สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 276 รับรู้กันไปทั่ว
ฉินหมัวมัวถือกล่องไม้มะฮอกกานีเดินเข้าไปด้านหน้า เปิดกล่องออก
ไป๋ชิงเหยียนใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดมือจนสะอาด เมื่อเห็นว่าในกล่องมีแหวนปานจื่อวงหนึ่งวางอยู่ ดวงตาของหญิงสาวสั่นไหวเล็กน้อย นี่คือแหวนของน้องชายรองไป๋ชิงฉยง แหวนที่นางเป็นคนมอบให้เขาเอง
ไป๋ชิงเหยียนหยิบแหวนขึ้นมาพิจารณาดู จากนั้นกำมันไว้ในมือแน่น คลี่จดหมายที่พับมาอย่างดีออกอ่าน ในกระดาษเขียนแค่ประโยคเดียว
ยามโหย่ว[1]มาเจอกันที่ที่พักรับรองตามลำพัง หากเลยเวลาจะไม่รอ
ยามโหยว่…
ตอนนี้ใกล้จะหมดยามเซิน[2]แล้ว
ไป๋ชิงเหยียนหลับตาลง กัดฟันกรอด สมองพยายามประมวลความคิดโดยเร็วที่สุด
ตอนที่หลี่จือเจี๋ยอยู่ที่หนานเจียง เขาโดนเอาเปรียบไม่น้อย ครั้งนี้ส่งแหวนปานจื่อมาล่อเพื่อให้นางออกไปพบตามลำพังในยามโหย่ว หากไม่ใช่เพราะต้องการสังหารนาง ก็คงมีแผนการชั่วร้ายบางอย่างรอนางอยู่
ทว่า หากไป๋ชิงฉยงยังมีชีวิตอยู่ในกำมือของหลี่จือเจี๋ยจริงๆ ล่ะ
สำหรับไป๋ชิงเหยียนแล้วไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าชีวิตของไป๋ชิงฉยงอีกแล้ว
นางต้องไปอย่างแน่นอน! ในจดหมายระบุว่าให้นางไปคนเดียว หากนางพาคนอื่นไปด้วย หลี่จือเจี๋ยคงไม่บอกข่าวของไป๋ชิงฉยงให้นางรับรู้แน่นอน
เช่นนั้น…
นางก็จะไปที่นั่นเพียงคนเดียว ดูสิว่าหลี่จือเจี๋ยต้องการสิ่งใด จากนั้นค่อยให้ไป๋จิ่นจื้อนำกำลังเสริมมา อีกทั้งส่งของกำนัลที่หลี่จือเจี๋ยมอบให้นางไปยังจวนของรัชทายาท หากที่คือการจัดฉากวางแผน…ถือว่านางได้บอกกับรัชทายาทล่วงหน้าแล้ว
“ถงหมัวมัว ชุนเถา พวกเจ้าแยกกันไปตามเสี่ยวซื่อกับหลูผิงมาที่นี่ ข้ามีเรื่องสำคัญต้องสั่งการ”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวพลางปลดถุงทรายที่แขนออก
ถงหมัวมัวและชุนเถารีบสั่งให้คนไปตามไป๋จิ่นจื้อและหลูผิงมาทันที
“ฉินหมัวมัว…อย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้ให้ท่านแม่ทราบนะ ข้าจัดการได้ ไม่จำเป็นต้องให้ท่านแม่เป็นกังวลอีก!” ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองฉินหมัวมัว
“มีอีกเรื่องที่ข้าอยากให้ฉินหมัวมัวช่วยไปจัดการ!”
“คุณหนูใหญ่สั่งมาได้เลยเจ้าค่ะ!”
ฉินหมัวมัวเห็นไป๋ชิงเหยียนมาตั้งแต่เด็ก คุณหนูใหญ่กล่าวว่าจัดการได้ เช่นนั้นย่อมจัดการได้อย่างแน่นอน นางเชื่อในตัวคุณหนูใหญ่
“อีกเดี๋ยวข้าจะให้ลุงผิงเชิญองค์รัชทายาทไปยังที่พักรับรองของเหยียนอ๋องและองค์หญิงของซีเหลียง หมัวมัวส่งคนที่ไว้ใจได้ลอบแฝงตัวอยู่ในกลุ่มชาวบ้าน หากรัชทายาทเสด็จไปถึง…”
ไป๋ชิงเหยียนขยับเข้าไปกระซิบสั่งฉินหมัวมัว
ไป๋จิ่นจื้อมาถึงอย่างรวดเร็ว พอเข้ามาด้านในก็เห็นไป๋ชิงเหยียนเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดที่กระฉับกระเฉง
“พี่หญิงใหญ่?” ไป๋จิ่นจื้อเหนื่อยหอบ มองไปทางไป๋ชิงเหยียนอย่างไม่เข้าใจ
ไป๋ชิงเหยียนผูกกระบอกลูกธนูไว้ที่เอวด้านหลัง หยิบธนูเซ่อรื้อขึ้นพลางสั่งไป๋จิ่นจื้อ
“หลังจากพี่จากไป เจ้าจงรอให้ธูปหมดครึ่งดอกแล้วจงพาองครักษ์ของตระกูลไป๋บุกไปหาหลี่จือเจี๋ยที่ที่พักรอบรองของซีเหลียงเพื่อขอตัวพี่ชายรองของเจ้าคืน! ทำให้เป็นเรื่องใหญ่หน่อย ทางที่ดีให้ทุกคนรับรู้กันทั่วหน้า!”
“พี่หญิงใหญ่ว่าอย่างไรนะเจ้าคะ! พี่ชายรอง! พี่ชายรองอยู่ในเงื้อมือของหลี่จือเจี๋ยเหมือนกันหรือเจ้าคะ” ไป๋จิ่นจื้อเบิกตาโพลง
“อย่าเพิ่งถาม! กลับมาพี่ค่อยเล่ารายละเอียดให้เจ้าฟัง เจ้าจำคำพี่ให้ดี!”
ไป๋จิ่นจื้อรู้สึกว่าใจตัวตัวเองเต้นรัว นางพยักหน้าอย่างแรง
“พี่หญิงใหญ่วางใจได้เจ้าค่ะ! หลังจากธูปหมดครึ่งดอก เสี่ยวซื่อจะอาละวาดให้รับรู้กันไปทั่วเลยเจ้าค่ะ!”
“คุณหนูใหญ่ หลูผิงมาแล้วเจ้าค่ะ” ชุนเถาทำความเคารพจากนั้นเอ่ยขึ้น
“นำกล่องไม้มะฮอกกานีของหลี่จือเจี๋ยไปมอบให้หลูผิง”
ไป๋จิ่นจื้อพยักหน้าพลางยกกล่องไม้มะฮอกกานีที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้น จากนั้นเดินตามไป๋ชิงเหยียนออกไปด้านนอก
หลูผิงยืนรออยู่ด้านนอกเรือนชิงฮุยอย่างสงบเสงี่ยม เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเดินออกมาก็รีบถลาเข้าไปด้านหน้า ยังไม่ทันทำความเคารพก็ได้ยินไป๋ชิงเหยียนกล่าวขึ้นเสียก่อน “
“หลังจากนี้หนึ่งถ้วยชา[3] ลุงผิงจงนำกล่องไม้มะฮอกกานีกล่องนี้ไปที่จวนรัชทายาท กล่าวว่าเป็นของกำนัลของเหยียนอ๋องหลี่จือเจี๋ย ข้าให้เจ้านำไปมอบให้รัชทายาท หากพระองค์ตรัสถามสิ่งใดอีก เจ้าก็บอกไปว่าไม่รู้”
เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนถือธนูเซ่อรื้ออยู่ในมือ หลูผิงพยักหน้าอย่างเข้าใจ “คุณหนูใหญ่วางใจได้ขอรับ!”
หลี่จือเจี๋ยยืนอยู่ข้างบ่อปลาของที่พัก ในมือถืออาหารสำหรับให้อาหารปลา ลู่เทียนจัวยืนอยู่ด้านหลังหลี่จือเจี๋ยอย่างนอบน้อม ทว่า สายตามองออกไปด้านนอกเป็นระยะๆ
“อาจัว เหตุใดเจ้าถึงมั่นใจนักว่าไป๋ชิงเหยียนจะมาตามนัด ไม่ใช่บอกเรื่องนี้กับรัชทายาทแทน”
หลี่จือเจี๋ยมองดูฝูงปลาคาร์ฟหลากหลายสีสันแย่งอาหารกันอยู่ในบ่อน้ำ ฝูงปลามากมายว่ายเวียนจนตาลาย หลี่จือเจี๋ยหลี่ตาแคบลง
“ข้าคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างไป๋ชิงเหยียนกับรัชทายาทแห่งต้าจิ้นไม่ธรรมดาเลย”
“ข้าคิดว่ารัชทายาททรงไม่ทราบเรื่องที่ไป๋ชิงเหยียนไปช่วยคนที่ชิวซานกวนคราวที่แล้วพ่ะย่ะค่ะ! กระทั่งตอนนี้รัชทายาทก็คงยังไม่ทราบว่าไป๋ชิงเหยียนเคยไปช่วยคนที่ชิวซานกวน” ลู่เทียนจัวก้มหน้าลง
“เมื่อเข้ามาในเมืองหลวง ข้าไปพบสายลับที่แฝงตัวอยู่ในเมืองหลวง ได้ฟังเรื่องราวมามากมาย ได้ยินว่าก่อนหน้านี้คุณหนูใหญ่ไป๋ทำเรื่องที่น่าตะลึงมากมายในเมืองหลวง เช่นการตีกลองร้องทุกข์เพื่อบีบบังคับให้ฮ่องเต้สังหารโอรสที่เกิดจากฮองเฮาอย่างซิ่นอ๋อง ขุนนางเช่นนี้ ข้าไม่เชื่อว่าจักรพรรดิต้าจิ้นจะไม่หวาดระแวง รัชทายาทจะไม่ป้องกัน”
ลู่เทียนจัวเห็นว่าหลี่จือเจี๋ยก้มหน้าไม่กล่าวสิ่งใด จึงกล่าวต่อ “ต่อให้ไป๋ชิงเหยียนบอกรัชทายาท รัชทายาทรงถาม ท่านอ๋องสามารถอ้างว่าพระองค์ล่วงเกินไป๋ชิงเหยียนมากเกินไปตอนที่อยู่หนานเจียง ที่ท่านอ๋องส่งแหวนปานจื่อของคุณชายรองตระกูลไป๋ไปหลอกล่อให้ไป๋ชิงเหยียนออกมาก็เพื่ออยากหาโอกาสสนทนากับไป๋ชิงเหยียน อยากสู่ขอคุณหนูสี่ตระกูลไป๋! นี่เป็นแผนที่เราตั้งใจไว้อยู่แล้วนี่พ่ะย่ะค่ะ!”
หลี่จือเจี๋ยยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ซ่อนแววตาที่เยือกเย็นเอาไว้ เอ่ยถามเสียงต่ำ “เช่นนั้นอาจัว ลองบอกข้ามาสิว่าเจ้าแอบไปจับคุณชายรองของตระกูลไป๋ลับหลังข้าเมื่อใด”
หลี่จือเจี๋ยเทอาหารปลาทั้งหมดลงไปในบ่อปลา หันหลังกลับ นัยน์ตาดอกท้อเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “หากไม่ใช่เพราะแผนการนี้ต้องการความช่วยเหลือจากข้า เจ้าคิดจะปิดบังข้าไปถึงเมื่อใด”
เดิมทีหลี่จือเจี๋ยเชื่อใจลู่เทียนจัวมาก ทว่า ช่วงนี้เขาค้นพบว่าลู่เทียนจัวมีความลับกับเขา…
เช่น เขาไม่รู้ว่าลู่เทียนจัวกับหลี่เทียนฟู่แอบคบกันเมื่อใด
เช่น ไป๋ชิงฉยงตกอยู่ในเงื้อมือของลู่เทียนจัว
นี่ทำให้หลี่จือเจี๋ยอดสงสัยไม่ได้ว่าความเชื่อใจที่เขาเคยมีให้ลู่เทียนจัวในตอนแรก การที่เขาปล่อยให้ลู่เทียนจัวเรียกใช้คนได้อย่างสบายเป็นเรื่องที่ผิดหรือถูกกันแน่
เขาถึงขนาดสงสัยว่าที่พวกไป๋ชิงเหยียนรู้ว่าคุณชายตระกูลไป๋ถูกขังอยู่ที่ชิวซานกวน เป็นเพราะลู่เทียนจัวลอบส่งข่าวบอกไป๋ชิงเหยียนเพื่อล่อนางออกมาสังหารลับหลังเขาหรือไม่
หลี่จือเจี๋ยเป็นคนมีหลักการคนหนึ่ง เมื่อเขาใช้คน เขาจะไม่คิดหวาดระแวง หากหวาดระแวง เขาจะไม่เลือกใช้
ในทางกลับกัน หากหลี่จือเจี๋ยมอบความไว้ใจให้คนๆ หนึ่ง เขาก็ต้องการความซื่อสัตย์จากคนๆ นั้นเช่นเดียวกัน
ผลสุดท้ายเล่า? ลู่เทียนจัวไม่ได้ปิดบังเขาเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น
ลู่เทียนจัวติดตามรับใช้หลี่เจือเจี๋ยมาหลายปี ชายหนุ่มรู้นิสัยของหลี่จือเจี๋ยดี เขาคุกเข่าลงบนพื้นเพื่อขอขมา น้ำเสียงราบเรียบหนักแน่น
“ท่านอ๋อง ข้าไม่ได้คิดปิดบังท่าน หลายปีมานี้ท่านดูแลข้าเป็นอย่างดี ชีวิตของข้าล้วนเป็นของท่านอ๋อง ทว่า ท่านอ๋องทรงทราบดีว่า ข้าติดค้างท่านพ่อบุญธรรมอยู่หนึ่งชีวิต ข้าอยากแก้แค้นให้เขา ข้ากล้าสาบานต่อดวงวิญญาณของท่านพ่อบุญธรรมว่าข้าไม่เคยทรยศหักหลังท่านอ๋องแม้แต่ครั้งเดียวพ่ะย่ะค่ะ”
ดวงตาดอกท้อคู่งามของหลี่จือเจี๋ยมองไปยังลู่เทียนจัวที่คุกเข่าอยู่บนพื้น น้ำเสียงเชื่องช้าและเย็นชา
“หลังจากเสร็จสิ้นเรื่องราวที่ต้าจิ้น เจ้าจงอยู่รับใช้องค์หญิงที่นี่ ไม่ต้องตามข้ากลับไปแล้ว”
———————————————
[1] ยามโหย่ว เวลาระหว่าง 17.00-19.00 นาฬิกา
[2] ยามเซิน เวลาระหว่าง 15.00-17.00 นาฬิกา
[3] หนึ่งถ้วยชา คือการนับเวลาของจีน เท่ากับเวลา 15 นาที