สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 349 มีความสามารถ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไป๋ชิงเจวี๋ยและฮูหยินสี่มีสายสัมพันธ์แม่ลูกที่เชื่อมถึงได้หรืออย่างไร ฮูหยินสี่หวังซื่อแน่ใจว่าไป๋ชิงเหยียนต้องมีข่าวคราวของไป๋ชิงเจวี๋ยจึงรีบออกมาจากห้อง
เมื่อเดินออกมาถึงลานหญ้าก็เห็นไป๋ชิงเหยียนเดินเข้ามาพอดี
“เหตุใดท่านอาสะใภ้สี่จึงออกมาด้านนอกเช่นนี้เจ้าคะ” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถามยิ้มๆ
ฮูหยินสี่กำลูกประคำในมือแน่น “ได้ยินว่าเจ้ามาหาจึงออกมาต้อนรับ หลิงอวิ๋นไปเอาขนมถ้วยฟูนมแพะที่เพิ่งทำเสร็จมาให้คุณหนูใหญ่หน่อย”
กวนหมัวมัวแหวกม่านเชิญไป๋ชิงเหยียนเข้าไปด้านใน ทว่า นางไม่ได้ตามเข้าไปด้วย สั่งให้หลิงอวิ๋นนำเก้าอี้กลมตัวเล็กมาสองตัว จากนั้นพาชุนเถาไปนั่งสนทนาเรื่องเย็บปักถักร้อยอยู่ที่ระเบียงทางเดินอย่างรู้งาน
ไป๋ชิงเหยียนนั่งลงตรงเก้าอี้ข้างหน้าต่างพร้อมกับฮูหยินสี่ ยื่นจดหมายที่ซ่อนไว้ในอกส่งให้ฮูหยินสี่
ฮูหยินสี่หวังซื่อเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียน ดวงตาแดงก่ำ มือที่จับลูกประคำสั่นไหวเล็กน้อย ไม่กล้าปล่อยมือจากลูกประคำ สักพักจึงยื่นมือรับจดหมายที่ยับยู่ยี่มาจากมือของไป๋ชิงเหยียน ลำคอตีบตัน
เมื่อนิ้วมือสัมผัสโดนจดหมาย น้ำตาของหวังซื่อก็ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ นางรีบใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาทิ้ง กลัวว่าน้ำตาจะหยดเปื้อนจดหมายจนเปียกชื้น
ฮูหยินสี่เปิดจดหมายออกอ่าน ด้านในมีเพียงประโยคเดียว ทว่า นั่นคือลายมือของไป๋ชิงเจวี๋ย
ฮูหยินสี่หวังซื่อกำผ้าเช็ดหน้าไว้แนบอกแน่น กัดฟันไม่ให้ตัวเองปล่อยโฮออกมา น้ำตาไหลพรากไม่ขาดสาย นางสูดจมูก พยายามเบิกตาโพลงมองไปยังไป๋ชิงเหยียน ราวกับกำลังขอความมั่นใจว่าไป๋ชิงเหยียนได้พบไป๋ชิงเจวี๋ยตัวเป็นๆ จริงหรือไม่
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้าให้อาสะใภ้สี่ “บาดแผลหายแล้ว ผอมลงกว่าตอนจากไปมาก ทว่า ยังดูสดใสดีเจ้าค่ะ”
ฮูหยินสี่ได้ยินดังนี้ก็แทบเปล่งเสียงร้องไห้ออกมา ทว่า นางอุดปากตัวเองไว้แน่น ทาบจดหมายไว้แนบอก บ่าที่ผอมซูบสั่นเทา น้ำตาไหลพราก กลั้นเสียงร้องไห้ไว้สุดกำลัง กลัวว่าผู้อื่นจะได้ยิน
“ท่านอาสะใภ้สี่ ข้านำจดหมายมาให้ท่านดูเฉยๆ เราต้องเผามันทิ้งเจ้าค่ะ…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเสียงเบาหวิว
ฮูหยินสี่พยักหน้าทั้งน้ำตา นางเข้าใจ…เข้าใจดี จดหมายอยู่ที่นางคงไม่ปลอดภัยเท่าใดนัก ทางที่ปลอดภัยที่สุดคืออ่านเสร็จแล้วเผาทิ้งทันทีจากนั้นเก็บไว้แค่ในใจ
นางอยากกล่าวขอบคุณไป๋ชิงเหยียน ทว่า กลัวว่าหากเอ่ยปากจะหลุดเสียงร้องไห้ออกมา
นางอยากขอบคุณที่ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้โกหกนาง ขอบคุณที่ไป๋ชิงเหยียนนำจดหมายของอาเจวี๋ยมาให้นาง ให้นางรู้ว่าอาเจวี๋ยยังมีชีวิตอยู่จริงๆ นางทำได้เพียงเอื้อมมือไปบีบมือของไป๋ชิงเหยียนไว้แน่นสุดกำลังเท่านั้น
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วยาม ไป๋ชิงเหยียนเดินออกมาจากเรือนลี่สุ่ยของอาสะใภ้สี่ อาสะใภ้สี่เป็นคนเผาจดหมายยับยู่ยี่นั่นทิ้งด้วยมือของนางเอง
ท่านอาสะใภ้สี่กล่าวว่านางจะสวดมนต์กินมังสวิรัติเพื่อขอให้สวรรค์คุ้มครองอาเจวี๋ยและทุกคนในตระกูลไป๋ให้ปลอดภัยเหมือนดั่งปกติ
เรื่องที่ตระกูลบรรพบุรุษไป๋ทำให้องค์หญิงใหญ่โมโหจนกระอักเลือดแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวงภายในหนึ่งชั่วยาม ชาวบ้านต่างตกตะลึง ตระกูลบรรพบุรุษไป๋ใจกล้าถึงขั้นทำให้องค์หญิงใหญ่กระอักเลือดเลยหรือ
ไป๋จิ่นซิ่วที่อยู่จวนฉินได้ยินข่าวนี้ก็รีบสั่งให้คนเตรียมรถม้ากลับไปยังจวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ทันที
เมื่อไป๋จิ่นซิ่วกลับไปถึงจึงรู้ว่าเป็นแค่การจัดฉาก ที่แท้เป็นเพียงวิธีการจัดการกับตระกูลบรรพบุรุษของท่านย่าเท่านั้น หญิงสาวจึงโล่งใจ มุ่งหน้าไปยังเรือนชิงฮุย
ไป๋ชิงเหยียนกำลังตรวจดูรายการข้าวของของเรือนชิงฮุยที่ถงหมัวมัวคัดเลือกเตรียมส่งไปยังซั่วหยางในรอบแรก
ชุนเถาเห็นไป๋จิ่นซิ่วเดินมาจึงเข้าไปรายงานไป๋ชิงเหยียน จากนั้นเดินออกไปต้อนรับไป๋จิ่นซิ่วที่หน้าเรือนชิงฮุยพร้อมกับถงหมัวมัว
บัดนี้ไป๋จิ่นซิ่วตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว ท้องเริ่มใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทว่า เป็นเพราะเคยฝึกวิทยายุทธมาก่อน หญิงสาวจึงกระฉับกระเฉงกว่าคนท้องทั่วไป
ถงหมัวมัวประคองไป๋จิ่นซิ่วเข้าไปด้านใน “ช้าหน่อยเจ้าค่ะคุณหนูรอง ตอนนี้คุณหนูไม่ได้ตัวคนเดียวนะเจ้าคะ”
“แม่บุญธรรม!” อิ๋นซวงทำความเคารพถงหมัวมัว
ชุยปี้สาวใช้ข้างกายของไป๋จิ่นซิ่วก็ย่อกายทำความเคารพถงหมัวมัวยิ้มๆ “ถงหมัวมัว! แม่นางชุนเถา!”
ถงหมัวมัวพยักหน้าน้อยๆ
“ไม่เป็นอันใด พี่หญิงใหญ่เล่า” ไป๋จิ่นซิ่วถาม
“เมื่อครู่กำลังตรวจรายการสิ่งของที่จะส่งไปยังซั่วหยางอยู่กับถงหมัวมัวเจ้าค่ะ” ชุนเถาแหวกม่านให้ไป๋จิ่นซิ่วยิ้มๆ เมื่อส่งไป๋จิ่นซิ่วเข้าไปด้านในเสร็จ จึงหันไปสั่งให้คนนำชาพุทรามาให้ไป๋จิ่นซิ่ว
“พี่หญิงใหญ่…”
เมื่อเห็นไป๋จิ่นซิ่วเดินมาด้านใน ไป๋ชิงเหยียนจึงเก็บรายชื่อพลางเอ่ยถาม “ได้ยินเรื่องของท่านย่าจึงมาที่นี่อย่างนั้นหรือ”
“เจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นซิ่วพยักหน้า จากนั้นนั่งลงข้างกายพี่หญิงใหญ่
“คุณหนูใหญ่!” อิ๋นซวงทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน
ไป๋ชิงเหยียนยิ้มให้อิ๋นซวง “ลุกขึ้นเถิด!”
ถงหมัวมัวรู้ว่าพี่น้องมีเรื่องต้องสนทนากันจึงกล่าวยิ้มๆ “คุณหนูใหญ่และคุณหนูรองสนทนากันไปก่อนนะเจ้าคะ บ่าวจะพาอิ๋นซวงกับชุยปี้ไปทานนมแพะนึ่งเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ตอนกลับให้พวกนางนำกลับไปด้วย”
ถงหมัวมัวนึกว่าอิ๋นซวงจะดีใจ ทว่า นึกไม่ถึงว่าอิ๋นซวงจะโบกมือปฏิเสธ จากนั้นยืนนิ่งอยู่ใกล้ไป๋จิ่นซิ่ว “ไม่ได้ ข้าต้องเฝ้าคุณหนูรองไม่ให้ห่างกาย!”
ชุยปี้ได้ยินคำกล่าวของอิ๋นซวงจึงใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากลอบหัวเราะ “คุณหนูใหญ่ดูเด็กอิ๋นซวงนี่เถิดเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่สั่งว่าห้ามนางอยู่ห่างจากคุณหนูรอง เจ้าเด็กนี่ไม่ให้ท่านเขยเข้าห้องนอนตอนกลางคืนด้วยซ้ำเจ้าค่ะ นางทำตัวราวกับเสาอยู่ข้างเตียงของคุณหนูรอง ขนาด…”
“ชุยปี้!” ไป๋จิ่นซิ่วปรามด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
“ขนาดอันใด” ไป๋ชิงเหยียนถามต่อ
ชุยปี้ไม่ทันได้เอ่ยตอบ ก็เห็นอิ๋นซวงเอ่ยตอบด้วยใบหน้าภาคภูมิใจ “ขนาดคุณหนูรองปลดทุกข์ ข้ายังตามไปไม่ให้ห่างสายตาเลยเจ้าค่ะ!”
ถงหมัวมัวและบรรดาสาวใช้ในห้องต่างก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มอย่างทนไม่ไหว อิ๋นซวงจ้องไปทางไป๋ชิงเหยียนด้วยแววตาที่เป็นประกายราวกับกำลังรอให้ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยชม
ไป๋จิ่นซิ่วมองอิ๋นซวงอย่างไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี หญิงสาวกล่าวอย่างจนปัญญา “พี่หญิงใหญ่จัดการให้หน่อยเถิดเจ้าค่ะ หากไม่ใช่เพราะชุ่ยปี้มีความสามารถ คนทั้งจวนคงรู้แล้วว่าอิ๋นซวงได้รับคำสั่งให้ดูแลข้าจนไม่ให้ฉินหล่าง...นอนในห้องนอน”
ไป๋จิ่นซิ่วไม่กล้าเอ่ยว่าไม่ให้ฉินหล่างเข้าใกล้กาย
หลังจากตะลึงไปชั่วครู่ ไป๋ชิงเหยียนหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ ไป๋จิ่นซิ่วเป็นคนอ่อนโยน นางนึกออกเลยว่าน้องสาวคงกระอักกระอ่วนแต่ก็ไม่กล้าทำลายน้ำใจของอิ๋นซวง จึงตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้
“อิ๋นซวงทำดีมาก!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับอิ๋นซวงยิ้มๆ “ทว่า อิ๋นซวงต้องเชื่อฟังคำสั่งของคุณหนูรองด้วย เจ้าดูแลข้างกายของคุณหนูรองก็ลำบากมากแล้ว หากคุณหนูรองให้เจ้าไปพักผ่อน เจ้าก็ควรไปพักผ่อน มิเช่นนั้นหากคุณหนูรองออกไปข้างนอก เจ้าจะมีแรงตามไปดูแลนางได้อย่างไร ใช่หรือไม่”
อิ๋นซวงคิดตามพลางพยักหน้า “เจ้าค่ะ!”
“ดังนั้นอิ๋นซวงต้องฟังคำสั่งของคุณหนูรองนะ” ชุนเถาหัวเราะพลางกล่าวเสริม
อิ๋นซวงพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว เวลาคุณหนูรองออกไปข้างนอกให้ตามติดไม่ห่างกาย เวลาอยู่ที่เรือนให้ฟังคำสั่งของคุณหนูรอง!”
“อิ๋นซวงฉลาดจริงๆ” ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้ายิ้มๆ
ไป๋จิ่นซิ่วอยู่ที่เรือนชิงฮุยครู่หนึ่งจากนั้นจึงกลับไปยังจวนฉิน ไป๋จิ่นซิ่วมาอย่างรีบร้อน จวนฉินมีเรื่องยังไม่ได้สะสางอีกมากมาย
ไป๋ชิงเหยียนไปส่งไป๋จิ่นซิ่วที่หน้าประตูด้วยตัวเอง จากนั้นสั่งให้ชุนเถาไปตามหลูผิงมาพบ