ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 109 ซักถาม
บ้านของตระกูลหลี่
เฉินฝูจ้องหลี่เจ๋ออย่างโมโห ส่วนหลี่เจ๋อตื่นตระหนกมาก
หลี่เจ๋อรู้ว่าครั้งนี้ตัวเองทำอะไรแผลงๆ อีกแล้ว แน่นอนว่าเขาตื่นตระหนกมาก แต่ถ้าถามว่าเขามีวิธีอะไรรับมือหรือเปล่า แน่นอนว่าเป็นคำพูดที่ไร้สาระ
ผู้ดูแลจงไม่ได้คาดหวังให้หลี่เจ๋อเสนอวิธีอยู่แล้ว
หึ!
เขาวางแก้วชาลง และพูดยืนยานว่า ตอนนี้คนของเราขาดแคลนมาก ถ้าจะเข้าไปแทรกแซง ดูไม่น่าจะเข้าท่า ตระกูลมังกรไม่น่าจะช่วยเราเยอะ
ถ้าอยากส่งคนเข้าไปแทรกแซง ยังไงก็ต้องพึ่งคนของเรา ดังนั้นพวกนายมีใครเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมหรือเปล่า รีบเลือกออกมาทำเป็นคนของเราให้เร็วที่สุด
ตาเฒ่านี่นี่พูดยืนยานออกมาอย่างมากมาย
สีหน้าของหลี่เจ๋อดูสับสนจนผิดปกติ อย่างเห็นได้ชัด ดูออกว่าเขาไม่ได้มีวิธีสักเท่าไร ส่วนผู้ดูแลจงก็ไม่ได้คาดหวังกับเขา
แต่บอสของกลุ่มทะเลแดง หยวนมู่พูดขึ้นมาทันทีว่า
พูดเรื่องส่งคนเข้าไปแทรกแซง ฉันพอมีคนให้เลือกนะ
หา? หัวหน้าหยวนรีบพูดมาเลย
ผู้ดูแลจงตื่นเต้นขึ้นมาทันที
หยวนมู่ก็วางแก้วชาลงเช่นกัน จากนั้นจึงพูดต่อ ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ฉันรู้จักคนหนึ่งในวังซื่อกรุ๊ป เรียกได้ว่าเขามีตำแหน่งสูงในวังซื่อกรุ๊ป แน่นอนว่าไม่ใช่ระดับหัวหน้าแผนกอะไรทำนองนั้น
ผู้ถือหุ้น หรือประธานงั้นเหรอ
ผู้ดูแลจงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แอบคาดเดา
ประธาน!
เมื่อหยวนมู่ตอบออกมา ผู้ดูแลจงจริงจังขึ้นทันที
หัวหน้าหยวน เชิญพูดต่อเลย
อีกฝ่ายพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดต่อ คนที่ฉันรู้จักเป็นประธานของวังซื่อกรุ๊ป แต่เขายังมีอีกตัวตนหนึ่ง คือพี่ชายฝั่งพ่อ ที่เป็นญาติห่างๆ กัน
ช่วงนี้ฉันเริ่มพบปะกับเขา ใช้ลู่ทางของเขา แทรกแซงคนของกลุ่มทะเลแดงเข้าไป แต่หวังว่าหลังเรื่องสำเร็จ อย่าลืมเงื่อนไขของตระกูลเฉินก่อนหน้านี้ล่ะ
วางใจเถอะ ขอแค่พวกนายทำเรื่องนี้สำเร็จ พวกนายสามารถเข้าไปก้าวก่ายในตลาดมืดได้ ต่อไปถ้านายอยากกลับเมืองชิงชวน ก็เป็นเรื่องง่ายมาก
หลังจากผู้ดูแลจงได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย ก็ลองวิเคราะห์ความเป็นไปได้อย่างละเอียด ต้องให้คำสัญญากับเงื่อนไขของอีกฝ่าย
ก็แค่จัดการเรื่องให้กลุ่มทะเลแดงกลับเมืองเอก คนอย่างเขามีความสามารถอยู่แล้ว
นี่จำเป็นต้องใช้ความสัมพันธ์ทางเส้นสาย
ถึงตระกูลเฉินเป็นตระกูลใหญ่ มีธุรกิจมากมาย แต่ด้านเส้นสาย มีจำกัดแค่แถบพื้นที่เขตสามเหลี่ยมเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำฉางเจียงเท่านั้น เส้นสายในเมืองชิงชวน เกรงว่าจะมีไม่เท่าหัวหน้าของกลุ่มทะเลแดงคนนี้
แน่นอนว่าถ้าไม่พูดเรื่องพวกนี้ ดูในภาพรวม แน่นอนว่าอิทธิพลของตระกูลเฉิน หยวนมู่ก็ไม่สามารถเทียบได้เช่นกัน นี่คือความแตกต่าง เรียกได้ว่าใช้ในช่วงสำคัญพอดี
ตอนนี้เฉินอีไม่รู้เรื่องพวกนี้
เขานั่งตรงข้ามกับเฉ่าเฉียง
พูดมาสิ ผู้ว่าการเฉ่า ผู้เฒ่าที่เคารพ เดินทางมาไกลจากเมืองเอก คงไม่ใช่แค่มาเยี่ยมผมธรรมดาๆ ใช่ไหม
เฉินอีพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ
ดูเฉ่าเฉียงกระอักกระอ่วนเป็นพิเศษ
อันที่จริง เขาไม่ได้ตั้งใจมาเยี่ยมเฉินอี ด้านหนึ่งคือยืนยันว่านายท่านคนนี้ ไม่ได้สร้างหายนะใหญ่อะไร ส่วนอีกด้านหนึ่งก็คือมีเรื่องสำคัญมากจริงๆ
คุณเฉิน เรื่องเป็นแบบนี้ครับ ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ผู้พันโฮ่แจ้งผมมา ให้ผมเอาสิ่งนี้มาให้คุณ แต่เพราะก่อนหน้านี้ผมติดต่อคุณไม่ได้เลย ดังนั้นเลย……
หืม?
เฉินอีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขามองมือถือ จู่ๆ ก็พูดไม่ออก
ที่แท้เวลาโทรออกบนหน้าจอมือถือของเฉ่าเฉียง ไม่เฉินอีมีเรื่อง ก็คนอื่นมาหาเรื่องเขา ไม่ได้พักเลยเลยแม้แต่น้อย
นี่เป็นความผิดของผมเอง
เขาไม่ต้องมีความเกรงใจใด แบกรับความรับผิดชอบนี้เอาไว้ทันที
นี่นับว่าเป็นความรับผิดชอบของเขาแล้ว
จะโทษเฉ่าเฉียงไม่ได้
เฉ่าเฉียงรีบพูดว่าคำว่า ไม่ใช่ ไม่ใช่ครับ
เฉินอีไม่ได้คิดจะเกรงใจกับอีกฝ่ายมาก และพูดว่า คุณเอาของมาให้ผมเถอะ
ครั้งนี้ เหมือนอีกฝ่ายรู้ตัว รีบเอาของออกมา ยื่นให้เฉินอี เฉินอีวางไว้ข้างๆ โดยไม่มองแม้แต่น้อย ทำให้เฉ่าเฉียงอดหนังตากระตุกไม่ได้
นั่นไม่ใช่ของธรรมดาๆ แน่นอน กลัวว่าจะเป็นใบรับรองปลดเกษียณทหารของเฉินอี ถึงมันจะปลอมขึ้นมา แต่มันก็เป็นการปลอมจากหน่วยทหารระดับสูง ถึงเป็นแค่ใบรับรองปลดเกษียณทหาร ก็เพียงพอที่จะสั่งคนมีความสามารถได้ ยากที่จะจินตนาการมูลค่าของมัน ผลที่ได้คือ เฉินอีกลับโยนมันไปข้างๆ เหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไร
ตอนนี้ยังมีเรื่องอื่นอีกไหม
เฉินอีมองเฉ่าเฉียง
นี่ใช้เวลาทั้งวันทั้งคืน เขายังต้องรีบกลับไป
แต่เฉ่าเฉียงดูท่าเหมือนจะไม่จบสักที พูดขึ้นมาอีกว่า มีครับ ยังมีเรื่องอีกนิดหน่อย
เขาหยิบอะไรชิ้นเล็กๆ ยื่นให้เฉินอี เฉินอีมองไม่กี่ครั้ง ในแววตาฉายแววเย็นชา
นี่คืออะไร
นี่คือใบผ่านทางครับ มีของสิ่งนี้อยู่ นอกจากสถานที่สำคัญมากๆ อย่างเช่น สถานที่ที่ผมเข้าไปไม่ได้ ส่วนสถานที่อื่นๆ คุณสามารถไปได้หมด
เฉ่าเฉียงรีบฉีกยิ้มพูด
เมื่อเฉินอีได้ยิน จู่ๆ มุมปากก็กระตุก
เฉ่าเฉียงคิดว่าเขาเป็นคนมีอำนาจ ที่ชอบก่อเรื่อง หาเรื่องอย่างนั้นเหรอ
ถ้าไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุครั้งนี้ เขาคงไม่มีทางติดต่ออะไรกับคนพวกนี้ไปตลอดชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหญิงอย่างมู่หรงหลันหลัน
หรือไม่ว่าจะเป็นคนใหญ่คนโตในสาขาอย่างมู่หรงหมิง
ในสายตาเฉินอี ล้วนเป็นพวกคนธรรมดา จะสำคัญไปกว่าภรรยาและลูกสาวเขาได้ยังไง
อีกอย่าง ถ้าไม่ใช่เพราะครั้งนี้ต้องการโจมตีตลาดมืด และถือโอกาสซื้ออาหารค่ำให้ภรรยาและลูกสาว เขาคงไม่โดนมู่หรงหลันหลันจับหรอก
ใช่สิ พูดถึงมู่หรงหลันหลัน เหมือนเธอจับสองคนจากตระกูลมังกร ได้จากเขตปิดกั้นของคุณ ใช่หรือเปล่า
ใช่ครับ
หยางเหลียนหลงสังเกตเห็นแววตาของเฉินอี จึงรีบตอบทันที เฉินอีพยักหน้าเบาๆ และแววตาเย็นชาทันที
งั้นฉันสงสัยมาก เธอผ่านเขตปิดกั้นของพวกคุณได้ยังไง อย่าบอกนะว่าคนของพวกคุณตาบอด
ในเขตปิดกั้นของพวกเขา มีกล้องวงจรปิดนับไม่ถ้วน แค่เข้าไปในเขตของเลนส์กล้องวงจนปิด ก็ต้องโดนจับภาพไว้อย่างแน่นอน จากนั้นก็จะปรากฏข้อมูลทั้งหมดของคนพวกนั้น เฉินอีไม่เชื่อว่า ก่อนหน้านี้คนพวกนี้ไม่เห็นการมาถึงของพวกมู่หรงหลันหลัน
เป็นไปตามคาด หลังจากเฉินอีซักถาม ทุกคนถึงกับหยุดหายใจ
พวกเขารู้ เรื่องสนุกที่แท้จริง มันเพิ่งเริ่มต้นขึ้น
สีหน้าของหยางเหลียนหลงซีดสุดขีด เขาไม่กล้าพูดอะไรอยู่นาน
ผู้ช่วยของเขารีบช่วยพูดว่า
คุณเฉิน เรื่องจริงเป็นอย่างนี้ครับ คนในสาขาของเรา ที่รับผิดชอบกล้องวงจรปิดบริเวณนั้น มีความสัมพันธ์กับสองพ่อลูก มู่หรงหมิง มู่หรงหลันหลัน ตอนนั้นเขาเจอพวกมู่หรงหลันหลัน แต่เพื่อปกป้องอีกฝ่าย จึงไม่ได้รายงานครับ