ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 86 เขาเป็นพ่อแท้ ๆ ของลูกฉัน
มีบางเรื่อง พูดได้ก็จริง
แต่ก็ต้องดูว่าเวลาไหนควรพูด มิฉะนั้นจะทำให้เสียหายได้
ฮูว์!
ซ่งหลานหายใจเข้าลึก ๆ แววตาส่องส่อความชาเย็น
เรื่องบางเรื่องดิฉันคิดว่าควรพูดกันตรง ๆ จะดีกว่า คุณว่าใช่ไหม คุณผู้หญิงฉิน?
เฉินอีไม่ได้หันหน้า เขาคิดอยู่แล้วว่าฉินปิงหลันต้องมา
ก็ในเมื่อเสียงซ่งหลานเมื่อครู่ดังออกขนาดนั้น
นอกนั้นยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง อันได้แก่โต๋โต๋โน่วโน่ว และบรรดาครูอาจารย์
ผู้จัดการซ่ง คุณจะทำเกินไปแล้ว
เฉินอีแสดงความเหยียดหยามที่มุมปาก
ฉินปิงหลันในขณะนั้นก็มีสีหน้าที่ไม่ดีเอามาก แต่ก็ยังรีบพูดขึ้นว่า เฉินอี คุณพูดน้อยลงหน่อย
แล้วหันมองไปที่ซ่งหลันพร้อมกล่าวขอโทษ ผู้จัดการซ่ง ต้องขออภัยด้วย เฉินอี สามีดิฉันเป็นคนอารมณ์เลวร้ายมาก ก็ต้องขอให้คุณกรุณาให้อภัยด้วย
พร้อมโค้งคำนับ
สีหน้าเฉินอีแสดงออกในความไม่สบายใจ รีบลุกขึ้นประคองฉินปิงหลัน และก็ไม่พูดอะไรอีก
ไม่ใช่เขาไม่อยากพูด แต่เขาต้องยอมเข้าใจในสถานการณ์ ถ้าเขาพูดมากไปจะทำให้ฉินปิงหลันวางตัวยิ่งลำบากขึ้น โดยเฉพาะโต๋โต๋กับโน่วโน่ว เขาไม่อยากทำอะไรให้เป็นผลกระทบกับลูก ๆ
ซ่งหลันวางตัวไม่แยแสกับการขอโทษของฉินปิงหลัน ตบใส่โต๊ะ พูดไปว่า คุณผู้หญิงฉิน คุณก็ทราบดีนะ โรงเรียนจิ่งซ่างของเรามีกฎระเบียบเข้มงวด
ทราบค่ะ ทราบค่ะ
สิ่งที่เราต้องการไม่เฉพาะเพียงคุณสมบัติของตัวเด็กนักเรียนเท่านั้น โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องมีคุณสมบัติที่สูงด้วย
คุณเฉินที่ยืนข้าง ๆ คุณนั่น กลับตอบคำถามทั้งสามข้อด้วยความอันเป็นเท็จ
แล้วคุณว่าลักษณะนิสัยแบบนี้ จะเลี้ยงเด็กที่ดีมาได้อย่างไร?
ยังดีว่าหล่อนไม่พลั้งเผลอไปดึงเอาตัวฉินปิงหลันเข้ามาด้วย
ฉินปิงหลันกำมือแน่น แต่ก็คลายมือออกในชั่วครู่เดียว ก่อนหน้านี้หล่อนก็ได้ยินเรื่องถามตอบทางด้านนี้อยู่แล้ว
อาจารย์ซ่ง ต้องขอโทษด้วย กลับไปนี่ดิฉันจะอบรมพวกเขาเอง
อ้าว มีปัญหาอะไรกันเหรอ บอกให้ฉันฟังมั่ง
ในขณะนั้นเอง มีคนเดินเข้ามาอยู่หลายคน พอเห็นฉินปิงหลันเข้า ก็พากันหัวเราะ
ว้าว นี่ฉินปิงหลันนี่นา?เธอก็มาด้วย คงไม่ใช่คิดจะส่งลูก ๆ มาเข้าที่นี่นะ
คนที่พูดเป็นผู้หญิงในวัยใกล้เคียงกับฉินปิงหลัน มองความสวยก็มีอยู่ แลดูก็หรูเลิศเฉิดฉาย แต่เห็นที่เป็นการเสริมแต่งขึ้นมาจะมากกว่า เฉินอีเห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะเบะปาก
พอฉินปิงหลันเห็นผู้หญิงคนนี้เข้า สีหน้าดูไม่สู้ดี แต่ก็พูดทักไปอย่างมีมารยาทว่า หวู่ฉิน ไม่ได้พบกันเสียนาน
เฮอะ ๆ แต่ฉันก็ไม่เคยคิดที่จะพบเธอนะ พวกสำส่อนอย่างนี้ ยังมีหน้ามาสถานที่แบบนี้อีกเร๊อะ?
หวู่ฉินหัวเราะเสียงเย้ยไม่หยุด วางท่าเชิดหน้าเหลือบตาลงมองฉินปิงหลัน
คนที่ถูกมองยิ่งมีสีหน้าไม่ดีหนักขึ้น
ยังมีลูก ๆ และครูบาอาจารย์ของลูกในอนาคต ถูกว่าต่อหน้าธารกำนัลแบบนี้ย่อมอายหนักสุดทน
เฉินอีทนดูต่อไม่ไหวแล้ว
เมียผมจะเป็นยังไงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ แต่ตัวคุณนั่นนะ ฉีดน้ำหอมอะไรใส่ให้มันท่วมตัวก็ดับกลิ่นเหม็นโฉ่ไว้ไม่ได้หรอก ก็ไม่รู้ไปทำเรื่องอย่างที่ว่านั้นไปเท่าไหร่ แล้วไอ้ผู้ชายคนเดี๋ยวนี้มันเป็นชู้คนที่เท่าไหร่แล้ว เอ้ยไม่ใช่ ต้องว่าเป็นหนึ่งในชู้ของชู้ทั้งหมดที่มีอยู่กี่คนนะ
คนอย่างเฉินอีแต่ไหนแต่ไรมาเป็นคนประเภทเอ็งไม่ยุ่งข้า เราต่างอยู่กันดี ๆ
แต่ถ้ามาแหย่ข้า โดยเฉพาะกับเมียข้า นั่นก็ต้องขอโทษนะอย่ามาว่ากันที่ไม่ไว้หน้า
แล้วก็ให้เห็นจริงอย่างว่า แต่ละคนโดนเข้าเล่นเอาสีหน้าเปลี่ยน
ยิ่งหน้าของหวู่ฉินซีดลงอย่างผิดปกติ รีบหันไปมองผู้ชายคนที่มาด้วย แต่กลับเห็นไอ้คนที่ว่านี่กำลังหรี่ตาทำกรุ้มกริ่มจ้องมองฉินปิงหลัน ความเดือดคลั่งในใจระเบิดตูมออกมา
อีตาเกา เมียแกโดนเขาด่าเอาด่าเอา แกยังมีหน้าเฝ้ามองผู้หญิงคนอื่นอีกเรอะ?!
มาทีนี้ ผู้ชายคนแซ่เกาได้สติ
เบี่ยงสายตาออกอย่างในใจยังเสียดาย มองไปที่เฉินอี
แกเป็นใคร?
เขายังนึกอิจฉาอยู่ เพราะเมื่อกี้นี้ไอ้ผู้ชายคนนี้เรียกฉินปิงหลันตรง ๆ ว่าเมีย?!
เขาถึงแม้ไม่เคยพบเห็นฉินปิงหลัน แต่เคยได้ยินชื่อเสียงว่าเป็นหญิงสวยเป็นที่หนึ่งของเมืองฉือ ใจก็เฝ้าคิดมาตลอดต้องหาทางเอาสักที แต่กลับมาเห็นสนิทสนมกับชายอื่นคนนี้
เฉินอีมองก็รู้อยู่แก่ใจว่าผู้ชายคนนี้เป็นพวกบ้ากามระดับมาตรฐาน ยิ่งเห็นมันจ้องดูเมียเขาเองแบบนี้ ในใจก็นึกหงุดหงิดอยู่แล้ว จึงขึ้นหน้าไปให้ฉินปิงหลันถูกบังอยู่ข้างหลัง พูดเสียงเนือย ๆ ว่า ผมชื่อเฉินอี
เหอะ ๆ คุณเฉิน ขอเรียนถามหน่อย ท่านทำงานที่ไหนหรือครับ
ที่เขาถามไป ก็เพื่อหยั่งดูเชิงเฉินอี
วังซื่อกรุ๊ป
เฉินอีตอบไปส่ง
ผู้ชายแซ่เกานั่นนึกตรองดู แน่ใจชัดว่าในวังซื่อกรุ๊ปไม่มีคนแซ่เฉินอยู่ในระดับผู้บริหารก็เลยไม่มีอะไรต้องติดใจ
คุณเฉิน เมื่อกี้นี้คุณด่าเมียผม สันดานแบบนี้ไม่น่าใช้สำหรับการอบรมลูกหลานนะ ผมขอแนะนำให้คุณค้อมหัวกล่าวขอโทษหน่อย
คุณผู้หญิงฉิน ผมรู้สึกว่าไอ้คุณเฉินคนนี้ไม่ค่อยมีคุณธรรมเลย ถึงถ้าคุณจะหาพ่อเลี้ยงให้ลูก ๆ ของคุณก็น่าจะหาให้มันดีกว่านี้หน่อยนะ
ผู้ชายแซ่เกาก็พูดไปเนือย ๆ
เหมือนกับหวู่ฉินคนนั้น ล้วนพวกประเภทวางมาดอยู่สูงกว่าคนอื่น
อีกทั้งใช้สรรพนามเรียกฉินปิงหลันว่าคุณผู้หญิงฉิน ไม่ใช้ว่าภรรยาของคุณ เป็นการหมิ่นเฉินอีว่าไม่คู่ควรกับฉินปิงหลัน
ต่อให้ฉินปิงหลันจะเป็นหญิงประเภทผัวตายก็หาใหม่ได้ ก็ไม่น่าว่าไอ้พนักงานระดับล่างจะเอาได้ ข้าจะต้องจัดการเอาฉินปิงหลันคนนี้มาให้ได้
ในใจแอบคิดไว้ได้
หารู้ไม่ ทุกอย่างที่เขากำลังคิดล้วนอยู่ในสายตาของเฉินอี
คิดจะตีสนิทกับเมียข้ารึ รนหาที่ตาย
กำลังคิดจะเอ่ยปาก แต่กลับถูกฉินปิงหลันชิงพูดตัดหน้าไป
ขอประทานโทษคะ ที่คุณพูดถึงคุณเฉินที่ไร้คุณสมบัติคนนี้เป็นสามีดิฉัน คุณพ่อแท้ ๆ ของลูก ๆ คะ
หล่อนพูดเสียงกร้าวอย่างจริงจัง แม้เฉินอีเองยังตะลึง คนอื่น ๆ ยิ่งให้ประหลาดใจ
ที่เห็นนี้ เป็นครั้งแรกที่ฉินปิงหลันออกมาประกาศสถานะของเฉินอี โดยเฉพาะต่อหน้าคนนอกเหล่านี้
โต๋โต๋กับโน่วโน่วก็ได้วิ่งเข้ามากอดเฉินอี บ่นกระปอดกระแปดใส่พวกกลุ่มคนผู้ชายแซ่เกาที่ยืนอยู่ตรงข้าม ฮึ อย่ามาแกล้งคุณพ่อนะ เดี๋ยวหนูตีนะ!
ท่าทางที่น่ารักน่าชัง เห็นแล้วให้พวกซ่งหลันใจต้องอ่อนตาม
แต่ที่ยังคาใจซ่งหลันนั้นคือ เฉินอีเป็นพ่อแท้ ๆ ของโต๋โต๋โน่วโน่วจริงหรือ?
นั่นไม่กลายเป็นว่า เฉินอีก็คือคนไข้โรคจิตที่ขืนใจฉินปิงหลันคนนั้นละสิ?
อย่างน้อยนี่ก็เป็นการให้เข้าใจได้ในคำถามข้อนี้ เฉินอีคนนี้ไม่ได้โกหก
ในจุดนี้ ซ่งหลันให้รู้สึกเสียใจนิด ๆ แต่แล้วความรู้สึกนี้ก็หายไป ยังไงก็ยังอีกสองคำถามที่เห็นว่าเฉินอีพูดเท็จระดับถล่มฟ้า
ส่วนผู้ชายแช่เกากับพวก คิดจะว่ากล่าวสั่งสอนเด็กน้อยนั้นสักหลายคำ เจอตาที่จ้องถลึงใส่ต้องถอยกลับ
เฉินอีนั่นเอง
ในช่วงขณะนั้น เขาดูเหมือนมองไปเจอมัจุราช