สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 351 ภูมิใจในตัวเขา
ลำคอของเสิ่นชิงจู๋ร้อนผ่าว เดินเข้าไปด้านในทั้งน้ำตา นางเห็นไป๋ชิงเหยียนยิ้มให้นางพลางกล่าวทัก “เจ้ากลับมาแล้วหรือ”
ขอบตาของเสิ่นชิงจู๋แดงก่ำ คุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น พยายามควบคุมเสียงสะอื้นของตัวเอง “ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ!”
ไป๋ชิงเหยียนวางหอกเงินหงอิงไว้ที่เสาด้านหลังอย่างเบามือ เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเสิ่นชิงจู๋ โน้มกายประคองแขนทั้งสองข้างของเสิ่นชิงจู๋ให้ลุกขึ้น “กลับมาก็ดีแล้ว…”
เสิ่นชิงจู่จับแขนที่สั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ของไป๋ชิงเหยียน ทว่า กลับสัมผัสโดนถุงทรายที่พันอยู่รอบแขนของหญิงสาว เมื่อออกแรงบีบเล็กน้อยก็สัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นจากเหงื่อ
เสิ่นชิงจู๋เงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียนอย่างตกตะลึง เห็นหยาดเหงื่อไหลไปตามแนวคางของหญิงสาว
ตอนที่นางได้ยินเซียวรั่วไห่เล่าให้ฟังว่าระหว่างเดินทางไปหนานเจียง คุณหนูใหญ่ฝึกฝนอย่างไรถึงยกธนูเซ่อรื้อขึ้นมาได้อีกครั้ง นางเจ็บปวดใจมาก!
ทว่า นางนึกไม่ถึงเลยว่าคุณหนูใหญ่จะใช้วิธีที่เด็ดขาดเช่นนี้ฝึกยกหอกเงินหงอิงเช่นเดียวกัน!
“ลุกขึ้นเถิด!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
เสิ่นชิงจู๋ยืนขึ้นพลางมองไปทางไป๋ชิงเหยียนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “คุณหนูใหญ่…”
“เข้าไปในห้องก่อนเถิด”
“บ่าวจะไปนำชาแดงที่แม่นางเสิ่นชิงจู๋ชอบที่สุดและของว่างมาให้เจ้าค่ะ” ชุนเถาดีใจมากเช่นเดียวกัน
ไป๋ชิงเหยียนเดินจูงมือเสิ่นชิงจู๋เข้าไปในห้อง ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อ ปลดถุงทรายออกพลางเอ่ยถาม “เจ้ากลับมาจากภูเขาหลัวพานอย่างนั้นหรือ”
เสิ่นชิงจู๋รู้ว่าไป๋ชิงเหยียนเป็นห่วงไป๋ชิงอวิ๋น หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆ ปลดดาบของตัวเองวางไว้ด้านข้าง จากนั้นเดินเข้าไปคุกเข่าลงตรงหน้าไป๋ชิงเหยียน ช่วยนางปลดถุงทรายซึ่งชุ่มไปด้วยเหงื่อที่ขาออก
“ข้า เว่ยเกาและทหารหน่วยกล้าตายคุ้มกันคุณชายเก้าไปถึงภูเขาหลัวพาน จากนั้นคุณชายเก้าก็ให้พวกข้ากลับไปเจ้าค่ะ เขากลัวว่าคุณหนูใหญ่และคุณชายเจ็ดจะไม่มีคนไว้ใช้งาน เขาอยู่ที่ภูเขาหลัวพานไม่มีอันตรายใดๆ พวกข้ายืนกรานจะติดตามไปด้วย ทว่า สำนักหลัวพานซื่อไห่มีกฎเหล็กห้ามพวกข้าติดตามเข้าไปด้วย อนุญาตให้คุณชายเก้าเข้าไปเพียงคนเดียว ข้าจึงให้เว่ยเกาและทหารหน่วยกล้าตายคนอื่นๆ รอคุณชายเก้าอยู่ด้านล่างภูเขา ส่วนข้ากลับมาคนเดียวเจ้าค่ะ”
นึกถึงขาทั้งสองข้างของไป๋ชิงอวิ๋น ไป๋ชิงเหยียนลำคอร้อนผ่าว เอ่ยถามเสิ่นชิงจู๋เสียงเบาหวิว “อาอวิ๋น...สบายดีหรือไม่”
“คุณหนูใหญ่วางใจได้เจ้าค่ะ คุณชายเก้ายังไม่ย่อท้อ! ที่คุณชายเก้ามุ่งหน้าไปยังภูเขาหลัวพานโดยไม่ยอมพบหน้าคุณหนูใหญ่ก่อนก็เพราะเขาไม่อยากให้คุณหนูใหญ่ต้องเสียใจที่เห็นเขาในสภาพนี้เจ้าค่ะ! คุณชายเก้ากล่าวว่าสำนักหลัวพานซื่อไห่มีคนมีความสามารถจากทั่วทุกที่ เขาอยากไปขอร้องปรมาจารย์กู้อีเจี้ยนของคุณชายเจ็ดว่าจะมีทางรักษาขาทั้งสองข้างของเขาได้หรือไม่ หากไม่มีทางรักษาจริงๆ เขาจะฝากตัวเป็นศิษย์ของปรมาจารย์เจ้าค่ะ”
“คุณชายเก้ากล่าวว่าขนาดพี่หญิงใหญ่ที่ป่วยอ่อนแอมานานยังประคับประคองตระกูลไป๋ ปกป้องชาวบ้านแถบชายแดน สวมเสื้อเกราะออกรบ ยกธนูเซ่อรื้อขึ้นอีกครั้งได้! เขาเป็นบุรุษของตระกูลไป๋ แม้ขาสองข้างจะพิการ ทว่า เขายังมีมืออีกสองข้าง ขอแค่ไม่ตาย เขาไม่มีทางทำตัวเป็นคนไร้ประโยชน์ให้ครอบครัวเป็นกังวลแน่นอน บรรพบุรุษตระกูลไป๋ทุกรุ่นมีศรัทธาเดียวกันนั่นก็คือทำให้ใต้หล้าสงบสุข ในฐานะทายาทของตระกูลไป๋ เขาควรทำให้เต็มที่ที่สุด! คุณชายเก้าหวังว่าการพบกันครั้งหน้า ท่านแม่และพี่หญิงใหญ่จะภูมิใจในตัวเขา ไม่ใช่เสียใจเพราะเขาเจ้าค่ะ!”
สิ้นเสียง จมูกของไป๋ชิงเหยียนแสบร้อน ขอบตาร้อนผ่าวทันที
ไม่ว่าเมื่อใดเวลาใด ไป๋ชิงอวิ๋นช่างเป็นบุรุษคนดีของตระกูลไป๋จริงๆ
มีบุรุษเช่นนี้อยู่…ตระกูลไป๋ไม่มีทางล้มลงอย่างแน่นอน
“เจ้าเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนก่อนเถิด! เมื่อเจ้าพักผ่อนเต็มที่แล้วเราค่อยมาคุยกันต่อ” ไป๋ชิงเหยียนมองดูขอบตาที่ดำคล้ำของเสิ่นชิงจู๋ก็รู้ทันทีว่าหญิงสาวคงรีบเดินทางกลับมาโดยไม่ยอมหยุดพักผ่อนแน่นอน “หลังจากนี้มีเรื่องต้องทำอีกมากมาย ต้องลำบากเจ้าแล้ว!”
เสิ่นชิงจู๋ไม่ได้ฝืนอยู่ต่อ พยักหน้าน้อยๆ “เจ้าค่ะ…”
ชุนเถาถือน้ำชาแดงเข้ามาก็เห็นว่าเสิ่นชิงจู๋เตรียมจะจากไป รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “แม่นางเสิ่นไปนั่งพักอีกสักหน่อยหรือเจ้าคะ ถงหมัวมัวเตรียมจัดโต๊ะทานอาหารแล้วเจ้าค่ะ”
“ให้ชิงจู๋ไปพักผ่อนก่อน บอกถงหมัวมัวว่าเดี๋ยวค่อยจัดโต๊ะ” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
“เจ้าค่ะ!” ชุนเถารีบแหวกม่านให้เสิ่นชิงจู๋ “บ่าวส่งแม่นางเสิ่นเองเจ้าค่ะ…”
ไป๋ชิงเหยียนมองเห็นเสิ่นชิงจู๋เดินออกจากเรือนชิงฮุยผ่านทางหน้าต่าง หญิงสาวก้มหน้ามองดูมือหยาบกร้านของตัวเอง ค่อยๆ กำหมัดแน่น
นางสู้น้องชายของนางไม่ได้เลยสักนิด!
นางได้รับบาดเจ็บ เอาแต่รักษาตัวอย่างสุขสบายอยู่ในจวน น้องชายของนางสูญเสียขาทั้งสองข้าง ทว่า กลับยังไม่ทิ้งความมุ่งมั่น ไม่ลืมศรัทธาของตระกูลไป๋!
ดวงตาที่แดงก่ำของไป๋ชิงเหยียนปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ บัดนี้น้องชายของนางกำลังพยายามอย่างเต็มที่ นางหวังว่าการพบกันคราวหน้า นางจะทำให้น้องชายภูมิใจ ไม่ใช่เสียใจเช่นเดียวกัน
เมื่อไป๋จิ่นจื้อรู้ว่าเสิ่นชิงจู๋กลับมาแล้วก็รีบมุ่งหน้ามาหาไป๋ชิงเหยียนทันที แต่คาดไม่ถึงว่าเสิ่นชิงจู๋จะกลับไปพักผ่อนแล้ว
ไป๋จิ่นจื้อลากเก้าอี้กลมมานั่งข้างๆ ไป๋ชิงเหยียน มองดูชุนเถาเช็ดผมให้ไป๋ชิงเหยียนพลางเอ่ยถาม “ข้าได้ยินว่าช่วงนี้ฮ่องเต้ทรงปวดพระเศียรอย่างหนัก มีเพียงชิวกุ้ยเหรินนวดให้เท่านั้นถึงจะบรรเทาความปวดของพระองค์ได้ หมอหลวงยังจนปัญญา เดิมทีท่านหมอหลวงหวงอยากให้ท่านหมอหงช่วยตรวจดูอาการของพระองค์ แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดฮ่องเต้จึงไม่ยอมให้ตรวจเจ้าค่ะ”
“แต่ข้าคิดว่าข้ารู้ว่าเพราะเหตุใดนะเจ้าคะ เพราะท่านหมอหงเป็นคนของตระกูลไป๋ ดังนั้นฮ่องเต้จึงหวาดระแวงเป็นธรรมดา ตอนนี้ทรงยอมแล้ว ทว่า ท่านหมอหงกลับไม่อยู่เมืองหลวง” ไป๋จิ่นจื้อกล่าวอย่างสะใจ
ไป๋ชิงเหยียนละสายตาจากหนังสือมองไปยังไป๋จิ่นจื้อ “เจ้าได้ยินสิ่งเหล่านี้มาจากที่ใดกัน”
“ข้าได้ยินอาหรง หลานสาวของท่านหมอหลวงหวงเล่าให้ฟังเจ้าค่ะ วันนี้ข้าแอบไปดูมาว่างานแต่งของญาติผู้พี่ฉางเซิงครื้นเครงเพียงใด บังเอิญเจอกับอาหรงที่อยู่ในช่วงไว้ทุกข์เหมือนกัน อาหรงก็แอบไปดูเรื่องสนุกเหมือนกันเจ้าค่ะ!”
ไป๋จิ่นจื้อยกชาขึ้นจิบเล็กน้อย “พวกเรานั่งสนทนากันที่โรงน้ำชาสักพัก อาหรงเล่าว่าเมื่อวานวังหลวงส่งคนมาที่จวนหวงขอให้ท่านหมอหลวงหวงเชิญท่านหมอหงเข้าไปในวัง ทว่า ท่านหมอหลวงหวงกล่าวว่าศิษย์พี่ของเขาไปจากเมืองหลวงได้สองสามวันแล้ว ตอนนี้ไม่รู้อยู่ที่ใด! อาหรงยังบ่นอยู่เลยว่าเหตุใดคนของวังหลวงไม่มาเชิญที่จวนเรา แต่กลับไปที่จวนหวงแทน”
หากข่าวมาจากจวนหวง เช่นนั้นก็น่าเชื่อถือ
ฮ่องเต้ปวดศีรษะ มีเพียงการนวดของชิวกุ้ยเหรินถึงจะช่วยบรรเทาได้…
ไป๋ชิงเหยียนเคาะนิ้วลงบนโต๊ะอย่างครุ่นคิด ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินว่าฮ่องเต้มีอาการปวดศีรษะเรื้อรังนี่นา
ที่สำคัญฮ่องเต้เริ่มปวดหัวรุนแรงบ่อยครั้ง…ดูเหมือนว่าจะเริ่มตั้งแต่ที่ชิวกุ้ยเหรินเข้าไปในวังหลวง
ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าครุ่นคิดจากนั้นหันไปทางไป๋จิ่นจื้อ “เสี่ยวซื่อ เจ้าหาโอกาสหลุดปากเอ่ยกับอาหรงว่าแม่นางหลู ลูกสาวบุญธรรมของท่านย่ามีฝีมือรักษาไม่ธรรมดา แม่นางหลูสามารถรักษาโรคเรื้อรังของบ่าวรับใช้ในจวนที่รักษาไม่หายให้หายขาดได้”
ไป๋จิ่นจื้อดวงตาเป็นประกาย นี่คือหน้าที่ที่พี่หญิงใหญ่มอบให้นาง สาวน้อยพยักหน้า “พี่หญิงใหญ่วางใจได้เจ้าค่ะ บังเอิญพอดี อาหรงรีบร้อนจากไป ผ้าเช็ดหน้าของนางยังอยู่ที่ข้า ข้าซักจนสะอาดแล้ว พรุ่งนี้จะนำไปคืนให้อาหรงเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า เมื่อเช็ดผมแห้งแล้วจึงให้ถงหมัวมัวทำผมแบบสบายๆ ให้ จากนั้นมุ่งหน้าไปที่เรือนฉางโซ่ว