ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 56 เขาก็แค่เหมือนหมากลางถนน
หลี่เจ๋อรู้สึกภาคภูมิใจมาก
เมื่อเทียบกับหลี่เอ๋าที่ทระนงตัว อีกแร้งและคนอื่นๆที่ไม่มีสิทธิ์แนะนำฐานะของคุณชายตระกูลเฉิน และมีแค่เขาที่ได้รับการโปรดปรานที่สุดของคนที่อยู่ด้านหลัง
เวลานี้ เขานั่งรอวังจ่างหลิน เซียวเทียนหู่สองคนคุกเข่ายอมจำนนด้วยความเชื่อฟัง ต่อให้ไม่ใช่ยอมจำนนตัวเอง ก็เพียงพอที่จะทำให้หลี่เจ๋อตื่นเต้นมากแล้ว
ยังไงคนๆนี้เป็นนักธุรกิจใหญ่ที่สามารถต่อสู้กับตระกูลหลินในอดีต คือฮีโร่ที่ครองโลกใต้ดินทั้งเมืองฉือ สามารถทำให้พวกเขาคุกเข่าลงต่อหน้านั้นเป็นเรื่องที่ดีงามอย่างหนึ่ง
ความคิดของเขา ทุกคนที่อยู่ในนี้ก็มองเห็นได้ชัดเจน ถึงแม้หลี่เอ๋าจะดูหมิ่นแต่ก็ไม่มีทางหักหน้าเฉินฝูอยู่แล้ว และกลุ่มทะเลแดงก็มองวังจ่างหลินและเซียวเทียนหู่อย่างเงียบๆ
เหอะ ยังคงเป็นพวกหมาแมวที่กล้าหอนไปเรื่อยจริงๆ
เซียวเทียนหู่ยิ้มอย่างเย็นชาด้วยเสียงเดียว
ถ้าคนที่นั่งอยู่ที่นี่คือพ่อหลี่เจ๋อ ผู้คุมหางเสือของตระกูลหลี่ เขายังจะรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย
นับภาษาอะไรกับหลี่เจ๋อเพียงคนเดียวล่ะ
เขาเซียวเทียนหู่เป็นถึงผู้นำของวงการใต้ดิน สามารถทัดเทียมกับหลี่เอ๋อเพียงคนเดียว และเป็นหัวหน้าตระกูลหลี่ในตอนนี้ และหลินเทียนหลงหัวหน้าตระกูลหลี่ที่ตายไปแล้ว หลี่เจ๋อก็แค่รุ่นผู้น้อยที่ไม่เข้าพวกเท่านั้น
วังจ่างหลินก็มีความคิดเดียวกันแบบนี้ แล้วมองหลี่เจ๋อด้วยสายตาเรียบเฉยเพียงปราดเดียว แล้วดึงสายตากลับมา
พวกนาย!
สีหน้าของหลี่เจ๋อดูย่ำแย่เป็นพิเศษ
เขานึกไม่ถึงเลยว่าวังจ่างหลินและเซียวเทียนหู่จะฟังคำพูดของตัวเอง ไม่เพียงแต่ไม่ยอมจำนน กลับยังดูหมิ่นตนเองอีก
หุบปาก!
เวลานี้ เฉินฝูพูดขึ้น เขามองเซียววังทั้งสองด้วยความเกลียดชังเล็กน้อย
หัวหน้าเซียว เถ้าแก่วัง เมื่อกี้หลี่เจ๋อก็ได้แนะนำฉันแล้ว คิดว่าพวกคุณก็รู้ดีว่าตระกูลเฉินแห่งเมืองอสูรนั้นศักดิ์สิทธิ์แค่ไหน
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกนายคือคนของฉัน กฎระเบียบก็ง่ายมาก ธุรกิจที่ทำกำไร ฉันได้ห้าส่วน ส่วนที่เหลือพวกนายก็ไปแบ่งกันเอง
ห้าส่วน
เวลานี้ แม้กระทั่งหลี่เจ๋อก็ยังทำสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เฉินฝูมองเขาเพียงชั่วพริบตา ดวงตาเปล่งประกายแสงอันเย็นชา ทำไม คุณชายหลี่เจ๋อไม่ยินยอมเหรอ?
ไม่ๆๆ อย่าว่าแต่ห้าส่วนเลย ต่อให้เป็นเจ็ดส่วน พวกเราตระกูลหลี่ก็ยินยอม!
หลี่เจ๋อสุนัขรับใช้อย่างแท้จริงดั่งที่คาดจริงๆ เขาพูดถึงขั้นนี้โดยตรง ทำให้วังจ่างหลินเครียดจนหัวเราะอย่างสะใจขึ้นมา
ห้าส่วน เจ็ดส่วน!
ต่อให้เป็นพวกนายที่มาจากตระกูลเฉินแห่งเมืองอสูร ก็ไม่ควรเป็นสิงโตอ้าปากกว้างขนาดนี้หรือเปล่า ไม่งั้นพวกเรายังจะทำธุรกิจอะไรอีก?!
วังจ่างหลินเข้าใจในความคิดของเฉินฝูอย่างดี อยากจะหลอกใช้โลกธุรกิจของเมืองฉือและวงการใต้ดินมาหาเงินให้เขา
ถ้าเป็นที่ผ่านมาวังจ่างหลินก็คงจะพิจารณาอยู่ ทว่าวันนี้ตระกูลหลินเจอกับหายนะ ไม่ง่ายเลยที่เขาจะเห็นโอกาสทางออก แล้วจะยอมแพ้อย่างง่ายดายได้ยังไง?!
เซียวเทียนหู่ก็พยักหน้าเล็กน้อย แล้วพูดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ฉันกลุ่มเสือฟ้าที่เป็นผู้นำของกลุ่มใต้ดิน ได้ร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับประธานวังแห่งวังซื้อกรุ๊ป และยิ่งมีการสนับสนุนจากกองทุนมูลนิธิโตว๋โนว่ ฉันคิดว่าสิ่งที่ท่านเสนอ น่าจะไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น
เพี๊ยะ!
เฉินฝูตบโต๊ะพลางลุกขึ้น แล้วมองทั้งสองด้วยความเลือดเย็น พร้อมพูดอย่างเย็นชา ฉันเฉินฝูเรียกพวกนายมาไม่ใช่เสนอความเห็นให้พวกนาย แต่เป็นการบอก เป็นคำสั่ง
ฉันจะก่อตั้งบริษัทลูกของเฉินซื่อกรุ๊ปที่เมืองฉือ และสิ่งที่พวกนายต้องทำคือประกาศออกไปว่าวังซื่อกรุ๊ปพวกนายและกลุ่มเสือฟ้าจะรวมอยู่ภายใต้ชื่อของฉัน แล้วเอากำไรเจ็ดส่วนออกมา ไม่งั้นเรื่องนี้พวกนายทั้งสองตระกูลจะกลายเป็นประวัติศาสตร์
ข่มเหง ข่มเหงกันซึ่งๆหน้า
หลี่เจ๋อสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ภายในใจคิดว่าโชคดีที่ตนเองฉลาด หลังจากที่รู้ฐานะของเฉินฝูปุ๊บก็มุ่งไปพึ่งพาอาศัยทันที ไม่งั้นก็จะกลายเป็นเจ็ดส่วนเหมือนกัน
ดูเหมือนแค่ขาดไปสองส่วน แต่ก็เพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงฐานะของวังซื่อกรุ๊ปและกลุ่มเสือฟ้า
อนาคต นอกจากเฉินฝูแล้ว แค่นับตระกูลหลี่และกลุ่มทะเลแดงคือระดับผู้นำของเมืองฉือ และวังซื่อกรุ๊ปและกลุ่มเสือฟ้าก็ดิ่งลงอย่างฮวบฮาบ!
ส่งแขก!
เฉินฝู่ผายมือด้วยความไร้ความอดทน หลายๆคนเดินหน้ามาพยุงวังจ่างหลินและเซียวเทียนหู่ แล้วส่งออกจากท่าเรือ
ทั้งสองท่าน ฉันหวังว่าพวกคุณจะพิจารณาดีๆ เป็นศัตรูกับคุณชายเฉินฝูก็คือเป็นศัตรูกับตระกูลเฉิน อย่าถึงเวลาแม้แต่กำไรสามส่วนยังไม่ได้ ก็กลายเป็นแกะในปากของเขาแล้ว
พ่อบ้านของเฉินฝูยิ้มจางๆ
ยิ้มนั้นเคล้าด้วยการดูหมิ่นอย่างชัดเจนโดยไร้ข้อสงสัยใดๆ
หลังจากรอให้ทั้งสองจากไป วังจ่างหลินก็ถอนหายใจอย่างแรง
ก่อนหน้านี้เขาดูเหมือนจะเป็นสุนัขแก่ที่แน่วแน่ แต่จริงๆแล้วรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก ยังคงเป็นเซียวเทียนหู่ที่ปลอบโยนเขาอย่างเพียงพอ
ทว่าคนของตระกูลเฉินแห่งเมืองอสูรมาเมืองฉือได้ยังไง?
นี่เป็นสิ่งที่วังจ่างหลินสงสัยที่สุด
เซียวเทียนหู่ยิ้มอย่างขมขื่น แล้วพูดฐานะของเฉินอีให้ฟังหนึ่งรอบ วังจ่างหลินฟังจนเอ๋อไปทันที
งั้นถ้าเป็นแบบนี้ เถ้าแก่กับเฉินฝูคนนี้ถือว่าเป็นศัตรูกันสิ หรือว่าพวกเขาจะจับพวกเราไป
หากพวกเขาต้องการสร้างวงกลมใหญ่สองวงให้สมบูรณ์ทั้งภาคพื้นดินและใต้ดินในเมืองฉือ งั้นใช้แค่หลี่ซือกรุ๊ป กลุ่มทะเลแดงก็สามารถปราบปรามอย่างต่อเนื่องได้แล้วนี่
ดูๆแล้วพวกเขาอยากให้พวกเรายอมจำนนเพื่อไปปราบปรามเถ้าแก่ ความคิดนี้ถือว่าร้ายกาจไม่เบา
วังจ่างหลินยังเป็นคนที่มีไหวพริบและวิเคราะห์เรื่องได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน
เซียวเทียนหู่พยักหน้าเล็กน้อย แล้วมองไปรอบๆ
ทำไมเหรอ ไม่ใช่ว่าเฉินฝูยังส่งคนจับตามองพวกเราอยู่นะ?
วังจ่างหลินทำสีหน้าเปลี่ยนไป กลับถูกเซียวเทียนหู่ขัดขวาง เฉินฝูส่งคนมาจับตามองพวกเราจริงๆ แต่ถูกคนของเถ้าแก่จัดการแล้ว
ฉันน่ะยิ่งจับต้องความอดทนของเถ้าแก่ไม่ได้แล้วจริงๆ ความสามารถของลูกน้องเฉินฝูก็ไม่ได้อ่อน ถือว่าเป็นเหมือนปรมาจารย์ระดับหนึ่งของกลุ่มเสือฟ้าของผมเลย สุดท้ายกลับถูกจัดการได้เพียงลมหายใจไม่กี่เฮือก!
เขาเพิ่งจะรู้สึกว่าได้ละแวกนี้มีการเคลื่อนไหวที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กมาก
ปรมาจารย์ของตระกูลเฉินที่จ้องจะหาโอกาสฆ่าตนเองและวังจ่างหลินในตอนแรก เวลานี้กลับไม่มีลมหายใจใดๆแล้ว
วังจ่างหลินเหมือนยกภูเขาออกจากอกแล้วพูดขึ้น ครั้งที่แล้วที่เขาติ้งจุน เรื่องของตำหนักมังกรหยก นายก็ได้เห็นแล้ว ปรมาจารย์ที่อยู่ในกำมือของเถ้าแก่นับไม่ถ้วน ต่อให้หน่วยทหาร
ต่อให้เป็นพวกชนชั้นนำที่เคยผ่านสนามรบของหน่วยทหารยังไม่ใช่คู่แข่งเลย นับภาษาอะไรกับญาติห่างๆกับตระกูลเฉินคนหนึ่ง
เหอะๆ ก็ใช่
เซียวเทียนหู่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก
แต่ในเวลานี้ พ่อบ้านเฉินฝูซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร จู่ๆ ก็เปลี่ยนสีหน้า
คุณชาย แย่แล้ว สิบปรมาจารย์ที่เราส่งไปติดตามวังเซียวสองคน ไม่ได้ข่าวคราวอะไรจากพวกเขาเลย
หา?
เฉินฝูที่อยู่ในสายก็ขึ้นเสียงสูงขึ้น คนพวกนั้นกำลังแอบขี้เกียจอยู่หรือเปล่า?
ไม่ ไม่ใช่ครับ จู่ๆก็เหมือนหายไปจากโลก อีกอย่างเวลายังห่างจากแค่สิบนาทีเท่านั้น
เป็นไปไม่ได้!
น้ำเสียงของเฉินฝูเต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อ
คนพวกนั้นเป็นยอดฝีมือของตระกูลเฉินฉันที่แม่ส่งมา ทุกคนต่างเคยให้บริการที่ต่างประเทศ แล้วยังเป็นผู้โหดเหี้ยมที่สร้างชื่อเสียงในหมัดดำใต้ดิน จะสามารถจัดการได้ภายในสิบนาทีได้ยังไง!
แต่ว่า!
พ่อบ้านยังอยากจะพูดอะไรต่อกลับถูกเฉินฝูพูดแทรก
เขาพูดขึ้นอย่างไม่พอใจมาก แกคงไม่คิดว่าไอ้สวะนั่นจะมีปัญหาจัดการปรมาจารย์ของตระกูลเฉินพวกเขาใช่ไหม?
เหอะๆ โคตรตลกเลย
ตอนนั้นมันเป็นหมากลางถนน ตอนนี้ก็เหมือนกัน