สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 406 ปลอดภัย
ผู้ดูแลจวนหวายอ๋องกล่าวกับเยว่สือยิ้มๆ
“เซียวเซียนเซิงดื่มผงอู่สือเข้าไป ต้องรอให้ฤทธิ์คลายลง ดูแลเซียวเซียนเซิงให้ดี”
เยว่สือกำหมัดที่แนบอยู่ข้างลำตัวแน่น ยกมือคาราวะด้วยสีหน้าเย็นชาเช่นเดิม
“ขอบพระคุณที่บอกขอรับ”
เมื่อขึ้นไปบนรถม้า เซียวหรงเหยี่ยนที่เมามายไม่ได้สติหลับตาลง สายตาไม่ได้เลื่อนลอยราวกับคนเมาเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว เมื่อรถม้าเคลื่อนตัวออกไปจากวัง เยว่สือจึงขึ้นไปบนรถม้า เอ่ยเสียงเบา “นายท่าน ออกจากวังมาแล้วขอรับ!”
เซียวหรงเหยี่ยนลืมตาขึ้น ลากกระโถนไม้ในรถม้าเข้ามาใกล้ กดท้องของตัวเองเพื่อบังคับให้อาเจียนออกมา
เยว่สือยื่นน้ำชาส่งให้เซียวหรงเหยี่ยน แววตาเต็มไปด้วยโทสะ
ทุกครั้งที่นายท่านเดินทางมายังแคว้นต้าเว่ยจะถูกทรมานจนแทบดูไม่ได้เช่นนี้ทุกครั้ง หลายปีมานี้คนสูงศักดิ์ของแคว้นต้าเว่ยซึ่งมีซีหวายอ๋องเป็นแกนนำนิยมทานผงอู่สือกันอย่างแพร่หลาย
เมื่อทานสิ่งนี้เข้าไปจะทำให้คนรู้สึกเหมือนอยู่บนสรวงสวรรค์ ตัวเบาราวกับมีปีก ดังนั้นคนตระกูลสูงศักดิ์จึงชอบใช้ผงชนิดนี้มาก ทว่า ผงชนิดนี้เป็นอันตรายต่อร่างกาย มีผู้คนมากมายล้มตายเพราะมัน
ทว่า ในแคว้นต้าเว่ย สหายของซีหวายอ๋องทุกคนไม่มีผู้ใดไม่ใช้ผงชนิดนี้ ทุกครั้งที่นายท่านไปร่วมงานเลี้ยงมักจะดื่มมันในตอนสุดท้าย จากนั้นออกจากวังก็อาเจียนออกมาเช่นนี้
บางครั้งอาเจียนออกมาไม่ทัน นายท่านต้องกลับไปแช่น้ำเย็นที่จวนเพื่อคลายฤทธิ์ของยา ทรมานเป็นที่สุด
นี่คือเหตุผลที่เยว่สือไม่อยากมาแคว้นต้าเว่ย เขารู้สึกว่าเจ้านายของเขาทรมานเพราะผงอู่สือมามากแล้ว
เมื่ออาเจียนเสร็จ เซียวหรงเหยี่ยนใช้น้ำชากลั้วคอ เอ่ยกำชับเยว่สือในตอนที่ตัวเองยังมีสติดีอยู่
“อัครมหาเสนาบดีและแม่ทัพของต้าเว่ยส่งคนไปสืบว่าต้าเยี่ยนซ่อนกองทัพไว้ในแคว้นหรือไม่ เจ้ารีบส่งคนนำจดหมายกลับไปบอกให้ต้าเยี่ยนกว้านซื้อเหล็กทั้งหมดในแคว้นไม่ว่าราคาจะสูงหรือต่ำ ต้องทำให้คนของอัครมหาเสนาบดีรู้เรื่องนี้ให้ได้ รีบลงมือโดยเร็วที่สุด! ที่สำคัญปลอบขวัญชาวบ้านแถบชายแดนต้าเยี่ยนให้ดี”
ที่ซีหวายอ๋องกล่าวว่าเห็นควันสำหรับประกอบอาหารจากในป่าลึกของแคว้นต้าเยี่ยนตอนกลางคืนนั้นล้วนเป็นการจัดฉากของเซียวหรงเหยี่ยนทั้งสิ้น
ตอนนี้ทำได้เพียงถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ เท่านั้น บัดนี้ต้าเว่ยปล่อยข่าวเรื่องการบุกโจมตีต้าเยี่ยนไปยังแคว้นต้าเยี่ยน ขอเพียงชาวบ้านแถบชายแดนสงบนิ่ง ต้าเว่ยไม่กล้าบุกต้าเยี่ยนแน่นอน
ขอเพียงยื้อเวลาไว้จนกว่าเซี่ยสวินจะกลับมาจากหรงตี๋ ทุกอย่างก็ไม่เป็นปัญหา
จู่ๆ เซียวหรงเหยี่ยนก็นึกถึงข่าวที่ได้รับเมื่อวานขึ้นมาได้ ไป๋ชิงเหยียนเริ่มลงมือเกณฑ์ชาวบ้านฝึกซ้อมรบเพื่อปราบปรามโจรป่าแล้ว
ชายหนุ่มหลับตาลง เดาได้ว่าไป๋ชิงเหยียนต้องการสร้างกองกำลังของชาวบ้านเพื่อแผนการในภายภาคหน้า
ช่างมองการณ์ไกลจริงๆ…
น่าเสียดายที่ตอนนี้เขามีเรื่องอื่นต้องจัดการ หากฝึกฝนชาวบ้านแถบชายแดนของต้าเยี่ยน ใช้ชาวบ้านเป็นกองกำลัง ต้าเยี่ยนคงไม่จำเป็นต้องกลัวแคว้นอื่นมารุกรานชายแดนอีกต่อไป
เขาต้องรีบเขียนจดหมายไปบอกพี่ชายให้จัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด
วันที่เก้า เดือนห้า
ไป๋ชิงเหยียนได้รับรายงานสถานการณ์สงครามที่ภูเขาชุนมู่ตั้งแต่เช้าตรู่ สวินเทียนจางไม่สนใจชีวิตของทหารในกองทัพดั่งเช่นที่ไป๋ชิงเหยียนกล่าวไว้ไม่มีผิด เขาสร้างกับดักล่อให้แม่ทัพจางตวนรุ่ยไปติดกับ ฝังทหารห้าพันนายของแม่ทัพจางตวนรุ่ยไว้กับทหารของต้าเหลียงอีกสองพันนายไว้ในหุบเขา
แม่ทัพจางตวนรุ่ยสูญเสียทหารในครั้งนี้ไปมาก เขาตัดสินใจคุ้มกันเมืองไม่บุกออกไปรบอีก เรื่องนี้ทำให้สวินเทียนจางโมโหมาก
ไป๋ชิงเหยียนเผารายงานในมือทิ้ง
แม่ทัพจางตวนรุ่ยเป็นคนมีสติและสุขุม รู้ดีว่าหากเผชิญกันซึ่งๆ หน้าไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน ทว่า หากเวลานี้แม่ทัพจางตวนรุ่ยบุกโจมตีค่ายทหารของต้าเหลียงในยามวิกาล ใช้วิธีเดียวกันกับที่สวินเทียนจางใช้ เขาต้องขับไล่กองทัพของต้าเหลียงออกไปจากภูเขาชุนมู่ได้อย่างแน่นอน
ทว่า…ไป๋ชิงเหยียนรู้วิธีการรบของแม่ทัพจางตวนรุ่ยดี หากไม่มั่นใจ เขาไม่มีทางลงมือเด็ดขาดเนื่องจากกลัวว่าจะนำทหารต้าจิ้นไปตายเปล่า
ไป๋ชิงเหยียนอาบน้ำและรับประทานอาหารเสร็จ ถงหมัวมัวเดินเข้ามาในห้องอย่างรีบร้อน ทำความเคารพพลางเอ่ยขึ้น
“คุณหนูใหญ่ ทางวังส่งคนมาประกาศพระราชโองการสั่งให้คุณหนูสี่เดินทางไปยังภูเขาชุนมู่ทันทีเจ้าค่ะ”
ทางวังส่งคนมาประกาศราชโองการให้เสี่ยวซื่อเดินทางไปภูเขาชุนมู่ในตอนนี้อย่างนั้นหรือ
ไป๋ชิงเหยียนที่กำลังอ่านตำราอยู่เงยหน้าขึ้น แววตานิ่งขรึม วางตำราลง จากนั้นลุกขึ้นยืนเดินออกไปด้านนอก
ไป๋จิ่นจื้อกำลังตื่นเต้นเพราะพรุ่งนี้นางจะได้ฝึกซ้อมชาวบ้านแล้ว สาวน้อยกำลังเลือกเครื่องแต่งกายและอาวุธสำหรับใช้ในวันพรุ่งนี้อยู่ในห้อง นางจะฝึกชาวบ้านให้แข็งแกร่งดั่งกองทัพไป๋ให้ได้
ผู้ใดจะคิดว่ายังไม่ทันจะเลือกเครื่องแต่งกายเสร็จ บ่าวจากเรือนหน้าก็เข้ามารายงานว่าฮ่องเต้มีพระราชโองการลงมา ให้นางรีบออกไปรับราชโองการเดี๋ยวนี้
ไป๋จิ่นจื้อที่กำลังถือเครื่องแต่งกายสำหรับฝึกซ้อมอยู่ในมือนึกว่าตัวเองได้ยินผิดไป เอ่ยถามย้ำอีกครั้ง
“ให้ข้าไปรับราชโองการ ไม่ใช่พี่หญิงใหญ่อย่างนั้นหรือ”
มีราชโองการมาตอนนี้ แม้แต่ไป๋จิ่นจื้อยังเดาได้เลยว่าต้องเกี่ยวข้องกับสงครามที่ภูเชาชุนมู่ ทว่า สงครามที่ภูเขาชุนมู่กำลังปะทุ ฮ่องเต้ควรรีบส่งพี่หญิงใหญ่ไปที่นั่นไม่ใช่หรืออย่างไรกัน
“คือคุณหนูสี่ไม่ผิดแน่เจ้าค่ะ” หลิงจือสาวใช้ข้างกายของไป๋จิ่นจื้อกล่าวอย่างมั่นใจ
“ตอนที่เรือนหน้ามารายงาน ข้าก็คิดว่าข้าได้ยินผิดไปจึงถามย้ำหลายครั้งแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูรีบไปเถิดเจ้าค่ะ! คนมาส่งราชโองการยังรออยู่ที่ด้านนอกเจ้าค่ะ”
ไป๋จิ่นจื้อพยักหน้า เดินแกมวิ่งออกไปด้านนอก
การรับราชโองการคือเรื่องใหญ่ ตงซื่อและบรรดาคนในตระกูลไป๋คนอื่นๆ ต่างมารวมตัวกันที่หน้าประตูจวน ทำความเคารพและฟังราชโองการอย่างนอบน้อม
ใจของฮูหยินสามหลี่ซื่อเต้นแรง ไม่รู้ว่าฮ่องเต้ทรงต้องการทำสิ่งใดกันแน่ เหตุใดจึงประกาศราชโองการให้ไป๋จิ่นจื้อผู้เดียว
เมื่อได้ยินว่าฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้ไป๋จิ่นจื้อมุ่งหน้าไปยังภูเขาชุนมู่เพื่อช่วยเหลือแม่ทัพจางตวนรุ่ยขับไล่ต้าเหลียงออกไปจากต้าจิ้นโดยเร็วที่สุด ฮูหยินสามแทบเป็นลมหมดสติ
ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองดูกงกงที่มาประกาศราชโองการ กำหมัดที่แนบอยู่ข้างลำตัวแน่น
ให้เสี่ยวซื่อมุ่งหน้าไปช่วยเหลือแม่ทัพจางตวนรุ่ยขับไล่กองทัพต้าเหลียงออกไปจากภูเขาชุนมู่อย่างนั้นหรือ ราชสำนักไม่มีคนเรียกใช้แล้วหรืออย่างไรกัน
ไป๋ชิงเหยียนคิดว่าตนเองเดาจุดประสงค์ของฮ่องเต้ออก ฮ่องเต้คงอยากให้นางเป็นคนวางแผนขับไล่ต้าเหลียงออกไปจากภูเขาชุนมู่ ทว่า ไม่อยากให้นางได้ความดีความชอบ ดังนั้นจึงส่งเสี่ยวซื่อไปแทน
เสี่ยวซื่อคือน้องสาวของนาง หากนางอยากให้เสี่ยวซื่อปลอดภัยย่อมต้องช่วยวางแผนให้อยู่แล้ว
ฮูหยินสามหลี่ซื่อเห็นสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อของบุตรสาวจึงถามออกไปอย่างอดไม่ได้
“กงกง พระราชโองการมีสิ่งใดผิดพลาดหรือไม่เจ้าคะ ให้เกาอี้เซี่ยนจู่เดินทางไปคนเดียวหรือเจ้าคะ นางยังเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งนะเจ้าคะ”
ต่งซื่อบีบมือหลี่ซื่อสื่อให้นางควบคุมอารมณ์ จากนั้นสั่งให้ฉินหมัวมัวนำเงินไปให้กงกงที่มาประกาศราชโองการ
กงกงผู้นั้นเห็นถุงเงินหนาจึงคลี่ยิ้มออกมา
“บ่าวไม่กล้าปลอมแปลงราชโองการหรอกขอรับ เกาอี้เซี่ยนจู่เป็นหลานสาวของเจิ้นกั๋วอ๋อง ฝ่าบาททรงเห็นความสามารถในตัวของเกาอี้เซี่ยนจู่จึงมีพระราชโองการนี้ออกมา เซี่ยนจู่อย่าทำให้ฝ่าบาททรงผิดหวังนะขอรับ!”
มองส่งกงกงผู้นั้นจากไป ไป๋จิ่นจื้อถือราชโองการหันหลังกลับ เมื่อมองเห็นสีหน้าบึ้งตึงของไป๋ชิงเหยียนจึงเอ่ยเรียกอย่างระมัดระวัง “พี่หญิงใหญ่!”
“กลับไปด้านในค่อยว่ากัน” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับไป๋จิ่นจื้อ
ภายโถงรับรองของตระกูลไป๋ หลี่ซื่อนั่งไม่ติดที่ เอ่ยเสียงดังลั่น
“ฮ่องเต้เสวยยาผิดหรืออย่างไร เสี่ยวซื่อเป็นเด็กตัวเท่านี้แต่สั่งให้นางเดินทางไปภูเขาชุนมู่คนเดียว แถมยังให้ไปเดี๋ยวนี้อีก!”
“ฮ่องเต้ทรงย้ำว่าไปคนเดียวเพราะกลัวว่าข้าจะเดินทางไปกับเสี่ยวซื่อด้วยเจ้าค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวอย่างไม่รีบร้อน