สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 398 ปลอดภัย
ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนแหวกม่าน เดินอ้อมฉากกั้นเข้าไปด้านในห้อง ฮูหยินห้าฉีซื่อกำลังเอ่ยหยอกไป๋จิ่นซิ่ว “ทับทิมที่ท่านย่าของเจ้ามอบให้เจ้าสื่อความหมายว่ามีลูกมีหลานเต็มบ้าน เจ้าอย่าได้ปฏิเสธเลย รับไว้เถิด เจ้าต้องลูกมีหลานเต็มบ้านดั่งที่ท่านย่าเจ้าหวังไว้ด้วยนะ!”
ฮูหยินสองหลิวซื่อมองดูทับทิมสีแดงขนาดใหญ่เท่าลูกแตงโม ไม่เพียงแต่เป็นของล้ำค่าหายาก ทว่า ยังแกะสลักราวกับมีชีวิตจริง วางมอบให้ตระกูลสูงศักดิ์ธรรมดาทั่วไป สามารถเป็นของตกทอดประจำตระกูลนั้นได้เลย
ไป๋จิ่นซิ่วถือกล่องดำสลักลายดอกไว้สีทองไว้ในอ้อมแขน ใบหน้าแดงเถือก ลุกขึ้นยืนทำความเคารพองค์หญิงใหญ่ “ขอบพระคุณท่านย่าเจ้าค่ะ”
“อาเป่าอยากได้สิ่งใด” องค์หญิงใหญ่มองไปทางไป๋ชิงเหยียนพลางเอ่ยถามยิ้มๆ
หญิงสาวเอ่ยตอบยิ้มๆ “อาเป่ายังให้ทุกคนในตระกูลไป๋ปลอดภัยเจ้าค่ะ”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาเจวี๋ยและอาอวิ๋นซึ่งไม่ได้อยู่ ณ ที่นี้ หญิงสาวอยากให้พวกเขาแข็งแรงปลอดภัย ทำทุกอย่างสำเร็จราบรื่นดั่งใจหวัง
องค์หญิงใหญ่มองดูหลานสาวที่มีสีหน้าราบเฉย กระชับมือแน่นขึ้น ขอบตาร้อนผ่าว
นั่นสินะ ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าความปลอดภัยของทุกคนในตระกูลอีกแล้ว…
วันที่หนึ่ง เดือนห้า ฟ้ายังไม่ทันสว่าง ดวงดาวและพระจันทร์ยังคงลอยเด่นบนท้องฟ้า บรรดาบ่าวรับใช้ของตระกูลไป๋ยืนรอเจ้านายของตนเองขึ้นไปบนรถม้าอยู่ข้างรถม้าหน้าจวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่อย่างเป็นระเบียบ
แสงอรุณค่อยๆ สาดส่องจากทางทิศตะวันออกแผ่ไปยังทิศตะวันตก ดวงจันทร์ที่เคยส่องไสวในยามค่ำคืนค่อยๆ จางลง
หน้าประตูจวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ เจี่ยงหมัวมัวสั่งให้บ่าวรับใช้ที่อยู่รับใช้ในเมืองหลวงต่อนำของว่างและผลไม้ที่เตรียมไว้ขึ้นไปบนรถม้าทุกคัน
องค์หญิงใหญ่ถือไม้เท้าหัวพยัคฆ์สีดำด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างกุมมือของไป๋ชิงเหยียนเอาไว้ ฝืนกลั้นน้ำตายืนกำชับอยู่หน้าจวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่
“เดินทางระมัดระวังด้วย ช่วงนี้ไม่ค่อยปลอดภัยนัก!”
ไป๋ชิงเหยียนมองดูมือที่เหี่ยวย่นขององค์หญิงใหญ่ เงยหน้าพยักหน้าให้นาง “ท่านย่าไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ เมื่อถึงซั่วหยางแล้วข้าจะให้คนกลับมารายงานท่านย่าเจ้าค่ะ”
“ท่านแม่วางใจเถิดเจ้าค่ะ!” ต่งซื่อโอบบ่าของบุตรสาว ยิ้มให้องค์หญิงใหญ่ “องค์รัชทายาทส่งคนตามไปคุ้มครองด้วย ไม่เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรอกเจ้าค่ะ”
“ท่านแม่ พี่หญิงใหญ่…” ไป๋จิ่นเซ่อย่อกายทำความเคารพต่งซื่อและไป๋ชิงเหยียน น้ำตาไหลพรากอย่างห้ามไม่อยู่ “ท่านแม่และพี่หญิงใหญ่ดูแลตัวเองให้ดีนะเจ้าคะ เสี่ยวชีจะดูแลท่านย่าให้ดี และจะตั้งใจเรียนวิชากับท่านอาเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าลูบไปที่ศีรษะของน้องสาวคนเล็ก สายตาหยุดอยู่ที่ไป๋จิ่นซิ่วซึ่งร้องไห้ไม่หยุด
ไป๋จิ่นซิ่วพยักหน้าให้พี่สาวเล็กน้อย นางรู้ดีว่าสักวันพี่หญิงใหญ่จะพาตระกูลไป๋กลับมาเมืองหลวงอย่างสมเกียรติ!
พี่หญิงใหญ่กำลังเดินหมากครั้งยิ่งใหญ่ นางต้องเตรียมตัวให้พร้อม ภายภาคหน้าจะได้เป็นแรงสนับสนุนพี่หญิงใหญ่ได้
“ไปเถิด…ไปเถิด” องค์หญิงใหญ่บีบมือของไป๋ชิงเหยียนเบาๆ กล่าวเสียงสะอื้น
ต่งซื่อ ฮูหยินสามหลี่ซื่อ ฮูหยินสี่หวังซื่อ ฮูหยินห้าฉีซื่อ ไป๋ชิงเหยียน ไป๋จิ่นจื้อ ไป๋จิ่นเจาและไป๋จิ่นหวาทำความเคารพองค์หญิงใหญ่และฮูหยินสองหลิวซื่อ
ฮูหยินสองหลิวซื่อใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา
“พี่สะใภ้ใหญ่ พอจิ่นซิ่วคลอดลูกอยู่ไฟเสร็จ ข้าจะรีบกลับไปเจ้าค่ะ!”
ต่งซื่อตบไปที่มือของฮูหยินสองเบาๆ พยักหน้ายิ้มๆ เดินขึ้นไปบนรถม้าโดยมีฉินหมัวมัวช่วยประคอง
“คุณหนูใหญ่…” ในที่สุดหลูหนิงฮว่าก็หาโอกาสเดินเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียนได้ “ฝากหลางหวาด้วยนะเจ้าคะ!”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ฝากท่านอาดูแลท่านย่าและเสี่ยวชีด้วยนะเจ้าคะ”
“คุณหนูใหญ่ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ” หลูหนิงฮว่าพยักหน้า
เมื่อวานจี้หลางหวาทูลฮ่องเต้ตามที่ไป๋ชิงเหยียนบอก ฮ่องเต้สั่งให้หมอหลวงตรวจสอบยาเม็ดนั้น พบว่าเป็นเพียงยาธรรมดา ฮ่องเต้รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย จี้หลางหวาแสร้งร้องไห้โฮออกมาอย่างเจ็บปวด
ฮ่องเต้มองดูจี้หลางหวาที่คลุ้มคลั่งราวกับคนบ้า ถอยหายใจพลางตรัสออกมาว่าหญิงสาวน่าสงสาร สั่งให้คนพาจี้หลางหวาไปส่งนอกวัง จี้หลางหวาจึงรอดปลอดภัย
องค์หญิงใหญ่มองดูไป๋ชิงเหยียนถลกชายกระโปรงก้าวขึ้นไปบนรถม้า ในที่สุดก็ทนไม่ไหว ถือไม้เท้าเดินไปด้านหน้า เอ่ยเรียกเสียงสะอื้น “อาเป่า…”
จากกันวันนี้…องค์หญิงใหญ่ไม่รู้ว่าจะได้เจอหลานสาวของตัวเองอีกหรือไม่ นางแก่มากแล้ว…ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกนานเพียงใด
ไป๋ชิงเหยียนได้ยินเสียงเรียกที่เศร้าสร้อยขององค์หญิงใหญ่ ได้ยินเสียงกลั้นสะอื้นของนาง หญิงสาวชะงักฝีเท้านิ่ง
ท่านย่าของนางเข้มแข็งและยืนหยัดมาค่อนชีวิต ท่านดูสูงส่งและน่าเกรงขามเสมอเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่นและบ่าวรับใช้ ท่านเคยอ่อนแอและเศร้าโศกเช่นนี้เมื่อใดกัน
ไป๋ชิงเหยียนหันกลับไปมอง องค์หญิงใหญ่ซึ่งผมขาวโพลนร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ท่านกุมเสื้อตรงหน้าอกแน่นพลางมองมาทางนางทั้งน้ำตา
ภาพในอดีตผุดขึ้นมาในสมองมองมากมาย
ภาพใบหน้ายิ้มแย้มและรักใคร่เอ็นดูตอนที่ท่านย่าสอนนางจับพู่กัน
ภาพที่ท่านย่าร้องไห้จนตาแดงก่ำเมื่อนางไข้ขึ้นสูงไม่ยอมลด ภาพที่ท่านคุกเข่าอ้อนวอนยินดีแลกอยุขัยสิบปีของตัวเองเพื่อให้นางฟื้นขึ้นมา
ไป๋ชิงเหยียนก้าวลงมาจากรถม้า ดวงตานิ่งขรึมและหนักแน่น
“อาเป่า…” องค์หญิงใหญ่เอ่ยเรียก น้ำตาคลอมองไปทางไป๋ชิงเหยียน เตรียมจะเดินลงจากบันได ทว่า กลับเห็นไป๋ชิงเหยียนคุกเข่ามาทางนาง
ไป๋ชิงเหยียนก้มศีรษะคำนับท่านย่าสามครั้ง ลุกขึ้นโดยมีชุนเถาช่วยประคอง จากนั้นก้าวขึ้นรถม้าไป…
“อาเป่า…” องค์หญิงใหญ่สะอื้น พยายามกลั้นเสียงร้องไห้ของตัวเองเอาไว้
“ท่านย่าไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ พี่หญิงใหญ่ต้องกลับไปถึงซั่วหยางอย่างปลอดภัยแน่นอนเจ้าค่ะ”
ไป๋จิ่นเซ่อเข้าไปประคององค์หญิงใหญ่
เสียงตะโกน “ออกเดินทาง” ดังขึ้น ขบวนรถม้าของจวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ค่อยๆ เคลื่อนออกไป
กลุ่มขององค์หญิงใหญ่ยืนอยู่หน้าประตูจวน จนเมื่อฟ้าสว่างจ้า แสงแดดส่องส่องไปทั่วทั้งเมืองหลวง ขบวนรถม้าหายไปจากสายตา ฮูหยินสองจึงก้าวเข้าไปกล่าวกับองค์หญิงใหญ่เสียงแผ่วเบา
“ท่านแม่ กลับเข้าไปด้านในเถิดเจ้าค่ะ”
องค์หญิงใหญ่ปาดน้ำตาทิ้ง พยักหน้าน้อยๆ หมุนตัวกลับเข้าไปในจวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ สั่งเจี่ยงหมัวมัว
“ให้คนเตรียมตัวให้เรียบร้อย…กลับวัดชิงอันกันเถิด!”
เจี่ยงหมัวมัวพยักหน้ารับคำ “เพคะ!”
กลุ่มของหลู่หยวนเผิงและซือหม่าผิงยืนรอส่งไป๋ชิงเหยียนอยู่นอกเมืองหลวง เมื่อเห็นขบวนรถม้าของเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่วิ่งมาแต่ไกล พวกเขาเตรียมถลาเข้าไปหา ทว่า ถูกบุรุษในชุดองครักษ์ของจวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ขี่ม้าเข้ามาขวางหน้าไว้เสียก่อน ชายคนนั้นลงมาจากหลังม้า กำหมัดคาราวะกลุ่มคุณชายเจ้าสำราญของหลู่หยวนเผิงอย่างนอบน้อม “คุณชายหลู่ จวิ้นจู่สั่งให้ข้ามาเรียนคุณชายว่าในขบวนมีรถม้าหลายคัน ไม่สะดวกหยุดลง ขอให้คุณชายหลูดูแลตัวเองให้ดีขอรับ”
หลู่หยวนเผิงเตรียมกล่าวสิ่งใดออกมาอย่างร้อนใจ ทว่า ซือหม่าผิงจับแขนเขาไว้เสียก่อน เขาหันไปยิ้มให้องครักษ์ของจวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ กล่าวขึ้น “วันหน้าต้องมีโอกาสได้พบกับพี่สาวไป๋อีกแน่ อย่าลืมสิว่าพี่สาวไป๋รับปากจะให้หอกเงินหงอิงแก่เจ้า”
ได้ยินซือหม่าผิงกล่าวเช่นนี้ หลู่หยวนเผิงกำหมัดแน่นพลางพยักหน้า เมื่อจบงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของท่านย่า เขาจะออกเดินทางไปเข้าร่วมกับกองทัพไป๋ที่หนานเจียง รอให้เขาสร้างผลงานในกองทัพและพบกับพี่สาวไป๋อีกครั้ง ถึงเวลานั้นเขาจะได้หอกเงินเล่มนั้นมาครอบครองอย่างสมเกียรติ
หลู่หยวนเผิงกล่าวกับองค์รักษ์ของตระกูลไป๋
“ฝากบอกให้พี่สาวไป๋ดูแลตัวเองดีๆ ด้วย!”