สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 436 ลงโทษตามกฎของกองทัพ
ตอนที่ 436 ลงโทษตามกฎของกองทัพ
เมื่อบุตรชายของสวินเทียนจางได้ข่าวว่ากองทัพต้าจิ้นถูกโจมตีพ่ายแพ้จนถอยหนีไปยังภูเขาเทียนหลานก็รู้สึกเสียดายอยู่ลึกๆ หากกองทัพต้าจิ้นถูกน้ำท่วมอยู่ในเมืองหลงหยางคงทำลายกองกำลังของพวกเขาได้มากกว่าครึ่ง
ทว่า หากไม่อาจทำให้น้ำท่วมเมืองหลงหยางแล้วกองทัพจิ้นถอยถัพหนีไปยังเมืองโยวฮว่าเพื่อรวมตัวกับกองทัพเสริมที่ต้าจิ้นส่งมา ต้องเกิดสงครามขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอน
“เสี่ยวไป๋ไซว่แห่งกองทัพไป๋…” จ้าวเซิ่งที่ขี่ม้าตามบุตรชายของสวินเทียนจางเข้ามาในเมืองแสยะยิ้มเย็น ปาดน้ำฝนที่อยู่บนใบหน้าออก “ก็ไม่ได้แน่สักเท่าใด ถูกโจมตีจนต้องหนีหางจุกตูดไปเช่นกัน!”
บุตรชายของสวินเทียนจางเอ่ยถามจ้าวเซิ่ง “พบตัวจ้าวถงหรือไม่”
“กองทัพจ้าวไปตามหาแล้ว น่าจะใกล้พบแล้วขอรับ! พวกนั้นหนีไปอย่างกะทันหันเช่นนั้น ไม่มีเวลาพาจ้าวถงไปด้วยแน่ขอรับ!”
สิ้นเสียงของจ้าวเซิ่ง นายสิบคนหนึ่งของกองทัพจ้าววิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น
“แม่ทัพจ้าว พบตัวแม่ทัพจ้าวถงแล้วขอรับ แม่ทัพจ้าวถงถูก…ถูก…”
ใจของจ้าวเซิ่งกระตุกวูบ รีบลงจากหลังม้าไปกระชากคอเสื้อของนายสิบขึ้นถามทันที “น้องชายของข้าเป็นอันใดไป!”
บุตรชายของสวินเทียนจางก็ลงมาจากหลังม้าเช่นเดียวกัน “เจ้าอย่าเพิ่งร้อนรนไป”
“แม่ทัพจ้าวถงถูก…ถูกทรมานด้วยวิธีเดียวกันกับที่แม่ทัพชราจ้าวใช้ขอรับ อวัยวะเพศ…”
ยังไม่ทันกล่าวจบ จ้าวเซิ่งก็ถีบไปที่หน้าอกของนายสิบผู้นั้น นายสิบเอามือกุมหน้าอกแล้วรีบลุกขึ้นคุกเข่าอยู่อย่างเดิม “ข้าไร้ความสามารถขอรับ!”
จ้าวเซิ่งขบกราม กำหมัดแน่น โกรธแค้นไป๋ชิงเหยียนเป็นอย่างมาก
อวัยวะเพศสำคัญสำหรับบุรุษคนหนึ่งมากเพียงใด จ้าวเซิ่งเป็นบุรุษเหมือนกันจะไม่เข้าใจได้อย่างไร
เขาเดินย่ำน้ำฝนไปด้านหน้า เอ่ยถามเสียงรอดไรฟัน “มีกี่คนที่รู้เรื่องนี้”
“เรียนแม่ทัพจ้าว มีเพียงพวกข้าหกคนที่เข้าไปช่วยแม่ทัพจ้าวถงในคุกทราบเรื่องนี้ขอรับ!”
จ้าวเซิ่งย่อกายลง สายตาคมกริบราวกับเหยี่ยวจ้องไปยังนายสิบผู้นั้นนิ่ง
“ไปบอกอีกห้าคนที่เหลือว่าหากแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป ข้าไม่ไว้ชีวิตพวกมันแน่”
“ขอรับ!” สายสิบของกองทัพจ้าวผู้นั้นรีบก้มศีรษะต่ำพลางรับคำ
“นำทางไป!” จ้าวเซิ่งกล่าวพลางลุกขึ้นยืน
บุตรชายของสวินเทียนจางมองดูแผ่นหลังที่รีบร้อนเดินจากไปช่วยเหลือน้องชายของจ้าวเซิ่ง เขาเม้มปาก เดินฝ่าสายฝนขึ้นไปบนกำแพงเมือง มองดูภาพบรรดาแม่ทัพและทหารของต้าเหลียงกำลังแยกย้ายกันค้นหาสมบัติล้ำค่าในเมืองหลงหยาง เขารู้สึกว่าควรแก้นิสัยเช่นนี้ของเหล่าทหารได้แล้ว!
บุตรของสวินเทียนจางเอื้อมมือลูบไปที่อิฐบนกำแพงเมือง รู้สึกว่าไม่ปล่อยน้ำท่วมเมืองหลงหยางก็ดีเหมือนกัน ต้าเหลียงไม่ได้มารบเสร็จแล้วจากไปเฉยๆ ต่อไปเมืองหลงหยางจะกลายเป็นของต้าเหลียงของพวกเขา ต้าเหลียงจะได้ไม่ต้องสูญเสียเงินและกำลังคนจำนวนมากในการซ่อมแซมเมืองหลงหยางขึ้นมาอีกครั้ง
เขาแตะไปที่กำแพงอิฐซึ่งถูกน้ำฝนชำระล้างจนสะอาดเบาๆ จากนั้นหันไปสั่งการ
“กลับไปรายงานแม่ทัพใหญ่ว่าพวกเรายึดเมืองหลงหยางไว้ได้แล้ว เชิญแม่ทัพใหญ่เข้ามาในเมืองได้!”
“ขอรับ!”
ภูเขาเทียนหลานอยู่ระหว่างเมืองหลงหยางและเมืองโยวฮว่า
ระยะทางจากเมืองหลงหยางมายังภูเขาเทียนหลานสูงชันขึ้นเรื่อยๆ มีคำกล่าวว่าความพิโรธของแม่น้ำหลงหมู่มาไม่ถึงภูเขาเทียนหลาน ขอเพียงไปถึงภูเขาเทียนหลาน น้ำจากแม่น้ำหลงหมู่ท่วมมาไม่ถึงแน่นอน
ไป๋ชิงเหยียนและกองกำลังบางส่วนของหลิวหงถอยทัพไปยังภูเขาเทียนหลาน พวกเขารวบรวมเรือที่อยู่บริเวณนี้ไว้ทั้งหมดแล้ว ขณะนี้อดใจรออยู่บริเวณใจกลางระหว่างภูเขาเทียนหลานและเมืองหลงหยางอย่างสงบนิ่ง
คืนนี้พายุฝนตกหนักตลอดคืน
เผชิญกับสงครามวันนี้ ร่างกายของสวินเทียนจางย่ำแย่ลงจนเขาแทบทนไม่ไหว เขาย้ายเข้าไปพักยังที่พักของนายอำเภอเมืองหลงหยาง ทว่า ในใจยังคงกลัวว่าแม่น้ำหลงหมู่อาจท่วมเมืองได้
“ท่านพ่อไม่ต้องกังวลหรอกขอรับ คืนนี้ฝนตกหนักเกินไป เราไม่ควรตั้งค่ายพักอยู่ด้านนอกขอรับ” บุตรของสวินเทียนจางนำยามาให้บิดาพลางเอ่ยโน้มน้าว
“พรุ่งนี้กองทัพของเราจะมุ่งหน้าไปยังเมืองโยวฮว่า ต่อให้น้ำท่วมก็ไม่มีทางเกิดขึ้นเร็วถึงเพียงนี้หรอกขอรับ! หากท่านพ่อไม่คิดถึงตัวเองก็ควรคิดถึงทหารต้าเหลียงบ้างนะขอรับ พวกเขากำลังค้นหาสมบัติอยู่ด้านนอก หากท่านพ่อสั่งถอยทัพตอนนี้ ผู้ใดจะอยากทำตามคำสั่งกันขอรับ”
สวินเทียนจางรับยามาจากมือของบุตรชาย พยักหน้าพลางกำชับ “ส่งคนไปเฝ้าเขื่อนไว้ให้ดี หากมีสิ่งผิดปกติ พวกเราจะได้ถอยทัพล่วงหน้า!”
พายุฝนไม่เป็นอุปสรรคต่อทหารต้าเหลียงที่ต้องการค้นหาสมบัติล้ำค่า ด้านนอกเต็มไปด้วยเสียงเอะอะโวยวาย บ้างก็โอ้อวดว่าตนเจอของล้ำค่าใดบ้าง บ้างก็บ่นว่าไม่เจอสมบัติที่จวนเซียวของเซียวหรงเหยี่ยนเลย
สวินเทียงจางได้ยินทหารบางคนกล่าวอย่างขำๆ ว่าแม่ทัพเฉิงแทบจะทุบกำแพงจวนเซียวเพื่อขุดหาห้องลับแล้ว!
บางคนตะโกนหยอก “เหตุใดต้องเสียเวลาหาสมบัติในจวนเซียวด้วย หากแม่ทัพใหญ่มีคำสั่งลงมาว่าต้องการ พวกเจ้าไม่เสียเวลาเปล่าหรือ!”
“ไร้สาระ แม่ทัพใหญ่ของเราไม่ใช่คนโลภมากเช่นนั้น!”
จวนว่าการที่สวินเทียนจางพักอาศัยอยู่มีทหารคอยคุ้มกันตลอดเวลา ทว่า เสียงหัวเราะเฮฮายังคงดังเข้ามาให้ได้ยินเป็นระยะ
สวินเทียนจางนั่งอยู่ในจวนว่าการด้วยใจที่กระวนกระวาย
กองทัพต้าจิ้นปลดเกราะหนีเอาตัวรอดไปแล้ว เขายังมีสิ่งใดต้องเป็นกังวลอีกนะ
“น่าเสียดายจริงๆ ขอรับ” บุตรชายของสวินเทียนจางถอนหายใจ
“ข้าลืมไปว่ากองทัพต้าจิ้นไม่ใช่กองทัพไป๋ พวกเขาสามารถทิ้งเมืองหนีเอาตัวรอดได้! หากเปลี่ยนเป็นกองทัพไป๋คงจะดี กองทัพไป๋ต้องอยู่คุ้มกันเมืองหลงหยางจนวินาทีสุดท้าย ถึงเวลานั้นเมื่อน้ำท่วม พวกเขาหนีเอาตัวรอดไม่ทันแน่ขอรับ!”
“ข้ารู้สึกไม่สบายใจ มีไป๋ชิงเหยียนอยู่ นางไม่น่าจะทิ้งเมืองแล้วหนีเอาตัวรอดไปอย่างง่ายดายเช่นนี้ นั่นคือหลานสาวคนโตของเจิ้นกั๋วอ๋องไป๋เวยถิงเชียวนะ! ขนาดไป๋เวยถิงยังเคยชมว่านางเป็นสุดยอดนักรบเลย!” สวินเทียนจางกำหมัดแน่น
“ต่อให้เก่งเพียงใดที่นี่ก็มีแต่กองทัพต้าจิ้น ไม่ใช่กองทัพไป๋ของนาง ที่สำคัญแม่ทัพใหญ่ในครั้งนี้คือหลิวหง หลิวหงจะเชื่อฟังคำของเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างนางหรือขอรับ” บุตรชายของสวินเทียนจางพยายามปลอบบิดา
“ท่านพ่ออย่าลืมนะขอรับว่าสายของเรารายงานว่าจักรพรรดิแห่งต้าจิ้นทรงไม่โปรดปรานไป๋ชิงเหยียน พระองค์ทรงไม่ไว้ชีวิตแม้แต่ขุนนางที่จงรักภักดีอย่างไป๋เวยถิง แล้วจะทรงยอมให้ไป๋ชิงเหยียนผู้โอหังคนนั้นสร้างผลงานในกองทัพได้อย่างไรขอรับ”
สวินเทียนจางพยักหน้า
“ที่สำคัญตอนแรกกองทัพจิ้นก็มีท่าทีพร้อมยอมตานในสนามรบเช่นเดียวกัน ทว่า ต่อมาคงหมดขวัญกำลังใจจึงปลดชุดเกราะและหนีไปเช่นนั้นขอรับ! ท่านพ่ออย่างคิดมากเลยขอรับ พักผ่อนให้เต็มที่ หากพรุ่งนี้ฝนยังไม่หยุดตก พวกเราต้องนำทัพฝ่าลมฝนออกไป ท่านพ่อได้เหนื่อยอีกแน่ขอรับ”
สวินเทียนจางพยักหน้า “เจ้าไปบอกเหล่าทหารว่าเราจะเคลื่อนทัพต่อในวันพรุ่งนี้เพราะฝนตกหนักตลอดทั้งคืน น้ำอาจท่วมเมืองหลงหยางได้ ไม่ว่าวันนี้จะค้นหาสมบัติกันดึกสักเพียงใด พรุ่งนี้หากผู้ใดทำให้กองทัพล้าช้าจะโดนลงโทษตามกฎของกองทัพ”
“ขอรับ!”
สวินเทียนจางได้ยินเสียงลมพายุทางด้านนอก เขาพยายามข่มใจที่เป็นกังวลเอาไว้ จากนั้นล้มตัวลงนอนโดยมีบุตรชายคอยช่วยเหลือ
ดึกมากแล้ว
ไป๋ชิงเหยียน ฝูรั่วซีและกองทัพจิ้นบางส่วนยืนอยู่บนที่เนินเขาสูง ถึงแม้ฝนที่ตกหนักจะส่งผลกระทบต่อการมองเห็น ทว่า การที่พวกเขายืนอยู่บนที่สูงทำให้มองเห็นแสงไฟที่สว่างไสวในเมืองหลงหยางได้อยู่
จากภาพที่เห็น กองทัพต้าจิ้นก็รู้ได้ทันทีว่ากองทัพต้าเหลียงยังคงค้นหาสมบัติในเมืองอยู่
กองทัพต้าจิ้นไม่ได้มีท่าทียอมแพ้เหมือนตอนที่ปลดชุดเกราะออกอีกแล้ว ทหารทุกคนอยู่ในชุดออกรบยืนหลังตรงท่ามกลางสายฝน แววตาเต็มไปด้วยไอสังหาร
ไป๋ชิงเหยียนส่งทหารหนึ่งพันนายไปสังหารทหารต้าเหลียงที่คุ้มกันเขื่อนของแม่น้ำหลงหมู่และเปิดทางคูน้ำที่ขุดไว้ก่อนหน้านั้นออก
คำนวณดูน่าจะใกล้ได้เวลาแล้ว
เมื่อทหารต้าเหลียงถูกน้ำท่วม ทหารต้าจิ้นจะนั่งเรือเข้าไปสังหารทหารต้าเหลียงที่ถูกน้ำท่วมจนเกือบตายให้สิ้นซาก