สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1283 นับถืออย่างมาก
ตอนที่ 1283 นับถืออย่างมาก
ยกตัวอย่างเช่นถานเหยาจ้งหลานสาวของราชครูถาน หลู่เฟิ่งหลานหลานสาวของเขา ต่งถิงเจินบุตรสาวของต่งชิงผิง สตรีเหล่านี้มีประโยชน์ในราชสำนักมากกว่าบุรุษอีกหลายคน
สตรีที่สอบได้ตำแหน่งดีๆ ในการสอบขุนนางครั้งนี้ล้วนเป็นสตรีจากตระกูลสูงศักดิ์ นี่คือสิ่งที่อยู่ในความคาดหมายของหลู่ไท่เว่ย
ชาวบ้านธรรมดาครอบครัวใดจะเสียเงินส่งบุตรสาวไปร่ำเรียน แค่เตรียมสินเดิมให้พวกนางยามพวกนางพร้อมออกเรือนก็ถือว่าทำดีต่อพวกนางมากแล้ว มีเพียงสตรีของตระกูลสูงศักดิ์เท่านั้นที่มีโอกาสร่ำเรียนเหมือนบุรุษ
ทว่า หลังจากนี้อีกสิบปีหรือหลายสิบปี…เมื่อระบอบการปกครองนี้มั่นคงกว่านี้ ต้าโจวจะมีสตรีมีความสามารถอีกมากมายมาเป็นขุนนางรับใช้แคว้น เช่นนี้ต้าโจวจะไม่ได้มีเพียงคนมีความสามารถจำนวนมากเท่านั้น คุณภาพของชาวบ้านของแคว้นต้าโจวจะยิ่งสูงขึ้นด้วย
ราชสำนักของต้าโจวต้องดีขึ้นกว่านี้อีกแน่นอน
“หลู่ไท่เว่ยกล่าวเช่นนี้ข้าก็สบายใจแล้ว…” ไป๋ชิงเหยียนยิ้มกว้างกว่าเดิม
“ทว่า กระหม่อมยังมีเรื่องสงสัยอยู่เล็กน้อยพ่ะย่ะค่ะ” เสิ่นจิ้งจงวางจดหมายของมู่หรงลี่ในมือลง จากนั้นดันไปให้ไป๋ชิงเหยียนอย่างนอบน้อมพลางกล่าวขึ้น “ตอนนี้ต้าโจวมีทั้งความสามารถและกำลังทหารมากกว่าต้าเยี่ยน หากจะแข่งขันกันด้วยระบอบการปกครองจริงๆ ต้าโจวถือว่าได้เปรียบกว่าต้าเยี่ยน ต้าเยี่ยนไม่รู้เหตุผลนี้หรือ เหตุใดเขายังกล้าพนันกับพวกเราเช่นนี้อีกพ่ะย่ะค่ะ”
ต่งชิงผิงรีบออกมาปกป้องหลานสาวของตัวเองโดยไม่รอให้เสิ่นซือคงกล่าวจบ
“หากไม่ทำเช่นนี้ ต้าเยี่ยนจะทำเช่นไรได้อีก!” แม้ต่งชิงผิงจะไม่ใช่ทหาร ทว่า เขาพอใจเข้าเรื่องนี้อยู่บ้าง “ตอนนี้ต้าโจวแข็งแกร่งกว่าต้าเยี่ยน กองกำลังหลักของต้าเยี่ยนในตอนนี้อยู่ที่ซีเหลียง ส่วนกองทัพของต้าโจวบุกประชิดอยู่ที่ชายแดนต้าเยี่ยนแล้ว พวกเราพร้อมบุกโจมตีเมืองหลวงของต้าเยี่ยนทุกเมื่อ! ครั้งนี้ไทเฮาของต้าเยี่ยนแทงข้างหลังต้าโจวก่อน พวกเรามีเหตุผลในการบุกโจมตีโดยชอบธรรม หากต้าเยี่ยนไม่ใช้วิธีนี้เพื่อเอาตัวรอด พวกเขาจะทนให้กองทัพต้าโจวควบคุมกำลังหลักของพวกเขาไว้ที่ซีเหลียงและปล่อยให้ต้าเยี่ยนดับสูญไปอย่างนั้นหรือ!”
ในความคิดของต่งชิงผิง หากต้าโจวและต้าเยี่ยนทำสงครามกันขึ้นมาจริงๆ ขอเพียงกองทัพหลักของเซี่ยสวินถูกควบคุมอยู่ที่ซีเหลียง ต้าโจวสามารถบุกไปจับตัวจักรพรรดิของต้าเยี่ยนได้อย่างง่ายดายเพราะตอนนี้กำลังทหารของต้าโจวมีมากกว่าต้าเยี่ยนหลายเท่า
“กระหม่อมแค่กลัวว่าเมื่อผลแพ้ชนะออกมาต้าเยี่ยนจะกลับคำ” เสิ่นจิ้งจงหันไปกล่าวกับต่งชิงผิง จากนั้นกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนต่อ “ตอนนี้ต้าเยี่ยนขาดแคลนเสบียงจึงทำสงครามไม่ได้ พวกเขาอาจวางกับดักหลอกล่อต้าโจว เมื่อต้าโจวให้เวลาต้าเยี่ยนสามปี สามปีหลังจากนี้ต้าเยี่ยนอาจพักฟื้นได้อย่างเต็มที่ หากพวกเขากลับคำและคิดโจมตีต้าโจวขึ้นมา ถึงเวลานั้นเรื่องคงไม่ง่ายเหมือนตอนนี้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ความจริงหลู่ไท่เว่ยกังวลในสิ่งที่เสิ่นจิ้งจงกังวลเช่นเดียวกัน พวกเขารู้จักนิสัยของจักรพรรดินีไป๋ชิงเหยียนของพวกเขาดี หากนางทำสัญญานี้กับต้าเยี่ยนแล้วนางไม่มีทางผิดสัญญาแน่นอน ทว่า พวกเขาไม่มั่นใจว่าต้าเยี่ยนจะรักษาสัญญาหรือไม่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนผู้นั้นไม่เพียงคือคนที่ทำได้ทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเอง เขายังเป็นคนอำมหิตโหดร้ายอีกด้วย พวกเขาไม่แน่ใจว่าอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนจะรักษาสัญญากับต้าโจวหรือไม่
ที่สำคัญต้าเยี่ยนในสายตาของขุนนางต้าโจวในตอนนี้ถูกควบคุมโดยอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการ ไทเฮาเป็นเพียงตำแหน่งที่อยู่ใต้อำนาจของผู้สำเร็จราชการเท่านั้น ตอนนี้ผู้ที่ควบคุมทุกอย่างอยู่ในกำมือคืออ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนเพียงคนเดียว
“ฝ่าบาท หากเป็นเช่นนั้น…” ต่งชิงผิงปรับน้ำเสียงของตัวเอง จากนั้นกล่าวต่อ “พวกเราต้องป้องกันไว้ก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ!”
“ข้าเป็นคนเสนอวิธีนี้ให้ต้าเยี่ยนเอง ต้าเยี่ยนไม่ได้เป็นคนวางกับดักนี้ให้พวกเรา ที่สำคัญข้ากับต้าเยี่ยนตกลงกันก่อนเริ่มทำสงครามที่ซีเหลียง…” ไป๋ชิงเหยียนสื่อให้ขุนนางทั้งสามดื่มชา จากนั้นนางจึงยกชาขึ้นดื่มเช่นเดียวกัน “ตอนแรกอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนไม่เห็นด้วย ต่อมาเมื่อเขากลับไปปรึกษากับจักรพรรดิมู่หรงลี่ มู่หรงลี่กลับเห็นด้วย ดังนั้นใต้เท้าทั้งสามไม่จำเป็นต้องระแวงว่านี่คือกับดักของต้าเยี่ยน”
“ฝ่าบาทเป็นคนเสนอหรือพ่ะย่ะค่ะ” หลู่ไท่เว่ยไม่อยากเชื่อ
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “หากยุติสงครามด้วยสงคราม ใช้ความรุนแรง ใช้เลือดของทหารเพื่อรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้ทหารสละชีวิตโดยเปล่าประโยชน์ ชาวบ้านจะได้รับความเดือดร้อนด้วยเช่นกัน ทว่า หากสองแคว้นสามารถตัดสินกันด้วยระบอบการปกครองได้ แคว้นใดทำให้ชาวบ้านของแคว้นมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่า เช่นนั้นเมื่อรวมสองแคว้นเป็นหนึ่งเรียบร้อยพวกเราจะใช้ระบอบการปกครองของแคว้นนั้นในการปกครองแคว้น ชาวบ้านต้องมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน”
เมื่อหลู่ไท่เว่ยได้ยินคำนี้ดวงตาของเขาไหววูบเล็กน้อย สีหน้าของเขาตื่นเต้นจนยากจะควบคุม
“การใช้วิธีนี้คือวิธีหลีกเลี่ยงความเสียหายที่เกิดจากสงคราม ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนน้อยที่สุดแต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแล้ว” น้ำเสียงของไป๋ชิงเหยียนแฝงไปด้วยความสบายใจ “หากทำสงคราม แม้พวกเราจะรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งได้สำเร็จ สุดท้ายพวกเราก็จะเหนื่อยล้า ชาวบ้านจะต้องทนทุกข์ทรมานจากสงครามไม่จบไม่สิ้น ไม่รู้ต้องใช้เวลาอีกกี่ปีในการสร้างแคว้นที่แข็งแกร่งและเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาอีกครั้ง ไม่รู้ว่าชาวบ้านต้องทุกข์ทรมานไปอีกกี่ปี”
หลู่ไท่เว่ย เสิ่นซือคงและต่งซือถูล้วนเคยได้ยินจักรพรรดิองค์ก่อนๆ ตรัสว่าอยากทำเพื่อราษฎรทุกคน ทว่า จักรพรรดิที่ทำเพื่อราษฎรอย่างแท้จริงมีอยู่สักกี่คนกันเชียว
จักรพรรดิทุกคนอาจเคยคิดอยากทำเพื่อราษฎรตอนที่พวกเขายังไม่ได้นั่งบนบัลลังก์แห่งนี้ ต่อมาเมื่อพวกเขาได้นั่งบนบัลลังก์ไม่ว่าจะโดยชอบธรรมหรือก่อกบฏ พวกเขามักคิดแต่จะปกป้องบัลลังก์ของตัวเองให้มั่นคงพวกเขามักในทำสิ่งที่อัปยศซึ่งไม่สามารถประกาศให้คนทั่วหล้ารับรู้ได้เพียงเพื่อความั่นคงของบัลลังก์ของตัวเอง
หลู่ไท่เว่ยเคยคิดมาตลอดว่านั่นคือเรื่องปกติ พวกเขาพยายามมามากเพื่อขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุดแห่งนั้น ผู้ใดจะอยากยกบัลลังก์นั่นให้ผู้อื่นอย่างง่ายดายกัน หากพวกเขาทำเพื่อชาวบ้านอย่างแท้จริงจะมีเหตุการณ์ที่ชาวบ้านถูกกดขี่จนรวมตัวกันก่อกบฏได้อย่างไร เหตุใดพวกเขาจึงยกบัลลังก์ต่อให้ทายาทของตัวเองทั้งๆ ที่รู้ว่าทายาทของเขาไร้คุณธรรมเพียงเพราะต้องการสืบทอดบัลลังก์ต่อให้สายเลือดของตัวเองกัน
ต่อให้เป็นจักรพรรดิที่ห่วงใยราษฎรจริงๆ พวกเขาก็จัดลำดับความสำคัญของชาวบ้านไว้หลังอำนาจและบัลลังก์ของตัวเองอยู่ดี ทว่า จักรพรรดิที่สามารถให้ความสำคัญกับชาวบ้านรองจากอำนาจของตัวเองก็ถือเป็นจักรพรรดิที่ดีมากแล้ว
ถึงแม้หลู่ไท่เว่ยจะนับถือคุณธรรมของตระกูลไป๋ แม้จะนับถือปณิธานของไป๋ชิงเหยียน ทว่า เขาไม่เคยคิดเลยว่าจักรพรรดินีของพวกเขาจะใช้ระบอบการปกครองตัดสินผลแพ้ชนะระหว่างสองแคว้นเพื่อชาวบ้านเช่นนี้ หญิงสาวให้ความสำคัญกับชาวบ้านมากกว่าอำนาจและบัลลังก์ของตัวเองจริงๆ
ความรู้สึกมากมายถาโถมขึ้นในใจของหลู่ไท่เว่ยจนยากจะควบคุม เขาใช้แขนเสื้อซับน้ำตาที่หางตาของตัวเองอย่างเสียมารยาทเป็นครั้งแรก
เขาก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียนแนบพื้นด้วยความจริงใจไม่ได้มีเจตนาประจบหญิงสาวแต่อย่างใด เขากล่าวกับไป๋ชิงเหยียนจากใจจริง “ฝ่าบาททรงพระทัยกว้าง รักและห่วงใยชาวบ้านอย่างแท้จริง กระหม่อมเทียบพระองค์ไม่ได้แม้แต่น้อย กระหม่อมนับถือฝ่าบาทยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ!”
ไป๋ชิงเหยียนทำให้หลู่ไท่เว่ยรู้สึกเหนือความคาดหมาย ซาบซึ้งและตื้นตันหลายต่อหลายครั้งตั้งแต่นางโค่นล้มราชวงศ์ต้าจิ้นและขึ้นเป็นจักรพรรดินีของต้าโจว