ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 43 ต้องการคนมีความสามารถหนึ่งคน
อยากจะเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัย ได้
เฉินอีพูดช้าๆ จากนั้นหยิบของเล่นขึ้นมา เหยียนเลว่ไม่เข้าใจ
การที่คุณไม่เข้าใจเป็นเรื่องปกติมาก เพราะนี่คือเครื่องดักฟังที่ทหารใช้ มีฟังก์ชันบันทึกเสียงในตัว ผลของการเก็บเสียงอย่างดีของพวกคุณเมื่ออยู่ตรงหน้าเครื่องบันทึกเสียงนี้ก็เป็นแค่ของตกแต่งเท่านั้น
มุมปากของเฉินอียกขึ้น เหมือนปีศาจอย่างมาก อย่างน้อยในสายตาของเหยียนเลว่เป็นแบบนี้
แก แกต้องการอะไรกันแน่!
เหยียนเลว่ไม่กล้าเดิมพันว่าคำพูดของเฉินอีเป็นความจริงหรือโกหก มือที่เคลื่อนไหวอยู่นั้นก็หยุดลง
ถ้าอีกฝ่ายมีหลักฐาน การที่เขาร้องเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยเท่ากับรนหาที่ตาย
นายอยากจะเจราจากับฉัน?
จู่ๆเหยียนเลว่ก็มีความคิดนี้แล่นขึ้นมา
ภายในใจยิ่งรู้สึกหวาดกลัว
มีจุดอ่อนนี้อยู่ เขาไม่สามารถทำอะไรเฉินอีได้ แน่นอนว่าก็ไม่สามารถจัดการสิ่งที่หลี่เจ๋อสั่งได้ ยิ่งไม่สามารถร่วมมือกับหลี่เจ๋อแย่งชิงธุรกิจของวังซื่อกรุ๊ปได้
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ถ้าหากวังซื่อกรุ๊ปจับได้ว่าเขาและลุงมีความคิดนี้ เกรงว่าตระกูลเหยียนคงเดินถึงปลายทางแล้ว
วางใจเถอะ ผมไม่มีวันไปฟ้องหรอก เพราะถึงอย่างไรสำหรับผมแล้วใครเป็นบอสของวังซื่อกรุ๊ปก็ไม่ต่างกัน
เฉินอียิ้มแล้วพูด และปล่อยมือ
บอกผม ทำไมหลี่เจ๋อต้องตรวจสอบผมด้วย
เหยียนเลว่คือหมากที่หลี่เจ๋อวางเอาไว้ในวังซื่อกรุ๊ปเพื่อเล่นงานเขา นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อีกข้อหนึ่งคือเป็นจารชนคอยขายวังซื่อกรุ๊ป ข้อนี้เขาอ่านออกหมดแล้ว
แต่ทำไมตระกูลหลี่ต้องตรวจสอบตน นี่คือสิ่งที่ตั้งแต่ต้นจนจบเฉินอีไม่เข้าใจ
ในสายตาของตระกูลหลี่ ผมเป็นแค่ตัวละครที่มีและไม่มีก็ได้ ทำไมต้องไม่เล่นงานผมตรงๆแต่กลับตรวจสอบผม?
ในนี้ต้องมีอะไรแปลกๆแน่นอน แต่ว่าคืออะไรยังต้องตรวจสอบอย่างละเอียด
เหยียนเลว่ไม่รู้ความคิดของเฉินอี เขารู้แค่ว่าแผนการในครั้งนี้จบเห่แล้ว
ทำไมหลี่เจ๋อต้องตรวจสอบนาย ฉันเองก็ไม่รู้เหตุผลของเขา แต่ฉันบอกนายได้ว่าต่อให้ไม่มีพวกเราลุงหลานตระกูลเหยียนอยู่ วังซื่อกรุ๊ปล้มละลายก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ ส่วนแกที่ถูกคุณชายหลี่เจ๋อจับตาแน่นอนว่าตายสถานที่
ขอเตือนนายด้วยความหวังดี ออกไปจากเมืองฉือ ถึงขั้นออกไปจากเมืองชิงชวน มีแค่วิธีนี้เท่านั้นนายถึงจะรักษาชีวิตเอาไว้ได้
เหยียนเลว่พูดเสียงเคร่งขรึม
เฉินอีเลิกคิ้วขึ้น ยิ้มแล้วพูด:หัวหน้าเหยียนเตือนผมด้วยความหวังดีแบบนี้ หรือเป็นกังวลว่าเจ้านี่จะรั่วไหลออกไป
เหยียนเลว่นิ่งเงียบ เท่ากับยอมรับ
เขาคิดไม่ถึงว่า คนที่เขาดูเหมือนว่าเป็นมดตัวหนึ่งที่สามารถบี้ให้ตายอย่างง่ายดาย วันนี้กลับกลายเป็นคนที่เขากลัวที่สุด
นอกจากวังซื่อกรุ๊ปล้มละลาย หรือไม่ก็คือตนแย่งเครื่องบันทึกเสียงนี้มาได้ เขาถึงจะกินอิ่มนอนหลับ
ไม่ใช่ว่าเหยียนเลว่ไม่เคยคิดใช้ความรุนแรง แต่จากคำพูดของหลี่เจ๋อ ดูเหมือนว่าเฉินอีคนนี้จะเป็นคนมีฝีมือในวงการ ตนเองร่างกายอ่อนแอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแน่นอน และการเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยมาก็เป็นการรนหาที่ตาย จึงทำได้เพียงอดกลั้น
เฉินอีรู้สึกหมดสนุกขึ้นมาทันที
เดิมทีเขาคิดว่าเหยียนเลว่จะรู้อะไรสักหน่อย แต่เวลานี้ดูจากแผนการของหลี่เจ๋อแล้ว เหยียนเลว่เป็นแค่หมากที่มีหรือไม่มีก็ได้
นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะทำงานที่นี่ แต่ผมไม่ชอบให้ใครมารบกวน รวมถึงคุณ และคุณ
สายตาของเขามองไปทางเหยียนเลว่และเลขาคนนั้น เป็นสายตาที่เยือกเย็นมาก
รอให้เฉินอีเดินออกจากห้องทำงาน เหยียนเลว่กำหมัดแล้วชกไปบนโซฟา เขาไม่กล้าชกไปที่โต๊ะเพราะเลือดจะออก
ประธานเหยียน ตอนนี้พวกเราควรทำยังไงดีคะ หรือว่าจะต้องถูกไอ้หมอนี่ข่มขู่ไปตลอดชีวิต?
เลขารีบเดินมา นั่งบนตักเหยียนเลว่แล้วถามเสียงออดอ้อน
นัยน์ตาของเหยียนเลว์ฉายเจตนาฆ่า
เป็นไปไม่ได้ วังซื่อกรุ๊ปโดนหลี่ซือกรุ๊ปทำให้ล้มละลายเป็นเรื่องไม่ช้าก็เร็ว ถึงเวลานั้นฉันจัดการไอ้ขยะนี่ง่ายนิดเดียว
แค่ว่าในระยะสั้นไอ้หมอนี่อาจจะทำให้เกิดเรื่องได้ ถ้าไม่กำจัดทิ้งกลัวว่าวังซื่อกรุ๊ปยังไม่ทันล้มละลาย ตระกูลเหยียนของเราจะล้มละลายก่อน
เขาจำเป็นต้องคิดหาวิธีแก้ปัญหาให้ได้
ติดต่อหลี่เจ๋ออย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งบอกเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่นี่ให้ฟังอย่างละเอียด
หลี่เจ๋อไม่ได้พูดออกมา เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกโมโหกับการไร้ความสามารถของเหยียนเลว่
เหยียนเลว่หนอเหลียนเลว่ แกทำเป็นแค่ประจบสอพลอกับฝันกลางวันเหรอ? แค่พนักงานใหม่คนหนึ่งยังไม่สามารถจัดการได้ แกว่าทำไมฉันต้องปกป้องแกต่อไปด้วย!
ทันทีที่เขาพูดออกมา หัวใจของเหยียนเลว่ดังกึก
แย่แล้ว หลี่เจ๋อมีท่าทีจะทอดทิ้งตน
คุณชายหลี่ ขอโทษด้วยครับ เรื่องนี้ผมประมาทเกินไป แต่ผมคิดไม่ถึงว่าไอ้หมอนั่นจะเจ้าเล่ห์ ใช้วิธีแบบนี้ได้ เครื่องบันทึกเสียงที่ใช้ในด้านการทหารมีเสียงของพวกเรา ถ้าถูกปล่อยออกไปเกรงว่าทั้งตระกูลเหยียนและตระกูลหลี่ต้องขึ้นหน้าหนึ่ง
เขารีบพูด
ถ้าเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน ถูกพาดหัวข่าวขึ้นหน้าหนึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
แต่ยุคสมัยนี้ ทันทีที่ขึ้นหน้าหนึ่งทุกคนก็จะรู้กันหมด ถึงเวลานั้นก็จะนำพาสิ่งที่พวกคนรวยกลัวที่สุดมาให้——กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม
แม้แต่คนรวยในประเทศเพื่อนบ้าน เผชิญหน้ากับแรงกดดันจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมก็จะเลือกที่จะหลบหนีเอาตัวรอด ไม่ต้องพูดถึงในประเทศ ถ้าหากได้รับแรงกดดันและคำวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม แม้จะเป็นตระกูลหลี่ก็ล้มลงได้ จึงไม่ต้องพูดถึงอีกชั้นหนึ่งแล้ว
แกกำลังข่มขู่ฉัน?
น้ำเสียงของหลี่เจ๋อเคล้าไปด้วยความโมโห
เหยียนเลว่ไม่ได้เอ่ยปากพูด
ฟู่
หลี่เจ๋อถอนหายใจ พูด:ฉันพอจะเข้าใจสิ่งที่แกพูดแล้ว เอางี้ฉันจะส่งคนฝีมือดีช่วยแกเอาเครื่องบันทึกเสียงกลับมา แต่จำเอาไว้ว่าอย่าเอาชีวิตคนๆนั้น
ทำไมถึงไม่ฆ่าไอ้คนนามสกุลเฉินครับ?
เหยียนเลว่ไม่เข้าใจ
หลี่เจ๋อหัวเราะในลำคอ ฆ่าให้ตายง่ายๆแบบนี้ก็สบายมันหนะสิ
ฉันจะทำให้มันตายทั้งเป็น สุดท้ายส่งผู้หญิงของมันมานอนบนเตียงฉันอย่างว่านอนสอนง่ายถึงจะระบายความแค้นได้!
เมื่อพูดคำนี้ออกมา หนังตาของเหยียนเลว่สั่นเทา
เหี้ยมโหด
ไม้นี้ เหี้ยมโหดจริงๆ!
แต่ว่าเหยียนเลว่ชอบ แล้วรีบพูดเสริม: ผู้หญิงตระกูลฉินคนนั้น คุณชายหลี่เตรียมที่จะ……
แน่นอนว่าไม่สามารถแต่งเข้าบ้านได้ อย่างมากก็แค่เล่นๆ จริงด้วยแกตั้งใจทำงานให้ดี ถ้าอนาคตข้างหน้าสามารถโค่นธุรกิจวังซื่อกรุ๊ปมาเป็นของหลี่ซือกรุ๊ปได้ ฉันจะให้แกได้มีความสุขกับสาวสวยอันดับหนึ่งของเมืองฉือ
พูดราวกับฉินปิงหลันเป็นของเล่น
เหลียนเลว่หัวเราะแห้ง แล้ววางสาย มองเฉินอีที่อยู่นอกหน้าต่าง ยกมุมปากขึ้น
ไอ้หมอนี่ กล้ามีเรื่องกับฉัน รอวันตายได้เลย
เฉินอีอ่านแผนธุรกิจตลอดเวลา สำหรับเจตนาสังหารของเหยียนเลว่แน่นอนว่าเขาสัมผัสได้แล้ว แต่มีหรือที่เจ้ามังกรแห่งสำนักมังกรลับจะเก็บเอาคนต่ำช้าแบบนี้มาใส่ใจ
อ่านแผนธุรกิจคร่าวๆ เฉินอีพบปัญหาร้ายแรง
ไม่ใช่เงินทุน ไม่ใช่ทักษะ ทั้งหมดนี้เขาคิดหาวิธีแก้ปัญหาเอาไว้แล้ว
สิ่งที่ร้ายแรงที่สุดคือหัวหน้าที่ไม่เหมาะสม
หัวหน้าและหัวหน้าทีมออกแบบเป็นตำแหน่งที่แตกต่างกัน
คนหลังไม่ถนัดบริหารจัดการ ถนัดออกแบบโปรเจคต่างๆ แต่นี่ก็เป็นช่องโหว่
บางทีอาจจะต้องหาคนที่มีความสามารถในการวางแผนมาแทนที่เหยียนเลว่ถึงจะได้