ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 47 คนผิดไม่ใช่คุณ คือพวกเขา
บ้านตระกูลฉิน
ท่านย่าฉินนั่งอยู่ตรงกลาง ถือแก้วลายครามที่สืบทอดกันมาจากราชวงศ์ชิง
คุณย่าครับ ชอบแก้วลายครามนี้ไหมครับ?
ฉินหวยจือเดินไป ยิ้มแล้วเอ่ยถาม
แม่ของฉินหวยจือก็เดินมาด้วย ยิ้มแล้วพูด:ท่านย่า นี่เป็นของล้ำค่าที่เมื่อวานนี้หวยจือประมูลมาจากตลาดวัตถุโบราณ ว่ากันว่าราคาหนึ่งล้านห้าแสนหยวนเลยนะคะ
เฮ้อ พี่ใหญ่เก่งจริงๆ ด้วยสายตาของพวกเราเกรงว่าจะต้องพลาดของล้ำค่านี้ไปเสียเปล่าแน่
นายไม่ควรเปรียบเทียบกับพี่ชาย พี่ชายสายตาแหลมคมม แม้แต่ท่านซูของปรมาจารย์ด้านวัตถุโบราณยังชมว่าเป็นคนมีพรสวรรค์
ชายหนุ่มทั้งสองคนพูดคุยกัน
พวกเขาเป็นญาติฝ่ายน้องสาวของท่านย่าฉิน มีความสัมพันธ์ไกลห่างกับฉินหวยจือเล็กน้อย มาตระกูลฉินในครั้งนี้เพราะอยากจะได้ตำแหน่ง แน่นอนว่าต้องประจบหลานชายสุดที่รักของท่านย่าฉินอย่างฉินหวยจือ
คนด้านหลังไม่พูดอะไร ทว่าภายในใจมีความสุขอย่างมาก
ไม่พูดไม่ได้จริงๆ การพูดโอ้เป็นการประจบที่ดีจริงๆ
ท่านย่าฉินเองก็พอใจ พูด:ฉันก็ได้ยินเรื่องนี้แล้ว เมื่อวานมีคนนิรนามประมูลแก้วลายครามจากสมัยราชวงศ์ชิงไปในราคาหนึ่งล้านห้าแสนหยวน ตอนนั้นฉันยังรู้สึกอิจฉา
แต่ตอนนี้ คนที่ควรอิจฉาคือคนนอก มีแค่หลานชายสุดที่รักของฉันเท่านั้นที่จะยอมจ่ายเงินพวกนี้เพื่อแสดงความกตัญญูต่อคนแก่อย่างฉัน
แน่นอนค่ะ คุณย่า อย่าว่าแต่แก้วลายครามราคาหนึ่งล้านห้าแสนหยวนเลยค่ะ แค่ใบชาก็เป็นชาต้าหงเผาชั้นดี ไม่มีเงินหลายแสนคงไม่สามารถซื้อได้ เป็นเพราะพี่ใหญ่ระลึกถึงคุณย่าจึงซื้อไว้ คนที่กตัญญูอย่างพี่ใหญ่มีไม่มากแล้วจริงๆค่ะ
ครั้งนี้คนที่พูดคือลูกสาวของลูกคนที่สามตระกูลฉิน ฉินโร่ซี
เมื่อคืนเธอเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัด บอกว่าจะมาเยี่ยมคุณย่าและครอบครัว แต่ความเป็นจริงเธอมีจุดประสงค์ในการมา แน่นอนว่าย่อมไม่มีทางเสียเวลาที่จะไม่ประจบฉินหวยจือ
ฮ่าๆๆ สวรรค์มีตาจริงๆ มีหลานที่กตัญญูอย่างพวกหลานๆ ต่อให้ย่าตายก็นอนตายตาหลับ
คุณย่าพูดอะไรกันคะ คุณย่าต้องอายุยืนร้อยปี อายุยืนยิ่งกว่าเขาทักษิณ ยังมีวันเวลาอีกมากมายรอคุณย่าอยู่นะคะ
ฉินโร่ซียิ้มแล้วรีบพูด ทั้งยังส่งสายตาไปให้ฉินหวยจือ คนหลังเข้าใจเจตนา รีบพูด:คุณย่าครับ คุณชายหลี่เจ๋อพูดเอาไว้แล้ว ขอแค่พวกเราส่งฉินปิงหลันไป ครั้งนี้จะร่วมมือเพิ่มขึ้นสองเท่าตัว ไม่แน่ว่าพวกเราอาจจะเป็นได้เข้าร่วมเป็นทีมสำคัญในโครงการก่อสร้างจงชุนก็ได้นะครับ!
จริงเหรอ!
ครั้งนี้ ท่านย่าตระกูลฉินก็นั่งไม่นิ่งแล้ว
เธอมีใจอยากจะส่งเสริมตระกูลฉิน ทำให้ตระกูลฉินกลายเป็นตระกูลร่ำรวยสูงสุดของเมืองฉือ แต่ขาดโอกาส
ถ้าหากครั้งนี้สามารถเลื่อนเป็นหนึ่งในทีมหลักของโครงการก่อสร้างจงชุนได้ ถึงแม้จะได้ส่วนแบ่งแค่เจ็ดถึงแปดเปอร์เซ็นต์แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลฉินเลื่อนไปหลายขั้น
ฉินหวยจือรีบพยักหน้าตอบ จากนั้นก็ทำสีหน้าลำบากใจ
ถึงแม้คุณชายหลี่เจ๋อจะใจกว้าง แต่ครั้งนี้มีคนร่วมงานกับตระกูลหลี่ไม่น้อย ถึงแม้พวกเขาจะอยากให้ผลประโยชน์กับเรา แต่ถ้าเราไม่ให้คำตอบที่ทำให้คุณชายหลี่พอใจ เกรงว่า……
เขาต้องการฉินปิงหลันไม่ใช่เหรอ ถ้าอย่างนั้นก็ส่ง่ไปให้เขา
ท่านย่าฉินได้ฟังคำพูดของฉินหวยจือ รีบพูดขึ้นทันที
แต่ฉินหวยจือกลับยิ่งส่ายหน้าหนัก ถอนหายใจ แล้วพูดด้วยความเสแสร้ง:แต่ว่าฉินปิงหลันไม่ยอม พวกเราที่เป็นญาติก็ไม่สามารถบีบบังคับเธอได้
แสดงตัวเป็นคนดีแล้ว
ต่อจากนี้ก็คือแสดงเป็นร้าย
แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอนาคตของตระกูลฉินของพวกเรา ถึงแม้จะทำผิดต่อพี่ปิงหลัน แต่เพื่อตระกูลฉินแล้วพวกเราก็จำเป็นต้องทำแบบนี้ เพราะถึงอย่างไรโอกาสแบบนี้หายากมากนะคะ
ฉินโร่ซีพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล
แต่ปิงหลันเธอ……
เพื่อความชอบธรรมของตระกูล เธอลดศักดิ์ศรีของตนเองทิ้งหน่อยไม่ได้หรือไง? เรื่องที่เกิดขึ้นกับปิงหลันในตอนนั้นทำให้ตระกูลฉินของเราได้รับผลกระทบอย่างมาก หรือว่าเธอไม่ควรจะชดใช้?
ฉินหวยจือและฉินโร่ซีคนหนึ่งแสดงเป็นคนดีคนหนึ่งแสดงเป็นคนร้าย
ได้ผลเป็นอย่างดี
ให้เธอไปตายซะ!
ท่านย่าฉินไม่ใจดีเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว พูดด้วยสีหน้าที่โกรธเคือง:เมื่อวานช็อกเพราะพวกอันธพาลแล้ว ครั้งนี้ยังพูดแทนหัวหน้าเซียวกลุ่มเสือฟ้า ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะกล้าร่วมมือกับคนพวกนั้นแล้วมาก่อความวุ่นวาย!
ฉันจะคอยดู คนที่มีตาแต่ไม่มีแววสองคนนี้ จะกล้ารังแกแม้กระทั่งคนแก่อย่างฉันไหม!
ไม้เท้าย่ำไปบนพื้นแรงๆ เห็นชัดว่าท่านย่าโมโหมาก
ครั้งนี้ ฉินหวยจือและฉินโร่ซีมองหน้ากันแล้วยิ้ม
แผนการสำเร็จแล้ว
เป้าหมาาของพวกเขาคือทำให้ท่านย่าโมโห มีแค่วิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถข่มฉินปิงหลันได้
สำหรับชายชั่วนั่น หึๆ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเขามีวิธีการอะไรบ้าง แต่เขาไม่มีวันกล้าขัดคำสั่งเซียวเทียนหู่ เพราะถึงอย่างไรแม้แต่ท่านตาวก็ยังกลัว
เขารู้สึกขอบคุณเซียวเทียนหู่ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาพูด เกรงว่าตนต้องเสียเงินจ้างบอดี้การ์ดมาดูแลความปลอดภัย
ตอนนี้ใช้เงินน้อยที่สุดในการจ้างบอดี้การ์ดสามสี่คนที่ฝีมือไม่ธรรมดา ต้องจัดการไอ้ชายชั่วนั่นได้แน่นอน!
เดี๋ยวพวกนายดูสีหน้าของฉันแล้วดำเนินการ เมื่อไหร่ที่ฉันส่งสัญญาณให้พวกนายลงมือ ฆ่าไอ้ชายชั่วนั่นให้ตาย เกิดเรื่องขึ้นมาฉันรับผิดชอบเอง!
ฉินหวยจือเดินไปที่ไกล คุยกับชายฉกรรจ์สวมสูททั้งสี่คน
วางใจเถอะครับ คุณเป็นเจ้านาย ขอเพียงคุณต้องการพวกผมก็จะทำตาม
บอดี้การ์ดทั้งสี่คนยิ้มร้ายกาจ
เบื้องหลังของพวกเขาคือบริษัทรักษาความปลอดภัย ขอแค่เงินถึง ฆ่าคนหนึ่งถึงสองคนไม่ใช่ปัญหา เพราะถึงอย่างไรเบื้องหลังบริษัทรักษาความปลอดภัยของพวกคือตระกูลหลี่!
ฉินหวยจือได้ฟัง หัวเราะเสียงดัง ได้ใจอย่างมาก
ด้านนอกบ้านตระกูลฉิน ฉินปิงหลันเงียบอยู่นาน
ตอนนี้คุณยังยืนกรานจะเข้าไปไหมครับ?
เฉินอีถามเสียงเบา
เมื่อกี้พวกเขาอยู่ด้านนอก แน่นอนว่าได้ยินบทสนทนาที่ท่านย่าและพวกฉินหวยจือคุยกันด้านในอย่างชัดเจน
หัวใจของฉินปิงหลันแหลกสลาย
ชั่วขณะหนึ่งเธอไม่รู้ว่าตนควรทำอย่างไร
เฉินอี ฉันควรทำยังไงดีคะ?
ยังไงก็ต้องเข้าไป แต่ว่าฉันไม่รู้จะเผชิญหน้ากับพวกเขายังไง โดยเฉพาะคุณย่า
เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นฉันทำให้ตระกูลฉินได้รับผลกระทบมากจริงๆ บางทีอาจจะต้องชดใช้เพื่อเรื่องนี้
ท่าทีของฉินปิงหลันซึมเศร้าเล็กน้อย
ไม่ได้มีความสุขเหมือนก่อนหน้านี้ ถึงแม้จะไม่ชัดเจน แต่ก็มีความเปลี่ยนแปลง
แต่ตอนนี้ ก็กลับมาเป็นเหมือนตอนแรก
เฉินอีโมโหแล้ว
คนตระกูลฉินสมควรตายจริงๆ!
ไม่ง่ายเลยกว่าที่เขาจะสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับลูกสาวทั้งสองคน แต่สุดท้ายกลับโดนคนในบ้านนี้ทำลาย!
ผมรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลฉินในตอนนั้น ความเป็นจริงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับคุณมากมาย ตอนนั้นท่านปู่ตายพอดี สถานการณ์ของฉินซื่อกรุ๊ปจึงแย่ลงเรื่อยๆ ความเป็นจริงแล้วคนที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ไม่ใช่คุณ แต่เป็นคนพวกนั้นต่างหาก!
พวกเขาใช้เงินฟุ่มเฟือย จึงทำให้บัญชีของฉินซื่อกรุ๊ปขาดดุล!