ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 29 เข้าสู่แวดวงธุรกิจ
แล้วเรื่องตำหนักมังกรหยกบนเขาติ้งจุ้นล่ะ ควรคุณอธิบายให้คนภายนอกรับรู้อย่างไร ?
จู่ ๆ เฉินอีก็แสดงความสนใจขึ้นมา
เดิมทีเขาเตรียมใจที่จะทำสงครามกับเจ้าหน้าที่ต้าถังเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้กลับได้รับรู้ข่าวเช่นนี้ หากไม่พูดว่าเป็นเรื่องที่เกินคาดเดาก็คงเป็นไปไม่ได้
สำหรับคำถามของเฉินอี โฮ่ต้าวฝู่ยิ้มแล้วพูดว่า : เรื่องนี้หน่วยทหารของพวกเราจะเป็นผู้อธิบาย แต่มีอยู่หนึ่งเรื่องที่หวังว่าเจ้ามังกรจะช่วยพิจารณา
หากพวกเรากล่าวว่าสำนักมังกรลับอาศัยกองกำลังจากต่างประเทศเข้ามากำจัดตระกูลหลิน ถึงแม้จะพูดว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แต่อย่างไรเสียก็คงหลีกเลี่ยงที่จะเกิดความตื่นตระหนกขึ้นไม่ได้
แต่ถ้าหากเจ้ามังกรมีตำแหน่งอยู่ในหน่วยทหารของผม แล้วใช้เรื่องนี้เป็นเหตุผลในการลาออก เรื่องก็น่าจะผ่านไปได้ด้วยดี
ความหมายของนายคือ ให้ฉันมีตำแหน่งอยู่ในหน่วยทหารของนาย จากนั้นก็ใช้การลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ก็เป็นอันใช้ได้ ?
เฉินอียิ้มมุมปากเล็กน้อย แต่ก็ยังเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย : แล้วหน่วยทหารต้าถังเตรียมตำแหน่งอะไรให้ฉันล่ะ ?
เตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้วครับ น่าจะมีการอนุมัติลงมาภายในสองวัน เป็นตำแหน่งเทพทหารประจำหน่วยทหารต่างประเทศ รวมไปถึงตำแหน่งผู้พัน
แต่ปัญหาอยู่ที่ชั่วโมงในการรบของคุณ ต้องมีการถ่ายโอนความสำเร็จในการต่อสู้จากหน่วยมังกรลับ มายังหน่วยทหารต่างประเทศ ซึ่งจะอยู่ภายใต้ตำแหน่งในหน่วยทหารของคุณ
โฮ่ต้าวฝู่เป็นคนละเอียดรอบคอบ แม้กระทั่งเฉินอีเองก็ยังรู้สึกชื่นชม
ตราบใดที่เจ้าหน้าที่ของคุณไม่ทำลายชื่อเสียงของทหารในสำนักมังกรลับ นั่นก็เพียงพอแล้ว
ส่วนเรื่องนี้ คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้พันโฮ่เป็นธุระช่วยจัดการให้แล้ว
แน่นอนครับ
โฮ่ต้าวฝู่รู้สึกโล่งใจ
ใคร ๆ ก็รู้ดีว่าการถ่ายโอนผลงานของสำนักมังกรลับตลอดหลายปีที่ผ่านมาไปให้กับหน่วยทหารต้าถัง หากเป็นคนอื่นไม่มีวันตอบตกลงอย่างแน่นอน
แต่เฉินอีไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ สำนักมังกรลับเองก็ไม่สนใจเรื่องนี้เช่นกัน ความตั้งใจเดิมของพวกเขาคือการปกป้องความสงบสุขของแนวชายแดนต้าถังอยู่แล้ว แต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีใครยกย่องและชื่นชมพวกเขา
จริงสิ จู่ ๆ เฉินอีก็พูดขึ้นมา แล้วเรื่องตระกูลเฉินแห่งเมืองอสูรล่ะ คุณพอจะรู้มากน้อยแค่ไหน ?
ตระกูลเฉินแห่งเมืองอสูร ?
โฮ่ต้าวฝู่ผงะไปในตอนแรก จากนั้นจึงพูดว่า : หลายปีก่อนพวกเขาเกิดความวุ่นวายขึ้น ดูเหมือนจะแบ่งแยกออกเป็นสองฝ่าย หนึ่งในนั้นยืนยันที่จะสนับสนุนบุตรชายคนโตของตระกูลเฉิน ซึ่งหมายถึงนายน้อยของตระกูลเฉินที่หายตัวไปในตอนนั้น แต่ดูเหมือนฝ่ายนี้จะพ่ายแพ้
ส่วนอีกฝ่ายหนึ่ง เป็นฝ่ายผู้มีอำนาจของตระกูลเฉิน นำโดยภรรยารองของตระกูลเฉิน โดยมีภรรยาที่สามและสี่เป็นกำลังเสริม หลายปีมานี้ดูเหมือนธุรกิจจะยิ่งเติบโตขึ้น และเริ่มมีความเกี่ยวดองกับราชวงศ์
เพียงแต่เมื่อครึ่งปีก่อนมีข่าวออกมาว่า ตอนนี้ผู้มีอำนาจของตระกูลเฉินกำลังแตะต้องบางสิ่งที่ไม่ควรแตะต้อง ตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา ดูเหมือนจะอาศัยธุรกิจสีเทาเหล่านี้ในการฟื้นฟูตระกูลเฉิน
อะไรนะ ?
เฉินอีเลิกคิ้วเลกน้อย
ตอนนั้นตระกูลเฉินประสบกับปัญหาภายใน ต้องเผชิญหน้ากับความสูญเสียอย่างหนัก เดิมทีสามารถอาศัยระยะเวลาเพียงแค่สามปีในการเข้าสู่หน่วยทหารตี้จิง แต่ตอนนี้กลับสิ้นเปลืองเวลาและทรัพยากรมนุษย์มากขึ้น
โธ่คุณอารองของฉัน ความสามารถของคุณเทียบไม่ได้กับคุณปู่เลยสักนิด
ถึงแม้ฉันจะไม่ชอบตระกูลเฉิน แต่อย่างไรเสียก็เป็นที่ที่พ่อของฉันเติบโตขึ้นมา จึงจะปล่อยให้พวกคุณมาทำตามอำเภอใจไม่ได้
สิ่งที่ไม่ควรแตะต้อง นั่นเป็นสิ่งที่คุณปู่ย้ำนักย้ำหนาว่าห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่พวกคุณกลับไม่ฟังคำสั่งของคุณปู่ อีกทั้งตอนที่พ่อและแม่จากไปในตอนนั้น ดูเหมือนจะมีเพียงแค่อารองคนนี้เท่านั้น ที่มีส่วนร่วมอยู่ในเหตุการณ์
นิ้วของเขาเคาะลงบนพนักแขนไม่หยุด
ผู้พันโฮ่ ขอบคุณนายมากนะ หากมีเวลาฉันจะเชิญนายมาทานข้าวแน่นอน แต่ตอนนี้ฉันยังมีเรื่องต้องสะสางอีกนิดหน่อย
เจ้ามังกรกล่าวเกินไปแล้ว ผมจะต้องรีบจัดการเรื่องทุกอย่างให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นอาจเกิดความเสียหายตามมาได้
โฮ่ต้าวฝู่พูดจบก็รีบเดินออกไปทันที
เดิมทีเฉ่าเฉียงก็คิดที่จะกลับออกไปเช่นกัน แต่กลับถูกเฉินอีรั้งเอาไว้
เจ้ามังกร คุณมีเรื่องอะไรจะสั่งหรือครับ ?
เฉ่าเฉียงใช้คำเรียกเฉินอีว่าเจ้ามังกร แทนการเรียกว่าคุณเฉิน
เฉินอียิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า : ผู้ว่าการเฉ่าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ หลังจากนี้ฉันคงจะใช้เวลาอยู่ในชิงชวนเป็นหลัก ดังนั้นคงมีอีกหลายเรื่องที่ต้องรบกวนนาย
เจ้ามังกรกล่าวเกินไปแล้ว หากมีเรื่องอะไรให้ช่วยก็สามารถบอกกระผมได้ทันทีเลยครับ
เฉ่าเฉียงใจเต้นระส่ำ ผู้มีอำนาจผู้นี้จะอยู่ที่นี่ต่อ มิหนำซ้ำฟังจากน้ำเสียงคงไม่ใช่เพียงระยะสั้น ๆ
วางใจเถอะ
เฉินอีเข้าใจความคิดของผู้ว่าการเมืองชิงชวนผู้นี้ดี จึงพูดว่า : ฉันจะไม่สร้างปัญหาอย่างแน่นอน นอกเสียจากอีกฝ่ายมาหาเรื่องฉันก่อน
อีกทั้งการเคลื่อนไหวของฉันในครั้งนี้ค่อนข้างยิ่งใหญ่ จึงจำเป็นต้องให้หน่วยทหารช่วยปิดบัง ดังนั้นฉันจึงไม่มีทางใช้อำนาจของสำนักมังกรลับในประเทศอีกอย่างแน่นอน
แต่ในทางกลับกัน ฉันกำลังวางแผนที่จะจัดตั้งกองกำลังภายในประเทศในชิงชวน แน่นอนว่าเป็นการจัดตั้งเชิงพาณิชย์
ในฐานะที่ผู้ว่าการเฉ่าถือเป็นผู้นำสูงสุดของเมืองชิงชวน ฉันจึงคิดว่านายน่าจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจในเมืองชิงชวนเป็นอย่างดี จึงอยากให้ลองฟังความคิดของฉันสักหน่อย
เดิมทีเฉ่าเฉียงยังคงรู้สึกวิตกกังวล แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินอีก็มีปฏิกิริยาตอบโต้ขึ้นมา
เจ้ามังกร คุณตั้งใจที่จะจัดตั้งสมาคมการค้าในเมืองชิงชวนหรือครับ ?
ถูกต้องแล้ว
เฉินอีพยักหน้าแล้วพูดต่อว่า : ฉันเตรียมจัดตั้งกองทุนมูลนิธิ จุดประสงค์ก็เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นคนตกงาน เป็นเด็กกำพร้า หญิงหม้าย หรือคนชรา แม้กระทั่งคนเร่ร่อน ขอสามารถให้ความช่วยเหลือแก่พวกเขาได้ทั้งสิ้น
ส่วนเรื่องเงินทุน พวกเราไม่ต้องการการช่วยเหลือใด ๆ จากทางการ สำนักมังกรลับของเราจะเป็นผู้รับผิดชอบเองทั้งหมด
อะไรนะครับ !
เฉ่าเฉียงแทบจะหมดสติไปเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้
แต่เป็นการหมดสติด้วยความยินดี
ใคร ๆ ก็รู้ดีว่าเมืองชิงชวนแห่งนี้เป็นเมืองที่ค่อนข้างล้าหลัง ถึงแม้หลายปีมานี้จะเกิดการพัฒนาขึ้นมาก แต่นั่นก็ส่งผลให้เกิดปัญหาการขาดแคลนงานจำนวนมาก มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องตกงาน
สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นความไม่มั่นคงที่แอบแฝงอยู่
เฉ่าเฉียงรู้สึกกังวลกับเรื่องนี้มาเป็นเวลานานแล้ว เขาติดต่อกับหลายบริษัท และองค์กรการค้าต่าง ๆ เพื่อสร้างความร่วมมือในการเปิดโอกาสการจ้างงานให้กับคนในเมืองชิงชวนมากขึ้น แต่คนเหล่านี้กลับไม่เห็นเมืองชิงชวนอยู่ในสายตา ประกอบกับการกดขี่ของแก๊งฮีโร่ เขาจึงไม่สามารถทำตามความปรารถนาได้
แต่ตอนนี้เฉินอีกลับต้องการเข้ามาสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของเมืองชิงชวนอย่างไม่มีเงื่อนไข สิ่งนี้ทำให้เฉ่าเฉียงรู้สึกยินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่ง
อืม ในเมื่อผู้ว่าการเฉ่าอนุญาตแล้ว ถ้าอย่างนั้นมังกรเขียว เดี๋ยวนายลองพูดคุยรายละเอียดกับผู้ว่าการเฉ่าดูนะ ส่วนเรื่องชื่อกองทุนมูลนิธิ ให้ใช้ชื่อว่ากองทุนมูลนิธิโต๋วโน่วก็แล้วกัน
ครับ เจ้ามังกร
มังกรเขียวไปดำเนินการตามคำสั่ง
เฉ่าเฉียงเดินตามหลังเขาไป เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง
หงส์แดงเดินเข้าไปหา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า : เจ้ามังกร คุณคิดที่จะอยู่ที่ชิงชวนอีกนานจริงหรือคะ ?
ก็ไม่แน่
เฉินอีเอ่ยปากพูดออกมา คนอื่น ๆ ถึงรู้สึกโล่งใจ
น่าจะเป็นตลอดไป
……
ทุกคนต่างตกตะลึง
หงส์แดงรีบอุทานออกมา : เจ้ามังกร หากคุณอยู่ที่ชิงชวนตลอดไป แล้วจะทำเช่นไรกับสำนักมังกรลับล่ะคะ ? แล้วยังสถานการณ์ในต่างประเทศอีก หากไม่มีคุณเกรงว่ามหาอำนาจต่าง ๆ จะมีการเคลื่อนไหวอย่างยุ่งเหยิงเกิดขึ้นนะคะ !
ใช่แล้ว เจ้ามังกร คุณต้องคิดดูให้ดี ๆ นะครับ !
นี่เป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ หากเจ้ามังกรไม่อยู่ เกรงว่าจะต้องเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ขึ้นในต่างประเทศอย่างแน่นอน
หงส์แดงและเสือขาวเอ่ยปากออกมา
แม้กระทั่งเต่าดำเองก็แสดงสีหน้าไม่พอใจนัก
พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าเฉินอีจะตัดสินใจเช่นนี้