ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 108 หลี่เจ๋อ นายมันคนเลว
ถ้าเทียบกับเฉินฝู ผู้ดูแลจงดูนิ่งกว่าเยอะมาก
เขาจ้องเฉินอีอยู่นาน และมองเฉ่าเฉียงกับหยางเหลียนหลง สุดท้ายมองไปที่เฉินอีอีกครั้ง
เฉินอีนี่มันเรื่องอะไรกันแน่ เหมือนเขารู้จักเฉ่าเฉียงกับหยางเหลียนหลง สองคนสุดท้ายเป็นคนมีอำนาจโดดเด่นมาก
ไม่ใช่หรอกๆ เฉินอีไม่น่าจะมีสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับคนใหญ่คนโต ของเมืองชิงชวนกับเมืองเอกหรอก ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เขาอยู่ในจุดที่ไร้เทียมทานเลยนะ เราอยากเข้าไปวุ่นวายในโครงการก่อสร้างหมู่บ้านในเมือง เรียกได้ว่ายากสุดๆ
ผู้ดูแลจงเริ่มคิดไม่หยุด เขาสัมผัสได้ว่าในปัญหานี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กแน่นอน ถ้าอยากหาแผนแก้ไข ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นมาก
แต่เบื้องลึกของเฉินอี คงสืบไม่เจอในระยะเวลาเพียงชั่วครู่ ขนาดผู้ดูแลจง ยังไม่กล้าบุ่มบ่ามเลย
เหมือนคนตระกูลมังกรทั้งสองคน ดูออกว่าเฉินอีน่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลเฉินแห่งเมืองอสูร แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีทางพูดก้าวก่าย เรื่องตระกูลคนอื่น กลับกันมู่หรงหลันหลันกับเฉินฝู ดูฮึกเหิมที่สุด
ผู้ว่าการเฉ่า อธิบดีหยาง ตอนนี้เฉินอีน่าจะพัวพันกับคดีฆาตกรรม คดีใดคดีหนึ่ง ฉันหวังว่าจะพาเขากลับไปสอบสวนได้
หา? ฉันถามได้หรือเปล่าว่าคดีฆาตกรรมคดีไหน
คดีของหลินเทียนเชิงตระกูลหลิน
มู่หรงหลันหลันพูดอย่างชัดเจน
ก่อนหน้านี้ หลินเทียนเชิงตายที่เมืองฝั่งตะวันออกของที่นี่ มู่หรงหลันหลันตามสืบเรื่องนี้มาตลอด เพราะคนแก่ๆ หลายคนไม่ยอมเข้ามาก้าวก่าย นี่ทำให้มู่หรงหลันหลันคิดว่าเป็นคดีใหญ่ และมีเพียงคดีใหญ่เท่านั้น ที่จะกระตุ้นความรู้สึกเธอได้
บวกกับหลักฐานมากมายที่ชี้ทิศทางของคดีนี้ อย่างเช่น ในเทปบันทึกเสียงตอนนั้น เอาแต่พูดถึงชื่อฉินปิงหลัน เฉินอี เมื่อสืบเบื้องลึกของเฉินอีที่อยู่ตรงหน้า หลังมั่นใจความสัมพันธ์ระหว่างอีกฝ่ายกับฉินปิงหลัน มู่หรงหลันหลันจึงแน่ใจว่าเฉินอี คือผู้กระทำผิดในคดีของหลินเทียนเชิง จึงอยากจับกุมอีกฝ่ายทันที
แต่เรื่องนี้ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ในมือเธอมีเพียงเทปบันทึกเสียง ไม่มีทางตัดสินความผิดของเฉินอีได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงใช้วิธีสกปรกเท่านั้น
ถึงแม้ตอนนี้จะเจออุปสรรคต้านทาน แต่มู่หรงหลันหลันมั่นใจว่า ถ้าใช้หลักฐานที่มีน้ำหนักเช่นนี้ ต้องโน้มน้าวอีกฝ่ายได้แน่นอน
แต่ว่า!
บังอาจ กล้าใส่ร้ายคุณเฉิน เธอกล้าดีมาก!
เมื่อเฉ่าเฉียงได้ยิน เขาก็เข้าใจทันที
ที่แท้เพราะคดีของหลินเทียนเชิงตระกูลหลินอย่างนั้นเหรอ!
นั่นได้รับการยืนยันไปแล้ว ตอนนี้สิ้นสุดลงแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะมีคนขุดคุ้ยขึ้นมาอีก แถมยังใช้สิ่งนี้มาใส่ร้ายคุณเฉินด้วย
เขาสะบัดมืออย่างแรง อธิบดีหยาง คดีของหลินเทียนเชิงอยู่ในเรื่องเดียวกับตระกูลหลิน จัดการโดยหน่วยทหาร ทำไมสาขาสำนักงานของคุณ ถึงยังมีคดีนี้ล่ะ
เฉ่าเฉียงไม่พอใจมาก
เขาไม่คิดไม่ฝันเลย คนพวกนี้กล้าก้าวก่ายเรื่องนี้ เบื่อการมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง
หยางเหลียนหลงก็โมโหจนแทบระเบิด แต่เขาตั้งสติได้รวดเร็ว และรีบพูดว่า ผู้ว่าการเฉ่า ผมจะเริ่มตรวจสอบเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทันที จะต้องให้คุณได้ในระยะเวลาที่สั้นที่สุด ไม่สิ ต้องได้คำตอบที่คุณเฉินพอใจครับ
เมื่อพูดจบ เขาก็กดมือถือโทรออก
พาหน่วยงานดูแลการตลาดทีมใหญ่มา ปิดกั้นสาขาสำนักงานทั้งเมืองฝั่งตะวันออก ฉันต้องการรู้ว่าใครกันแน่ ที่ใช้คดีของหลินเทียนเชิง สร้างความวุ่นวายอยู่เบื้องหลัง ต้องรู้ภายในระยะเวลาที่สั้นที่สุด!
เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา สีหน้าของมู่หรงหมิงเปลี่ยนไป
สีหน้าของมู่หรงหลันหลันไม่สู้ดีเป็นอย่างมาก
เธอนึกว่าจะได้รับคำชม แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่คำชมเลย ไม่โดนร่างแหไปด้วย ก็ดีขนาดไหนแล้ว
เป็นเรื่องใหญ่แล้ว
เป็นไปตามคาด เมื่อคนของหน่วยงานดูแลการตลาดมาถึง มู่หรงหมิงโดนพักงานสอบสวนชั่วคราว มู่หรงหลันหลันก็เช่นกัน สองพ่อลูกโดนคุมขัง ชีวิตจะขึ้นลงพลิกผัน คงไม่พ้นเรื่องนี้
สำหรับเฉินฝูและคนอื่น ต่างพากันตกตะลึง แต่ก็เข้าใจ กลัวว่าครั้งนี้เมืองฉือ มีเหตุการณ์ใหญ่อีกแน่นอน
เฮ้อ น่าปวดหัวชะมัด คิดว่าจะเป็นเรื่องที่จัดการง่าย ตอนนี้กลับวุ่นวายขนาดนี้
ผู้ดูแลจงอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ เขาไม่คิดไม่ฝัน ว่าจะเกิดเหตุการณ์ตรงหน้า
เฉินฝูก็พยักหน้าเห็นด้วย ตามหาว่าไอ้เลวที่ไหน ค่อยใส่ไฟอยู่เบื้องหลัง ต้องยกคดีของหลินเทียนชิงขึ้นมาอีก แน่นอนว่าเป็นการทำลายแผนของพวกเขา
ขณะนั้น มีสายโทรเข้ามา เป็นหลี่เจ๋อ
มีอะไร
เพราะแผนโดนทำลาย ตอนนี้น้ำเสียงของเฉินฝู จึงไม่ค่อยดี
คุณชายเฉินฝู ผมมีข่าวดีข่าวใหญ่ครับ!
หลี่เจ๋อพูดอย่างตื่นเต้น เมื่อวานผมติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของกรมอนามัยและความปลอดภัย สาขาสำนักงานเมืองฝั่งตะวันออก บอกเธอเรื่องคดีที่เกี่ยวกับหลินเทียนเชิง ถึงเรารู้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเฉินอี แต่เฉินอีกับฉินปิงหลันเกี่ยวข้องกัน ฉินปิงหลันก็เกี่ยวข้องกับหลินเทียนเชิงด้วย สิ่งสำคัญไปกว่านั้น ผมได้เทปบันทึกเสียงมา ในนั้นมีการพูดถึงชื่อของเฉินอี เมื่อเป็นเช่นนี้ ถึงเฉินอีไม่ถูกตัดสินโทษ แต่ก็พอที่จะทำให้เข้าเหลือทนแล้ว
หลี่เจ๋อได้ใจเป็นอย่างมาก
แต่คนฝั่งตรงข้ามอย่างเฉินฝู กลับงงไปหมด
เขาอึ้งอยู่นาน จากนั้นจึงโพลงออกมาว่า
หลี่เจ๋อ แกมันเลว!
เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่า คนที่ทำลายแผนของตัวเอง ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นลูกน้องของตัวเองนี่เอง
หลี่เจ๋อ ไอ้ไม่ได้เรื่องเอ๊ย ยังกล้ามาขอความดีความชอบจากตัวเองอีก
ถ้าที่นี่ไม่ใช่เมืองฉือ แต่เป็นเมืองอสูร ถ้าไม่ใช่เพราะยังมีอีกหลายเรื่อง ที่ใช้งานหลี่เจ๋อได้ เฉินฝูไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไปง่ายๆ แน่นอน
ทุเรศสิ้นดี ทุเรศสิ้นดีจริงๆ
หันกลับมาดูเฉินอี เขามีท่าทีนิ่งสงบ เฉินฝูโมโหจนแทบจะระเบิด
ไอ้เลว ฉันจะต้อง ฉันจะต้องฆ่าเขา!
พอแล้ว
ผู้ดูแลจงมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดเตือนว่า ตอนนี้อย่าเพิ่งไปหาเรื่องหมอนั่นชั่วคราว พวกนายไม่มีทางไปหาเรื่องได้
ทำไม
เฉินฝูถามอย่างไม่อยากเชื่อ
ผู้ดูแลจงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ นายไม่เห็นเหรอ กี่ครั้งที่เกิดเรื่องกับเฉินอี อธิบดีหยางก็อยู่ด้วยตลอด
ถึงครั้งก่อนเรียกบังเอิญ แล้วครั้งนี้ล่ะ
ครั้งแรกเรียกบังเอิญ ครั้งที่สองก็อาจบังเอิญได้ แต่ครั้งที่สาม ครั้งที่สี่ล่ะ
นายอย่าลืมสิ นี่เป็นครั้งที่สามแล้วนะ!
เมื่อได้ยินคำเตือนของผู้ดูแลจง เฉินฝูอดใจสั่นไม่ได้
ตอนนี้เขาเพิ่งเข้าใจ ก่อนหน้านี้ตัวเองขาดความรู้ขนาดไหน
ความบังเอิญติดต่อกันหลายครั้ง เขากลับไม่ฉุกคิดสักนิด เมื่อมองเฉินอีอีกครั้ง เฉินฝูเพิ่มความอันตรายให้หมอนี่อย่างมากมาย
ทำไมเฉินอีถึงมีอำนาจเช่นนี้
เขาเป็นแค่สุนัขไร้เจ้าของในตระกูลเฉิน ส่วนฉันเป็นคนของตระกูลเฉิน ที่รุ่งเรือง รุ่งโรจน์ในตอนนี้สิถึงจะถูก!
เขาไม่มีทางเชื่อ
และยังไม่เข้าใจ ความพ่ายแพ้ของเขาเพิ่งเริ่มต้นขึ้น