ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 89 เผชิญหน้า
คนเลว แบ่งได้หลายรูปแบบ
มีบางคนเลว เพียงว่ากันว่าฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามก็คือคนเลว
เช่นอย่างเฉินอี ตัวเขาในความคิดเห็นของคนต่างแดน สุดจะเลวร้าย เป็นเทพสังหารมัจจุราชแต่เขาทำเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินต้าถัง
กับประธานเกาที่อยู่ตรงนี้และหัวหน้าเหอนี่แหละเลวบริสุทธิ์เลย
พวกเขาอาศัยอำนาจเล็กน้อยที่มีอยู่เปลี่ยนดำให้เป็นขาว ถึงขนาดเบียดบังผู้ชายข่มเหงผู้หญิง พวกคนเลวประเภทนี้เลวฝังลึกในกระดูก
ในขณะที่คำพูดของหัวหน้าเหอกระจายออกไป อาจารย์ใหญ่จิ่งก็รู้สึกหงุดหงิดบ้าง แต่ก็คงยังนิ่งขรึมไปพักใหญ่ มองไปที่อาจารย์ใหญ่โจว ซึ่งกำลังมองไปที่อีกสองคน
ประธานวัง ประธานจิ่ง พวกท่านมีความเห็นเห็นในเรื่องนี้ยังไงครับ?
อย่าว่าแต่อาจารย์ใหญ่โจวกับอาจารย์ใหญ่จิ่งจะแปลกใจเลย
สองท่านที่ในพื้นที่เมืองฉือนี้ เว้นเสียแต่หน่วยงานรัฐแล้วต้องจัดว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอิทธิพลสูงที่สุด แล้วจู่ ๆ มีการเข้าไปเชิญให้มาที่นี่ แถมบอกด้วยว่าจะพาให้มาดูหนังดี ๆ หนังดีในเรื่องเลวร้ายของโรงเรียนของพวกเขา
แต่ถ้าหากว่าเรื่องจริงเป็นอย่างที่หัวหน้าเหอพูด นั่นก็ต้องเป็นความผิดของเฉินอีแน่ พวกเขาแม้จะไม่ตัดเส้นทางการศึกษาของเด็กด้วยแล้ว ก็คงยังไม่ปล่อยเรื่องให้จบง่าย ๆ
หุ หุ
วังจางหลินแค่นหัวเราะ แล้วหันมองที่เฉินอี พูดด้วยความนอบน้อมว่า คุณเฉินครับ ทำให้ท่านกับคุณผู้หญิง อีกธิดาสาวน้อยทั้งสองต้องลำบากใจไปแล้วนะครับ
คุณเฉินคะ ถึงแม้ดิฉันจะไม่ทราบข้อเท็จจริงโดยตลอด แต่ดิฉันเชื่อท่านค่ะ ในครั้งนี้ดิฉันจะต้องสะสางล้างบางระบบภายในของโรงเรียนจิ่งซ่างนี้ จะไม่ปล่อยให้พวกมีพฤติกรรมเลว ๆ หลุดพ้นจากการลงโทษเป็นเด็ดขาด
คุณหนูใหญ่ตระกูลจิ่ง จิ่งหลิงรองประธานจิ่งซ่างกรุ๊ปก็ได้กล่าวขึ้นด้วยกิริยาเคารพนบนอบ
หล่อนเคยได้ยินคุณพ่อพูดถึงเฉินอี
ผู้อยู่ในระดับรู้ทะลุครอบจักรวาล ก็แม้ขนาดเทพทหารตระกูลหั้วนั่นยังต้องให้ความเคารพเป็นพิเศษ
ยิ่งไปกว่านั้นท่านยังเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดแห่งกองทัพที่เกษียณแล้ว
ถึงแม้เกษียณออกไปแล้ว แต่สายสัมพันธ์ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ตรงหน้านี้ยังได้ก่อตั้งกองทุนมูลนิธิโตว๋โนว่ จิ่งหลิงไม่เชื่อว่าคนที่อยู่ถึงระดับนี้อยู่ ๆ จะมาสบประมาทชาวบ้านได้
ผู้ที่อยู่ในฐานะสูงทั้งอำนาจและบารมี พวกเขาเหล่านี้มักไม่วางตัวแสดงออก ความโดดเด่นนั้นอยู่เพียงในบุคลิก
มีคำพังเพยว่าไว้ว่า เจอยมราชมาคุยดี เจอพวกผีมาไม่คุยด้วย
เจ้าประธานเกาคนนี้ และยังมีหัวหน้าเหอ ก็แค่เพียงอิงอำนาจในตำแหน่งที่มีน้อยนิดคอยคิดเปลี่ยนพลิกดำเป็นขาว หลายปีที่ผ่านมานี้หล่อนเห็นคนประเภทนี้มาก็หลายคนแล้ว
ใช่หัวหน้าเหอนะ ดิฉันขอแนะนำตัวเองหน่อยคะ รองประธานจิ่งซ่างกรุ๊ป จิ่งหลิง ค่ะ
ไม่มีเป็นบริษัทลูกหรือไม่เป็นบริษัทลูกแล้ว เธอผู้นี้ก็คือสายตรงของจิ่งซ่างกรุ๊ป
พอคำว่าจิ่งหลิงได้ถูกพูดออกมา ไม่ว่าประธานเกาหรือหัวหน้าเหอต่างหน้าซีดขาว
จิ่ง คุณหนูใหญ่จิ่ง!
นี่คือนักธุรกิจหญิงแกร่งที่เหมือนมีแต่ในตำนาน มีฐานะเพียงรองจากประธานหญิงต่างสกุลของจิ่งหลิงกรุ๊ป กับลูกสาวของวางจ่างหลินคุณหนูใหญ่ตระกูลวัง สำหรับสถานะพวกหล่อนนั้นเรียกว่าเป็นคนในระดับสูงที่ต้องชะเง้อแหงนมองเท่านั้น ไม่ใช่จะใช้สายตามองตรงในระนาบเดียวกันได้
ก่อนหน้านี้พวกเขายังสงสัย อาจารย์ใหญ่โจวซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในจิ่งซ่างกรุ๊ป อาจารย์ใหญ่จิ่งก็เป็นสายตรงตระกูลจิ่ง ทำไมให้รู้สึกเกรงใจสองคนนี้มากนัก ไม่ได้คิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นรองประธานคนสายตรงของจิ่งซ่างกรุ๊ป
ถ้าอย่างนั้นผู้ชายคนข้าง ๆ นั้น ดูเหมือนอาจารย์ใหญ่โจวมีเรียกว่าประธานวัง นั่นก็หมายความว่า ——
วังจ่างหลินจากวังซื่อกรุ๊ป!
พาสองคนนี้คิดกลับไปถึงตอนที่เฉินอีโทรศัพท์นั้น และก็เห็นอากัปกิริยาที่คุณวังกับคุณจิ่งแสดงต่อเฉินอี หัวใจของพวกเขาหล่นวูบลงไปในช่องฟรีซ
ในขณะเดียวกันนั้นเอง หวู่ฉินเพิ่งเสร็จภารกิจออกมาจากห้องน้ำ มองเห็นกลุ่มคนมากมายก็ยังนึกสงสัยอยู่ แต่พอเห็นฉินปิงหลันพลันคิ้วก็เลิกขึ้นสูง
ฉินปิงหลัน ไหนว่าจะไสหัวออกไปแล้วไง?ยังอยู่นี่อีกทำไม?
และหล่อนก็คิดอะไรขึ้นมาได้ พลันความโกรธที่อดไม่ได้พาตัวพุ่งเข้าไปหา แกนังแพศยาคิดจะมายั่วยวนหลอกตาเกาผัวฉันละซิ แกมันพวกชอบเล่นลูกไม้อย่างไร้ยางอาย!
หวู่ฉินคนนี้ลงมือสุดโหด ที่ใช้ก็ท่าถนัดของผู้หญิงแบบขบวนคว้าหยิกตะปป โดยเฉพาะไม้ตายของเล็บนิ้วที่จะใส่ให้หน้ากลายเป็นแฉกแตกบานเป็นลายดอก
แม่งแกปิดปากไปเลย!
ผัวะ!
หนึ่งฉาดตบไปบนหน้าหวู่ฉินเต็ม ๆ ทำเอาคนโดนตบงง
อีตา อีตาเกา แก แกโดนเสน่ห์มารยานังแพศยานั่นเข้าไปแล้วหรือไง ข้านี่สิเมียแกแท้ ๆ นะ!
หุบปาก!
ประธานเกาโกรธเข้าขั้นจะบ้าแล้ว
มากมายที่นี่มาแต่ละคนระดับบิ๊ค แค่อาจารย์ใหญ่โจวอาจารย์ใหญ่จิ่งก็กดดันจนหัวเขาโงไม่ขึ้นแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดไปถึงระดับขุนเขาอย่างวังจ่างหลินและจิ่งหลิง
มีแต่หวู่ฉินที่ยังไม่รู้ หล่อนฝังใจอยู่แต่ว่านังแพศยาฉินปิงหลันต้องใช้วิชามารอะไรมาครอบงำใส่ผัวตัวเอง
ฉินปิงหลัน แกก็ยังใช้สันดานแบบตอนอยู่ชั้นมัธยม เป็นแต่จะใช้รูปร่างหน้าตาหว่านยั่วผู้ชาย นังผู้หญิงหมา ๆ อย่างแกนี่ สักวันหนึ่งฉันจะขยี้หน้าแกให้เละ!
ไม่ใช่เลย หล่อนไม่ใช่ว่าสักวันหนึ่ง เห็นชัด ๆ ว่ากำลังจะปฏิบัติการลงมือในขณะเดี๋ยวนี้เอง
ผัวะ!
คราวนี้ เป็นฉินปิงหลัน
หล่อนมองหวู่ฉินอย่างเย็นเยือก
หวู่ฉิน เรื่องในสมัยนั้นฉันไม่เอามาใส่ใจ แต่เธอหาเรื่องฉันมาแบบกัดไม่ปล่อย ฉันทนมาพอแล้ว
บอกให้เธอฟังตรง ๆ นะ ผัวเธอนั่นแหละสั่งให้ฉันต้องไปเป็นเพื่อนเขา ไม่งั้นลูกฉันจะไม่มีโรงเรียนให้เรียน
และพอฉันปฏิเสธ เขาก็มาข่มขู่ฉันว่าจะให้สามีฉันต้องไสหัวออกจากวังซื่อกรุ๊ป
สรุปได้นะว่า เพราะเธอไม่รู้จักดูแลผัวเธอให้ดี ปล่อยเป็นหมาบ้าเที่ยวไล่ระรานกัดชาวบ้าน แล้วมาโทษใส่หัวฉันนี่นะ?
หล่อนคงถูกอัดความโกรธใส่หนักเกินมากแล้ว
เปลี่ยนเป็นก่อนหน้านี้ หล่อนยอมได้กับการถูกสบประมาทอย่างต้องยอมได้ทุกเรื่อง แต่นี่เป็นเรื่องอนาคตของลูกสาว ความเป็นแม่ของฉินปิงหลันจะให้อดกลั้นยอมกล้ำกลืนต่อไปคงไม่ได้แล้ว
หันหน้ากลับไปที่อาจารย์ใหญ่โจวและอาจารย์ใหญ่จิ่ง ท่านอาจารย์ใหญ่ทั้งสอง เมื่อสักครู่นี้ก็คือหัวหน้าเหอท่านนี้มาบีบบังคับดิฉัน หลังจากเห็นว่าบีบดิฉันไม่ได้ คุณประธานเกาท่านนี้ก็มาใช้วาจาข่มขู่ เพราะฉะนั้นตั้งแต่ต้นมาไม่มีที่ใช่เป็นความผิดของดิฉันเลย
นั่นสิ!
คราวนี้ อาจารย์ใหญ่จิ่งกับอาจารย์ใหญ่โจวตลึงงง
ก่อนหน้านี้ลำพังฟังแต่หัวหน้าเหอพูด พวกเขาก็คิดอยู่ว่าฝ่ายผิดคือเฉินอี ไม่ได้คิดเลยว่าสองคนนี้ยังได้ทำเรื่องแบบนี้
ประธานเกาหน้าไม่มีสีเลือด
ส่วนหัวหน้าเหอยังขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ย้อนกัดไปต่ออีกว่า ก็พวกคุณโกหกกันมาตั้งแต่แรกตอนสอบสัมภาษก์ ไม่เชื่อถามผู้อำนวยการซ่งหลันได้เลย!
ซ่งหลันในขณะนั้นยังมึนงง เป็นครั้งแรกที่ได้มาเจอคนระดับสูง ๆ ของเมืองฉือ
ท่านประธานวัง ท่านประธานจิ่ง
หล่อนออกอาการประหม่า
จิ่งหลิงไม่อยากฟังบทไร้สาระ โบกมือไปมา พูดว่า ตอนคุณสัมภาษก์คุณเฉิน คุณถามคำถามอะไรไปบ้าง?
ซ่งหลันชะงัก แต่ก็รีบตอบเล่าไปให้ฟังทั้งหมด
ทั่วทั้งบริเวณต่างให้รู้สึกตะลึงงงกันไปบ้าง
คำถามเหล่านี้ดู ๆ ก็ปกติทั่วไปอย่างง่าย ๆ แต่คำตอบของเฉินอีนั้นเอาขนาดว่าเดี๋ยวจะไม่รู้ว่าข้าแน่
ยังอ้างว่าไปถึงระดับโลก ล้อเล่นอะไรขนาดนั้น
พูดได้ขนาดว่าวังซื่อกรุ๊ปก็เป็นของเขา มันน่าหัวร่อสุด ๆ
หัวหน้าเหอจับประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้มาอัดใส่เฉินอี ไม่ว่ายังไงก็ต้องเบนเข็มเปลี่ยนเรื่องให้ได้
อาจารย์ใหญ่โจวกับอาจารย์ใหญ่จิ่งต่างมองไปที่เฉินอีแบบทำใจไม่ถูก
เจ้าหมอนี่ก็พูดจาอหังการบ้าเกินไปนะ
ให้แม้แต่ฉินปิงหลันเองก็รู้สึกพูดไม่ออก แต่ก็ว่าไปว่า แต่นี่ก็ไม่ใช่เหตุที่พวกคุณจะเอามาข่มขู่ครอบครัวเราได้!