ศึกสยิวเกราะศาสตรา - ตอนที่ 7
ตอนที่เจ็ด พี่ชายในสนามประลอง
ตอนนี้ฉันเวนดี้ครอสโอเวอร์กำลังนั่งอยู่ในสนามประลองที่สอง ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่มักจะมานั่งด้วยกันกับเพื่อนสาวคนนึงของฉันในอดีต
อาา..แต่ว่าตอนนี้คงไม่มีโอกาสนั้นอีกต่อไปแล้ว ฉันทะเลาะกับเธอก่อนที่พี่ชายของฉันจะกลับมา
สาเหตุเป็นเพราะว่าตัวฉันเองที่อยากจะยุบปาร์ตี้ของเรา
ฉันนั้นตัดสินใจเลือกครอบครัวที่เหลือเพียงคนเดียวของฉันมากกว่าเพื่อนสาวที่คบกันมานาน เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้นี่นาฉันไม่ได้อยากจะไต่เต้าต่อไปอีกแล้วล่ะ
ในเมื่อทัศนคติไม่ตรงกันก็ต้องแยกทาง ที่จริงไอ้ความสัมพันธ์ของเรามันก็เป็นอะไรมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ตั้งแต่แรกแล้วล่ะนะ
สงครามก็จบลงแล้วคุณปู่ก็จากไปแล้วดังนั้นไม่มีเหตุผลที่ฉันจะต้องจริงจังกับการเป็นผู้ใช้อาร์มอีกต่อไป
ฉันนั้นไม่เข้าใจทั้งคุณพ่อและคุณปู่ว่าทำไมพวกท่านถึงได้ยึดติดกับตำแหน่งในกองทัพนัก หลายปีที่ฉันถูกพร้ำบอกอยู่เรื่อยว่าต้องขึ้นเป็นระดับจอมพลให้ได้
เรื่องพรรณนั้นฉันไม่สนใจหรอกค่ะ! ฉันเฝ้าคอยมาตลอดเลยล่ะเวลาแห่งอิสรภาพน่ะ เวลาที่ฉันจะได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กสาวทั่วเฉกเช่นในอดีตอีกครั้ง
ทันทีที่คุณปู่เสียชีวิตฉันก็ตัดสินใจตัดขาดกับตระกูลรองและแยกออกมาใช้ชีวิตอย่างสันโดษโดยตั้งเป้าหมายว่าจะใช้ชีวิตครอบครัวกับพี่ชายให้สุดเหวี่ยงอีกครั้ง
แล้วฉันก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ พี่ครูสอ่อนโยนเหมือนในอดีตไม่มีผิด ถึงตอนนี้จะลามกไปบ้างก็ตาม พี่ครูสไม่เหมือนคุณปู่ ไม่เหมือนพ่อ พี่ไม่เคยสนใจเรื่องของตระกูลของเราเลย อีกไม่นานอำนาจทางการทหารของครอสโอเวอร์คงจะลดลงไปมาก แต่ก็ดีแล้วล่ะฉันก็ว่าจะลาออกจากกองทัพเหมือนกัน ไม่มีคุณปู่แล้วก็ไม่ต้องไปสนใจอำนาจพวกนี้หรอกไปใช้เวลาจู๋จี๋กับพี่จ๋าดีกว่า
ใช่!!แค่พี่จ๋ารักฉันก็พอแล้ว!!
ไม่ไหวแล้วสิเราเริ่มเพ้อจนเห็นหน้าคนในสนามประลองเป็นพี่จ๋าไปซะแล้วคงต้องรีบกลับไปรับพี่จ๋าจากคุณรีเบกก้าแล้วล่ะ แหะแหะ
“เอ๊ะ!”
ขยี้ตาดูกี่ทีในสนามประลองก็ยังเป็นพี่จ๋าอยู่แปลกจังเลยน้าา~
“เดี๋ยวนะ!! พี่ครูส!!!!”
ฉันไม่แน่ใจเลยเปิดมือถือออกมาตรวจดูชื่อของผู้ใช้อาร์มที่ลงประลองตอนนี้ดู และมันดันกลายเป็นชื่อพี่ชายจริงๆของฉันซะแล้ว เป็นไปได้ยังไงกันล่ะเนี้ย?
…
มุมมองของครูส
“พี่ครูส!!!!!”
“ว้าว!”
ผมโบกมือให้คุณน้องสาวที่ส่งเสียงเชียร์ผมอยู่ข้างสนาม น่าแปลกใจเหมือนกันที่เธอรู้ว่าผมกำลังจะลงประลองแล้วตามมาเชียร์ได้ทัน ก็อย่างว่าโลกของเอโรเกะก็งี้แหละนะ
《ครูส ครอสโอเวอร์ StarArmor6 Rank1》
《บ็อกกา แอซเรย์ DogR56 Rank18》
“เฮ้ยเอาจริงดิแรงค์หนึ่งกับสิบแปดต่างกันไปป่ะจบในห้าวิแน่” ผู้ชมA
“ไม่แน่หรอกดูไอ้หนุ่มแรงค์หนึ่งนั่นสิท่าทางมั่นใจไม่เบาเลยนะเว้ย คราวที่แล้วยังเคยมีแรงค์สิบสองชนะแรงค์สิบหกเลยนะ”ผู้ชมB
“พวกแกก็พูดไปไม่มีทางที่แรงค์หนึ่งจะชนะได้หรอกอาร์มตอนแรกๆมันพัฒนาไวจะตายไป แถมแรงค์สิบแปดนี่มันผ่านการปรับปรุงครั้งใหญ่มาสามรอบแล้ว มีความเข้ากันกับเจ้าของอาร์มมากกว่าอาร์มเริ่มต้นแน่ๆ”ผู้ชมC
《เริ่มการประลอง》
“ฮ่าๆ ตอนแรกข้าว่าจะอัดแกให้ยับอยู่หรอกแต่เห็นแรงค์หนึ่งแล้วสงสารว่ะ เดินออกไปจากสนามประลองดีกว่าไหม”
เมื่อเริ่มการประลองเจ้าหัวหน้าแก๊งกระจอกก็เริ่มดูถูกผมทันที ผมก็เข้าใจอยู่หรอกว่าระดับผมมันต่ำมาก แต่ถ้ายอมแพ้แล้วปล่อยอีเว้นสอนเล่นไปมันจะไปเล่นเป็นได้ยังไงกันล่ะ
แต่พอดูจากระดับอีกฝ่ายแล้วเกมอาจจะบังคับแพ้ก็ได้ แต่ผมไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆหรอกนะ ทำไมน่ะเหรอ?
“เพราะผมเกลียดการพ่ายแพ้ยังไงล่ะ”
เมื่ออีกฝ่ายเห็นผมไม่มีท่าทีจะหนีหรือยอมแพ้ก็เรียกเกราะขึ้นมาสวมใส่ วงแหวนเวทย์มนต์ที่มีอักขระแปลกๆวิ่งผ่านร่างของเขาจากบนลงล่าง เมื่อวงแหวนไหลลงมาจนถึงพื้นก็แตกกระจายออก ปรากฏร่างของนักรบในชุดเกราะหนักสีแดงสลับขาวที่ในมือถือดาบยาวเล่มนึงอยู่
“เท่ชิบ!” ผมเผลออุทานขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว สำหรับเด็กผู้ชายอย่างผมแล้วไอ้เจ้าฉากแปลงร่างที่เหมือนกับหลุดมาจากการ์ตูนอนิเมะแนวฮีโร่นี่มันโดนใจสุดๆไปเลย
พลุ๊บ!
“เห้ยย!”
《หลบการโจมตี 1/30》
อีกฝ่ายพุ่งเข้ามาฟันผมด้วยความรวดเร็ว โชคยังดีที่ผมหลบได้ทัน และดูเหมือนว่าในโหมดสอนเล่นในตอนนี้ เจ้าภารกิจพัฒนาศักยภาพจะยังอยู่นับด้วย มันนับว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะอีกฝ่ายไม่ได้รวดเร็วมากบางทีเขาคงจะไม่ใช่สายความเร็วละมั้งเพราะขนาดผมที่ไม่ได้ใส่อาร์มยังหลบได้เลยนี่
ฉับ! ผุบ! ผุบ!
《หลบการโจมตี 4/30》
“เฮ้ยอย่าหลบสิวะ”
ผุบ! ผุบ!
《หลบการโจมตี 6/30》
ผมวิ่งหลบการโจมตีของอีกฝ่ายหลายต่อหลายครั้ง ที่จริงผมก็อยากโต้ตอบบ้างเหมือนกันแต่ผมดันเรียกอาร์มไม่เป็นนี่สิ แล้วมันก็ไม่มีโอกาสได้ลองเรียกด้วยเพราะอีกฝ่ายกระหน่ำฟันมาไม่ยั้งเลยแค่หลบนี่ก็เต็มกลืนแล้ว
ผมเริ่มคิดแล้วว่านี่อาจจะไม่ใช่อีเว้นสอนเล่นแต่เป็นบอสระดับเบื้องต้นตัวแรกของเกมมากกว่า
“ดูเหมือนไม่มีโอกาสชนะเลยแหะ”
“งั้นแกก็ยอมแพ้ไปสิวะ”
ฉับ! ฉับ! ฉับ!
《หลบการโจมตี 9/30》
ผมไม่มีทางยอมแพ้หรอก อย่าให้ผมต้องพูดซ้ำสิ ผมน่ะเกลียดการพ่ายแพ้ที่สุดยังไงล่ะ ถ้าหากไม่พยายามจนสุดกำลังแล้วยอมแพ้ไปมันก็เป็นได้แค่พวกขี้แพ้เท่านั่น
ฉับ!
《หลบการโจมตี 10/30》
ตึบ!
ผมลองใช้ช่องว่างจากเวลาชะงักหลังการฟันของอีกฝ่ายต่อยสวนกลับไป แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ต่างอะไรจากการชกเสาไฟฟ้า ผมไม่สามารถสร้างดาเมจใดๆให้กับชุดเกราะของอีกฝ่ายได้เลย
“แกไม่เรียกอาร์มออกมาสักทีวะ ถึงข้าจะรู้อยู่แล้วก็เถอะว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรก็ตามแต่เห็นหน้าโง่ๆแกแล้วมันขัดใจฉิบหายเลยเว้ยรีบเรียกชุดเกราะมาสวมทับสักทีสิวะ”
ฉึบ!
คุณบอสตัวแรกของเกมในชุดเกราะสีแดงขาวปักดาบลงบนพื้น ช่างเป็นบอสที่ใจดีจริงๆสมแล้วที่เป็นบอสตัวแรก มีการเปิดโอกาสให้เรียกอาร์มด้วย อย่างนี้นี่เองเหมาะกับผู้เล่นใหม่เอามากๆ ผมล่ะนับถือผู้พัฒนาจริงๆ
‘มา’
ผมพยายามเค้นสมองเรียกอาร์มในใจและดูเหมือนว่ามันจะได้ผล ตอนนี้มีวงแหวนเวทย์มนต์ปรากฏอยู่บนหัวของผมแล้ว
ตรึม!!!
“ฮ่าๆโง่จริงๆใครจะไปให้โอกาสคู่ต่อสู้วะ”
“อึก!”
ผมเรียกชุดเกราะออกมาสำเร็จแต่ก็ต้องแลกมาด้วยแขนซ้ายของผมที่ยกขึ้นมากันหมัดของอีกฝ่าย ไม่นึกเลยว่าอีกฝ่ายจะพุ่งตัวมาออกหมัดโจมตีทีเผลอได้ไวขนาดนี้ นี่ถ้าหากอีกฝ่ายไม่ยึดติดกับดาบผมคงโดนซัดจนแพ้ไปแล้ว
“อึดดีนี่เห็นอย่างนี้อนาคตแกคงพัฒนาไปเป็นพวกเกราะหนักแน่ๆ”
ผมพยายามยันตัวเองลุกขึ้นมาจากพื้นแต่มันก็ไม่ทันการ เมื่อเงยหน้าขึ้นผมก็พบกับอัศวินเกราะแดงที่เงื้อดาบรอฟันอยู่แล้ว
ฉับ!
《หลบการโจมตี 11/30》
ดูเหมือนว่าตัวดาบจะมีน้ำหนักมากทำให้การฟันของเขาค่อนข้างช้าผมเลยกลิ้งหลบได้ทันท่วงที บางทีผมอาจจะใช้ประโยชน์จากมันได้
“โว้ยน่ารำคาญวะเอ็งเนี่ย”
ฉึก! ฉึก! ฉึก!
《หลบการโจมตี 14/30》
ชายในชุดเกราะอัศวินสีขาวแดงเปลี่ยนจากการตวัดดาบฟันมาเป็นการแทงแทน มันทำให้ผมหลบง่ายขึ้นอีก ถ้าผมเดาไม่ผิดอีกฝ่ายคงเป็นประเภทใช้กำลังมากกว่าสมองถ้าผมหลอกล่อดีๆผมอาจจะพัฒนาค่าความเร็วในระหว่างการต่อสู้ได้
“เอาล่ะลองนี้หน่อยเป็นไง”
ซู้ม!
《ยิงกระสุนพลังงาน 1/20》
“ไม่เจ็บไม่คันเลยสักนิดยอมแพ้ซะเถอะไอ้แรงค์หนึ่ง”
ผมลองจินตนาการถึงบอลพลังแล้วยิงออกไปจากฝ่ามือ และมันก็ประสบความสำเร็จอย่างงมงาม มีวงแหวนเวทย์สีฟ้าใสปรากฏขึ้นที่ฝ่ามือและกระสุนพลังงานสีขาวแสบตาก็ถูกก่อตัวขึ้นด้วยค่ามานาของผม
ซู้ม! ซู้ม! ซู้ม! ฉับ! ซู้ม!
《หลบการโจมตี 15/30》
《ยิงกระสุนพลังงาน 4/20》
ผมลองหลบการโจมตีอีกฝ่ายพลางยิงกระสุนพลังงาน และคอยสังเกตค่ามานาที่อยู่ซ้ายบนของวิสัยทัศน์ของผมซึ่งมันลดลงไปตามความต้องการของผม
สมมุติว่าผมอยากได้ลูกพลังที่ใหญ่หน่อยก็แค่ปรับใช้ค่ามานาเยอะๆแค่นั้นเอง แต่มันไม่มีประโยชน์เพราะงั้นเพื่อปั้มค่าความสำเร็จผมเลยยิงลูกเล็กๆที่ใช้ทีละหนึ่งมานาไปเรื่อยๆ และดูเหมือนกระสุนมานาจะมีคูลดาวน์อยู่นิดหน่อยทำให้ผมไม่สามารถยิงรัวๆเหมือนปืนกลได้
ซู้ม! ซู้ม! ฉับ! ซู้ม! ฉึก!
《หลบการโจมตี 17/30》
《ยิงกระสุนพลังงาน 7/20》
ยิ่งสู้ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าอีกฝ่ายเคลื่อนไหวได้แย่ลง บางทีเขาอาจจะเริ่มล้าจากการไล่โจมตีผมเป็นเวลานาน ตอนนี้ผมเริ่มจะเห็นโอกาสชนะบ้างแล้ว
ฉับ !ซู้ม! ซู้ม! ฉับ! ฉึก!
《หลบการโจมตี 20/30》
《ยิงกระสุนพลังงาน 9/20》
อาร์มที่ผมใส่อยู่จากคำบอกเล่าจะปากคุณน้องสาวเป็นสายระยะไกล แสดงว่าในระยะใกล้ผมแทบจะหวังผลโจมตีเข้าภายในชุดเกราะอีกฝ่ายไม่ได้เลย และถ้าดูจากความห่างชั้นทางระดับที่มากขึ้นนี้แล้วระยะไกลก็ไม่น่าไหว
“แฮ่ก! แฮ่ก! เลิกหนีได้แล้วถ้าแกเป็นลูกผู้ชายพอมาเผชิญหน้ากันตรงๆสิวะ”
ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะโกรธจนเหลืออดแล้ว ถ้าปล่อยให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหวมั่วซั่วมากกว่านี้จนเดาทางไม่ถูก คงเป็นสถานการณ์ที่อันตรายต่อผมเหมือนกันดังนั้น ผมคงต้องหยุดการปั้มภารกิจศักยภาพไว้เท่านี้แล้วปิดเกมในตอนนี้เลยน่าจะดีที่สุด
“อาร์มผมเป็นระยะไกลเข้าไปสู้ใกล้ๆก็บ้าน่ะสิ”
“อ๋อเหรอวะ”
พลุ๊บ!
“อ๊ากกกกตาข้าาา ไอ้เวรแกเล่นสกปรก”
ดูเหมือนอีกฝ่ายจะร้อนรนจนมองเกมไม่ออกแล้วสินะ พวกสมองกล้ามก็งี้แหละ ที่ผมทำก็แค่คว้าทรายจากสนามประลองมากำไว้แล้วพูดจายั่วยุนิดๆหน่อยๆให้อีกฝ่ายรีบเข้ามาใกล้เพื่อโจมตีปิดเกม แล้วก็ปาทรายใส่หน้าเลยฮ่าๆ
ทั้งๆที่อาร์มเป็นชุดเกราะเวทย์มนต์แท้ๆ แต่ดันมีจุดบอดใหญ่บะเลิ่มเทิ่มอย่างรูระบายอากาศตรงหมวกเกราะซะได้ จะว่าไปผมก็มีนี่หว่าหวังว่าถ้าอาร์มของผมเมื่อพัฒนาแล้วรูตรงนี้จะปิดนะ จะว่าไปข้อต่อก็ด้วย เอ๊ะ!แต่ถ้าปิดข้อต่อจะขยับได้ยังไงหว่าก็กลายเป็นมนุษย์ตู้เย็นไปนะสิแย่จังเลยนะความเท่ที่แลกมาด้วยจุดบอดเนี่ย
“ชุดเกราะเวทย์มนต์กันทรายเข้าตาไม่ได้บกพร่องชะมัดเลยว่าไหมครับ”
ผมหยิบดาบของอีกฝ่ายที่เปลวไฟลุกท่วมขึ้นมาจากพื้น บางทีเจ้าไฟที่ลุกอยู่นี่คงเป็นสกิลที่เขาอยากจะใช้ปิดเกมสินะ ร้อนใช้ได้เลยนะเนี่ย
“หนักชะมัด”
ฉับ!
ผมวาดดาบยาวฟันเข้ากลางลำตัวของอีกฝ่าย และดูเหมือนการคาดเดาของผมจะถูกต้อง ดูเหมือนว่าอาวุธของตัวเองจะสามารถฟันเกราะของตัวเองเข้าล่ะนะ นี่สินะที่เรียกว่า..
“แพ้ภัยตัวเอง”
《บ็อกกา แอซเรย์ ได้รับความเสียหายถึงชีวิตการประลองสิ้นสุด ผู้ชนะครูสครอสโอเวอร์》
“เฮ!!!”
การประลองจบลงด้วยชัยชนะของผมท่ามกลางเสียงโห่ร้องของผู้ชมทั้งสนาม
แขนซ้ายของผมที่หักกับบาดแผลกลางร่างของบ็อกกาทันทีที่ประกาศผลการประลองบาดแผลพวกนั้นก็หายไปเหมือนไม่เคยเกิดมาก่อน พลังของเวทย์มนต์ในโลกของเกมโป๊สุดยอด
《RankUp》
《RankUp》
《RankUp》
《RankUp》
《RankUp》
《Shooting Star Armor Evolution》