ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 59 สั่นสะเทือนสยบ
ไอ้สวะ อีกอย่างฉันยังไม่ได้ว่านาย
เฉินอีกวาดมองไปหนึ่งรอบ สามสิบคนทั้งหมดสะท้อนในม่านตาของเขา พวกนายเป็นไอ้สวะทั้งหมด
ไม่ใช่ฉันชื่นชมตัวเอง ต่อให้พวกนายทั้งสามสิบคนมาพร้อมกัน พวกนายไม่มีทางเอาชนะคนของพวกเราได้หรอก
…….
ทุกคนกลืนน้ำลายอย่างรุนแรง แล้วมองเฉินอีด้วยความโมโห
หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยของวังซื่อกรุ๊ปเดินออกมาก้าวใหญ่ แล้วมองเฉินอีเพียงชั่วพริบตา และทำท่ามวยหวิงชุนออกมา
ฉันมาประลองกับคุณหน่อย ดูว่าแกที่พูดจาโอ้อวดนั้นเก่งแค่ไหนกันเชียว
ฮ่าๆ น่าสนใจ
เฉินอียกมุมปากขึ้นซึ่งดูจะคาดไม่ถึงเล็กน้อย แต่ดูเหมือนเขาจะดูถูกเหยียดหยาม
เขาเดินเข้าไปใกล้ทีละก้าว ด้วยความเร็วที่ค่อนข้างช้า หัวหน้าวังซื่อกรุ๊ปชกไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง
ให้ตายเถอะ หัวหน้าเตรียมจู่โจมด้วยแรงทั้งหมด มันจะหนักเกินไปหรือเปล่า
หึหึ อีกฝ่ายดูถูกเรา เลยให้สีหน้าดูถูกเขาบ้างก็ได้
แต่ยังไงก็คือแขกผู้มีเกียรติที่ประธานวังส่งมา ถ้าเกิดเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาเราก็คงรับผิดชอบไม่ไหว
คำพูดสุดท้ายทำให้เป็นจุดสนใจของทุกคน พวกเขาก็อยากรั้งหัวหน้าของตัวเองไว้ ทว่าคนด้านหลังว่องไวเกินไป จึงไม่ทันได้ขัดขวาง
ปึง!
เพี๊ยะ!
เสียงพุ่งชนเหล็กดังขึ้นก่อน จากนั้นก็มีเสียงตบดังสนั่นขึ้น
โดนตบอีกแล้ว!
ทั้งตัวของหัวหน้าวังซื่อกรุ๊ปราวกับว่าวที่ขาดจากสายจนร่วงหล่นกลับไป
พู่ว!
หัวหน้าวังซื่อกรุ๊ปกระอักเลือดออกมา
หัวหน้า!
พี่ใหญ่!
ฉันแม่งจะสู้กับแก!
ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าหัวหน้าคนนี้มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีมาก พนักงานรักษาความปลอดภัยกลุ่มนั้นมุ่งหน้าสู้กับเฉินอี
หยุดเดี๋ยวนี้!
หัวหน้าวังซื่อกรุ๊ปตะโกนให้ลูกน้องไม่กี่คนของเขา แล้วลุกขึ้นเดินไปที่เฉินอี พร้อมพูดด้วยความเคารพ ขอบคุณคุณเฉินแล้ว
หัวหน้า หัวหน้าบ้าไปแล้วเหรอ? ลูกน้องตกใจ
หัวหน้าวังซื่อกรุ๊ปส่ายหัวเล็กน้อย ชี้หยดเลือดที่อยู่บนพื้น แล้วพูดว่า หลายปีมานี้ร่างกายของผมมีแผลเก่าอยู่ไม่น้อย ยิ่งกว่านั้นก็คือมีเลือดคั่งที่ไม่สามารถระบายออกมาได้ ท่านเฉินอีเป็นคนช่วยฉัน
ฉันในตอนนี้ กลับสู่สภาพสุดยอด
ซือๆๆ!
ลูกน้อยกลุ่มหนึ่ง แม้กระทั่งกลุ่มเสือฟ้าก็ยังทำสีหน้าที่เปลี่ยนไป
หมัดเมื่อกี้ของหัวหน้าวังซื่อกรุ๊ปเห็นได้ชัดว่าไม่ได้ออมแรงเลยสักนิด ต่อให้พวกเขาต่อสู้พร้อมกันก็ไม่สามารถรับมือได้ สุดท้ายไม่ใช่ว่ายังคงเป็นฝ่ายตรงข้ามที่มีกำลังสุดยอดหรอกเหรอ?
หัวหน้าวังซื่อกรุ๊ปก็รู้สึกสะดุ้งตกใจอย่างมาก
สถานการณ์ของตัวเอง มีแค่ตัวเองที่รู้ดี สามารถตบเลือดที่คั่งอยู่ในร่างกายออกมาเพียงฝ่ามือเดียว จริงๆกำลังจะแข็งแกร่งมาก อย่างน้อยก็แกร่งกว่าสภาพสุดยอดหรือว่ากำลังในตอนนี้
ท่านนี้เป็นปรมาจารย์ที่แท้จริง!
เขาไม่เคยประลองกับหงส์แดง ดังนั้นเขาเห็นว่าความยิ่งใหญ่ของเฉินอีเพียงพอที่จะโน้มน้าวใจคนได้
ทว่าคนของกลุ่มเสื้อฟ้ายังคงไม่ยอมรับ
เอาชนะทหารทีเกษียณอายุนับว่ามีความสามารถได้ยังไง ถ้ามีปัญญาก็สู้กับท่านหงส์แดงสักตั้ง รับรองว่านายจะได้ขี้ออกมาจนขี้ย้อนกลับไปต่อ
พวกเขานับถือหงส์แดงจนถึงขั้นที่บ้าคลั่งแล้ว
เฉินอีก็นึกไม่ถึงจุดนี้ แน่นอนว่าเขาก็ไม่สนใจอยู่แล้ว
หลังจากนับจังหวะหายใจเข้าออก กลุ่มเสือฟ้าสิบห้าคนทรุดอยู่บนพื้น
เมื่อกี้แม้แต่เงาของเฉินอียังมองไม่เห็น แต่ละคนก็คุกเข่าลงแล้ว
แกร่ง แกร่งเกินไปแล้ว
ถึงแม้เทียบกับหงส์แดง จำนวนคนที่เฉินอีจู่โจมนั้นน้อยไปหลายเท่า ทว่าความเร็วนั้น ท่าร่างไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถคาดคิดถึงได้
ยอมแล้ว ฉันยอมแล้ว ความสามารถนี้เทียบกับท่านหงส์แดงแล้วก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเยอะเลย แม้กระทั่งความเร็วยังแกร่งว่าท่านหงส์แดง!
ทว่าอยากจะรอดหนึ่งกระบวนท่าภายใต้กำลังเพียงครึ่งหนึ่งของเฉินอีก็ใช่ว่าจะง่ายเลย สิบห้ากระบวนท่าก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แล้วยังคิดจะทำให้เฉินอีพ่ายแพ้อีก ถ้าป่าวประกาศให้สนามต่อสู้นอกเขตรู้เข้า แค่เกรงว่าจะทำให้พวกมีอำนาจและเหล่านักฆ่าหัวเราะเยาะเอา
เฉินอีก็รู้สึกน่าสนใจมาก
หลายปีมานี้ ยังเป็นครั้งแรกที่มีคนบอกว่าจะทำให้ตัวเองพ่ายแพ้ ไหนๆก็มีใจที่กล้าหาญขนาดนี้แล้ว เขาต้องให้สิทธิพิเศษอยู่แล้ว
มา ลองนี่ดู
เฉินอีพาทุกคนมาถึงในภายในโรงงาน
ทุกคนต่างก็รู้สึกอึ้งไปทันที
สถานฝึกอบรมของที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เรียบง่ายมาก ทว่าทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยได้เห็นและได้ยินมาก่อน
นอกจากทหารรับจ้างไม่กี่คนที่มีภูมิหลังที่ดี
นี่ หรือว่านี่จะเป็นสนามฝึกระดับราชาแห่งทหาร!
พวกเขาต่างก็ร้องอย่างตกตะลึง ทำให้เป็นคนสนใจของคนอื่น
เจ้าดำ เจ้าเหลือง พวกนายรีบพูดมาเร็ว!
หัวหน้าวังซื่อกรุ๊ปก็ถูกดึงดูดเหมือนกัน
เจ้าดำสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดด้วยความจริงจัง พวกนายก็รู้ ที่ผ่านมาฉันคือทหารรับจ้างที่เขตแดนหยวนตง อีกอย่างโรงเรียนฝึกมหาทหารนานาชาติหยวนตง พวกนายน่าจะเคยได้ยินมาก่อน
เคยได้ยิน เหมือนลุ่มแม่น้ำอเมซอนจะมีชื่อเสียงกว่าโรงเรียนฝึกมหาทหาร แต่คนที่เข้าไปล้วนเป็นนักรบยอดฝีมือที่มีพลังการรบเดี่ยว หลังจากออกมาแล้วก็ยิ่งมีความสามารถเป็นปรมาจารย์
หัวหน้าวังซื่อกรุ๊ปเห็นได้ชัดว่าเคยเจออะไรมามาก
เจ้าดำส่ายหัวเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น ที่นายพูดนั้นเว่อร์เกินไปหน่อย แต่ก็ถูกต้องมาก เพราะว่าคนที่สามารถเข้าไปได้ล้วนเป็นปรมาจารย์ที่คัดมาจากหนึ่งในร้อย และหลังจากออกมาก็ยิ่งมีความสามารถที่แข็งแกร่งจนคาดคิดไม่ถึง เพียงคนเดียวก็สามารถเทียบได้กับกำลังของกองกำลังพิเศษหนึ่งหน่วยแล้ว
ไม่ใช่หรอกมั้ง
มีคนถึงกับอึ้งไปเลย
เดิมทีนักรบกองกำลังพิเศษก็เป็นชนชั้นนำอยู่แล้ว และคนที่ออกมาจากโรงเรียนฝึกมหาทหารหยวนตงเพียงคนเดียวก็สามารถเทียบได้กับกำลังของนักรบกองกำลังพิเศษสิบนายงั้นเหรอ?!
เจ้าดำไม่ได้ปฏิเสธ กลับพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ทหารรับจ้างที่หวังเป็นอย่างเป็นมากว่าจะได้เข้าไปในสถานที่แห่งนั้น แค่สามารถเข้าไปและสามารถรอดชีวิตออกมา ก็เพียงพอที่จะกลายเป็นราชาแห่งทหารที่มีพลังการรบเดี่ยวชั้นหนึ่งแล้ว!
และที่สำคัญที่สุดคือ รุ่นอาวุโสที่เคยฝึกจากโรงเรียนฝึกมหาทหารนานาชาติหยวนตงบอกฉันว่าสิ่งอำนวยความสะดวกในนั้น สามส่วนในนั้นเหมือนที่นี่เด๊ะๆ!