สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1074 วุ่นวาย
ตอนที่ 1074 วุ่นวาย
“นั่นสิ…” เสิ่นเทียนจือกล่าวสำทับ “แค่เรื่องขาดแคลนเสบียงอาหารเท่านั้นเอง เหตุใดต้องย้ายกองทัพและชาวบ้านเทียนเฟิ่งมาตั้งถิ่นฐานในแคว้นพวกเรา อีกทั้งจ้างชาวบ้านแคว้นเราทำงานด้วย วุ่นวายเปล่าๆ”
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่น “…”
“ต้าเยี่ยนมีความเห็นเช่นไร” หลิ่วหรูซื่อกล่าวจบจึงมองไปทางเหล่าขุนนางของต้าเยี่ยนเพื่อขอความเห็น ไม่มีท่าทีสนใจความเห็นของเทียนเฟิ่งแม้แต่น้อย
มู่หรงเหยี่ยนยกยิ้มมุมปาก ยกถ้วยชาตรงหน้าขึ้นจิบ หลิ่วหรูซื่อผู้ขึ้นชื่อเรื่องคารมที่สุดในแคว้นต้าโจวไม่ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ มิน่าเสิ่นซือคงถึงได้นั่งจิบน้ำชาด้วยท่าทีไม่ทุกข์ร้อนเช่นนี้
“ใต้เท้าหลิ่วกล่าวถูกต้อง!” ขุนนางต้าเยี่ยนพากันพยักหน้าเห็นด้วย “หนทางแก้ปัญหาง่ายดายเช่นนี้ เหตุใดต้องทำให้เรื่องซับซ้อน ทั้งย้ายทหารของเทียนเฟิ่งมา ทั้งไม่ให้ทหารของเราเข้าไปแทรกแซงเช่นนี้ด้วย!”
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นมองไปทางหลิ่วหรูซื่อแวบหนึ่งด้วยความไม่พอใจ “การเช่าพื้นที่…ไม่ว่าพวกเราจะเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือเก็บเกี่ยวได้มากน้อยเพียงใดพวกเราเต็มใจยอมรับผลที่เกิดขึ้น ทว่า หากซื้อเสบียงสินค้า…”
“หากพวกท่านซื้อเสบียงอาหารจากแคว้นเรา ต่อให้พวกเราจะเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติจนเก็บเกี่ยวไม่ได้ พวกท่านต้องการเสบียงมากเท่าใดพวกเราก็จะขายให้เท่านั้น เทียนเฟิ่งกลัวว่าพวกเราจะเอาเปรียบพวกท่านอย่างนั้นหรือ” หลิ่วหรูซื่อถามกลับ “จักรพรรดิแห่งเทียนเฟิ่งยืนกรานเช่นนี้ พวกเราอดสงสัยไม่ได้ว่าเทียนเฟิ่งไม่ต้องต้องการแค่เช่าดินแดนของพวกเรา ทว่า มีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงด้วย”
เหล่าขุนนางของต้าเยี่ยนพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับคำกล่าวของหลิ่วหรูซื่อ
“การทำสัญญาพันธมิตรในครั้งนี้ง่ายนิดเดียว!” หลิ่วหรูซื่อซุกมือทั้งสองข้างไว้ในแขนเสื้อ หยัดแผ่นหลังตรง “ดูเหมือนเทียนเฟิ่งจะมีความสัมพันธ์อันดีกับซีเหลียง หากซีเหลียงยินดีให้เทียนเฟิ่งเช่าพื้นที่ พวกเราจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ทว่า กองทัพของเทียนเฟิ่งห้ามรุกรานเข้ามาในดินแดนของต้าโจวแม้แต่ก้าวเดียว พวกเราจะจัดส่งเสบียงไปยังชายแดนซีเหลียงตามวันที่กำหนดทุกปี จากนั้นเทียนเฟิ่งชำระค่าเสบียงให้พวกเรา ต่างคนต่างอยู่”
“กล่าวถูกต้อง…” ขุนนางต้าเยี่ยนหันไปมองมู่หรงเหยี่ยนและมู่หรงลี่ “ฝ่าบาทและอ๋องเก้ามีความเห็นเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”
มู่หรงเหยียนลูบถ้วยชาในมือ จากนั้นกล่าวยิ้มๆ “ข้าคิดว่าเป็นวิธีที่ดีมาก”
“ฝ่าบาททรงมีความเห็นเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ” หลิ่วหรูซื่อหันไปถามความเห็นไป๋ชิงเหยียน
“ดีมาก” ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า
“หากจักรพรรดิแห่งเทียนเฟิ่งเห็นด้วยกับข้อตกลงนี้ พวกเราก็ร่างสัญญาขึ้นมาใหม่เถิด” หลิ่วหรูซื่อกล่าว
หากเทียนเฟิ่งต้องการเพียงเสบียงอาหาร วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับเทียนเฟิ่ง ทว่า หากเทียนเฟิ่งไม่ยอมร่างสัญญาใหม่ ความทะเยอทะยานของพวกเขาจะปรากฏออกมาทันที ขุนนางต้าโจวและต้าเยี่ยนที่มาที่นี้ล้วนไม่ใช่คนโง่
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกำลังคิดหาวิธี เขาเม้มปากมองไปทางศิษย์คนโตของจอมเวทย์ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
สายตาของศิษย์คนโตของจอมเวทย์หยุดอยู่ที่ร่างของไป๋ชิงเหยียน เขาจ้องร่างของหญิงสาวนิ่งพลางพึมพำสิ่งใดบางอย่าง เขารู้สึกว่าไป๋ชิงเหยียนคือเจ้าของดินแดนที่เทพเจ้าเลือก ทว่า เหมือนจะไม่ใช่เสียทีเดียว
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นเลิกคิ้วขึ้น เขาส่งสายตาสอบถามศิษย์ของจอมเวทย์ จากนั้นเห็นศิษย์คนโตของจอมเวทย์มองไปทางอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน
ศิษย์ของจอมเวทย์กำชายเสื้อของตัวเองนิ่ง อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนให้ความรู้สึกเดียวกับจักรพรรดินีแห่งต้าโจว
แผ่นหลังของศิษย์คนโตของจอมเวทย์ชื้นไปด้วยเหงื่อ เขาต้องรายงานฝ่าบาทว่าเขาไม่มั่นใจว่าอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนหรือจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเป็นเจ้าของดินแดนแห่งนี้อย่างนั้นหรือ
เขาคิดว่าบางทีสองคนนี้อาจเป็นบิดามารดาของเจ้าของดินแดนที่ถูกเทพเจ้าเลือก ทายาทของพวกเขาคือเจ้าของดินแดนที่แท้จริงอย่างนั้นหรือ
ไม่ใช่…
จอมเวทย์กำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดที่สับสน
เจ้าของดินแดนผู้ถูกเลือกต้องปรากฏตัวขึ้นแล้ว มิเช่นนั้นท่านจอมเวทย์ไม่มีทางถูกลงโทษ
หรือว่าเจ้าของดินแดนที่ถูกเลือกมีความเกี่ยวข้องกับจักรพรรดินีแห่งต้าโจวและอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน ทว่า วันนี้ไม่ได้มายังสถานที่นี้ด้วยกันแน่
หลี่เทียนฟู่นั่งนิ่งอยู่ที่เดิม หญิงสาวมองไปทางซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นแวบหนึ่ง จากนั้นแสยะยิ้มเย็นออกมา นางเตือนซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นไปนานแล้วว่าแทนที่จะมาเจรจาเชื่อมไมตรีเช่นนี้ไม่สู้เปิดศึกกับต้าโจวด้วยกองทัพช้างเลยดีกว่า มีเพียงดินแดนที่ยึดได้จากกำลังทหารเท่านั้นจึงจะกลายเป็นดินแดนของพวกเขาอย่างแท้จริง
ตอนนี้ต้าเยี่ยนกับต้าโจวทำสัญญาเป็นพันธมิตรกันแล้ว ไม่ว่าโจมตีแคว้นใด อีกแคว้นจะส่งกำลังมาช่วยเหลือทันที
หลี่เทียนฟู่ลุกขึ้นยืนพลางมองไปทางไป๋ชิงเหยียน “ไป๋ชิงเหยียน เจ้าคงยังไม่ลืมสัญญาสามปีที่ทำไว้กับอวิ๋นพั่วสิงใช่หรือไม่”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า
“ข้ายังไม่เคยลืมความแค้นของลู่เทียนจัวเช่นเดียวกัน ซีเหลียงและต้าโจวต้องทำสงครามกันแน่นอน!”
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางหลี่เทียนฟู่ด้วยสีหน้าราบเรียบราวกับตั้งใจฟังสิ่งที่นางกล่าว
“จักรพรรดินีแห่งซีเหลียง…” ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นขมวดคิ้วแน่น
หลี่เทียนฟู่ทำเป็นไม่ได้ยิน หญิงสาวหันไปมองมู่หรงเหยี่ยนและมู่หรงลี่ “ต้าเยี่ยนเคยทำสัญญากับหรงตี๋ว่าจะไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับซีเหลียงเป็นเวลาสามปี”
ไป๋จิ่นจื้อได้ยินจึงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ สาวน้อยหันไปมองหลี่เทียนฟู่ “ไม่มีหรงตี๋อีกต่อไปแล้ว บัดนี้หรงตี๋คือดินแดนของต้าโจว องค์หญิงแห่งซีเหลียงไม่ทราบอย่างนั้นหรือ”
“ข้าไม่สนใจ! ในเมื่อต้าเยี่ยนเคยทำสัญญากับหรงตี๋ว่าจะไม่ยุ่งกับซีเหลียงเป็นเวลาสามปี เช่นนั้นต้าเยี่ยนก็ห้ามเข้ามาวุ่นวายกับซีเหลียงในสามปีนี้เด็ดขาด!” หลี่เทียนฟู่แสดงความเขลาออกมาอย่างชัดเจน
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นกำหมัดแน่น เขาเกือบข่มไอสังหารที่แผ่ออกมาจากร่างของตัวเองไว้ไม่ได้ เหตุใดใต้หล้าถึงได้มีคนที่โง่เขลาอย่างหลี่เทียนฟู่อยู่กัน ทำประโยชน์ไม่ได้ ทั้งยังทำเสียเรื่องอีกต่างหาก จักรพรรดิแห่งซีเหลียงมอบความฉลาดให้หลี่เทียนเจียวหมด เหลือเพียงความโง่เขลาให้หลี่เทียนฟู่อย่างนั้นหรือ!
ซ่าเอ่อร์เข่อฮั่นที่แทบข่มโทสะไว้ไม่อยู่หยิบหยกจักจั่นออกมาจากแขนเสื้อ กำไว้ในมือแน่น เขาไม่อยากสนทนากับหลี่เทียนฟู่ผู้โง่เขลาคนนี้
ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองไปทางหลี่เทียนฟู่ จากนั้นยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
ไป๋จิ่นจื้อโกรธจนหัวเราะกับคำกล่าวที่ว่า “ข้าไม่สน” ของหลี่เทียนฟู่
“ถึงแม้เจ้าจะสนใจ ทว่า ผู้ใดให้สิทธิ์เจ้าสนใจกัน เจ้าถือสิทธิ์อันใดเข้ามาวุ่นวายเรื่องเหล่านี้ อาศัยความหน้าหนาของซีเหลียงอย่างนั้นหรือ” ไป๋จิ่นจื้อไม่รู้จริงๆ ว่าหลี่เทียนฟู่กินสิ่งใดเติบโตขึ้นเช่นนี้ “เจ้าคิดว่าพวกเราคือแม่ของเจ้าที่ต้องตามใจเจ้าหรืออย่างไร ยังมีหน้ากล่าวว่าไม่สนอีก! หากต้องการเอาแต่ใจตัวเองหรือระบายอารมณ์จงกลับไปทำที่ซีเหลียงของเจ้า อย่ามาทำตัวน่าขยะแขยงที่นี่! ที่นี่คือสถานที่เจรจาเชื่อมไมตรีของสี่แคว้น ไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะระบายอารมณ์ได้!”
สีหน้าของหลี่เทียนฟู่ย่ำแย่ถึงขีดสุด เมื่อเห็นว่ามู่หรงลี่ดูจะควบคุมได้ง่าย นางจึงกล่าวขึ้น “จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนไม่คิดรักษาสัญญาอย่างนั้นหรือ”
ไม่รอให้มู่หรงลี่กล่าวสิ่งใด มู่หรงเหยี่ยนชิงกล่าวขึ้นก่อน
“สัญญาสิ้นสุดลงแล้ว บัดนี้ไม่มีหรงตี๋อีกต่อไป องค์หญิงซีเหลียงคิดว่าจะใช้สัญญานี้ผูกมัดต้าเยี่ยนอยู่ฝ่ายเดียวได้อย่างนั้นหรือ” สายตาเย็นชาของมู่หรงเหยี่ยนมองไปทางหลี่เทียนฟู่ จากนั้นกล่าวขู่ “ข้าขอยืมคำกล่าวของเกาอี้จวินมาใช้ องค์หญิงซีเหลียงถือสิทธิ์อันใดจึงกล่าวเช่นนี้ อาศัยความหน้าไม่อายของซีเหลียงอย่างนั้นหรือ”
น้ำเสียงที่เดิมทีทุ้มต่ำอยู่แล้วของมู่หรงเหยี่ยนแฝงไปด้วยความข่มขู่ หลี่เทียนฟู่ฟังแล้วรู้สึกบาดหูจนอยากชักดาบฟันไปที่ร่างของอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน
หลี่เทียนฟู่ที่เดือดดาลจนถึงขีดสุดแสยะยิ้มเย็นออกมา “ต้าเยี่ยนมีแคว้นต้าโจวผู้ยิ่งใหญ่เป็นที่พึ่งแล้วจึงอยากร่วมมือกับต้าโจวรังแกซีเหลียงอย่างนั้นหรือ!”
เซ่อเอ่อร์เข่อฮั่นกำหยกจักจั่นในมือแน่น เขาข่มไอสังหารต่อไปไม่ไหว เขาหลับตาลง การเจรจาในวันนี้วุ่นวายเพราะการอาละวาดของหลี่เทียนฟู่เพียงคนเดียว