สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1120 สมเหตุสมผล
ตอนที่ 1120 สมเหตุสมผล
เสิ่นเหลียงอวี้รับคำแล้วเดินตามไป๋ชิงเหยียนไป เมื่อเหลือบเห็นกระบอกใส่ลูกธนูที่ว่างเปล่าของหญิงสาว ความนับถือและเคารพในตัวหญิงสาวจึงยิ่งเพิ่มมากขึ้นจนเขาแทบควบคุมไม่อยู่
เสิ่นเหลียงอวี้อยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียนโดยตลอด อยู่ใกล้กันถึงเพียงนี้ ทว่า เสิ่นเหลียงอวี้ไม่เห็นตอนที่หญิงสาวหยิบลูกธนูออกมายิงแม้แต่น้อย…บัดนี้กระบอกลูกธนูของหญิงสาวกลับว่างเปล่าลงแล้ว
เสิ่นเหลียงอวี้รู้สึกอึ้งมาก ต่อให้รองแม่ทัพใหญ่ไป๋ฉีซานยังมีชีวิตอยู่ก็คงทำไม่ได้เหมือนไป๋ชิงเหยียนในตอนนี้!
เสิ่นเหลียงอวี้กำหมัดแน่น เขานึกถึงตอนที่ไป๋ชิงเหยียนปลดถุงทรายออกจากร่าง นึกถึงเสียงวัตถุขนาดใหญ่หล่นตุบลงบนพื้น ถุงทรายเหล่านั้นต้องหนักมากแน่นอนถึงสามารถทำให้การฝึกฝนมีประสิทธิภาพได้ถึงเพียงนี้ เสิ่นเหลียงอวี้เริ่มคิดวางแผนนำวิธีการฝึกฝนในชีวิตประจำวันของไป๋ชิงเหยียนไปใช้กับทหารค่ายหู่อิงแล้ว ไม่แน่อาจได้ผลดียิ่งกว่าเดิม
ภูเขาไหลอัน
ท่ามกลางแสงสลัวของเงามืดในป่าทึบที่มีหิมะตกโปรยปราย
เสียงอาวุธกระทบกันและเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังออกมาจากกลางหุบเขา
จำนวนทหารในกองทัพหั่วอวิ๋นเหลืออีกไม่มากหลังจากถูกโจมตีด้วยฝนธนูหลายชุด ทหารค่ายหู่อิงบุกลงมาไปโจมตีทหารค่ายหั่วอวิ๋นจากเนินเขาสูง
อวิ๋นพั่วสิงถูกยิงตกจากหลังม้า เขากำหน้าอกของตัวเองแน่น เลือดสดไหลทะลักออกมาจากปากไม่หยุดหย่อน กองทัพหั่วอวิ๋นลากร่างของอวิ๋นพั่วสิงถอยหลังหนีไปเรื่อยๆ พลางใช้ดาบฟันลูกธนูคมที่พุ่งโจมตีมาทางพวกเขาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
อวิ๋นพั่วสิงขบกรามแน่น โพรงปากเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ใจของเขาเต้นรัวอย่างรุนแรง กองทัพไป๋เหล่านี้มาจากที่ใดกัน!
เมื่อครู่เขารู้สึกว่ามีกับดักซุ่มอยู่บริเวณใกล้เคียง เขาคิดว่าอาจเป็นกองกำลังคุ้มกันเมืองผิงหยาง คนเหล่านั้นไม่มีทางสู้กองทัพหั่วอวิ๋นของเขาได้เขาจึงคิดใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ ให้ทหารส่วนหนึ่งของกองทัพหั่วอวิ๋นล่วงหน้าไปช่วยเหลือจักรพรรดินีหลี่เทียนเจียวของซีเหลียงก่อน
ทว่า ผู้ใดจะคิดว่าคนที่บุกออกมาจะเป็นเฉิงหย่วนจื้อแห่งกองทัพไป๋ เมื่อเขาแบ่งกองกำลังออกเป็นสองส่วนจึงทำให้กองทัพของซีเหลียงในตอนนี้ตกอยู่ในอันตราย
กองทัพไป๋ในสังกัดของเฉิงหย่วนจื้อแข็งแกร่งกว่ากองทัพหั่วอวิ๋นของเขามาก
ต้าโจวดักซุ่มโจมตีอยู่หลังต้นไม้ทางสองด้านของหุบเขาอย่างเงียบเชียบ ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงลมหายใจ พวกเขาเดินเข้ามาติดกับวงล้อมของต้าโจวจนไม่มีทางถอยหนี เมื่อได้สติจึงรู้ว่าตัวเองติดกับเข้าให้แล้ว
ทว่า สิ่งที่อวิ๋นพั่วสิงเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้คือบุตรชายและหลานชายของเขา!
หากเฉิงหย่วนจื้อดักซุ่มอยู่ที่นี่แสดงว่าการที่กองทัพหั่วอวิ๋นบุกเข้าไปในเมืองผิงหยางได้ง่ายดายและรวดเร็วเพียงนั้นคือแผนการของไป๋ชิงเหยียนเช่นเดียวกัน!
สงครามที่หุบเขาเวิ่งทำให้พวกที่รอดชีวิตกลับมาหวาดกลัวอยู่จนถึงตอนนี้ หากถูกโจมตีอีกครั้ง…ครั้งนี้ความกลัวคงทวีความรุนแรงกว่าครั้งนี้แล้วแน่…
บัดนี้อวิ๋นพั่วสิงไม่มีทางถอยหนีแล้ว หากมุ่งหน้าไปช่วยเหลือหลี่เทียนเจียวในป่าลึกของหุบเขาไหลอัน พวกเขาไม่เพียงต้องเผชิญหน้ากับกองทัพใหญ่ของต้าโจวที่ไป๋ชิงเหยียนส่งไปจับตัวหลี่เทียนเจียว พวกเขายังถูกไล่ต้อนด้วยกองทัพไป๋ของเฉิงหย่วนจื้ออีกด้วย!
ทว่า หากย้อนกลับไปยังเมืองผิงหยาง ผลลัพธ์ที่ได้ก็คงไม่ต่างกัน!
ทว่า ในฐานะแม่ทัพใหญ่ฝู่กั๋วของแคว้นซีเหลียง เขาจะทอดทิ้งจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงไปโดยไม่ช่วยเหลือไม่ได้เด็ดขาด!
อวิ๋นพั่วสิงขบกรามแน่น จากนั้นตะโกนเสียงดังลั่น “ทหารทุกคน! บุกไปช่วยฝ่าบาทออกมาให้ได้! เราจะปล่อยให้จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงถูกต้าโจวจับตัวไปไม่ได้เด็ดขาด พวกเขาไม่มีทางหนีแล้ว ฝ่าวงล้อมออกไปให้ได้ไม่ว่าต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม!”
เฉิงหย่วนจื้อชักดาบของตัวเองออกมาจากร่างของทหารกองทัพหั่วอวิ๋นคนหนึ่ง เลือดสาดสายกระจายทั่งบริเวณ เฉิงหย่วนจื้อแยกไม่ออกแล้วว่าเลือดที่เปื้อนอยู่ตามเสื้อผ้าของเขาคือเลือดของตัวเองหรือของกองทัพหั่วอวิ๋นกันแน่
“ยังไม่ยอมจำนนอีกหรือ!” เดิมทีเสียงของเฉิงหย่วนจื้อแหบกร้านเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อตวาดออกมาสุดเสียงจึงทำให้คนรู้สึกเหมือนต้นไม้ในป่าทึบกำลังสั่นไหว หิมะที่เกาะอยู่บนใบไม้ร่วงลงสู่บนพื้น
“อวิ๋นพั่วสิง ซีเหลียงของพวกเจ้าพ่ายแพ้แล้ว หากเจ้ายอมแพ้ หากเจ้ายอมแลกชีวิตของเจ้าเพียงคนเดียวยังสามารถปกป้องชีวิตของทหารเหล่านี้ไว้ได้!”
ทว่า อวิ๋นพั่วสิงไม่ใช่คนของกองทัพไป๋ เขาไม่อยากฝากชีวิตของทหารในกองทัพของตัวเองไว้กับคำสัญญาของศัตรู อวิ๋นพั่วสิงสะบัดมือของทหารกองทัพหั่วอวิ๋นที่ประคองเขาออก หักปลายธนูที่ปักอยู่บนหน้าอกของเขาทิ้ง จากนั้นชักดาบออกมา เขารู้ดีว่าตอนนี้เขาไม่มีทางหนีแล้ว!
อวิ๋นพั่วสิงขบกรามแน่น เขาไม่สนใจเลือดสดที่ไหลทะลักออกมาจากบาดแผลบริเวณหน้าอก เขานำทหารบุกเข้าไปด้านหน้าราวกับต้องการสู้ให้ตายกันไปข้างกับเฉิงหย่วนจื้อ
เป้าหมายของเฉิงหย่วนจื้อชัดเจน เขาจ้องไปยังร่างที่โซเซไปมาเพราะเสียเลือดมากของอวิ๋นพั่วสิง จากนั้นกระโดดเหยียบบ่าและศีรษะของทหารคนหนึ่งในกองทัพหั่วอวิ๋นเพื่อพุ่งตรงไปยังร่างของอวิ๋นพั่วสิง
อวิ๋นพั่วสิงเบิกตาโพลงมองไปทางเฉิงหย่วนจื้อที่พุ่งดาบมาทางเขา จากนั้นถอยหลังหนีสุดชีวิต…ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
‘เพล้ง!’
ดาบสองเล่มปะทะกัน ดาบของอวิ๋นพั่วสิงหักเป็นสองท่อน ดาบคมของเฉิงหย่วนจื้อแทงทะลุเสื้อเกราะเหล็กของอวิ๋นพั่วสิงปักลงที่หัวไหล่ของเขาเต็มแรง หากอวิ๋นพั่วสิงไม่ใช้เกราะที่แขนของตัวเองต้านทานเอาไว้ แขนของเขาคงขาดไปแล้วแน่นอน
ดวงตาสองข้างของอวิ๋นพั่วสิงไหววูบ เขานึกไม่ถึงเลยว่าไม่ได้เผชิญหน้ากันไม่กี่ปี ดาบของเฉิงหย่วนจื้อจะแหลมคมถึงเพียงนี้! มันแข็งแกร่งกว่าอาวุธของเทียนเฟิ่งด้วยซ้ำ นี่มันเกิดอันใดขึ้นกัน!
เฉิงหย่วนจื้อมองไปทางอวิ๋นพั่วสิงด้วยดวงตาที่แดงฉาน เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีกดให้อวิ๋นพั่วสิงคุกเข่าลงบนพื้น