สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1289 ปลดจักรพรรดิ
ตอนที่ 1289 ปลดจักรพรรดิ
ไทเฮายิ่งกล่าวก็ยิ่งตื่นเต้น “ถึงเวลานั้นต้าโจวไม่เพียงจะสูญเสียอย่างหนัก พวกเขาจะถูกครหาจากคนทั่วใต้หล้าอีกด้วย ไป๋ชิงเหยียนเป็นคนฉลาดนางไม่มีทางไม่รู้เรื่องนี้ ไม่ว่าอย่างไรน้องชายของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวก็ยังมีชีวิตอยู่ ต้าเยี่ยนของพวกเรายอมรับผิดชอบจนถึงขนาดส่งไทเฮาแห่งต้าเยี่ยนอย่างข้าไปรับผิดด้วยตัวเองแล้ว”
ไทเฮาถอนหายใจยาวออกมาราวกับยกภูเขาออกจากอก จากนั้นกล่าวต่อเสียงเบา “ขอเพียงจักรพรรดินีแห่งต้าโจวไม่กล้าสังหารข้า พวกเราก็สามารถยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนรับตัวข้ากลับมายังต้าเยี่ยนได้ เช่นนี้ปัญหาของต้าเยี่ยนก็ถือว่าถูกแก้ไขแล้ว”
“จักรพรรดินีแห่งต้าโจวเป็นคนมีเป้าหมายชัดเจนและหนักแน่นมาก นางไม่มีทางยอมหยุดหรือเปลี่ยนแปลงเป้าหมายของตัวเองเพราะผู้ใดทั้งสิ้น…” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวเสียงขรึมราวกับกำลังผิดหวังและเสียใจมาก เขากระแอมออกมาเล็กน้อยจากนั้นกล่าวกับไทเฮาต่อ “หากต้าโจวมีเพียงข้ออ้างเดียวพวกเขาคงไม่กล้ายกทัพมาประชิดชายแดนต้าเยี่ยนเช่นนี้ เกรงว่าไทเฮายังเดินทางไปไม่ถึงชายแดนต้าโจว ต้าโจวก็คงบุกเข้ามาในแคว้นของพวกเราแล้ว หรือไม่พวกเขาก็อาจดักซุ่มสังหารไทเฮาจากนั้นตำหนิพวกเราว่าพวกเราแค่แสร้งทำเป็นจัดฉากให้ไทเฮาเดินทางไปยังต้าโจวเท่านั้น!”
“ทีนี้คนทั่วใต้หล้าก็จะสงสัยในราชวงศ์ต้าเยี่ยนของพวกเราเช่นเดิม” จงสิงเสี่ยวรีบกล่าวเสริมพลางก้มศีรษะคำนับทั้งน้ำตา “ได้ไม่คุ้มเสียพ่ะย่ะค่ะ…ไทเฮา”
จงสิงเสี่ยวไม่อยากให้ไทเฮาเดินทางไปต้าโจวแม้แต่น้อย หากไทเฮาจากไปตระกูลจงก็จะไม่มีที่พึ่งอีก หากไทเฮาเสียชีวิตอยู่ที่ต้าโจว ตระกูลจงคงจบสิ้นแน่นอน
เซียวหรงเหยี่ยนรู้ดีว่าไม่ว่าอย่างไรจงสิงเสี่ยวก็ไม่ทางปล่อยให้ไทเฮาเดินทางไปยังต้าโจวแน่นอน
ไทเฮาได้ยินคำของเซียวหรงเหยี่ยนจึงกำหมัดแน่น สีหน้าซีดเผือดลงเรื่อยๆ มือที่กำแน่นสั่นเทาด้วยความกลัว ดัก…สังหารนางกลางทางอย่างนั้นหรือ
“เช่นนั้น…จะทำเช่นไรดี” ไทเฮาที่เมื่อครู่มั่นใจเต็มร้อยเริ่มหวาดกลัวขึ้นมาทันที นางมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนอย่างขอความเห็น
นางเห็นเซียวหรงเหยี่ยนจับถุงเงินของตัวเองอย่างใช้ความคิด ครู่ใหญ่จึงกล่าวขึ้น “ขอเวลาข้าคิดสักพัก…”
“ท่านอาเก้าไม่จำเป็นต้องคิดแล้ว!” น้ำเสียงราบเรียบและนิ่งขรึมของมู่หรงลี่ดังมาจากทางด้านหลัง “เรา…ส่งทูตไปปรึกษาเรื่องนี้กับจักรพรรดินีแห่งต้าโจวที่เมืองหลวงเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้หวังหานปิงคงนำตราสัญลักษณ์ตัวแทนของเราเดินทางเข้าไปในแคว้นต้าโจวแล้ว เสด็จแม่กับท่านอาเก้าขัดขวางเราไม่ทันแล้ว”
“อาลี่!” ไทเฮาตวาดออกมาเสียงแหลม เขาถึงขนาดให้หวังหานปิงนำตราสัญลักษณ์ของเขาเดินทางไปยังต้าโจวแล้ว…เหตุใดอาลี่จึงกล้าถึงเพียงนี้!
“ท่านอาเก้า!” มู่หรงผิงมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนด้วยความกังวลใจเช่นเดียวกัน
“ฝ่าบาท! เหตุใดจึงวู่วามเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ!” แม้จงสิงเสี่ยวจะคาดไม่ถึง ทว่า ไม่รู้เหตุใดเขาจึงรู้สึกโล่งใจถึงเพียงนี้ อย่างน้อยตอนนี้ไทเฮาก็ไม่ต้องเดินทางไปรับผิดกับต้าโจวด้วยตัวเองแล้ว ตอนนี้ที่พึ่งของตระกูลจงยังอยู่
“วันนี้เราแค่อยากแจ้งให้ท่านอาเก้า เสด็จแม่และขุนนางทุกคนรับรู้เท่านั้น ไม่ว่าทุกคนจะอนุญาตให้เราทำหรือไม่…เราก็ทำลงไปแล้ว” มู่หรงลี่นั่งอยู่บนบัลลังก์ด้วยมาดของจักพรรดิของแคว้น จากนั้นกล่าวขึ้นช้าๆ “เราคือจักรพรรดิแห่งแคว้นต้าเยี่ยน เราต้องรับผิดชอบต่อต้าเยี่ยนทั้งแคว้น เราต้องรับผิดชอบชีวิตของทหารและชาวบ้านของต้าเยี่ยน หากเสด็จแม่และท่านอาเก้าคิดว่าเราทำผิดไปเช่นนั้นก็เชิญปลดเราออกจากตำแหน่งจักรพรรดิและประกาศต่อใต้หล้าว่าสาส์นที่เราให้หวังหานปิงนำไปยังต้าโจวไร้ผลได้เลย บางทีตอนนี้อาจยังทัน…”
“ดูเหมือนว่าฝ่าบาทจะปีกกล้าขาแข็งขึ้นทุกวันจนไม่จำเป็นต้องมีคนคอยช่วยบริหารแคว้นแล้ว” เซียวหรงเหยี่ยนมองไปทางมู่หรงลี่ด้วยแววตาเย็นชา จากนั้นเดินจากไปทันที
“อาเหยี่ยน!” ไทเฮาเอ่ยเรียกเซียวหรงเหยี่ยนด้วยความตกใจ ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนยังคงเดินออกไปจากตำหนักโดยไม่หันกลับมามองนางแม้แต่น้อย
“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องเก้า…” จงสิงเสี่ยวที่คุกเข่าอยู่บนพื้นกระเบื้องมันวาวเงยหน้ามองเซียวหรงเหยี่ยนที่กำลังเดินจากไปพลางตะโกนเรียก “ท่านอ๋องเก้าช่วยเกลี้ยกล่อมฝ่าบาทด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
เซียวหรงเหยี่ยนเปิดประตูตำหนักออก ขุนนางที่อยู่ด้านนอกรีบคุกเข่าลงบนพื้นทันที ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนเดินจากไปด้วยไอสังหารอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจพวกเขาแม้แต่น้อย จากนั้นพวกเขามองเห็นไทเฮาทรุดตัวลงนั่งบนพื้นในตำหนัก
มู่หรงผิงทำความเคารพไทเฮาและมู่หรงลี่เสร็จจึงกล่าวขึ้น “ฝ่าบาท เสด็จแม่ กระหม่อมไปช่วยโน้มน้าวท่านอาเก้าก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ”
บุตรชายของนางโตแล้วจริงๆ ถึงได้ทำเรื่องใหญ่เช่นนี้ลงไปโดยพลการโดยไม่ปรึกษานางหรืออาเก้าของเขาแม้แต่น้อย!
ตอนนี้มู่หรงลี่เอาแต่แทนตัวเองว่า ‘เรา’ เขายังเป็นบุตรชายของนางอยู่หรือไม่
ใจของจงสิงเสี่ยวที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุดเต้นรัวอย่างรุนแรง เมื่อนึกถึงคำของมู่หรงลี่เมื่อครู่ที่กล่าวว่าให้ปลดเขาลงจากตำแหน่งจักรพรรดิ จงสิงเสี่ยวเสียวสันหลังวาบทันที
จงสิงเสี่ยวคิดมาโดยตลอดว่าผู้สำเร็จราชการมู่หรงเหยี่ยนอยากได้บัลลังก์ของต้าเยี่ยนมาโดยตลอด หากครั้งนี้ขุนนางในราชสำนักไม่สนับสนุนมู่หรงลี่หลานชายของเขา มู่หรงเหยี่ยนอาจถือโอกาสนี้ดึงมู่หรงลี่ลงมากจากบัลลังก์และขึ้นไปนั่งแทนที่เองแน่
จงสิงเสี่ยวคิดได้ดังนี้จึงรีบคลานเข้าไปก้มศีรษะคำนับแนบพื้น “ในเมื่อฝ่าบาททรงตัดสินพระทัยทำเรื่องนี้ลงไปแล้ว กระหม่อมยินดีสนับสนุนฝ่าบาทอย่างเต็มที่พ่ะย่ะค่ะ!”
“ท่านพี่เป็นบ้าไปแล้วหรือ!” ไทเฮาตวาดจบจึงเห็นพี่ชายส่งสายตาส่อความนัยมาให้นางพลางส่ายหน้าน้อยๆ
ไทเฮาเม้มปากแน่น
มู่หรงลี่เห็นท่าทีของจงสิงเสี่ยวจึงแสร้งทำทีเป็นซาบซึ้งมาก เขากล่าวเสียงอ่อนโยน “ขอบคุณท่านลุงมาก”
“ฝ่าบาท ไทเฮายังคิดไม่ได้ในตอนนี้ กระหม่อมยินดีช่วยอธิบายให้ไทเฮาเข้าพระทัยพ่ะย่ะค่ะ หากฝ่าบาททรงอนุญาต กระหม่อมจะขอไปส่งไทเฮากลับตำหนักเองพ่ะย่ะค่ะ…” จงสิงเสี่ยวก้มศีรษะคำนับอีกครั้ง “ฝ่าบาทได้โปรดพระราชทานอนุญาตด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
มู่หรงลี่รู้ว่าจงสิงเสี่ยวรู้แล้วว่าการส่งไทเฮาไปยังต้าโจวไม่เป็นผลดีต่อตระกูลจงแม้แต่น้อย กระทั่งอาจทำให้ตระกูลจงสูญเสียอำนาจในราชสำนักไปด้วย ดังนั้นท่านลุงต้องช่วยเกลี้ยกล่อมเสด็จแม่ให้เห็นด้วยกับวิธีของเขา กระทั่งเกลี้ยกล่อมให้เสด็จแม่ไปโน้มน้าวท่านอาเก้าด้วยแน่นอน
คำกล่าวท้าให้ปลดมู่หรงลี่ลงจากบัลลังก์ทำให้ขุนนางฝ่ายไทเฮากลัวว่าอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนจะดึงมู่หรงลี่ลงจากบัลลังก์จริงๆ อีกทั้งกลัวว่าอ๋องเก้าจะส่งไทเฮาไปดับโทสะของต้าโจวที่เมืองหลวงของต้าโจวจริงๆ
ตอนนี้ขุนนางฝ่ายไทเฮากำลังตกอยู่ในความหวาดกลัว ผู้นำฝ่ายไทเฮาอย่างจงสิงเสี่ยวย่อมรู้ดีว่าสิ่งใดจะได้ประโยชน์มากกว่ากัน เขาต้องเห็นด้วยกับมู่หรงลี่แน่นอน
จงสิงเสี่ยวเกลี้ยกล่อมไทเฮาระหว่างเดินไปส่งนางที่ตำหนักอย่างที่มู่หรงลี่คาดการณ์ไว้จริงๆ
จงสิงเสี่ยวเดินเคียงข้างไปกับไทเฮาด้วยท่าทีนอบน้อม เขาสั่งให้ขันทีและนางกำนัลเดินทิ้งระยะห่างจากพวกเขาพอประมาณ สองพี่น้องเดินไปพลางสนทนากันไป
“อาลี่คือจักรพรรดิ จักรพรรดิตรัสแล้วไม่คืนคำ ในเมื่ออาลี่ส่งทูตเดินทางไปยังต้าโจวแล้ว ไทเฮาคือมารดาของอาลี่ก็ควรสนับสนุนเขา มิเช่นนั้น…” จงสิงเสี่ยวชะงักคำลงพลางมองไปทางไทเฮาที่มีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก