สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1309 มีใจเป็นอื่น
ตอนที่ 1309 มีใจเป็นอื่น
หลี่ซื่อกล่าวจบจึงทำความเคารพซือหม่าเหล่าไท่จวินอีกครั้ง จากนั้นเดินออกมาจากเรือนของซือหม่าเหล่าไท่จวินด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและเยือกเย็น
นางกล่าวสิ่งที่ควรกล่าวกับซือหม่าเหล่าไท่จวินไปหมดแล้ว เหลือแต่รอดูว่าซือหม่าเหล่าไท่จวินจะตัดสินใจทำเช่นไรเท่านั้น
ซือหม่าเหล่าไท่จวินนั่งอยู่ในห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด นางกำหมอนอิงที่วางอยู่ด้านหลังแน่น ซือหม่าเยี่ยนคือบุตรชายเพียงคนเดียวของนาง นางจะไม่สนใจบุตรชายของตัวเองเพราะหลานสาวอนุเพียงคนเดียวได้อย่างไรกัน
ในเมื่อตอนนี้ฝ่าบาทต้องการรื้อคดีของตระกูลฝั่งมารดาของซือหม่ารั่วตานก็แสดงว่าฝ่าบาทรับรู้เรื่องราวทั้งหมดจากซือหม่ารั่วตานแล้ว นางแก้ตัวตอนนี้คงไม่มีประโยชน์ ข้างกายฝ่าบาทมีคนมากความสามารถมากมาย ตอนนี้ฝ่าบาทคงสืบเรื่องทุกอย่างจนรู้แน่ชัดแล้ว
ซือหม่าเหล่าไท่จวินหลับตาลง บุตรชายของนางเข้าวังไปแล้ว บุตรชายของนางเป็นคนกตัญญูเขาต้องรับผิดเรื่องทั้งหมดแทนนางแน่นอน หากเขาเปิดโปงนางโดยไม่รับผิดแทนเขาก็จะถูกผู้อื่นกล่าวหาว่าเป็นคนอกตัญญูอยู่ดี
ทำเช่นไรดี นางควรทำเช่นไรดี…
กว่าซือหม่าเหล่าไท่จวินจะตั้งท้องซือหม่าเยี่ยนได้ไม่ใช่เรื่องง่าย นางดูแลประคบประหงมเขามาอย่างดีตั้งแต่เล็ก โชคดีที่บุตรชายของนางไม่เสียคนเพราะนางและสามีตามใจเขาเกินไป เขาเข้าไปทำงานในสำนักตรวจการและเป็นถึงผู้ช่วยผู้ตรวจการสูงสุดได้ด้วยความสามารถของตัวเอง
นางเป็นไม้ใกล้ฝั่งที่จะตายเมื่อใดก็ไม่รู้ ทว่า ซือหม่าเยี่ยนบุตรชายของนางและหลานชายของนางยังมีอนาคตอีกยาวไกล นางต้องรับผิดชอบในสิ่งที่นางทำด้วยตัวเอง
เมื่อคิดได้ดังนี้ซือหม่าเหล่าไท่จวินจึงเปลี่ยนเครื่องแต่งกายและสั่งให้คนเตรียมรถม้าทันที
ซือหม่าเยี่ยนคุกเข่ามองพื้นกระเบื้องมันวาวอยู่นอกตำหนักใหญ่เพื่อรอไป๋ชิงเหยียนเรียกพบ
ไป๋ชิงเหยียนอ่านฎีกาเสร็จจึงได้ยินเว่ยจงรายงานว่าซือหม่าเยี่ยนคุกเข่ารออยู่นอกตำหนักนานแล้ว เดิมทีเว่ยจงอยากเข้ามารายงานไป๋ชิงเหยียนนานแล้ว ทว่า ซือหม่าเยี่ยนบอกว่าไม่ให้รบกวนหญิงสาวเมื่อหญิงสาวทำงานเสร็จเมื่อใดค่อยรายงานให้นางทราบก็พอ
เว่ยจงรู้ดีว่าเหตุใดซือหม่าเยี่ยนจึงมาคุกเข่าอยู่หน้าตำหนักเช่นนี้ เมื่อซือหม่าเยี่ยนเห็นราชโองการของฝ่าบาทจึงรู้ว่าเรื่องของซือหม่ารั่วตานคงปิดไม่มิดแล้ว เขาจึงมารับผิดกับฝ่าบาทที่นี่
ไป๋ชิงเหยียนกำลังตรวจสอบฎีกาอยู่เว่ยจงจึงไม่ได้เข้าไปรบกวน เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนวางพู่กันลงและรับผ้าขนหนูจากชุนเถามาเช็ดมือเตรียมลุกขึ้นไปหาลูกน้อยทั้งสองของตัวเองเว่ยจงจึงเข้าไปรายงานเรื่องของซือหม่าเยี่ยนกับหญิงสาว
“มาเร็วจริง!” ไป๋ชิงเหยียนสะบัดข้อมือเล็กน้อย นางจัดเครื่องแต่งกายของตัวเองแล้วนั่งลงตามเดิม จากนั้นกล่าวกับเว่ยจง “ให้เข้ามาได้!”
“พ่ะย่ะค่ะ!” เว่ยจงรับคำและออกไปเรียกซือหม่าเยี่ยน
ไม่นานซือหม่าเยี่ยนที่เหงื่อซึมเต็มใบหน้าจึงเดินเข้ามาในตำหนักเพื่อรับผิดกับไป๋ชิงเหยียน
ไป๋ชิงเหยียนกวาดสายตามองซือหม่าเยี่ยนแวบหนึ่ง จากนั้นก้มจิบน้ำชาในมืออย่างไม่รีบร้อนแล้วกล่าวขึ้น “ใต้เท้าซือหม่าไม่ใช่คนเลอะเลือน ท่านเป็นคนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ยามสอบสวนนักโทษก็ไม่เคยออมมือ เราไม่เชื่อว่าใต้เท้าซือหม่าจะทำเรื่องที่เลอะเลือนเช่นนี้!”
ซือหม่าเยี่ยนได้ยินคำของไป๋ชิงเหยียนจึงก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิด “เกรงว่ากระหม่อม…”
ไป๋ชิงเหยียนเปลี่ยนเรื่องโดยไม่รอให้ซือหม่าเยี่ยนกล่าวจบ “ซือหม่าผิงและหลู่หยวนเผิงเข้าร่วมเป็นทหารในกองทัพไป๋ พวกเขาเป็นที่โปรดปรานของเจิ้นหนานอ๋องมาก ซือหม่าผิงเป็นเด็กที่รักพวกพ้อง หลู่หยวนเผิงโชคดีที่มีซือหม่าผิงคอยดูแลในกองทัพ เด็กที่รักพวกพ้อง มีสติปัญญาคมในฝักและมองการณ์ไกลเช่นนี้ไม่น่าได้รับการอบรมสั่งสอนจากคนที่อยากหาประโยชน์จากการแต่งงานของผู้อื่น!”
“ฝ่าบาท…” ลำคอของซือหม่าเยี่ยนร้อนผ่าว ในใจรู้สึกอุ่นวาบขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
“ใต้เท้าซือหม่ามีบุตรชายสามคน คุณชายใหญ่ตระกูลซือหม่าทำงานในกรมโยธา เราได้ยินใต้เท้าเสิ่นเอ่ยชมว่าเขาทำงานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดีทุกครั้ง คุณชายสองตระกูลซือหม่าถูกย้ายไปยังเมืองหาน ได้ยินว่าเขาค่อนข้างโดดเด่นในกองทัพเช่นเดียวกัน!” ไป๋ชิงเหยียนใช้ฝาถ้วยชากดใบชาที่ลอยเหนือน้ำลงไปในถ้วย “ใต้เท้าซือหม่าเป็นคนรอบคอบ ระวังตัว มองการณ์ไกล ท่านไม่ให้บุตรชายสามคนสอบขุนนางทั้งหมด ทว่า กลับกระจายไข่ไปยังตะกร้าแต่ละใบแทน ท่านเก็บบุตรชายไว้ที่เมืองหลวงเพียงคนเดียว ส่วนบุตรอีกสองคน…คนหนึ่งถูกส่งไปยังแดนไกล อีกคนเป็นคุณชายเจ้าสำราญอยู่ในเมืองหลวง…”
ซือหม่าเยี่ยนได้ยินคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียนจึงรู้สึกชาวาบไปทั้งร่าง
ไป๋ชิงเหยียนวิเคราะห์ได้ถูกต้องทุกอย่าง
ซือหม่าเยี่ยนจัดการเรื่องของบุตรชายทั้งสามของตัวเองเช่นนี้เพราะไม่ต้องการวางไข่ลงในตะกร้าเพียงใบเดียว ในเมืองหลวงมีบุตรชายคนหนึ่งเป็นขุนนางเหมือนเขาแล้ว หากเกิดเรื่องอันใดขึ้นมายังมีบุตรชายอีกคนที่เขาส่งไปเข้าร่วมกองทัพที่เมืองอื่น ตระกูลซือหม่ายังพอมีทางรอด
เขาสั่งให้ซือหม่าผิงทำตัวเป็นคุณชายเจ้าสำราญรวมกลุ่มอยู่กับคุณชายเจ้าสำราญคนอื่นในเมืองหลวง ซือหม่าผิงไม่มีความโดดเด่น ผู้อื่นจะไม่คิดว่าเขาเป็นภัย หากตระกูลซือหม่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นมาซือหม่าผิงยังสามารถช่วยเหลือคนในตระกูลได้
ซือหม่าเยี่ยนเป็นคนที่ทำสิ่งใดมักเหลือทางรอดให้ตัวเองและตระกูลเสมอ ตั้งแต่ที่ซือหม่าเยี่ยนเข้ามารับราชการเขาเคยเห็นคนที่ตกลงมาจากที่สูงมากมายนับไม่ถ้วน ตอนนั้นถงกุ้ยเฟยทำร้ายขุนนางที่จงรักภักดีต่อแคว้น ซือหม่าเยี่ยนจำเป็นต้องเหลือทางรอดให้ตระกูลซือหม่าของเขา
“ฝ่าบาท…” ซือหม่าเยี่ยนไม่เคยสนิทสนมหรือทำความเข้าใจไป๋ชิงเหยียนอย่างลึกซึ้งมาก่อน ต่อให้ผู้อื่นจะชื่นชมสติปัญญา ปณิธานและความใจกว้างของไป๋ชิงเหยียนมากเพียงใด ทว่า ซือหม่าเยี่ยนไม่เคยยอมรับเด็กสาวที่อายุน้อยกว่าบุตรชายคนรองของเขาอย่างไป๋ชิงเหยียนจากใจจริงมาก่อน
ในสายตาของซือหม่าเยี่ยน…การรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งเป็นเพียงข้ออ้างในการรวบรวมใจคนของไป๋ชิงเหยียนเท่านั้น
แม่ทัพจ้าวผู้มีชื่อเสียงของต้าเหลียงถูกไป๋ชิงเหยียนซื้อใจด้วยข้ออ้างว่าจะรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งเช่นเดียวกัน
ไหนจะพวกขุนนางในราชสำนักที่เคยแบ่งออกเป็นฝักฝ่ายเหล่านั้นอีก เมื่อพวกเขาได้ยินว่าไป๋ชิงเหยียนจะรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งต่างก็หันมาร่วมแรงร่วมใจกันทันที ทุกคนหันมาพยายามเพื่อเป้าหมายเดียวกัน ราชสำนักต้าโจวจึงดูสามัคคีปรองดองกันมาก
ที่เขายอมสวามิภักดิ์ต่อไป๋ชิงเหยียนเป็นเพราะเขาเอนเอียงไปตามทิศทางของอำนาจเท่านั้น ที่สำคัญไป๋ชิงเหยียนไม่ได้กวาดล้างขุนนางใหญ่ของราชสำนักเก่า ขุนนางส่วนใหญ่ในราชสำนักตอนนี้ล้วนเป็นขุนนางจากราชสำนักเก่าทั้งสิ้น
ทว่า ซือหม่าเยี่ยนคิดว่าไป๋ชิงเหยียนทำผิดในเรื่องนี้ ขุนนางส่วนใหญ่ยอมสวามิภักดิ์ต่อนางเพราะนางมีอำนาจทางทหารและการเมืองอยู่ในมือเท่านั้น ใต้หล้าแห่งนี้อำนาจทางทหารคือทุกอย่าง ที่สำคัญไป๋ชิงเหยียนมีทั้งอำนาจทางทหารและอำนาจทางการเมือง
ที่ซือหม่าเยี่ยนไม่ได้เคลื่อนไหวสิ่งใดหรือประจบประแจงไป๋ชิงเหยียนเป็นเพราะเขาไม่คิดว่าระบอบการปกครองใหม่ของไป๋ชิงเหยียนจะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เขาไม่รู้ว่าไป๋ชิงเหยียนจะมีอำนาจในราชสำนักไปอีกนานเท่าใด ยิ่งนางปีนขึ้นไปได้สูงเท่าไรวันหน้านางก็จะตกลงมาอย่างน่าอนาถเท่านั้น
ที่สำคัญบรรดาน้องชายของไป๋ชิงเหยียนกลับมาแล้ว ไป๋ชิงเหยียนกล้าแบ่งอำนาจทางทหารในมือของตัวเองให้แก่บรรดาน้องชายของนาง หากน้องชายคนใดคนหนึ่งของนางมีใจคิดเป็นอื่นขึ้นมา ราชสำนักได้วุ่นวายแน่นอน