สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 446 ผู้มีความสามารถได้ครอบครองใต้หล้า
ตอนที่ 446 ผู้มีความสามารถได้ครอบครองใต้หล้า
ที่จริงเหลียงอ๋องจับคนที่แพร่กระจายข่าวลือไปยังต้าเยี่ยนได้ในเยี่ยนว่อ เขาบอกคนๆ นั้นว่าต้องการพบอ๋องเก้าแห่งแคว้นต้าเยี่ยนเพื่อร่วมมือกัน เดิมทีเซียวหรงเหยี่ยนไม่คิดจะสนใจ
ทว่า เหลียงอ๋องผู้นั้นกลับกล่าวว่าบัดนี้ไป๋ชิงเหยียนน่ากลัวสำหรับทุกแคว้น ภายภาคหน้าอาจเป็นภัยต่อต้าเยี่ยนได้ เขายินดีร่วมมือกับต้าเยี่ยนกำจัดไป๋ชิงเหยียนให้สิ้นซาก เซียวหรงเหยี่ยนจึงรู้ว่าเขาจะไม่สนใจเรื่องนี้ไม่ได้อีกแล้ว
ต่อมาเหลียงอ๋องทำให้ชาวบ้านที่เยี่ยนว่อเกิดการประท้วง เซียวหรงเหยี่ยนจึงส่งคนเดินทางไปสำรวจสถานการณ์ล่วงหน้าที่เมืองหลวง หาก เหลียงอ๋องสามารถทำให้ฮ่องเต้ไม่สั่งลงโทษเขาได้หลังจากเขาถูกจับตัวกลับมาเมืองหลวง เซียวหรงเหยี่ยนสั่งให้คนของเขาปลอมตัวเป็นอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนไปพบเหลียงอ๋องเพื่อดูว่าเขามีแผนการอันใด
หากเหลียงอ๋องโดนทำโทษก็ไม่ต้องสนใจเขาอีก
นึกไม่ถึงเลยว่าเหลียงอ๋องจะสามารถทำให้ฮ่องเต้ไม่เอาความเขา อีกทั้งโปรดปรานเขามากขึ้นได้ คนของเซียวหรงเหยี่ยนจึงไปพบเหลียงอ๋องตามแผน
“ขอบพระคุณเซียวเซียนเซิงที่เตือนเจ้าค่ะ!” ไป๋ชิงเหยียนหยัดหลังตรง ก้มศีรษะให้เซียวหรงเหยี่ยนอย่างนอบน้อม “ไม่ทราบว่าเซียวเซียนเซิงพอจะบอกได้หรือไม่เจ้าคะว่าเหลียงอ๋องต้องการร่วมมือกับท่านอ๋องเก้าแห่งแคว้นต้าเยี่ยนทำสิ่งใด”
ดวงตาที่มองไปทางไป๋ชิงเหยียนของเซียวหรงเหยี่ยนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขากล่าวอย่างสบายๆ “ให้เขายืมกำลังทหาร ทว่า ตอนนี้เหลียงอ๋องไม่มีสิ่งใดที่สามารถมอบให้ต้าเยี่ยนได้นอกจากคำสัญญา ถึงแม้เขาจะใช้ชีวิตของตัวเองเป็นตัวประกัน ทว่า สำหรับต้าเยี่ยนแล้ว ชีวิตของเขาไม่มีค่าอันใดทั้งสิ้น ท่านอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนจึงบอกว่ารอให้เขามีข้อเสนอที่น่าสนใจกว่านี้แล้วค่อยมาเจรจากันใหม่ ทว่า เพื่อแสดงความจริงใจว่าต้าเยี่ยนยินดีรอข้อเสนอของเหลียงอ๋อง หากเหลียงอ๋องมีเรื่องขอให้ช่วย ขอเพียงไปที่สำนักศึกษาซ่างม่อซู หากไม่เหนือบากกว่าแรง ต้าเยี่ยนยินดีช่วยเหลือ!”
แสดงว่าตอนนี้เซียวหรงเหยี่ยนยังไม่ค่อยเห็นความสำคัญของเหลียงอ๋องผู้แกล้งโง่คนนี้สักเท่าใด
เซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้ส่งคนติดตามความเคลื่อนไหวของเหลียงอ๋องแต่ใช้วิธียอมถอยก้าวหนึ่งเพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของเหลียงอ๋องแทน เช่นนี้ถือเป็นการป้องกันไม่ให้เหลียงอ๋องไปร่วมมือกับคนของแคว้นอื่น
ต้าเยี่ยนทำเช่นนี้เหลียงอ๋องถึงจะคิดว่าพวกเขาจริงใจจริงๆ
แม้จะเป็นเช่นนี้ ทว่า ไป๋ชิงเหยียนก็ยังไม่รู้สึกวางใจ
เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าใช้ความคิด ไม่ได้ปิดบังท่าทีเมื่ออยู่ต่อหน้าตน เซียวหรงเหยี่ยนดันจานใส่ขนมเปี๊ยะดอกไห่ถังสีทองไปตรงหน้าของหญิงสาว “เหยี่ยนสั่งให้โรงครัวทำเป็นพิเศษ ไม่หวานมาก อีกทั้งใช้น้ำมันพืช คุณหนูใหญ่ลองชิมดูขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้าขึ้นสบกับสายตาสุขุมนุ่มลึกของชายหนุ่มพอดี ดวงตาของเขาล้ำลึกราวกับกลางคืนอันมืดมิด
“คุณหนูใหญ่ได้รับบาดเจ็บจากสงครามที่เป่ยเจียงบ้างหรือไม่ขอรับ”เซียวหรงเหยี่ยนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ขอบคุณที่เป็นห่วง ข้ามิเป็นอันใดเจ้าค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนหลบสายตามองไปยังจานใส่ขนมตรงหน้าแทน จากนั้นยกถ้วยน้ำชาขึ้นชูไปทางเซียวหรงเหยี่ยนด้วยท่าทีสบายๆ “ลืมยินดีกับเซียวเซียนเซิงเลยเจ้าค่ะ บัดนี้สถานการณ์ในใต้หล้าเป็นไปตามที่เซียวเซียนเซิงหวังไว้แล้วนะเจ้าคะ”
เซียวหรงเหยี่ยนยกถ้วยชาตรงหน้าขึ้นจิบ กล่าวกับไป๋ชิงเหยียน “เหยี่ยน…ก็ยินดีกับแผนการที่ราบรื่นของคุณหนูใหญ่เช่นกันขอรับ อีกไม่กี่ปีหลังจากนี้แคว้นต้าจิ้นอาจตกเป็นของตระกูลไป๋ก็ได้นะขอรับ”
ไม่ว่าจะเป็นเซียวหรงเหยี่ยนหรือไป๋ชิงเหยียนล้วนกำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่อันตรายเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไป มันยากมากที่เดินมาถึงจุดๆ นี้ได้ นอกจากความรู้สึกที่ซ่อนเร้นอยู่ในใจไม่กล้าเปิดเผยออกมา ทั้งสองคนยังเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายได้ดีอีกด้วย
“จะว่าไปเหยี่ยนต้องขอบคุณคุณหนูใหญ่มากขอรับ ท่านพี่เขียนจดหมายมาบอกว่าอาการของท่านดีขึ้นมากเพราะการรักษาของท่านหมอหง ท่านหมอหงกำลังเดินทางกลับมาเมืองหลวงแล้ว อีกไม่เกินสามวันก็คงถึงเมืองหลวงขอรับ” เซียวหรงเหยี่ยนวางถ้วยชาในมือลงพลางเอ่ยเสียงนุ่ม
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ไป๋ชิงเหยียนจึงเบาใจลงไม่น้อย “หากเซียวเซียนเซิงไม่เอ่ยถึง เหยียนก็ว่าจะถามอยู่พอดีเจ้าค่ะ”
บัดนี้ท้องของไป๋จิ่นซิ่วโตขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีหลูหนิงฮว่าอยู่ ทว่า ไป๋ชิงเหยียนไม่อาจวางใจได้เท่ากับการมีหมอหงอยู่ เพียงแต่ลำบากหมอหงที่อายุปูนนี้แล้วยังต้องเร่งเดินทางกลับมาอีก
“ท่านหมอหงสั่งยาให้ท่านพี่แล้ว ขอเพียงท่านพี่รับประทานยาตามที่ท่านหมอหงสั่ง…พักรักษาตัวอีกสองสามปี แม้ร่างกายไม่อาจกลับไปแข็งแรงได้เต็มร้อยเหมือนคนอื่น แต่ก็คงไม่ต้องทรมานเพราะพิษอีกแล้ว” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวถึงตรงนี้ก็รู้สึกขอบคุณไป๋ชิงเหยียนจากใจจริงที่นางยอมให้หมอประจำตระกูลไป๋เดินทางไปช่วยรักษาอาการของพี่ชายเขา
นั่งอยู่ใต้ต้นไม้อันร่มรื่น เมื่อลมพัดผ่านจึงได้กลิ่นหอมลอยมาปะทะจมูก
ลมพัดเย็นสบาย สายลม แสงแดดอ่อนๆ และเมฆขาวที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าทำให้คนรู้สึกผ่อนคลายยิ่งนัก
ตั้งแต่ที่เขาตัดสินใจเดินทางจากแคว้นต้าเยี่ยนไปยังแคว้นต่างๆ เขาไม่เคยรู้สึกผ่อนคลายเท่านี้มาก่อนเลย
ต่อให้เขานั่งรวมอยู่กับกลุ่มคนตระกูลสูงศักดิ์ที่ดูว่างงาน ทว่า สมองของเขาไม่เคยได้หยุดพักเลย
เป็นดังที่ไป๋ชิงเหยียนกล่าว บัดนี้สถานการณ์ใต้หล้าเป็นไปตามที่เขาต้องการแล้ว ดังนั้นเขาจึงวางใจได้บ้างแล้ว
ทว่า วางใจได้เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
ต้าเยี่ยนยังคงต้องปกป้องชาวบ้านที่ยากไร้ ลอบสร้างความแข็งแกร่งภายในแคว้น ฝึกฝนกองกำลังชาวนา เตรียมการเพื่อวันข้างหน้า
เซียวหรงเหยี่ยนนึงถึงเรื่องที่สายลับในจวนรัชทายาทมารายงานก่อนหน้านี้ กล่าวว่าตอนที่ไป๋ชิงเหยียนรับรู้เรื่องความวุ่นวายในหรงตี๋ หญิงสาวเคยแนะนำรัชทายาทให้ส่งกองกำลังไปช่วยเหลือหรงตี๋เพื่อครอบครองสนามม้าของหรงตี๋ ทว่า รัชทายาทและฮ่องเต้ไม่เชื่อไป๋ชิงเหยียน
เป็นเพราะไป๋ชิงเหยียนยังไม่มีกำลังคนมากพอ มิเช่นนั้นด้วยสติปัญญาและปณิธานที่กว้างไกลของหญิงสาว หากนางมีกำลังคน มีกองทัพ! นางไม่เพียงแต่จะปูอนาคตที่มั่นคงให้ตระกูลไป๋เท่านั้น แต่นางสามารถปูทางสำหรับการเป็นที่หนึ่งในใต้หล้าได้อีกด้วย
หญิงสาวอายุไม่ถึงยี่สิบปี ทว่า มีสติปัญญาและการวางแผนที่เก่งกาจถึงเพียงนี้ถือว่าเยี่ยมยอดมากจริงๆ
ลมพัดผ่านใบไม้บนต้นกุ้ยฮวาส่ายเสียดเป็นเสียงกราวๆ ซู่ๆ แสงแดดอ่อนส่องกระทบใบไม่เป็นหย่อมๆ ดอกกุ้ยฮวาลอยตามแรงลมตกลงบนเส้นผมของไป๋ชิงเหยียน จากนั้นร่วงลงสู่บ่าจนเซียวหรงเหยี่ยนอยากเอื้อมมือไปช่วยปัดออกให้หญิงสาว
“หากวันหนึ่งใต้หล้าสงบสุข ข้าได้นั่งจิบชาอยู่ใต้ต้นดอกกุ้ยฮวากับคุณหนูใหญ่ไป๋เช่นนี้คงดีมากนะขอรับ” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าว
“ดูเหมือนว่าเซียวเซียนเซิงจะมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จนะเจ้าคะ” ไป๋ชิงเหยียนเทน้ำชาที่มีดอกกุ้ยฮวาร่วงลงไปทิ้ง
เซียวหรงเหยี่ยนหัวเราะออกมาเบาๆ ใช้ผ้าเช็ดหน้าหยิบกาน้ำชาขึ้นมารินให้ไป๋ชิงเหยียนใหม่ “มีคุณหนูใหญ่คอยช่วยเหลือ เหยี่ยนมั่นใจมากขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนรู้ว่าเซียวหรงเหยี่ยนต้องการดึงนางไปเป็นพวกจึงวกเข้าเรื่องการสร้างเหมืองเหล็กแทน “ไม่ถึงกับช่วยเหลือเจ้าค่ะ พวกเราได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งคู่”
ไป๋ชิงเหยียนไม่ยอมรับ เซียวหรงเหยี่ยนก็รู้ได้ทันทีว่ามันยังไม่ถึงเวลา เพียงแต่ไม่รู้ว่าไป๋ชิงเหยียนดูถูกความสามารถของแคว้นต้าเยี่ยนหรืออยากเปลี่ยนอำนาจของราชวงศ์ต้าจิ้นให้กลายเป็นของตระกูลไป๋ หรือว่าอยากให้ใต้หล้ากลายเป็นของตระกูลไป๋ทั้งหมดกันแน่
วันนี้มีโอกาส เซียวหรงเหยี่ยนจึงถามคำถามที่ไม่อยากถามมากที่สุดออกไป
“คุณหนูใหญ่ไป๋อยากครอบครองใต้หล้า อยากให้ใต้หล้าใช้สกุลไป๋ใช่หรือไม่ขอรับ”
“เดิมทีใต้หล้าก็ไม่เคยเป็นของผู้ใดเพียงตระกูลเดียวอยู่แล้ว วีรบุรุษแย่งชิงบัลลังก์ ผู้มีความสามารถได้ครอบครองใต้หล้า ผู้ที่ทำประโยชน์ให้ชาวบ้าน ดำรงอยู่ได้ตลอดกาล ผู้ที่ฆ่าฟันชาวบ้านราวกับผักปลา ถึงแม้จะได้ครอบครองใต้หล้าแต่ก็ครอบครองได้เพียงชั่วขณะเท่านั้น”
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนนิ่ง
“การครอบครองใต้หล้า เป็นที่หนึ่งเหนือผู้อื่น สร้างความสำเร็จและทำให้มันอยู่อย่างคงทนถาวร หนทางข้างหน้าช่างยากลำบากยิ่งนัก มิเช่นนั้นเหตุใดจึงฉินจึงได้ครองใต้หล้า แต่ทายาทรุ่นต่อมาของเขาถึงเสียชีวิตลงหมดเช่นนั้นกัน”