สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 360 เกินเลย
ทว่า หลู่หยวนเผิงกังวลว่าหากสุดท้ายแล้วเซียวหรงเหยี่ยนไม่สมปรารถนา ชายหนุ่มอาจถอนตัวเองออกมาไม่ได้แล้ว
เพราะพี่สาวไป๋เป็นสตรีที่งดงาม องอาจ กล้าหาญ ทระนงและทำให้คนหวั่นไหวได้อย่างง่ายดายจริงๆ
หลู่หยวนเผิงสนิทสนมกับเหล่าบุรุษของตระกูลไป๋ บัดนี้บุรุษตระกูลไป๋สละชีพเพื่อบ้านเมืองจนหมดสิ้นแล้ว เขาเห็นพี่สาวไป๋เป็นดั่งพี่สาวแท้ๆ ของตัวเอง เซียวหรงเหยี่ยนเป็นดั่งสหายและพี่ชายของเขา หากไม่คำนึงถึงเรื่องฐานะ เขาก็อยากให้เซียวหรงเหยี่ยนสมหวังกับไป๋ชิงเหยียน
ซือหม่าผิงกอดคอของหลู่หยวนเผิงแล้วลากเขากลับไปยังกลุ่มของคุณชายเจ้าสำราญ เตรียมขึ้นไปบนโรงเหล้าก่อน
“ไม่รีบร้อนๆ สหายเซียวไปส่งจวิ้นจู่ก่อนแล้วค่อยกลับมาเถิด พวกเรารอท่านได้ ไม่ต้องรีบ!”
เซียวหรงเหยี่ยนก้มศีรษะให้ยิ้มๆ ไม่สนใจสายตาหยอกล้อของซือหม่าผิง
หลังจากซือหม่าผิงและกลุ่มของหลู่หยวนเผิงเดินขึ้นไปบนโรงเหล้า หลู่หยวนเผิงถอนหายใจพลางกล่าวออกมา “น่าเสียดายที่สหายเซียวเป็นเพียงพ่อค้า แม้พวกเราไม่ถือสา ทว่า ท่านย่าของพี่สาวไป๋ต้องถือสาแน่นอน นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ของราชวงศ์ต้าจิ้น ต้องไม่ยอมให้หลานสาวคนโตที่รักที่สุดลดฐานะไปแต่งงานกับพ่อค้าแน่นอน!”
ซือหม่าผิงกอดคอหลู่หยวนเผิงพลางนั่งลงข้างๆ สหาย เอื้อมมือไปเขกศีรษะของหลู่หยวนเผิงหนึ่งที “พี่สาวไป๋เป็นคนหยิ่งทระนงและเด็ดขาด นางสาบานต่อหน้าดวงวิญญาณของเจิ้นกั๋วอ๋องและเจิ้นกั๋วกงแล้วว่าจะไม่แต่งงานตลอดชีวิต เจ้าคิดว่าพี่สาวไป๋จะผิดคำสาบานแล้วไปแต่งงานหรืออย่างไรกัน”
“เช่นนี้สหายเซียวก็ไม่มีหวังแล้วสิ” หลู่หยวนเผิงไม่รู้ว่าซือหม่าผิงกำลังดีใจสิ่งใด
“หยวนเผิง ญาติพี่น้องคนอื่นของเจ้าแบ่งความฉลาดของท่านปู่เจ้าไปหมดเลยหรืออย่างไร เจ้าถึงได้ซื่อบื้อเช่นนี้อยู่คนเดียวเช่นนี้!” ซือหม่าผิงถอนหายใจ เลิกคิ้วพลางกล่าวขึ้น “พี่สาวไป๋แต่งงานไม่ได้ ทว่า สหายเซียวแต่งเข้าตระกูลไป๋ได้”
หลู่หยวนเผิงกะพริบตาปริบๆ “จะเป็นไปได้อย่างไรกัน เจ้าคิดว่าคนอย่างสหายเซียวจะแต่งงานเข้าตระกูลอื่นอย่างนั้นหรือ แม้สหายเซียวจะเป็นพ่อค้า ทว่า เขาเป็นคนนิสัยดี รัศมีดูไม่ธรรมดา เคยร่ำเรียนตำราและมีความรู้มากมาย หากไม่ใช่เพราะบรรพบุรุษทำการค้า ตระกูลมีเขาเป็นทายาทเพียงคนเดียว จำต้องสืบทอดกิจการของตระกูล บางทีเขาอาจสอบเป็นขุนนางไปแล้ว หากไม่เป็นขุนนาง ด้วยความสามารถของเขาก็อาจไปเป็นท่านอาจารย์สั่งสอนความรู้ให้ผู้อื่น คนเช่นนี้จะยอมแต่งงานเข้าตระกูลอื่นได้อย่างไรกัน”
ซือหม่าผิงมองหลู่หยวนเผิงด้วยดวงตาเป็นประกาย
“แหม หยวนเผิง ดูไม่ออกเลยว่าเจ้าจะกล่าวถ้อยคำมีความรู้เช่นนี้ออกมาได้”
หลู่หยวนเผิงหน้าแดงก่ำ เชิดหน้าตวาดออกมา “ข้าจะกล่าวถ้อยคำที่มีความรู้ออกมาบ้างไม่ได้หรืออย่างไร”
หลู่หยวนเผิงไม่กล้าบอกว่าเขาจดจำถ้อยคำเหล่านี้มาจากหลู่หยวนชิ่งพี่ชายของเขา
“ข้าว่าเจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องของพี่สาวไป๋กับสหายเซียวหรอก ในใต้หล้า ทุกคนล้วนมีวาสนาของตัวเองทั้งนั้น!” ซือหม่าผิงตบอกหลู่หยวนเผิงเป็นการปลอบใจ
บนถนน โรงเหล้าและโรงน้ำชาต่างจุดไฟสว่างไสว โคมไฟที่แขวนอยู่ตามถนนก็เริ่มสว่างขึ้นแล้วเช่นกัน
เสียงเด็กร้องตะโกนอย่างมีความสุข เสียงตะโกนร้องขายของของแม่ค้าริมทาง ช่างดูคึกคักยิ่งนัก
ไป๋ชิงเหยียนเดินเคียงคู่ไปกับเซียวหรงเหยี่ยน เยว่สือจูงม้าของม้าไป๋ชิงเหยียนเดินทิ้งระยะห่างจากทั้งคู่อยู่ทางด้านหลังอย่างรู้งานอยู่กับหลูผิง
“เซียวเซียนเซิงมีเรื่องอันใดจะกล่าวหรือเจ้าคะ” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
“ไม่มีเรื่องสำคัญอันใดขอรับ เหยี่ยนแค่อยากขอบคุณคุณหนูใหญ่เรื่องใบชาที่ส่งไปยังภูเขาคงต้ง ทำให้เหยี่ยนส่งไปชาไปยังต้าเหลียงได้ทันเวลาขอรับ” เซียวหรงเหยี่ยนเดินตามไป๋ชิงเหยียนไปอย่างช้าๆ น้ำเสียงไม่รีบร้อน
“เรื่องนี้สำคัญกับเหยี่ยนมากจริงๆ เหยี่ยนซาบซึ้งใจมาก แต่ไม่รู้จะตอบแทนคุณหนูใหญ่เช่นไรดีขอรับ”
“เซียวเซียนเซิงเกรงใจเกินไปแล้วเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนและเซียวหรงเหยี่ยนต่างรู้ดีอยู่แก่ใจว่าคนที่ปล้นใบชาขาวของเซียวหรงเหยี่ยนไปคือคนของไป๋ชิงเหยียน
หญิงสาวชะงักฝีเท้า หันไปมองเซียวหรงเหยี่ยน
“หากเซียวเซียนเซิงต้องการแค่ขอบคุณ เช่นนั้นก็เชิญกลับไปเถิดเจ้าค่ะ สหายของเซียวเซียนเซิงยังรออยู่ที่โรงเหล้า เซียวเซียนเซิงไม่จำเป็นต้องไปส่งข้าแล้วเจ้าค่ะ”
สิ้นเสียงของไป๋ชิงเหยียน จู่ๆ เซียวหรงเหยี่ยนเงยหน้ามองไปยังเหนือศีรษะของคนทั้งคู่ มือหนึ่งรั้งบ่าของไป๋ชิงเหยียนให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขา จากนั้นก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างรวดเร็ว
“คุณหนูใหญ่!” หลูผิงเบิกตาโพลง
กระถางต้นไม้เฉียดแผ่นหลังของไป๋ชิงเหยียนไปนิดเดียว กระทบลงบนพื้น แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
เด็กรับใช้ที่อยู่บนชั้นสองของโรงเหล้ารีบกล่าวขอโทษอย่างร้อนรน
“เป็นอันใดหรือไม่” ลำแขนแข็งแกร่งของเซียวหรงเหยี่ยนยังคงโอบรอบเอวเรียวเล็กของไป๋ชิงเหยียนแน่น
ไป๋ชิงเหยียนใจเต้นรัว เงยหน้าขึ้นสบตาเซียวหรงเหยี่ยน แสงอบอุ่นของดวงอาทิตย์และแสงสว่างจากโคมไฟตามถนนส่องกระทบใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่ม ทำให้ใบหน้าของเขาดูเด่นชัดมากยิ่งขึ้น ดวงตาคู่นั้นยิ่งคมลึกมากกว่าเดิม
ลมหายใจเต็มไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ จากกลิ่นกายของชายหนุ่ม หญิงสาวใช้มือยันหน้าอกของชายหนุ่มหวังจะผลักเขาออกห่าง ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนกลับกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น ทำให้สองคนอยู่ใกล้ชิดกันมากกว่าเดิม
ดวงตาลึกล้ำของชายหนุ่มจ้องสบตาของไป๋ชิงเหยียนนิ่ง แม้จะไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมาทั้งสิ้น ทว่า แววตากลับเปิดเผยความรู้สึกทั้งหมดออกไปแล้ว
เมื่อเห็นว่าคุณหนูใหญ่ปลอดภัยดี หลูผิงจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก รู้สึกประทับใจในตัวเซียวหรงเหยี่ยนมากขึ้น
“ขออภัยขอรับ! ขออภัยจริงๆ ขอรับ!” เจ้าของโรงเหล้ารีบวิ่งออกมาโค้งกายขอขมา
ไป๋ชิงเหยียนรีบผละออกจากอ้อมกอดของเซียวหรงเหยี่ยน หันกลับไปมองเจ้าของโรงเหล้าที่ดูร้อนรนจริงๆ หญิงสาวยืนเอามือไขว้หลัง กำมือที่ซ่อนอยู่ทางด้านหลังแน่น พยายามความคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ให้สั่นไหว
“ไม่ได้เรื่องสักคน!” เจ้าของโรงเหล้าถีบไปยังเด็กรับใช้ที่หลบอยู่ทางด้านหลังเขาเต็มแรง
“ดันมาย้ายกระถางต้นไม้เวลานี้จนทำให้ท่านเกือบได้รับบาดเจ็บ ขออภัยจริงๆ ขอรับ!”
เด็กรับใช้ถูกเจ้าของโรงเหล้าถีบไปหนึ่งที เขายืนตัวสั่นเทาอยู่ด้านหลังเจ้าของโรงเหล้าด้วยความหวาดกลัว ดวงตาแดงก่ำ สองคนตรงหน้าดูไม่ธรรมดาเลยสักนิด แต่งกายด้วยชุดสูงศักดิ์ เด็กรับใช้รู้ทันทีว่าเขาสร้างปัญหาใหญ่ขึ้นแล้ว ขาอ่อนแรง คุกเข่าลงบนพื้นทันที
“ขออภัยท่านทั้งสองจริงๆ ขอรับ ข้าไม่ได้ตั้งใจขอรับ! ท่านทั้งสองได้โปรดเมตตาด้วยเถิดขอรับ!”
เด็กรับใช้กล่าวจบด้วยเสียงสะอื้น โขกศีรษะลงบนพื้นหลายครั้งอย่างอ้อนวอน
ไป๋ชิงเหยียนมองดูเด็กรับใช้ที่ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว กล่าวเสียงเบา “ข้าไม่ได้เป็นอันใด เจ้าจะเป็นอันใดได้เล่า ลุกขึ้นเถิด คราวหน้าระวังให้มากกว่านี้ก็แล้วกัน อย่าทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนอีก”
“ขอรับๆ!” เด็กรับใช้เหมือนได้ชีวิตใหม่อีกครั้ง
“ขอบพระคุณคุณหนูขอรับ…ขอบพระคุณคุณหนูขอรับ!”
“ขอบพระคุณท่านทั้งสองขอรับ! ขอบพระคุณท่านทั้งสองขอรับ!” เจ้าของร้านรีบกล่าวขอบคุณเช่นเดียวกัน
ไป๋ชิงเหยียนจ้องมองไปยังเด็กรับใช้ผู้นั้นนิ่ง เมื่อเห็นว่าเขาเปลี่ยนท่าทีจากความหวาดกลัวไปเป็นดีใจที่รอดชีวิต ไม่เหมือนเสแสร้งแกล้งทำ หญิงสาวจึงเดินจากไป
เซียวหรงเหยี่ยนสลับตำแหน่งกับไป๋ชิงเหยียน ให้หญิงสาวเดินติดกับถนน ระมัดระวังตัวมากขึ้น
“เหยี่ยนไปส่งคุณหนูใหญ่ขอรับ”
เดิมทีไป๋ชิงเหยียนจะปฏิเสธ ทว่า เมื่อเห็นสายตาสงบนิ่งและจริงจังของเซียวหรงเหยี่ยนจึงยอมพยักหน้า
เซียวหรงเหยี่ยนส่งไป๋ชิงเหยียนที่หน้าประตูจวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ ทำความเคารพหญิงสาวแล้วจากไป ไม่ได้กระทำสิ่งใดเกินเลยอีก