ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 39 เถ้าแก่คือคนที่น่ากลัวมาก
ตามหลักจรรยาบรรณของวิชาชีพ เธอไม่มีทางบอกข้อมูลกับอีกฝ่ายอย่างแน่นอน
บ้าเอ๊ย ฉันอุตส่าห์ไว้หน้าแกแล้วนะ !
ชายรูปร่างกำยำคนหนึ่งพูดขึ้น และกำลังจะยกมือขึ้นตบหน้าเจ้าหน้าที่ต้อนรับ แต่ท่านตาวเข้ามาขวางเขาเอาไว้ เขาโน้มตัวลงมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม : น้องสาว ฉันเป็นญาติของผู้หญิงคนนี้ บอกฉันหน่อยสิว่าเธออยู่ที่ไหน ฉันจะให้เงินเธอสักพันหนึ่ง
หนึ่งพัน
ดูเหมือนเป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก แต่สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่หาเชากินค่ำ เขาไม่เชื่อว่าหญิงสาวคนนี้จะไม่สนใจ
แต่ความจริงเป็นสิ่งที่บอกเขาว่า บนโลกใบนี้ยังมีคนที่ใช้เงินซื้อไม่ได้อยู่ ถึงแม้จะเป็นเพราะจำนวนเงินไม่มากพอก็ตาม ท่านตาวก็ไม่ยินดีที่จะต่อรองอีกต่อไป
บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะพาเธอออกไปเร่ขายซะ
ฉันชื่อท่านตาว เธอทำงานที่นี่ก็คงจะเคยได้ยินชื่อเสียงของฉันมาบ้าง ขอเพียงแค่ฉันเอ่ยปาก ฉันเชื่อว่าเจ้านายของเธอไม่กล้าปกป้องเธออย่างแน่นอน !
ตอนนี้หญิงสาวรู้สึกตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ
คนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็รู้สึกตกใจไม่น้อย เมื่อคิดที่จะเดินหลบหลีกออกไป ก็ถูกลูกสมุนของท่านตาวขวางเอาไว้
อย่าคิดจะหนีไปไหนทั้งนั้น ใครเคยเห็นผู้หญิงในรูปนี้บ้าง รีบตอบมาเร็ว ๆ เข้า ไม่อย่างนั้นล่ะก็ หึหึ
กลุ่มอันธพาลที่น่ากลัว
ถึงแม้จะใช้วิธีการที่หยาบคายก็ได้ผลเป็นอย่างดี
ฉัน ฉันเคยเห็น ดูเหมือนพวกเขาจะขึ้นไปที่ชั้น 25
ชายรูปร่างท้วมคนหนึ่งยกมือขึ้น เขารู้สึกกลัวท่านตาว และไม่ต้องการเสียเวลางานด้วยเรื่องของผู้หญิงที่เขาไม่รู้จักเพียงคนเดียว
อ่อ ?
ท่านตาวหัวเราะออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ในทันที
ฉินหวยจือเองก็เช่นเดียวกัน นี่ถือว่าได้เบาะแสของฉินปิงหลันแล้ว
ไปกันเถอะ ไปลากตัวผู้หญิงคนนั้นออกมาให้ฉัน !
ท่านตาวตะโกนเสียงดัง คนกลุ่มใหญ่เตรียมตัวที่จะขึ้นไปชั้นบน แต่เมื่อถึงประตูลิฟต์ กลับพบว่ามีคนหลายคนยืนขวางเอาไว้อยู่
บ้าเอ๊ย สุนัขที่ดีจะไม่ขวางทาง ไม่รู้ถึงเหตุผลข้อนี้หรืออย่างไร ?
ฉินหวยจือก่นด่าออกมาก่อน
แต่วินาทีออกมา กลับถูกคนของอีกฝ่ายเตะเข้าที่หัวเข่า จนทำให้เขาโซเซล้มลงไปบนพื้น
ถูกเตะเข้าไปเต็มแรง
ท่านตาวถูกฉินหวยจือเข้ามาขวางสายตาเอาไว้ เขาจึงมองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นทางนั้นกันแน่ ขณะที่กำลังจะตะโกนด่าออกไป เขาก็สบตาเข้ากับเซียวเทียนหู่
หัว หัวหน้าเซียว !
ท่านตาวอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออกไปพักใหญ่
เซียวเทียนหู่ค่อย ๆ ก้าวเข้ามาทีละก้าว ๆ แล้วมองท่านตาวด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นจึงเอ่ยถามว่า : เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ ?
เปล่าครับ เมื่อกี้ผมกำลังจะด่าไอ้หมอนี่ว่าไม่รู้ดูตาม้าตาเรือ ที่กล้าเข้ามาขวางทางของหัวหน้าเซียว
เขามีท่าทีเปลี่ยนไปอย่างมากในทันที
ฉินหวยจือที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นรู้สึกตกตะลึง นี่มันเรื่องอะไรกันนี่ ทำไมจู่ ๆ ถึงตัดสัมพันธ์กันง่ายดายเช่นนี้ !
แต่เขาไม่ใช่คนโง่ และดูเหมือนจะเข้าใจทุกอย่างได้ในทันที
หัวหน้าเซียว อีกทั้งยังเป็นที่ท่านตาวเกรงกลัวอีก คงต้องไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเซียวเทียนหู่แห่งกลุ่มเสือฟ้าอย่างแน่นอน !
ฟิ้ว !
ตอนนี้ฉินหวยจือรู้สึกเหมือนหัวใจของเขาร่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
อยู่ดีไม่ว่าดี ทำไมต้องมาพบเข้ากับเซียวเทียนหู่ด้วยนะ
และที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็คือ เมื่อครู่เขาเพิ่งด่าเซียวเทียนหู่ไปว่าเป็นสุนัขที่เข้ามาขวางทาง ดูเหมือนตัวเองกำลังเข้าใกล้ความตายเข้าไปทุกทีแล้ว
หัว หัวหน้าเซียว ผมผิดไปแล้วครับ !
ฉินหวยจือคิดที่จะไถ่โทษ จึงตบปากของตัวเองอย่างแรงหนึ่งครั้ง
ให้เรียกฉันว่าเถ้าแก่เซียวหรือประธานเซียว หัวหน้าเซียวอะไรกัน พวกแกไม่เห็นข้อความที่ฉันส่งไปให้บ้างหรืออย่างไร ?
อะไรนะ ?
ท่านตาวผงะไป เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที และพบว่าเกิดความวุ่นวายขึ้นในกลุ่ม
อันที่จริงแล้วเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนหน้า เซียวเทียนหู่ได้ออกคำสั่งว่า หลังจากนี้เป็นต้นไป กลุ่มนักเลงใต้ดินห้ามประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมายเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้ามใช้กำลังในการแก้ไขปัญหา มิเช่นนั้นจะถือว่าเป็นศัตรูกับเซียวเทียนหู
บ้าเอ๊ย
คนไม่มีการศึกษาอย่างท่านตาว สบถเสียงดังออกมา
นี่เป็นเรื่องที่เขาคิดหาเหตุผลไม่ออก ถ้าหากไม่ทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย แล้วต่อไปพวกเขาจะหาเงินจากที่ไหนกัน
ถ้าหากไม่ใช้กำลัง อาศัยเพียงแค่สมองของพวกเขา จะทำธุรกิจอะไรได้ ? !
หัวหน้าเซียว !
ท่านตาวเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่กลับถูกสายตาของเซียวเทียนหู่สะกดเอาไว้ จนแทบจะหยุดหายใจ
แกมาทำอะไรที่นี่ ? หากฉันจำไม่ผิด ที่นี่ไม่ใช่ที่ของพวกแกนะ
ถึงแม้จะพูดว่าต่อจากนี้ไปจะไม่มีการแบ่งเขตอิทธิพลก็ตาม แต่พวกแกยกโขยงกันมาหลานสิบคนเช่นนี้ คิดจะมาสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นใช่ไหม ? !
ท่าทีน่าเกรงขาม
นี่คือเซียวเทียนหู ผู้ที่เต็มไปด้วยพลังการต่อสู้ที่ทำให้กลุ่มอิทธิพลใต้ดินของเมืองฉือต้องยอมสิโรราบ และถูกขนานนามว่าเป็นราชาของกลุ่มอิทธิพลใต้ดิน
ถึงแม้ท่านตาวจะพอมีธุรกิจอยู่บ้าง แต่ก็เทียบชั้นกับเซียวเทียนหูไม่ได้เลยสักนิด อีกฝ่ายมีคนอยู่ในมือจำนวนนับพัน ซึ่งนี่เป็นเพียงแค่จำนวนของลูกสมุนสายตรงเท่านั้น หากนับรวมกับกำลังเสริมในเครือเหล่านั้น เกรงว่าในมือของเขาคงจะมีคนมากถึงสามถึงสี่พันคน ไม่ใช่คนที่เขาควรจะล่วงเกินเลยสักนิด
ประธานเซียว ครั้งนี้ผมมาทำธุระให้คุณชายหลี่เจ๋อ ดังนั้น……
เขาคิดจะใช้ชื่อของหลี่เจ๋อมาเป็นข้ออ้างเพื่อข่มขู่เซียวเทียนหู่
ถึงแม้หลี่เจ๋อจะอายุยังน้อย แต่อย่างไรเสียก็เป็นคนของตระกูลหลี่ อย่างน้องเซียวเทียนหู่ก็คงจะไว้หน้าบ้าง
แต่ทว่า !
ฉันไม่สนใจคุณชายหลี่เจ๋ออะไรนั่นหรอกนะ เมื่อกี้ฉันบอกแล้วว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เมืองฉือจะต้องเต็มไปด้วยคุณธรรม ใครกล้าใช้วิธีการที่สกปรก ก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจก็แล้วกัน !
ตอนนี้ฉันจะให้ทางเลือกกับแกสองทาง ทางแรกแกเอาชนะฉันให้ได้ จากนั้นก็ขึ้นไปข้างบน ทางที่สองแกยอมกลับไปแต่โดยดีซะ ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ !
เสียงของเซียวเทียนหู่ดังกังวาน สะเทือนเข้าไปในหูของท่านตาว
ผม ผมเข้าใจแล้วครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้
ไสหัวไป !
ครับ ครับ ครับ !
ท่านตาวไม่กล้าขัดขืน คนอีกเกือบหกสิบคนที่ตามมาด้วย ก็พากันกลับออกไปจนหมด
ลูกสมุนของกลุ่มเสือฟ้าคนหนึ่งเลิกคิ้วขึ้น แล้วพูดเบา ๆ ว่า : หัวหน้า ไม่สิ ประธานเซียว พวกของท่านตาวเป็นคนของตระกูลหลี่ ตอนนี้ตระกูลหลี่มีอำนาจยิ่งใหญ่ พวกเราเองก็ควรให้ความเกรงใจบ้างนะครับ
เหอะ ๆ ตระกูลหลี่มีอำนาจมากก็จริง แต่แกอย่าลืมสิว่าในตอนนั้นผู้หญิงคนนั้นเพียงคนเดียว ก็สามารถจัดการกับพวกเรากว่าร้อยคนได้ ฝีมือแบบนั้นไม่ใช่ธรรมดา
เซียวเทียนหู่นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น ก็รู้สึกตัวมาจนถึงกระทั่งบัดนี้
ตอนนั้นหงส์แดงพาวังจ่างหลินมา เพื่อท้าสู้กับกลุ่มเสือฟ้า ตอนนั้นยอดฝีมือกว่าร้อยคนของกลุ่มเสือฟ้ากรูกันเข้าไปต่อสู้ แต่ท้ายที่สุดกลับถูกหงส์แดงจัดการจนราบคาบภายในระยะเวลาเพียงสองนาที การต่อสู้ในครั้งนั้นช่างน่ากลัวไม่น้อย
ท่านหงส์แดงผู้นั้นเคยพูดเอาไว้ว่า เธอถนัดงานที่จะต้องใช้สติปัญญา ส่วนเรื่องการต่อสู้ท่านมังกรเขียวนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าเธอ ส่วนเถ้าแก่ ถึงแม้ไม่รู้ว่าฝีมือยอดเยี่ยมหรือไม่ แต่ถ้าหากสามารถควบคุมคนที่แข็งแกร่งเหล่านี้เอาไว้ได้ แสดงว่าเถ้าแก่เองก็ต้องมีไพ่ไม่ตายของตัวเองอยู่
ที่สำคัญที่สุดก็คือ เถ้าแก่สามารถนำเงินหนึ่งล้านล้านออกมาใช้ได้อย่างง่ายดาย วิธีการเช่นนี้ต่อให้เป็นตระกูลมังกรแห่งเมืองเอก หรือแม้แต่ตระกูลกวนเอง ก็ยังยากที่จะทำได้ ดังนั้นเมื่อนำเรื่องที่น่ากลัวเหล่านี้เข้ามาผูกโยงเข้าด้วยกัน แสดงให้เห็นว่าเถ้าแก่เป็นบุคคลที่น่ากลัวอย่างยิ่ง
อันที่จริงแล้วเขาสามารถใช้กำลังควบคุมกลุ่มอำนาจใต้ดินในเมืองฉือให้อยู่ในมือของเขาได้อย่างง่ายดาย แต่เขากลับไม่ทำเช่นนั้น ไม่ใช่ว่าเขาทำไม่ได้ แต่เขาไม่คิดที่จะทำ ฉันพูดขนาดนี้แล้ว แกพอจะเข้าใจความหมายในสิ่งที่ฉันพูดไหม ?