ศึกสยิวเกราะศาสตรา - ตอนที่ 6
ตอนที่หก อีเว้นสอนเล่นที่รอคอยมั้ง?
ผมที่ต่อแถวลงทะเบียนผู้ใช้อาร์มอยู่นั้น ก็สังเกตเห็นเด็กสาวหน้าตาน่ารักที่น่าจะเป็นหนึ่งในนางเอกของเกมอีกคนนึง เธอมันรูปลักษณ์ที่เรียกได้ว่าสง่างามถึงแม้ว่าจะมีใบหน้าที่น่ารักก็ตาม
ร่างระหงษ์มีเรือนผมสีบลอนด์ทองยาวถึงกลางหลัง และดวงตาสีฟ้ากลมโต เด็กสาวที่อยู่ในชุดกระโปรงยาวมีบรรยากาศราวกับเจ้าหญิงในนิทาน ถ้าคุณน้องสาวเปรียบได้กับตุ๊กตาญี่ปุ่น เด็กคนนี้ก็เหมือนตุ๊กตากระเบื้องที่แต่งกายในชุดเจ้าหญิง
ทั้งดูน่ารักและสูงส่ง ทุกท้วงท่ากิริยาการเดินการยืนของเด็กสาวก็บ่งบอกราศีชัดเจนว่าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน แต่น่าเสียดายที่คิวของเธอห่างจากผมไปมากเลยไม่น่าจะมีโอกาสได้พูดคุยกัน
ช่วยไม่ได้ล่ะนะผมรุกคุณน้องสาวไปตั้งขนาดนั้นรูทคนอื่นคงหมดสิทธิ์แล้วล่ะ
“สวัสดีค่ะ มาลงทะเบียนผู้ใช้อาร์มใช่ไหมคะ? มีสังกัดอยู่แล้วหรืออิสระคะ?”
หลังจากต่อแถวจนแทบจะยืนหลับในที่สุดก็ถึงคิวของผม ว่าแต่ไอ้มีสังกัดกับอิสระนี่มันอะไรกัน
“ทำหน้าแบบนั้นไม่รู้จักสินะคะ ไม่เป็นไรค่ะเพราะหลังสงครามจบ อาร์มก็กลายเป็นกีฬาชนิดนึงดังนั้นตอนนี้จึงมีพวกลูกคนมีเงินหรือขุนนางมาสมัครโดยไม่ทราบรายละเอียดเยอะเหมือนกัน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันอธิบายเองค่ะ” คุณพนักงานสาวส่งยิ้มกว้างและชูนิ้วโป้งมาให้ผม
จากที่ฟังคุณพนักงานอธิบายซะยืดยาวจนผมเลิกสงสัยเลยว่าทำไมการต่อแถวลงทะเบียนมันนานนัก สรุปความได้ว่าปัจจุบันอาร์มถูกใช้ในภารกิจและเกมประลองรูปแบบต่างๆ โดยในหมู่ผู้ใช้อาร์มเองก็มีคนจับกลุ่มกันเพื่อทำกิจกรรมในรูปแบบต่างๆได้ง่ายขึ้น โดยสองถึงสี่คนเรียกว่าปาร์ตี้(Party) และมากกว่านั้นจะเรียกว่าแคลน(Clan) การสังกัดแคลนก็เหมือนการอยู่ภายใต้บริษัทเอกชนยิ่งแคลนโด่งดังก็ยิ่งมีความน่าเชื่อถือ
“อิสระมั้งครับ?”
ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่เพราะดูๆไปแล้วคุณน้องสาวนั้นสังกัดรัฐบาลกลาง ผมเลยไม่แน่ใจว่าผมต้องลงทะเบียนยังไงกันแน่
“มั้งเหรอคะ? ทำไมถึงไม่แน่ใจล่ะคะมีใครแนะนำมาเหรอคะ?”
“น้องสาวครับ”
“ขอทราบชื่อคุณน้องสาวได้ไหมคะ?”
“เวนดี้ครับ เวนดี้ครอสโอเวอร์”
“งั้นคุณก็คือคุณชายครูส งั้นคงต้องลงทะเบียนเป็นอิสระแหละค่ะจะเข้ากองทัพต้องไปสมัครที่กระทรวงอีกทีนะคะ เอาล่ะแตะมือสแกนที่แผ่นเหล็กสีดำตรงนั้นได้เลยค่ะ”
ผมวางมือลงบนแผ่นเหล็กสีดำอยู่ครู่นึงเป็นอันลงทะเบียนเสร็จ แล้วเมื่อผมเดินออกมาจากจุดลงทะเบียน ผมก็ตระหนักได้ว่าคนที่ทำให้การลงทะเบียนนั้นมันนานก็คือคุณพนักงานประชาสัมพันธ์นั่นเอง
“เฮ้ น้องสาวสนใจมาเข้าแคลนพี่ไหมจ้ะ”
“มะ..ไม่ค่ะ”
ระหว่างผมที่กำลังยืนทำหน้างง กวาดสายตามองหาคุณน้องสาวที่เกิดอาการขี้อายฉับพลันแล้วทิ้งผมไว้ที่นี่ ผมก็ดันไปได้ยินบทสนทนาสุดแสนจะน่าสนใจเข้าให้
ในฐานะที่ผมเป็นคนที่มีนิสัยใฝ่รู้(?)มาตั้งแต่เด็กผมจึงขยับเข้าไปฟังใกล้ๆเพื่อให้ความรู้รอบตัว ฮ่าๆ บทสนทนาของเอ็นพีซีเกมส่วนใหญ่มักจะเป็นไกด์ไม่ก็เควสลับที่ให้ของเด็ดๆทั้งนั้นแหละเพราะงั้น เข้าไปเสื…เฮ้ย!!หาความรู้โลด!!
“แคลนพวกพี่น่ะดังระเบิดแถมยังมีทีมพาเด็กใหม่ทำภารกิจด้วยนะแรงค์อัพไวสุดๆ”
“ไม่เข้าค่ะ”
“น่าๆน้องสาวใจเย็นๆคุยกับพวกพี่ให้มากกว่านี้เดี๋ยวก็อยากเข้าเอง”
“ไม่เข้าค่ะหลีกไปนะคะ”
“เฮ้ยๆ มาผลักกันแบบนี้หาเรื่องกันนี่น้องสาวอยากเจอดีรึไง”
ผมเจอมันแล้วล่ะครับ อีเว้นเริ่มเกมที่มีอันตพาลกระจอกๆมาให้ลองสกิล โดยปกติแล้วพวกนี้มักจะอ่อนแอสินะเพื่อให้ตัวเอกโชว์เท่ ผมลุยเลยแล้วกันไหนๆก็น่าจะเป็นการสอนเล่น
“พวกคุณครับ”
“อะไรวะไอ้หน้าอ่อนแคลนเราไม่รับผู้ชายหน้าอ่อนไร้น้ำยาอย่างแกหรอกไส้หัวไปไหนก็ไป”
ปิ๊ด!
ไอ้เวรตอนแรกอยากจะมาแบบสุภาพชน แบบนี้ผมคงต้องทำให้พวกตัวประกอบพวกนี้สำนึกถึงจุดยืนของมันบ้างแล้วจงเป็นเป้าลองสกิลซะพวกแก…เอ๋ลืมไปซะสนิทเลยผมไม่มีสกิลนี่หว่า
ปึก!
“หยาบคายที่สุดเลยค่ะ พวกคุณมันแย่ที่สุด”
ดูเหมือนจะมีคนเดือดก่อนผมซะแล้ว คุณผู้หญิงที่อยู่ท่ามกลางวงล้อมเมื่อครู่ พอมาสังเกตดีๆเป็นคุณนางเอกที่ต่อแถวอยู่หน้าผมตะกี้นี่เอง แต่จะไม่เป็นไรเรอะคุณหนูเธอเองก็เพิ่งลงทะเบียนนะไปเตะหน้าแข้งหัวหน้าพวกมันอย่างนั้น
“แก..”
หัวหน้าของแก๊งอันตพาลกระจอกคำรามในลำคอด้วยความเดือดดาล
“เป็นลูกแมวน้อยที่ซนจริงๆนะ แล้วก็บ็อกกาเจ้าอย่าถือสาเด็กใหม่เลย”
แต่ก่อนที่เจ้าหัวหน้าแก๊งจะได้ทำอะไรก็ปรากฏร่างของหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาแทรกเสียก่อนเธอคือคุณพนักงานประชาสัมพันธ์ที่จุดลงทะเบียนนั่นเอง
“เจ๊แต่เธอเตะข้าก่อนนะ”
“ใช่ๆลูกพี่รีเบกก้า ลูกพี่บ็อกกาโดนเตะก่อน”
“ลูกพี่รีเบกก้าต้องให้ความเป็นธรรมกับลูกพี่บ็อกกานะ”
เจ้าหัวโจกและเหล่าลิ่วล้อลงไปชักดิ้นชักงอโหวกเหวกโวยวายให้ประชาสัมพันธ์สาวฟังอย่างกับเด็กเล็กๆ
เจ้าพวกบ้านี่มันอะไรกันนักกันหนานะแค่โดนผู้หญิงเตะเบาๆเรียกร้องราวกับโดนมีดแทง โตแต่ตัวกันแท้ๆ
“เอางี้ล่ะกันไหนๆก็เป็นผู้ใช้อาร์มก็ไปวัดกันในสนามประลองแล้วกันให้ต่างฝ่ายส่งคนของตัวเองออกมาสู้ฝ่ายละคน ใครแพ้ก็ต้องทำตามผู้ชนะบอก”
“โอเคตกลงครับเจ๊”
“ฉันรับคำท้าค่ะ”
เท่าเทียมก็บ้าแล้วไม่รู้ว่าคุณประชาสัมพันธ์สาวที่ชื่อรีเบกก้านั่นคิดอะไรอยู่ คุณนางเอกนั่นก็ด้วยตอบรับเร็วไปแล้วเฟ้ย
ถ้าผมไม่รู้ว่านี่เป็นอีเว้นสอนเล่นนะคงวิ่งหนีไปแล้วล่ะ เพราะผมกับคุณนางเอกเพิ่งลงทะเบียนวันนี้ก็ต้องแรงค์หนึ่งกันทั้งคู่น่ะสิจะเอาอะไรไปสู้พวกแก๊งเด็กเกเรที่รวมตัวกันเป็นแคลนมานานแล้ว
“ฝากด้วยนะคะ”
คุณนางเอกหันมาแตะไหล่ผมและยิ้มให้ อื้ม!ดูจากสายตาแล้วคงไม่รู้ว่าผมแรงค์หนึ่งสินะ เอาล่ะทุกอย่างก็เหมือนที่คาดการไว้ล่ะนะ น่าจะพอไหวแหละมั้ง?
ไม่ต้องห่วงนะน้องสาวเดี๋ยวพี่ชาย..ไม่สิคุณลุงสุดหล่อคนนี้จะตีก้นพวกเด็กเกเรให้ลายเอง
ผมส่งยิ้มที่คิดว่าหล่อที่สุดในชีวิตกลับไป
*ปล.เธอต่อแถวอยู่ข้างหน้าเลยไม่รู้ว่าตัวพระเอกเพิ่งลงทะเบียน