สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 412 มือสังหาร
สองคือจักรพรรดิหมิงเจาผู้สถาปนาแคว้นต้าจิ้น จักรพรรดิหมิงเจาสถาปนาแคว้นต้าจิ้นขึ้นมาร่วมกับไป๋อี้บรรพบุรุษของตระกูลไป๋ จักรพรรดิและขุนนางสนิทกันดั่งพี่น้องร่วมสายเลือด จักรพรรดิหมิงเจากล้ามอบอำนาจให้ไป๋อี้ อนุญาตให้ทายาทของไป๋อี้มีอำนาจในราชสำนัก ขอเพียงมีประโยชน์ต่อแคว้นต้าจิ้น จักรพรรดิหมิงเกาไม่เคยตำหนิ เขาใจกว้างต่อขุนนาง เห็นได้ชัดว่าเป็นคนยิ่งใหญ่เพียงใด
สามคือเจิ้นกั๋วกงแห่งแคว้นต้าจิ้น กองทัพไป๋ที่เจิ้นกั๋วกงนำทัพได้สมญานามว่ารบไม่เคยพ่ายแพ้ กองทัพไป๋มีความจงรักภักดีอยู่ในจิตวิญญาณ ทำให้คนที่อยู่ในฐานะศัตรูอย่างเขารู้สึกนับถือยิ่งนัก
บัดนี้สวินเทียนจางกลับใช้ถ้อยคำดูถูกเหยียดหยามตระกูลไป๋เพื่อบีบให้ไป๋จิ่นจื้อออกไปรบ หรือว่าต้าเหลียงเกิดเรื่องอันใดขึ้นถึงทำให้พวกเขารีบร้อนลงมือเช่นนี้กันนะ
ไป๋ชิงเหยียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สั่งให้ผู้ดูแลหลิวส่งคนไปสอบถามคนของเซียวหรงเหยี่ยนว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นที่ต้าเหลียง
คนที่ไป๋ชิงเหยียนเรียกใช้งานได้ยังมีอยู่อย่างจำกัด ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนมีกิจการอยู่ทั่วทุกแคว้น ย่อมรับรู้ข่าวสารได้รวดเร็วกว่านางอย่างแน่นอน
“ลุงหลิวคิดว่าเฉิงซ่านหรูเป็นอย่างไรบ้าง” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถามผู้ดูแลหลิว
ผู้ดูแลหลิงพยักหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เป็นคนมีความสามารถคนหนึ่งขอรับ เพียงแต่พูดน้อยไปสักน้อย ทว่า เมื่อกล่าวออกมาล้วนตรงจุดสำคัญเสมอขอรับ คนเช่นนี้ก็ดีเหมือนกันขอรับ ให้ความรู้สึกสุขุมและน่าเชื่อถือดีขอรับ!”
“ก่อนหลูผิงจากไป เขาให้รายชื่อข้าไว้หนึ่งฉบับ บอกให้ข้าลองทดสอบความจงรักภักดีของคนในรายชื่อดูว่าพวกเขาสามารถใช้งานได้หรือไม่ วันก่อนข้าตัดสินใจทดสอบความจงรักภักดีของเฉิงซ่านหรูโดยพละการ พบว่าเขาเป็นคนซื่อสัตย์อย่างที่คิดไว้จริงๆ ขอรับ หากคุณหนูใหญ่อยากให้เฉิงซ่านหรูรับช่วงต่อดูแลเรื่องเหมืองเหล็กก็ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยขอรับ!”
ตอนที่อยู่ในเมืองหลวง ไป๋ชิงเหยียนเคยบอกกับหลูผิงว่ายังคัดคนที่ไว้ใจได้มาใช้งานมากขึ้น หลูผิงคงเป็นคนคัดคนในรายชื่อออกมาให้
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “เช่นนั้นรบกวนลุงหลิวช่วยสอนงานเฉิงซ่านหรูอีกสักระยะหนึ่ง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมค่อยมอบหมายเรื่องนี้ให้เขา”
“คุณหนูใหญ่วางใจได้ขอรับ ข้ารู้ขอบเขตดีขอรับ” ผู้ดูแลหลิวกล่าว
ยังไม่ทันพลบค่ำ ผู้ดูแลหลิวพาหวังจิ่วโจวคนข้างกายของเซียวหรงเหยี่ยนมาพบเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ที่จวนไป๋
ไป๋ชิงเหยียนวางม้วนไม้ไผ่ในมือลง เปลี่ยนเครื่องแต่งกาย จากนั้นไปที่โถงรับรอง
เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเดินจับมือชุนเถาเข้ามายังโถงรับรอง หวังจิ่วโจววางถ้วยชาในมือลง หันไปทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน “คาราวะจวิ้นจู่ขอรับ!”
หวังจิ่วโจวรับรู้ว่าเจ้านายของตนคิดเช่นไรกับไป๋ชิงเหยียน ดังนั้นเขาจึงเคารพและนอบน้อมไป๋ชิงเหยียนมาก
“ผู้ดูแลหวังไม่ต้องเกรงใจ ได้ยินว่าท่านต้องการพบข้า” ไป๋ชิงเหยียนนั่งลงบนเก้าอี้พลางมองไปทางหวังจิ่วโจว
“มีเรื่องสำคัญต้องเรียนให้จวิ้นจู่ทราบขอรับ…” หวังจิ่วโจวมองไปทางชุนเถาที่ยืนอยู่ข้างกายของไป๋ชิงเหยียน
ไป๋ชิงเหยียนรับรู้ หันไปสื่อให้ชุนเถาออกไปก่อน
เมื่อไม่ผู้ใดแล้ว หวังจิ่วโจวจึงกล่าวขึ้น “จวิ้นจู่ ในขบวนส่งค่าชดเชยและของกำนัลมาไถ่โทษของซีเหลียงมีมือลอบสังหารกว่าสิบคนแฝงกายมาด้วยขอรับ ข้าทราบข่าวนี้มาสักพักแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเหตุใดซีเหลียงต้องส่งมือสังหารแฝงกายมาในแคว้นต้าจิ้นด้วย จนเมื่อวานมือสังหารเหล่านั้นปลอมตัวลอบเข้ามาในซั่วหยาง อีกทั้งสอบถามเรื่องการปราบโจรป่าของจวิ้นจู่ ข้าจึงคิดว่าพวกมันพุ่งเป้ามาที่จวิ้นจู่จึงมาเตือนจวิ้นจู่ไว้ก่อน จวิ้นจู่ระวังตัวด้วยนะขอรับ”
สีหน้าของไป๋ชิงเหยียนไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก คงเป็นฝีมือของหลี่เทียนฟู่แน่นอน
“เซียวเซียนเซิงของพวกเจ้ารับรู้ข่าวสารรวดเร็วเสียจริง!” ไป๋ชิงเหยียนหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วเอ่ยถามต่อ “ไม่ทราบว่าเซียวเซียนเซิงวางแผนมานานกี่ปี ต้าเยี่ยนถึงมีแหล่งข่าวที่กว้างขวางถึงเพียงนี้”
หวังจิ่วโจวยิ้มอย่างกระอักกระอวน เกี่ยวข้องกับต้าเยี่ยน เขาไม่อาจแพร่งพรายได้ ทว่า สตรีผู้นี้คือนางในดวงใจของเจ้านาย
หากบอกไปตามความจริงว่าแหล่งข่าวเหล่านี้เริ่มมีตั้งแต่จีโฮ่วสิ้นพระชนม์ แล้วเจ้านายของเขากับเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ไม่ได้ครองคู่กันเล่า
ขณะที่หวังจิ่วโจวกำลังลังเลไม่รู้จะตอบเช่นไร ไป๋ชิงเหยียนก็กล่าวขัดขึ้นก่อน
“เซียวเซียนเซิงและผู้ดูแลหลิวนำข่าวนี้มาบอกข้า ข้าจะจดจำบุญคุณครั้งนี้เอาไว้ ขอบพระคุณมาก!“
“มิกล้าขอรับ!” หวังจิ่วโจวโค้งกายคำนับ “หากจวิ้นจู่ไม่มีสิ่งใดแล้ว ข้าขอตัวก่อนนะขอรับ”
“ผู้ดูแลหวังพอรู้บ้างหรือไม่ว่าช่วงนี้ต้าเหลียงมีเรื่องผิดปกติอันใดเกิดขึ้นหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนจ้องไปทางหวังจิ่วโจว
“เรียนจวิ้นจู่ ข้ายังไม่ได้รับข่าวจากต้าเหลียง ทว่า คราวที่แล้วได้ข่าวว่าหลังจากที่องค์ชายสี่กลับไปยังต้าเหลียงทรงโน้มน้าวให้จักรพรรดิต้าเหลียงยุติธรรมสงคราม จักรพรรดิต้าเหลียงโปรดปรานโอรสองค์นี้มาก ไม่แน่อาจยอมทำตามขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “หากมีข่าวเกี่ยวกับต้าเหลียง รบกวนผู้ดูแลหวังแจ้งให้ผู้ดูแลหลิวทราบในทันทีด้วย บัดนี้น้องหญิงสี่ของข้าอยู่ที่ภูเขาชุนมู่ ข้าไม่วางใจจริงๆ”
“จวิ้นจู่วางใจได้ขอรับ หากมีข่าวส่งมาเมื่อใด ข้าจะแจ้งให้ผู้ดูแลหลิวทราบทันทีขอรับ”
“รบกวนด้วย!” ไป๋ชิงเหยียนหันไปทางผู้ดูแลหลิว “ลุงหลิว ช่วยส่งผู้ดูแลหวังให้ข้าด้วย”
มองดูผู้ดูแลหลิวออกไปส่งหวังจิ่วโจว ไป๋ชิงเหยียนเคาะนิ้วลงบนโต๊ะอย่างใช้ความคิด นางไม่ได้ไปสนามฝึกซ้อมหลายวันแล้ว วันนี้ได้ยินหวังจิ่วโจวบอกว่ามือสังหารต้องการแฝงตัวเข้าไปในสนามซ้อม เช่นนั้นนางก็ควรไปปรากฏตัวที่สนามซ้อมบ่อยๆ ให้พวกเขาคิดว่าเมื่อเข้าไปในสนามซ้อมจะลงมือได้ง่ายกว่าเดิม
มือสังหารพวกนั้นคงถูกหลี่เทียนฟู่ส่งมาแน่นอน!
มือสังหารที่หลี่เทียนฟู่ส่งมาย่อมเป็นยอดฝีมือ ให้พวกเขาช่วยฝึกซ้อมให้ชาวบ้านในซั่วหยางก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่เสียน้ำใจของหลี่เทียนฟู่
วันที่ยี่สิบสาม เดือนห้า ขบวนของกำนัลที่รัชทายาทส่งมายังซั่วหยางถูกโจรป่าปล้น เรื่องนี้ดังกระฉ่อนไปทั่วทุกสารทิศ
เมื่อเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ทราบข่าวจึงรีบพาองครักษ์ของตระกูลไป๋มุ่งหน้าไปยังภูเขาคงต้ง ทว่า ทำได้เพียงช่วยชีวิตขององครักษ์จวนรัชทายาท ของกำนัลที่ซีเหลียงส่งมาให้โดนปล้นไปหมดแล้ว
รัชทายาทเสียดายของล้ำค่าที่ซีเหลียงมอบให้เหล่านั้น มีคำสั่งลงไปด้วยความโมโหว่าให้ทางการของซั่วหยางให้ความร่วมมือกับไป๋ชิงเหยียนในการปราบโจรป่าอย่างเต็มที่ ห้ามเกิดเรื่องผิดพลาดเด็ดขาด
ทว่า การฝึกฝนกองกำลังของชาวบ้านต้องใช้เวลา ไม่อาจไปปราบปรามโจรป่าที่น่าหวาดกลัวเหล่านั้นได้ในตอนนี้
สงครามที่ภูเขาชุนมู่กำลังตึงเครียด ราชสำนักไม่อาจแบ่งกองกำลังไปช่วยปราบปรามโจรป่าเหล่านั้นได้ เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ประกาศรับสมัครชาวบ้านเข้าร่วมการฝึกซ้อมทหารเป็นครั้งที่สอง ชาวบ้านที่อยู่เมืองใกล้เคียงได้ยินก็เดินทางมาเข้าร่วมการสมัครด้วยเช่นกัน เมืองซั่วหยางครึกครื้นขึ้นมาทันที
เสิ่นเยี่ยนฉงและไป๋ชิงผิงถูกไป๋ชิงเหยียนกำชับให้จับตาดูคนต่างถิ่นเป็นพิเศษ ผู้ใดมีทักษะในการต่อสู้ให้แยกรายชื่อไว้อีกฉบับ ผู้ใดสามารถรับมือกับองครักษ์ตระกูลไป๋ได้เกินสิบท่าจะได้ตำแหน่งหมู่สิบ หากเอาชนะองครักษ์ตระกูลไป๋ได้จะได้เป็นผู้ฝึกซ้อมซึ่งมีตำแหน่งเทียบเท่ากับองครักษ์ตระกูลไป๋
ไม่นาน ไป๋ชิงผิงและเสิ่นเยี่ยนฉงก็ส่งรายชื่อของชาวบ้านที่มีทักษะการต่อสู้ไปให้ไป๋ชิงเหยียนตรวจสอบ
“พบผู้ที่ซ่อนความสามารถของตัวเองไว้บ้างหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถาม
ไป๋ชิงผิงเตรียมจะเอ่ยตอบ ทว่า เสิ่นเยี่ยนฉงกล่าวขึ้นเสียก่อน “เรียนจวิ้นจู่ ขอเพียงคนผู้นั้นมีฝีมือในการต่อสู้ ไม่อาจหลุดรอดสายตาของข้าไปได้ขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนจ้องรายชื่อในมือ ไม่ได้เงยหน้าขึ้นแต่อย่างใด เมื่อเห็นบางรายชื่อถูกวงเอาไว้จึงเอยถามต่อ “รายชื่อที่ถูกวงกลมไว้คือผู้ใดกัน”
“ข้าคิดว่าคนเหล่านี้น่าสงสัยขอรับ!” เสิ่นเยี่ยนฉงกล่าว “ฝีมือไม่ธรรมดา ทว่า สำเนียงแปลกๆ พวกเขาอ้างว่าเดินทางมาจากหนานเจียง ได้ยินว่าเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่กำลังฝึกชาวบ้านเพื่อปราบปรามโจรป่าจึงตั้งใจมาเข้าร่วมขอรับ”