สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1166 ทำลายแคว้นให้ดับสูญ
ตอนที่ 1166 ทำลายแคว้นให้ดับสูญ
“รู้หรือไม่ว่าเหตุใดด่านเย่เฉิงต้องถูกทำลายโดยกองทัพไป๋เท่านั้น”
ไป๋ชิงเหยียนหยัดกายมองตรงไปยังทหารทุกคนท่ามกลางธงเฮยฟานไป๋หมั่งที่โบกสะบัดกลางอากาศ
“เพราะซีเหลียงมีความแค้นที่ยังไม่ได้รับการสะสางกับกองทัพไป๋!”
พวกของไป๋ชิงฉีกำบังเหียนม้าแน่น พวกเขามองม้าศึกไท่ผิงของพี่หญิงใหญ่ที่ย่ำเท้าไปมาอย่างคึกคะนองอยู่ด้านหน้าสุดของกองทัพ เลือดกายของทุกคนเดือดพล่านเช่นเดียวกัน
“สามปีที่แล้ว! ตอนนั้นกองทัพไป๋ของพวกเราสูญเสียอย่างหนักในสงครามหนานเจียง กองทัพไป๋เหลือกองทัพเพียงหนึ่งหมื่นนายในสังกัดของแม่ทัพเสิ่นุคุนหยางและเฉิงหย่วนจื้อเท่านั้น เมื่อสงครามที่หนานเจียงสิ้นสุดลงทหารกองทัพไป๋เหลือไม่ถึงแปดพันนาย!”
ไป๋ชิงเหยียนตะโกนเสียงดังลั่น แต่ละคำหนักแน่นและชัดเจน
“วันนี้คนที่อยู่ในที่นี้มีทั้งทหารเก่าแก่ของกองทัพไป๋และคนใหม่ที่เพิ่งมาเข้าร่วมกับกองทัพไป๋! พวกเราสวมชุดนักรบมายืนอยู่ตรงนี้เพื่อแก้แค้นให้กองทัพไป๋! เราจะทำให้ซีเหลียงรู้ว่าเมื่อพวกเขาไม่สามารถใช้แผนการชั่วร้ายกับพวกเราได้อีกต่อไปพวกเขาไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเราได้!”
ม้าศึกไท่ผิงของไป๋ชิงเหยียนเหมือนจะรับรู้ความรู้สึกของหญิงสาว มันส่งเสียงร้องออกมาหนึ่งครั้ง
ไป๋ชิงเหยียนจับบังเหียนม้าไว้พลางตะโกนลั่น
“พวกเราจะทำให้ซีเหลียงรับรู้ว่าด่านเย่เฉิงที่พวกเขาคิดว่าเป็นป้อมปราการเหล็กที่แข็งแกร่งที่สุดของซีเหลียงไม่มีความน่ากลัวแม้แต่น้อยในสายตาของพวกเรา เมื่อยึดด่านเย่เฉิงได้ซีเหลียงก็เหมือนลูกไก่ในกำมือของต้าโจว พวกเราอดทนเก็บปีกของตัวเองมาสามปี วันนี้มีเพียงทำลายล้างซีเหลียงให้ดับสูญเท่านั้นจึงเรียกได้ว่าแก้แค้นให้ชาวบ้าน ทหารและทหารกองทัพไป๋ที่เสียชีวิตไปแล้วได้สำเร็จ”
“ทำลายแคว้นให้ดับสูญ แก้แค้น!”
“ทำลายแคว้นให้ดับสูญ แก้แค้น!”
“ทำลายแคว้นให้ดับสูญ แก้แค้น!”
ทุกคนในกองทัพไป๋เลือดร้อนขึ้นมาทันที พวกแทบอยากบุกไปทำลายซีเหลียงให้ดับสูญตั้งแต่ตอนนี้เลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารเก่าแก่ของกองทัพไป๋ ขอบตาของพวกเขาทุกคนร้อนผ่าว สามปีที่แล้วเสี่ยวไป๋ไซว่ของพวกเขาบอกว่าจะพาพวกเขาไปแก้แค้นให้กองทัพไป๋! พวกเขาเคยคิดว่าเมื่อเสี่ยวไป๋ไซว่ขึ้นครองราชย์สำเร็จหญิงสาวอาจจะไม่ช่วยพวกเขาแก้แค้นอีกต่อไป
บัดนี้แม้เสี่ยวไป๋ไซว่จะตั้งครรภ์อยู่ ทว่า นางยังคงรักษาสัญญาที่นางเคยให้ไว้
ทหารเก่าแก่ของกองทัพไป๋อย่างพวกเขารอคอยวันนี้มาตลอด พวกเขาไม่มีโอกาสเข้าร่วมสงครามสังหารอวิ๋นพั่วสิงในครั้งนั้น วันนี้พวกเขาจะสละชีพของตัวเองโจมตีด่านเย่เฉิงให้แตกให้ได้เพื่อทำลายซีเหลียงให้ดับสูญ เช่นนี้ดวงวิญญาณของท่านแม่ทัพใหญ่ ท่านรองแม่ทัพ แม่ทัพตระกูลไป๋และสหายในกองทัพไป๋ทุกคนจะได้ไปสู่สุขคติ
ไป๋ชิงเหยียนชูมือที่ถือธนูเซ่อรื้อขึ้นสูง จากนั้นตะโกนเสียงดังสุดเสียง
“ออกเดินทาง!”
“ออกเดินทาง!”
ไป๋ชิงฉีถ่ายทอดคำสั่ง
“ออกเดินทาง!”
เสียงถ่ายทอดคำสั่งดังราวกับคลื่นลูกใหญ่ที่ไหลจากด้านหน้าสุดของขบวนไปยังด้านหลังสุด
ไป๋ชิงเหยียนหันม้ากลับพลางควบม้าไปอยู่ด้านหน้าสุดของขบวน ไป๋ชิงฉีพาน้องชายและน้องสาวขี่ม้าตามไป๋ชิงเหยียนไปติดๆ พลทหารม้าในชุดเกราะสีดำขี่ม้าตามอยู่ทางด้านหลัง เสียงฝีเท้าม้าและเสื้อเกราะกระทบกันดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
ขบวนยาวราวกับมังกรของกองทัพไป๋เคลื่อนทัพมุ่งหน้าไปยังด่านเย่เฉิงอย่างยิ่งใหญ่และฮึกเหิมจักรพรรดินีแห่งต้าโจวที่กำลังตั้งครรภ์นำทัพออกรบด้วยตัวเอง นางสาบานว่าจะยึดด่านเย่เฉิงมาให้ได้
ร่างของแม่ทัพตระกูลไป๋ซึ่งสวมชุดเกราะเงินและธงเฮยฟานไป๋หมั่งปรากฏตัวขึ้นในแผ่นดินที่กว้างใหญ่ของซีเหลียงอีกครั้ง ไม่ว่าไป๋ชิงเหยียนที่ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินีแห่งต้าโจวแล้วหรือไป๋ชิงอวิ๋นที่สูญเสียขาทั้งสองข้างไป พวกเขาล้วนสืบทอดปณิธานต่อจากบรรพบุรุษของตัวเอง เป้าหมายของพวกเขาคือการรวบรวมใต้หล้าเป็นหนึ่ง คือการสานฝันของบรรพบุรุษให้เป็นจริง
เวลาเดียวกันนั้นเองท้องฟ้าเหนือเมืองสยาเจี้ยนเริ่มมืดครึ้มลง สายฟ้าแลบแปลบๆ อยู่บนท้องฟ้าที่มืดหม่น จากนั้นตามมาด้วยเสียงคำรามของสายฟ้าดังมาจากท้องฟ้าที่อยู่ห่างออกไป ดูเหมือนพายุฝนกำลังจะตกลงมาในเดือนหนึ่ง ถือเป็นลางร้ายชัดๆ
แม่ทัพคุ้มกันเมืองสยาเจี้ยนมองไปยังเมฆก้อนดำทะมึนที่กำลังคืบคลานมายังเมืองสยาเจี้ยน พวกเขามองไม่เห็นสายฟ้าที่แลบอยู่บนท้องฟ้าด้วยซ้ำ เห็นเพียงเมฆก้อนดำส่องสว่างขึ้นเป็นพักๆ เท่านั้น
ขณะที่ทหารทุกคนของเมืองสยาเจี้ยนกำลังมองดูเมฆดำบนท้องฟ้าซึ่งถูกสายฟ้าครอบงำอย่างสนใจ ทหารหน่วยสอดแนมของเมืองสยาเจี้ยนรีบขี่ม้าเร็วเข้ามารายงานเสียงดังลั่น
“ข้าศึกบุกมาแล้ว ข้าศึกบุกแล้ว!”
ทหารหน่วยสอดแนมรายงานจบก็พลัดตกลงจากหลังม้าทันทีโดยที่ร่างเต็มไปด้วยเลือด
แม่ทัพคุ้มกันเมืองสยาเจี้ยนเห็นทหารหน่วยสอดแนมจึงรีบก้าวไปด้านหน้าพลางมองไปยังเบื้องหน้าที่ห่างไกลออกไป
ฟ้าแลบบนท้องฟ้าจนท้องฟ้าสว่างขึ้นอีกครั้ง ในที่สุดแม่ทัพคุ้มกันเมืองสยาเจี้ยนจึงมองเห็นร่างของไป๋จิ่นจื้อในชุดเกราะสีเงินซึ่งถือหอกเงินหงอิงยาวอยู่ในมือนั่งอยู่บนหลังม้าผิงอันและพลทหารม้าเหล็กในชุดเกราะสีดำซึ่งอยู่เบื้องหลังหญิงสาวภายใต้ธงเฮยฟานไป๋หมั่งอย่างชัดเจน ขบวนทัพที่ทอดยาวจนไม่เห็นจุดสิ้นสุดกำลังมุ่งหน้ามายังเมืองสยาเจี้ยนราวกับน้ำป่าที่กำลังไหลหลาก ท่าทีของพวกเขาดุดันราวกับสัตว์ร้ายที่เพิ่งถูกปลุกให้ตื่นขึ้น
“ข้าศึกบุกแล้ว รีบเป่าแตรศึกเตรียมรบ เร็ว!”
แม่ทัพคุ้มกันเมืองสยาเจี้ยนตะโกนสุดเสียง
“เครื่องยิงธนูเตรียมพร้อม พลธนูเตรียมพร้อม เตรียมน้ำมันและไฟเร็วเข้า!”
ไป๋จิ่นจื้อชูหอกเงินหงอิงในมือขึ้นสูง พลทหารม้าเหล็กชูดาบในมือขึ้นสูง เสียงโห่ร้องพร้อมรบดังสนั่นไปทั่วบริเวณท่ามกลางเสียงฟ้าผ่า
ภายในด่านเย่เฉิง
เย่โส่วกวนชักดาบชี้ไปทางคนสนิทของตัวเองด้วยดวงตาแดงฉาน
“ข้าเชื่อใจเจ้าถึงเพียงนี้ เหตุใดเจ้าจึงกล้าทรยศข้า! เจ้าคือคนของซีเหลียง เหตุใดจึงกล้าทรยศซีเหลียงกัน!”
บ่าวรับใช้ตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ทว่า เขากัดฟันกรอดไม่ยอมกล่าวสิ่งใดออกมาทั้งสิ้น
“ท่านลุง!”
ซือหม่ารั่วตานคลานเข่าไปด้านหน้า จากนั้นก้มศีรษะคำนับแนบพื้นโดยไม่สนร่างที่สะบักสะบอมของตัวเอง “ข้าผิดเองเจ้าค่ะ ข้าเป็นคนขอร้องให้บ่าวผู้นี้ขโมยป้ายคำสั่งของท่านลุงเองเจ้าค่ะ! จักรพรรดินีแห่งต้าโจวทราบว่าต้องมีป้ายคำสั่งของท่านลุงจึงจะสามารถเปิดประตูด่านได้ นางใช้ชีวิตของท่านพ่อ ท่านแม่และน้องชายของข้าข่มขู่ให้ข้ามาขโมยป้ายคำสั่งของท่านลุง มิเช่นนั้นนางจะสังหารท่านพ่อและท่านแม่ของข้าเจ้าค่ะ ท่านลุง…ฝ่าบาทของพวกเราถูกต้าโจวจับตัวไปจริงๆ เจ้าค่ะ ข้าเห็นกับตาของตัวเอง ซีเหลียงใกล้จะพ่ายแพ้แล้ว ท่านลุงได้โปรดเห็นแก่ที่ท่านแม่มีสายเลือดเดียวกับท่านลุงช่วยท่านพ่อ ท่านแม่และน้องชายของข้าด้วยเถิดเจ้าค่ะ ขอร้องเถิดเจ้าค่ะท่านลุง!”
ซือหม่ารั่วตานร้องไห้สะอื้นจนตัวโยน ทว่า นางกล่าวทุกถ้อยคำออกมาอย่างชัดเจน
“ข้าคือคนซีเหลียงจริง ทว่า จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงของพวกเราถูกจับได้แล้ว ซีเหลียงยังมีความหวังใดอยู่เจ้าคะ! ท่านลุงหวาดกลัวจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเหมือนกันไม่ใช่หรือเจ้าคะ ถึงแม้จะรู้ว่าฝ่าบาทถูกจับตัวอยู่ในเมืองซุ่นหนิง ท่านลุงก็ยังไม่กล้ายกทัพไปช่วยพระองค์เลย ถึงแม้ท่านลุงจะยืนกรานอยู่คุ้มกันด่านเย่เฉิง ไม่ยอมไปช่วยเหลือฝ่าบาท ทว่า ท่านลุงก็ควรหาทางช่วยท่านพ่อ ท่านแม่และน้องชายของข้าสิเจ้าคะ ไม่ว่าอย่างไรนางก็คือน้องสาวแท้ๆ ของท่านนะเจ้าคะ!”
เสียงร้องไห้ของซือหม่ารั่วตานทำให้บรรดาทหารที่มาจับตัวนางและบ่าวรับใช้เริ่มหวาดกลัว นั่นสินะ…ฝ่าบาทถูกจับตัวไปแล้ว ซีเหลียงยังมีความหวังอันใดหลงเหลืออยู่อีกกัน ซีเหลียงยังมีวันข้างหน้าอีกหรือ
แม่ทัพคุ้มกันเมืองที่ตามมาภายหลังต่างมองหน้ากันไปมา พวกเขาคิดตามคำกล่าวของซือหม่ารั่วตาน เย่โส่วกวนจะตั้งตนขึ้นเป็นอ๋องเพื่อปกครองเมืองของตัวเองอย่างนั้นหรือถึงได้ไม่อนุญาตให้รองแม่ทัพจ้าวพาทหารไปช่วยเหลือฝ่าบาทเช่นนี้
“ไร้สาระ!” เย่โส่วกวนชี้ดาบยาวไปทางซือหม่ารั่วตานด้วยแววตาเกรี้ยวกราด ซือหม่ารั่วตานถอยหลังหนีไปด้วยความหวาดกลัว