ศึกเดือด มหากาฬ - บทที่ 99 ฉัน มังกรเก้า แห่งสำนักมังกรลับ
ก่อนหน้านั้นผมรอให้ตระกูลมังกรยื่นมือเข้ามา แต่อีกฝ่ายนั้นชักช้าอืดอาดยืดยาดไปหน่อย
รอยยิ้มเหยียดหยามปรากฏขึ้นที่มุมปากของเฉินอี
เขารออยู่จริง
อีกด้านหนึ่งคือรอให้ตระกูลเฉินส่งคนสำคัญมา แต่ตอนนี้คาดว่าคนที่จะมาคือชายชราแซ่จง
และอีกด้านหนึ่งคือรอตระกูลมังกร ซึ่งเป็นมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่กำลังบริหารจัดการตลาดมืด
ตอนนี้กลุ่มธุรกิจในเมืองชิงชวนนั้นเติบโตเต็มที่แล้ว การที่พวกเราต้องการจะเข้าไปเมืองเอกนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เว้นเสียแต่จะมีคนช่วย หรือไม่ก็คุมอำนาจ เพื่อที่คนอื่นจะไม่กล้ามาขวางทางพวกเรา
ถึงแม้ว่าตระกูลมังกรจะสู้ตระกูลกวนไม่ได้ แต่ก็เป็นมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของเมืองชิงชวน ถ้าสามารถจัดการพวกเขาได้ มันก็เพียงพอที่จะสามารถคุมอำนาจได้
หลังจากวังจ่างหลินได้ฟังแล้วก็เข้าใจเล็กน้อย แต่สีหน้ายังซีดเล็กน้อยและกล่าวว่า เถ้าแก่ นั่นคือตระกูลมังกรเชียวน่ะ ถึงแม้ว่าจะสู้ตระกูลกวนไม่ได้ นั่นเป็นเพราะตระกูลกวนมีภูมิหลังที่ดี ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ถ้าในแง่ด้านธุรกิจและด้านอื่น ๆ แล้ว ตระกูลกวนนั้นแข็งแกร่งกว่าตระกูลมังกรอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าพวกเราลวงเกินพวกเขา เกรงว่าพวกเราจะถูกตระกูลมังกรคว่ำบาตร และถูกปราบปรามอย่างไร้ความปรานี
ไม่ต้องกังวล ไม่ว่าตระกูลไหนออกหน้าก็ไม่สามารถขวางผมได้ ผมแค่ไม่ชอบความยุ่งยากเท่านั้น
เฉินอีกล่าวอย่างสบาย ๆ วังเอ๊ย จำไว้ว่าคู่ต่อสู้ของคุณไม่ใช่พวกเศรษฐีระดับสองหรือระดับสามในเมืองเอก แต่เป็นตระกูลที่มั่งคั่งมีอำนาจ และตระกูลชนชั้นสูง โดยเฉพาะตระกูลมังกรแห่งเมืองชิงชวน มิฉะนั้นผมก็ไม่รังเกียจถ้าจะเปลี่ยนคนที่มีความกล้ามาแทนที่คุณ
ผม เถ้าแก่ ผมรู้ว่าตนเองผิดแล้วครับ!
วังจ่างหลินคุกเข่าลงบนพื้นทันที และเขาตกใจจนเหงื่อเต็มแผ่นหลัง
ก่อนหน้านั้นเขารู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย และลืมไปโดยสิ้นเชิงว่าเจ้านายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ถึงจะเป็นคนที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ตนเองสามารถกลายเป็นบุคคลอันดับหนึ่งในเมืองฉือได้ และหวังว่าจะมีโอกาสก้าวต่อไป วังจ่างหลินไม่ต้องการเห็นโอกาสอันที่ยิ่งใหญ่นี้หลุดมือไป
ฮ่า ๆ
รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏขึ้นที่มุมปากของเฉินอี จากนั้นเขาเหลือบมองจิ่งหลิง ซึ่งกำลังก้มศีรษะและไม่กล้าพูดอะไร
น่าเบื่อ
เฉินอีส่ายศีรษะ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและกล่าวว่า เมื่อถึงเวลาผมจะไปเข้าร่วมสุดยอดการประชุมนั้น คุณจัดการวางแผนให้ดี คราวนี้ถึงเวลาปิดเกมแล้ว
ครับ!
หลังจากที่เฉินอีจากไป วังจ่างหลินรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก
จิ่งหลิงได้พยุงวังจ่างหลินให้ลุกขึ้นและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า ประธานวังเจ้าพ่อเฉินเป็นคนที่แข็งกร้าวเช่นนี้เสมอหรือ?
มันไม่ถึงขนาดนั้น ถึงแม้ว่าปกติเถ้าแก่จะเป็นคนที่ทำอะไรรวดเร็วเฉียบขาด แต่เรื่องแข็งกร้าวนั้นก็แค่ครั้งนี้เท่านั้น
วังจ่างหลินรู้ดีอยู่แก่ใจ ดูเหมือนว่าตลาดมืดนั้นได้แตะจุดต่ำสุดของเฉินอี เพื่อที่จะกำจัดตลาดมืดนั้นให้สิ้นซากแล้ว ทำให้เฉินอีเร่งการเคลื่อนไหว
ไม่ว่าจะยังไง เขาแค่ทำตามหน้าที่ของตนเองให้ดี สำหรับเรื่องอื่นและเรื่องที่เกินความสามารถของเขา เฉินอีจะเป็นคนลงมือจัดการเอง
หลังออกจากที่นี่ เฉินอีก็ไปสถานที่อื่น
หมู่บ้านเวิงเจีย
ที่นี่เป็นหมู่บ้านที่ค่อนข้างกันดารในเมืองฉือ และว่ากันว่าเทียบเท่ากับการดำรงอยู่ของเมืองตลาด
เขาเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว และไม่ช้าเขาก็หรี่ตาลงเล็กน้อย
ตามคำกล่าวก่อนหน้านั้นของมังกรเขียว สถานที่แห่งนี้เป็นตลาดมืดชั่วคราวในเมืองฉือ ซึ่งก่อตั้งโดยตระกูลหลี่โดยได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลมังกร
มังกรเก้าเดินออกมาจากด้านหลัง และกล่าวด้วยความนอบน้อม
เฉินอีพยักหน้าเล็กน้อย
ไปเถอะ ผมจะเข้าไปดูว่าพวกเสือสิงห์กระทิงแรดอะไรที่ทำให้เมืองฉือวุ่นวายจนถึงขนาดนี้
เขาเดินเข้าไปทันทีโดยไม่ลังเล
มังกรเก้าก็ไม่ลังเลเช่นกัน เธอคิดว่าการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ก็ไม่สามารถปิดบังตนเองได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะสามารถหลอกเจ้ามังกรของตนเองได้เช่นกัน
ไม่ว่าปัญหาใด ๆ จะแก้ไขได้อย่างง่ายดายด้วยมือเจ้ามังกรและตนเอง
และเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ มีอันธพาลจำนวนมากเดินออกมาอย่างช้า ๆ เฉินอีเหลือบมองแวบหนึ่ง แล้วก็หันไปมองข้างหลัง แล้วเขาก็ยกมุมปากขึ้น
ดูเหมือนว่าสถานที่นี่ถูกพวกคุณซึมซับความคิดจนเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยไม่รู้ตัวไปอย่างสมบูรณ์แล้ว ไม่มีพลเมืองธรรมดาอาศัยอยู่เลยสักคน มีแต่คนจากตลาดมืด ซึ่งผู้ช่วยอย่างพวกคุณก็เก่งใช่ย่อย
เฉินอีอดไม่ได้ที่ส่ายศีรษะ จากนั้นก็ถอนหายใจต่อเนื่อง
หัวหน้าอันธพาลชื่อหลิวเหลย ซึ่งคนอื่นเรียกเขาว่าท่านหก เดิมทีเขาเคยเป็นหัวหน้าของกลุ่มใต้ดินในเมืองฉือ ซึ่งเขาเก่งกว่าท่านแปดมาก และเก่งรองจากพวกเซียวเทียนหู่ ซึ่งสามารถถือเป็นเจ้าพ่อได้
เดิมทีเขามีหน้าที่ดูแลตลาดมืดของสามตระกูล คือตระกูลหลี่ ตระกูลมังกรและตระกูลเฉิน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนมาสร้างปัญหา แต่เขาไม่เคยคิดว่าคนที่คุณชายหลี่เจ๋อแห่งตระกูลหลี่เคยสั่งไว้ว่า ถ้าพบเจอบุคคลนี้ให้ฆ่าทันที จะมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่!
ฮ่า ๆ ศีรษะของคนนี้มีมูลค่าถึงยี่สิบล้านเชียวน่ะ คิดแล้วมันก็ตื่นเต้น
เขาอดไม่ได้ที่จะเลียลิ้นของตนเอง
ยี่สิบล้าน
ถึงแม้ว่าตนเองจะมีเงินไม่น้อย แต่ตนเองต้องเลี้ยงพี่น้องมากมาย รวมทั้งพนักงานในตลาดมืด และแรงงานต่าง ๆ ถ้าคำนวณแล้วแต่ละปีมีเงินเข้าบัญชีหลายล้านต่อปีก็ถือว่าเยอะมากแล้ว และเงินยี่สิบล้านนี้ถือเป็นเงินก้อนใหญ่
โดยเฉพาะเงินยี่สิบล้านนี้ตนเองไม่ต้องใช้สมองอะไร ขอแค่ฆ่าคนสองคนนี้ก็ได้แล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลิวเหลยเลียริมฝีปากอีกครั้งและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า เจ้าหนู คุกเข่าลงและขอความเมตตา บางทีผมอาจจะไว้ชีวิตคุณ
ใช่ รีบคุกเข่าลงแล้วอ้อนวอนขอความเมตตาจากท่านหกของพวกเรา มิเช่นนั้นผมจะทำให้คุณรู้ว่าอะไรที่เรียกว่าตายดีกว่ามีชีวิตอยู่
ฮ่า ๆ ๆ รูปร่างผอมแห้งแค่ลมพัดมาก็ล้มแล้ว ผมคิดว่าคุณจามใส่เขาเล็กน้อยก็สามารถไปรับเงินรางวัลจากคุณชายหลี่เจ๋อได้แล้ว
ไม่ใช่ ก่อนหน้านั้นคุณชายหลี่เจ๋อสั่งว่าพวกเราต้องปฏิบัติต่อเจ้าหนูคนนี้อย่างดี เดิมคิดว่าจะเป็นคนเก่ง แต่ไม่คิดว่าจะเป็นคนไร้ประโยชน์
แต่สาวน้อยที่อยู่ข้างกายเขา เหมือนนักสืบหญิงในภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ช่างน่าสนใจจริง ๆ ท่านหกมอบเธอให้ผมเถอะ
ทุกคนหัวเราะเยาะเย้ย และใช้สายตาหื่นมองไปที่มังกรเก้า
อีกฝ่ายไม่โกรธแต่กลับหัวเราะแทน
ถ้าพวกคุณมีความสามารถ จะฆ่าจะแกงก็เชิญตามสบาย
โอ้ ยิ่งอยู่สุดที่รักคนนี้ก็ยิ่งถูกใจผม สุดที่รักงั้นผมจะไม่เกรงใจแล้วน่ะ
ผู้ชายที่พูดจาหื่นคนนั้นเดินออกมา และจ้องมองรูปร่างที่สมส่วนของมังกรเก้า จนน้ำลายแทบจะไหลลงบนพื้น แต่เมื่อเขาเพิ่งเดินเข้ามาใกล้ ก็พบรอยยิ้มที่หยอกล้อปรากฏอยู่ที่มุมปากของเฉินอี
ส่วนใบหน้าของมังกรเก้านั้นเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
แม่งฉิบหาย!
ชายหื่นรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก และขณะที่เขากำลังจะลงมือ แต่กลับถูกมังกรเก้าใช้เท้าเตะจนกระเด็นออกไปไกลสิบเมตร
คุณมีความสามารถแค่นี้แล้วยังคิดที่จะแอ้มฉัน? ช่างตลกสิ้นดี!
มังกรเก้าแสดงความเหยียดหยาม
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้เก่งเท่าเจ้ามังกรและมังกรเขียว แต่ไม่ว่าจะยังไงเธอก็ติดหนึ่งในสิบขององครักษ์มังกร และการจัดพวกอันธพาลก็ไม่ใช่เรื่องยาก
จากการเตะครั้งนี้ ทำให้คนอื่นต่างจ้องหน้ากันด้วยความตกใจ
เห็นได้ชัดว่ากระดูกหน้าอกของผู้ชายคนนั้นถูกเตะจนหักหลายชิ้น และคนมากมายที่เฝ้าดูต่างส่ายศีรษะไม่หยุด
ส่วนหลิวเหลยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
ขณะนี้เขาไม่สงบอีกต่อไป และมองไปที่มังกรเก้าด้วยความกังวล
คุณเป็นคนของสถานฝึกวิทยายุทธหรือ?
ไม่ใช่
มังกรเก้าเป็นคนตรงไปตรงมา
ฉัน มังกรเก้า แห่งสำนักมังกรลับ!