สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 344 ระแวงหลัง
ถูกปล้นอย่างนั้นหรือ
ไป๋ชิงเหยียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย นึกถึงจี้ถิงอวี๋ขึ้นมาได้ หรือว่าถูกจี้ถิงอวี๋ปล้นไปอย่างนั้นหรือ
ทว่า คนของเซียวหรงเหยี่ยนมาฝีมือเก่งกาจนัก คนที่คุ้มกันสินค้าก็มีจำนวนมากมาย เหตุใดจึงถูกจี้ถิงอวี๋ปล้นไปได้นะ
ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองเซียวหรงเหยี่ยนที่ยิ้มอย่างมีเลศนัย หญิงสาวเข้าใจความหมายที่ชายหนุ่มต้องการสื่อทันที เอ่ยถามกลับ
“แม้บรรพบุรุษตระกูลไป๋จะอยู่ที่ซั่วหยาง ทว่า พวกข้าไม่เคยอาศัยอยู่ที่นั่น เซียวเซียนเซิงเป็นคนฉลาด คงรูเรื่องนี้ดี”
“ในเมื่อเหยี่ยนมาหาจวิ้นจู่ เหยี่ยนย่อมมั่นใจว่าเรื่องนี้มีเพียงจวิ้นจู่ที่จะช่วยเหลือเหยี่ยนได้”
เซียวหรงเหยี่ยนขาดก็เหลือแต่กล่าวออกไปตรงๆ แล้วว่าเขารับรู้ว่า ‘โจรป่า’ ที่ปล้นเสบียงของเขาไปเหล่านั้นคือคนของไป๋ชิงเหยียน
แทนที่จะกล่าวว่าเซียวหรงเหยี่ยนมาเพื่อขอให้นางแนะนำร้านขายใบชาให้ ไม่สู้กล่าวว่าเซียวหรงเหยี่ยนมาเพื่อเตือนให้นางคืนสินค้าให้แก่เขา
ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้กลัวว่าเซียวหรงเหยี่ยนจะรับรู้ว่าโจรป่าคือคนของนาง เพราะนางก็ล่วงรู้ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเซียวหรงเหยี่ยน…ฐานะที่แท้จริงของเขาเช่นเดียวกัน
การที่ไป๋ชิงเหยียนให้คนปลอมตัวเป็นโจรป่าไม่ได้ขัดต่อผลประโยชน์ของเซียวหรงเหยี่ยน และต้าเยี่ยน ที่สำคัญเซียวหรงเหยี่ยนไม่มีทางเป็นศัตรูกับนางในตอนที่ต้าเยี่ยนยังไม่ได้แข็งแกร่งอยู่เหนือแคว้นอื่นเช่นนี้หรอก
สิ่งที่ต้าเยี่ยนต้องทำในตอนนี้คือการสร้างความแข็งแกร่งให้แคว้นของตัวเองในตอนที่สถานการณ์ในใต้หล้ากำลังวุ่นวาย เตรียมความพร้อมสำหรับการครอบครองใต้หล้านี้ในวันข้างหน้า
ในเมื่อเซียวหรงเหยี่ยยรับรู้แล้ว ไป๋ชิงเหยียนจึงไม่คิดอ้อมค้อมอีก
“เซียวเซียนเซิงช่างหูตารวดเร็วดีจริงเจ้าค่ะ…”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกขอรับ เหยี่ยนกลับไปซั่วหยางคราวที่แล้วก็เพื่อสำรวจกิจการที่ซั่วหยางและสืบความคืบหน้าเรื่องการปล้นไปชา เหยี่ยนใช้เวลาสืบอยู่นาน เช้าวันนี้เพิ่งได้รับข่าวขอรับ…”
ไป๋จิ่นจื้อได้ยินประโยคสนทนาของไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยน ใจของสาวน้อยกระตุกวูบ รู้ทันทีว่าเซียวหรงเหยี่ยนคงสืบรู้แล้วว่าโจรป่าเหล่านั้นคือคนของตระกูลไป๋ เขาจึงมาหาพี่หญิงใหญ่ที่นี่
ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้เปิดโปงออกมาตรงๆ ดังนั้นเขาคงแสร้งทำเป็นไม่รับรู้เรื่องนี้ต่อไปใช่หรือไม่
ที่จริงไป๋จิ่นจื้อก็ไม่คิดว่าเซียวหรงเหยี่ยนจะเก่งกาจถึงเพียงนี้ หากได้คนเช่นนี้มาเป็นเขยของตระกูลไป๋คงจะดีไม่น้อยเลย
เซียวหรงเหยี่ยนมีลูกน้องที่มีความสามารถมากมาย ทว่า นับตั้งแต่สินค้าโดนปล้น เขาเพิ่งได้รับรู้ความจริงในเช้าวันนี้ ชายหนุ่มรู้สึกนับถือฝีมือของจี้ถิงอวี๋ลูกน้องของไป๋ชิงเหยียนผู้นี้จริงๆ
หากไม่ใช่เพราะคนของเขาเคยเห็นจี้ถิงอวี๋ที่หน้าจวนไป๋ รู้สึกนับถือบ่าวผู้ซื่อสัตย์ที่เสียสละนำม้วนไม้ไผ่บันทึกสถานการณ์รบกลับมาจนจำได้ขึ้นใจเช่นนี้ เขาคงนึกไม่ถึงว่าเจวิ้นกั๋วจวิ้นจู่จะมีความเกี่ยวข้องกับโจรป่าเหล่านี้
เพราะรู้ว่าเป็นคนของเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ คนของเขาจึงไม่ได้ลงมือสังหารคนเหล่านั้นอย่างเด็ดขาด ทว่า กลับมารายงานให้เซียวหรงเหยี่ยนตัดสินใจแทน
รัชทายาทรับรู้นานแล้วว่าสินค้าของเซียวหรงเหยี่ยนถูกปล้น รัชทายาทกล่าวว่าแม้ไม่อาจส่งกองกำลังไปช่วยปรามปรามโจรป่าเหล่านั้นได้ ทว่า รัชทายาทสั่งให้ผู้คุมเมืองช่วยหาสินค้ามาคืนเซียวหรงเหยี่ยน
เมื่อเช้าวันนี้รับรู้ว่าโจรที่ปล้นสินค้าของเขาไปคือคนของไป๋ชิงเหยียน ก่อนเดินทางมาหาหญิงสาวที่จวน เซียวหรงเหยี่ยนไปที่จวนของรัชทายาทมาก่อนแล้ว กล่าวว่าจะไม่รบกวนรัชทายาทแล้ว เขาอยากให้เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ช่วยแนะนำร้านชายใบชาที่ซั่วหยางให้เพื่อจะได้กระชับความสัมพันธ์กับหญิงสาว ขอร้องรัชทายาทว่าอย่าให้คนของทางการเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้
รัชทายาทได้ยินจึงกล่าวหยอกเซียวหรงเหยี่ยนว่าถือโอกาสนี้ใกล้ชิดกับสาวงามถึงกับไม่อยากได้สินค้าที่ถูกปล้นไปคืนแล้ว จากนั้นถอนคำสั่งที่ให้ทางการช่วยตามหาสินค้าคืนให้เซียวหรงเหยี่ยน
“เซียวเซียนเซิงถ่อมตัวเกินไปแล้วเจ้าค่ะ เซียนเซิงรู้ข่าวปัญหาความอดอยากที่เยี่ยนว่อเร็วกว่าราชสำนักเสียอีก นี่ยังไม่ถือว่าหูตาไวอีกหรือเจ้าคะ”
ไป๋ชิงเหยียนยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
เซียวหรงเหยี่ยนกำมือเล็กน้อย ขนตาหนายาวหรี่แคบลงเล็กน้อยเมื่อเผชิญแดดจ้า
“ดูเหมือนว่าข่าวสารของจวิ้นจู่ก็รวดเร็วเหมือนกันนะขอรับ”
“พี่หญิงใหญ่ อย่ามัวยืนกล่าวกันอยู่ตรงนี้เลยเจ้าค่ะ เชิญเซียวเซียนเซิงเข้าไปดื่มชาด้านในเถิดเจ้าค่ะ!” ดวงตาของไป๋จิ่นจื้อเป็นประกาย คำนับเซียวหรงเหยี่ยน
“ไม่ทราบว่าเซียวเซียนเซิงมีธุระที่ใดต่อหรือไม่เจ้าคะ”
เซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้ตอบ ดวงตาสีดำแฝงไปด้วยรอยยิ้มน้อยๆ จ้องไปยังไป๋ชิงเหยียน ราวกับขอความเห็นหญิงสาวก่อน
ไป๋จิ่นจื้อกล่าวเชื้อเชิญถึงเพียงนี้ อีกทั้งไป๋ชิงเหยียนเองก็มีเรื่องเกี่ยวกับปัญหาความอดอยากที่เยี่ยนว่อที่ต้องการสอบถามเซียวหรงเหยี่ยนด้วยเช่นกัน
“เชิญเซียวเซียนเซิงเจ้าค่ะ…” ไป๋ชิงเหยียนผายมือเชิญเซียวหรงเหยี่ยน
เซียวหรงเหยี่ยนก้มศีรษะให้เล็กน้อย “เช่นนั้นเหยี่ยนขอรบกวนด้วย”
เมื่อเข้ามาด้านใน ไป๋ชิงเหยียนให้บ่าวนำน้ำชามาให้จากนั้นเอ่ยถามเซียวหรงเหยี่ยน
“เซียวเซียนเซิงต้องการใบชาเมื่อใดเจ้าคะ”
เซียวหรงเหยี่ยนตอบ “ไม่เกินวันที่ยี่สิบเดือนนี้ขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนหลุบตาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง มองดูเซียวหรงเหยี่ยนที่กำลังอมยิ้มน้อยๆ จากนั้นกล่าวขึ้น “เซียวเซียนเซิงอดใจรอได้เลยเจ้าค่ะ ไม่ส่งผลกระทบต่อกิจการของเซียวเซียนเซิงแน่นอนเจ้าค่ะ”
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นขอรับ” เซียวหรงเหยี่ยนคำนับไป๋ชิงเหยียน “ไม่ทราบว่าเหยี่ยนจะตอบแทนจวิ้นจู่ได้อย่างไรขอรับ”
“เซียวเซียนเซิงช่วยบอกข้ามาตามตรงว่ารู้เรื่องปัญหาความอดอยากที่เยี่ยนว่อตั้งแต่เมื่อใดเจ้าคะ”
ไป๋ชิงเหยียนถาม
“ต้นปี…” เซียวหรงเหยี่ยนตอบอย่างไม่ปิดบัง
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางไป๋จิ่นจื้อแวบหนึ่ง จากนั้นเอ่ยถามเซียวหรงเหยี่ยนต่อ
“เซียวเซียนเซิงทราบหรือไม่เจ้าคะว่าต้าเยี่ยนรับชาวบ้านที่อพยพจากเยี่ยนว่อเข้าไปยังแคว้นต้าเยี่ยนตั้งแต่เมื่อใด”
เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนอย่างไม่รีบร้อน…
“ตอนที่เยี่ยนว่อยังเป็นดินแดนของต้าเยี่ยน จีโฮ่วทรงมีรับสั่งให้ผู้มีความรู้เรื่องน้ำเป็นอย่างดีอย่างซือหม่าเยี่ยนสร้างเขื่อนกว่างเหอขนาดใหญ่ขึ้นที่นั่น แม้จะทำเพื่อช่วยบรรเทาภัยน้ำท่วมทางฝั่งเหนือของเมืองผิงหยางจากแม่น้ำหนิวเหลียง ทว่า ยังสามารถแก้ไขภัยแล้งในเยี่ยนว่อได้ด้วย เยี่ยนว่ออาศัยน้ำในเขื่อนนั่นกลายเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้าเล็กน้อย
“การสร้างเขื่อนใช้ทั้งกำลังทรัพย์และแรงคนจำนวนมาก ซือหม่าเซียนเซิงกังวลว่าภัยน้ำท่วมจะสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน เขาจึงสร้างเขื่อนอย่างใส่ใจและระมัดระวังที่สุด มีเพียงช่วงที่น้ำในแม่น้ำหลิวเหลียงเยอะเท่านั้น เขื่อนกว่างเหอจึงจะมีน้ำเต็มเขื่อน ทว่า เขื่อนกว่างเหอทนทานอยู่ได้เพียงยี่สิบปีเท่านั้น หากต้องการให้เขื่อนกว่างเหอคงทนอยู่หลายพันปี ต้องซ่อมแซมเขื่อนกว่างเหออีกครั้งในอีกยี่สิบปีข้างหน้า”
“ทว่า เมื่อเยี่ยนว่อตกเป็นดินแดนของต้าเยี่ยนก็ไม่มีผู้ใดกล่าวถึงเรื่องการซ่อมแซมเขื่อนอีกเลย! บัดนี้เขื่อนกว่างเหอสร้างมายี่สิบปีแล้ว เดือนเจ็ดปีที่แล้วเยี่ยนว่อประสบภัยแล้ง เจ้าเมืองของเยี่ยนว่อคิดว่าสถานการณ์คงดีขึ้นในปีนี้ ทว่า ต้าเยี่ยนรู้ดีว่านี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น! แต่ต้าเยี่ยนไม่เคยนึกมาก่อนว่าเยี่ยนว่อจะประสบภัยหนาวของหิมะเช่นเดียวกันต้าเยี่ยน น้ำในเขื่อนกว่างเหอจากแม่น้ำหนิวเหลียงเต็มล้นเขื่อน เดือนสามมีฝนตกหนัก อีกทั้งเขื่อนกว่างเหอไม่ได้เชื่อมต่อกับแม่น้ำภายนอก ย่อมต้องเกิดเป็นอุกทกภัยอยู่แล้ว!”
“บังเอิญที่ตอนนั้นต้าเยี่ยนยึดหนานเยี่ยนกลับคืนมาได้แล้ว พวกเขามีเสบียงและที่ดินเพียงพอที่จะรับรองผู้อพยพ เกิดความคิดเช่นนี้ขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวยิ้มๆ
ไป๋ชิงเหยียนกระจ่างแจ้ง
“เหยี่ยนทูลองค์รัชทายาทในสิ่งที่ซือหม่าเซียนเซิงเคยกล่าวไว้แล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าต้าจิ้นจะสามารถแบ่งกำลังคนมาซ่อมแซมเขื่อนนี้ได้หรือไม่! เพราะดูเหมือนว่าต้าเหลียงกับต้าจิ้นใกล้จะทำสงครามกันแล้ว”
เซียวหรงเหยี่ยนกล่าว
ไป๋ชิงเหยียนกำถ้วยชาในมือแน่น เซียวหรงเหยี่ยนไม่ใช่คนที่จะกล่าวสิ่งใดพล่อยๆ ในเมื่อเขาบอกว่ากำลังจะเกิดสงคราม เกรงว่า…คงเกิดสงครามขึ้นจริงๆ
ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองเซียวหรงเหยี่ยน ครุ่นคิดว่าเซียวหรงเหยี่ยนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่
เพราะกำลังทหารหลักของต้าเยี่ยนกำลังมุ่งหน้าไปยังหรงตี๋ หากต้าเหลียงและต้าจิ้นทำสงครามกัน ต้าเยี่ยนจะไม่ต้องระแวงหลัง