้ พูดง่ายๆคือชุดเกราะเริ่มต้นนั้นมีสองแบบให้เลือกคือแบบระยะประชิด กับแบบระยะไกลโดยทั้งสองแบบจะเติบโตตามผู้ใช้งานและเปลี่ยนสภาพทุกๆห้าระดับ ยกตัวอย่างเช่นระยะไกลอาจกลายเป็นชุดเกราะเน้นโจมตีระยะกลาง หรือแม้กระทั่งกลายเป็นสายสนับสนุนเต็มรูปแบบเมื่อระดับชุดเกราะสูงขึ้นก็มีโอกาสเกิดขึ้น
ส่วนเจ้าชุดเกราะสตาร์ซีรีย์ที่คุณน้องสาวให้ผมมาเป็นรูปแบบระยะไกล เหตุก็เพราะเธออยากจับคู่กับผมทำภารกิจในอนาคต และไม่อยากให้ผมไปจับคู่กับคนอื่นเพราะผู้หญิงส่วนใหญ่มักเลือกเริ่มต้นที่ระยะไกลแต่อาร์เมอร์ของคุณน้องสาวดันเป็นรูปแบบระยะประชิด
“แล้วคนคนนึงครอบครองมากกว่าหนึ่งอาร์เมอร์ไม่ได้เหรอ?”
“มันก็ได้อยู่หรอกค่ะแต่ไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่มันเป็นเรื่องของประสิทธิภาพน่ะค่ะ”
คนนึงสามารถครอบครองกี่อาร์เมอร์ก็ได้แต่เพราะการอัพระดับอาร์เมอร์นั้นค่อนข้างยากการมีอาร์เมอร์จำนวนมากจึงไม่นิยม อีกทั้งการใช้งานอาร์เมอร์ยังคูลดาวน์(ระยะเวลาพัก)ในการใช้งานที่มากไม่สามารถสับเปลี่ยนได้ในทันที
“แต่ก็มีคนที่เริ่มมาลองทั้งระยะประชิดและระยะไกลเหมือนกันนะคะ เพราะจะได้รู้ว่าถนัดแบบไหนมากกว่ากัน แต่ว่าพี่ครูสเลือกระยะไกลเถอะค่ะมันเติบโตตามผู้ใช้อยู่แล้วสักพักพอผ่านช่วงแรกไปก็ถนัดมือแล้วค่ะ”
ที่จริงผมอยากได้ชุดเกราะระยะประชิด ก็คนมันลูกผู้ชายตัวจริงจะให้หลบหลังผู้หญิง(น้องสาว)แล้วคอยสนับสนุนได้ยังไง แต่ดูท่าทางแล้วคุณน้องสาวคงจะไม่ยอมแน่ๆอีกอย่างถึงจะว่างั้นงี้ก็เถอะแต่ว่ากันตามตรงผมเป็นผู้มาเกาะอาศัยโดยที่ไม่มีเงินสักแดงจะเรื่องมากก็คงไม่ดี ผมเป็นผู้ใหญ่ที่ทะลุมิติมาไม่ใช่พี่ชายของเธอจริงๆเพราะงั้นก็เลยรู้สึกเกรงใจอยู่บ้างล่ะนะ
“อืมก็ได้ พี่จะยอมใช้อาร์ม**(อาร์เมอร์)ระยะไกลก็ได้”
“เย้รักพี่ชายที่สุดเลย”
คุณน้องสาวที่ดีใจจนลืมตัวเข้ามากอดผมนัวเนีย ทีงี้ไม่เขินนะแม่คุณฮ่าๆ
ตึก! ตึก!
“หือ?”
ผมรู้สึกถึงแรงสั่นเบาๆจากในกระเป๋ากางเกงเลยหยิบสิ่งที่อยู่ในนั้นออกมาดู มันคืออาร์มหินสีดำสี่เหลี่ยมจตุรัสที่ผู้ชายเสียมารยาทหน้าประตูเมืองให้มานั่นเอง เมื่อผมมองมันผมก็คิดขึ้นได้ว่าทำไมไม่ลองกลืนมันลงไปด้วยเลยล่ะเผื่อว่าเจ้าอาร์มสีดำอันนี้จะเป็นรูปแบบระยะประชิดผมจะได้มีโอกาสได้ลองใช้
ง่ำ!
เมื่อตัดสินใจได้แล้วผมก็กลืนอาร์มทั้งสองเม็ดลงคอไปพร้อมกันเนียนๆ โดยไม่ให้คุณน้องสาวเห็นซะเลย
ตึกตึก! ตึกตึก!
“อึกกก!”
“พี่ชายพี่ชายเป็นอะไรไปคะ?”
ผมหายใจไม่ออก หน้าอกของผมรู้สึกถูกบีบรัดอย่างรุนแรง มันเจ็บเอามากๆ น้ำลายในคอก็เริ่มแห้งผาก บ้าจริงนี่มันอะไรผมกำลังจะตายเหรอ
ผมไม่อยากตาย!
ผมพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ แต่ความรู้สึกที่ได้รับจากการสูดอากาศเข้าเต็มปอดราวกับมีใบมีดนับพันบาดอยู่ภายในร่าง
เจ็บปวด ทรมาน แม้ว่าจะพยายามทุบหน้าอกเท่าไหร่ หรือแม้กระทั่งกลั้นหายใจก็ยังคงเจ็บปวดไว้เท่าเดิมไม่ลดลงเลย
ผมดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้นอย่างน่าสมเพช และมันทำให้ผมเริ่มตระหนักถึงการไม่ยั่งคิด ทั้งที่เจ็บปวดเจียนตายแต่สมองกลับทำงานได้อย่างน่าเหลือเชื่อภาพที่ผมมองเห็นเริ่มเคลื่อนไหวช้าลงราวกับว่าเวลาจะหยุดนิ่งเหมือนกับตอนผมตั้งชื่อให้กับร่างกายนี้
“เกิดอะไรขึ้น? พี่ชายทำใจดีๆไว้นะคะอย่าเพิ่งหลับนะ”
“อ๊ากกกกกกกกกกกก”
ผมกรีดร้องออกมาสุดเสียงก่อนที่สติของผมจะหลุดลอยไปภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเด็กสาว และวินาทีนั้นเองที่ผมตระหนักได้ว่าผมได้ทำผิดต่อเธอไปซะแล้ว และการตัดสินใจทำอะไรโดยพลการมันแย่แค่ไหน