สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 469 ใกล้ชิดมากเกินไป
ตอนที่ 469 ใกล้ชิดมากเกินไป
ฉินซ่างจื้อหลับตาลง ภาพที่เขายอมลงให้ฟางเหล่าผุดขึ้นมาในศีรษะ เขารู้สึกอัปยศยิ่งนัก
ไม่นานทหารหน่วยกล้าตายหกคนของจวนองค์รัชทายาทออกไปจากจวนอย่างเงียบเชียบ พวกเขาแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งมุ่งหน้าไปยังจวนต่ง อีกกลุ่มมุ่งหน้าไปยังจวนของท่านตาของหลิ่วรั่วฟู
เหลียงอ๋องเสด็จมาถึงจวน ไม่ว่าต่งชิงผิงจะรู้สึกไม่พอใจมากเพียงใด ทว่า เขาก็ให้คนเชิญเหลียงอ๋องเข้ามาในจวน
เมื่อเหลียงอ๋องเข้ามาด้านใน ต่งชิงผิงไล่บ่าวรับใช้ออกไปจนหมด เหลียงอ๋องจึงคุกเข่าลงบนพื้น ต่งชิงผิงรีบคุกเข่าตามอย่างตกใจ ก้มศีรษะแนบพื้นไม่กล้าเงยหน้ามอง
“ใต้เท้าต่ง ข้ารักถิงเจินด้วยใจจริงขอรับ!” เหลียงอ๋องกล่าวเสียงสะอื้น น้ำตาเกือบไหลออกมา เขากล่าวถ้อยคำที่เคยสารภาพกับต่งถิงเจินให้ต่งชิงผิงฟังอีกครั้งด้วยท่าทีน่าสงสาร ราวกับว่าหากไม่มีต่งถิงเจินคงมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้
ต่งชิงผิงเดาว่าฮ่องเต้ทรงไม่อนุญาตให้เหลียงอ๋องแต่งงานกับต่งถิงเจินเพราะต่งชิงเยว่น้องชายของเขา เหลียงอ๋องจึงเสด็จมาที่จวนด้วยตัวเองเช่นนี้
ต่งชิงผิงแสร้งทำเป็นไม่รับรู้ “เหลียงอ๋อง วันนี้ฝ่าบาทเรียกกระหม่อมไปเข้าเฝ้าในวังหลวง กระหม่อมทูลฝ่าบาทว่าให้เหลียงอ๋องส่งแม่สื่อมาสู่ขอที่จวนอย่างเป็นทางการ อย่านำเรื่องของแนบกายของบุตรสาวกระหม่อมไปป่าวประกาศไปทั่ว ไม่ทราบว่าเหตุใดเหลียงอ๋องจึงเสด็จมาตรัสเช่นนี้ที่จวนอีกพ่ะย่ะค่ะ”
เหลียงอ๋องเม้มปากแน่น เขาไม่กล้าบอกว่าเสด็จพ่อไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้
ฮ่องเต้ไม่เห็นด้วย หากขุนนางคนหนึ่งยังยัดเยียดให้บุตรสาวแต่งงานกับโอรสของพระองค์อีก ไม่เท่ากับเป็นการเป็นศัตรูกับฮ่องเต้อย่างนั้นหรือ ขุนนางคนใดจะกล้าทำเช่นนั้นกัน
“เหลียงอ๋องทรงลุกขึ้นมาก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ” ต่งชิงผิงคลานเข่าเข้าไปด้านหน้า พยุงเหลียงอ๋องให้ลุกขึ้น จากนั้นกล่าว “เหลียงอ๋อง บัดนี้เย็นมากแล้ว องค์ชายเสด็จกลับไปพักผ่อนก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายรักบุตรสาวของกระหม่อมถือเป็นบุญวาสนาของนาง กระหม่อมจะไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ได้เช่นไรพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายส่งแม่สื่อมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ พรุ่งนี้กระหม่อมจะให้ฮูหยินของกระหม่อมไปขอขมาและปฏิเสธการหมั้นหมายกับทางราชครูเฉินเองพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายไม่ต้องทรงกังวลพ่ะย่ะค่ะ!”
“ใต้เท้าต่ง ข้าไม่อยากปิดบังท่าน เสด็จพ่อ…เสด็จพ่อทรงไม่เห็นด้วย ข้าจึงไม่อาจมาสู่ขอได้!” เหลียงอ๋องกล่าวด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
รอยยิ้มบนใบหน้าของต่งชิงผิงหายไปทันที เอ่ยถามต่อ “เพราะเหตุใดกันพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทเรียกกระหม่อมเข้าไปในวังเพราะเรื่องนี้มิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ มีเรื่องเข้าใจผิดอันใดเกิดขึ้นหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทตรัสกับเหลียงอ๋องเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”
“เสด็จพ่อทรงอยากให้ข้าสู่ขอบุตรสาวของท่านราชครูถานมาเป็นชายาเอก ทว่า ข้าอยากแต่งกับถิงเจินเพียงคนเดียว! ชายาเอกของข้าต้องเป็นถิงเจินผู้เดียวเท่านั้น! ข้ายินดีสาบานกับใต้เท้าต่งว่าชาตินี้ข้าจะแต่งงานกับถิงเจินเพียงคนเดียว จะไม่มีอนุเด็ดขาด!” เหลียงอ๋องกล่าวอย่างหนักแน่น
“เหลียงอ๋อง กระหม่อมเป็นเพียงหลงหลู่ซื่อชิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง จะกล้าขัดพระทัยฝ่าบาทได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ” ต่งชิงผิงมีสีหน้าลำบากใจ
เหลียงอ๋องต้องการกล่าวต่อ ทว่า ต่งชิงผิงรีบกล่าวขึ้นก่อน “เหลียงอ๋องได้โปรดรับรู้ว่ากระหม่อมยินดียกบุตรสาวให้แต่งงานกับเหลียงอ๋องเป็นอย่างยิ่ง ทว่า ฝ่าบาทต้องทรงเห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะการแต่งงานที่บิดามารดาเห็นด้วยคือการแต่งงานที่ถูกต้อง เหลียงอ๋องไปทูลขอร้องฝ่าบาทก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
เหลียงอ๋องอึกอัก มองไปทางต่งชิงผิงด้วยดวงตาที่เปียกชื้น
ต่งชิงผิงลำบากใจยิ่งกว่าเดิม ได้แต่กล่าวอย่างระมัดระวัง “เหลียงอ๋องคงไม่คิดให้กระหม่อมไปขอร้องฝ่าบาทหรอกนะพ่ะย่ะค่ะ หากราชครูเฉินทราบเรื่อง กระหม่อมจะมีหน้าพบราชครูเฉินอีกได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”
เหลียงอ๋องขมวดคิ้วแน่น วันนี้เขามาเพื่อต้องการดึงต่งชิงผิงมาเป็นพวก ให้ต่งชิงผิงรับรู้ว่าเขาอยากแต่งงานกับต่งถิงเจินมากเพียงใด ขอเพียงต่งชิงผิงไม่ยกต่งถิงเจินให้แต่งงานกับผู้อื่น เขาก็ยังมีโอกาส
ส่วนหลานสาวของราชครูถาน ราชครูถานมีลูกศิษย์มากมาย หากสุดท้ายไม่ได้จริงๆ เขาคงต้องยอมรับหลานสาวของราชครูถานมาเป็นชายาเอก ทว่า เขาก็มีวิธีเกลี้ยมกล่อมให้ต่งถิงเจินยอมแต่งมาเป็นอนุของเขาเช่นเดียวกัน
เหลียงอ๋องแสร้งทำเป็นสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวครู่หนึ่ง จากนั้นโค้งกายคำนับต่งชิงผิง “ใต้เท้าต่งไม่ต้องห่วง เพื่อถิงเจินแล้ว ข้าจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด พรุ่งนี้ข้าจะเข้าวังไปทูลขอร้องเสด็จพ่ออีกครั้ง ข้าจะไม่มีวันแพร่งพรายเรื่องสร้อยนำโชคของถิงเจินแม้แต่คำเดียว อีกสักครู่เสด็จพ่อคงให้เกากงกงนำสร้อยนำโชคมาคืนให้ใต้เท้าต่ง!”
ต่งชิงผิงถอนหายใจอย่างโล่งอก กล่าวขอบคุณจากนั้นออกไปส่งเหลียงอ๋องที่หน้าจวน
เมื่อเหลียงอ๋องขึ้นไปบนรถม้าเรียบร้อย ต่งชิงผิงจึงหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในจวน ใบหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันที ดูเหมือนเขาต้องรีบหมั้นหมายให้ต่งถิงเจินเสียแล้ว
ซ่งซื่อรู้ว่าเหลียงอ๋องเสด็จมาที่จวน นางจึงรีบไปซ่อนอยู่ที่ด้านหลังของเรือนรับรอง เมื่อเหลียงอ๋องจากไป ซ่งซื่อจึงเดินออกมาจากด้านหลังของฉากกั้น กล่าวขึ้น “ท่านพี่ ในเมื่อฝ่าบาททรงไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ พวกเราควรรีบหมั้นหมายให้ถิงเจินนะเจ้าคะ หลานชายของราชครูเฉิน เฉินเจาลู่ไม่เลวที่เดียวเจ้าค่ะ”
“ตระกูลเฉินมาสู่ขอถิงเจินเพราะเห็นว่าตระกูลต่งอบรมสั่งสอนบุตรสาวได้ดี ตอนที่ตระกูลไป๋เผชิญหายนะ หวั่นจวินไม่ทอดทิ้งตระกูลไป๋ ดูแลจัดการตระกูลไป๋ได้อย่างเป็นระเบียบ เมื่อเผชิญอันตรายก็ไม่เคยหนีหายเพราะความหวาดกลัว มิเช่นนั้นเจ้าคิดว่าบุรุษดีๆ ที่เพียบพร้อมอย่างเฉินเจาลู่จะเลือกถิงเจินของเราอย่างนั้นหรือ” ต่งชิงผิงมองสถานการณ์เฉียบขาด “หากเหลียงอ๋องไม่ยอมแพ้ ป่าวประกาศเรื่องของแนบกายของถิงเจินให้ผู้อื่นรับรู้ ตระกูลเฉินไม่เพียงจะไม่ต้อนรับถิงเจิน แต่จะสงสัยในการอบอมสั่งสอนของตระกูลต่งด้วย ที่สำคัญเจ้าดูถิงเจินในตอนนี้สิ ต่อให้เหลียงอ๋องไม่ป่าวประกาศเรื่องนี้ออกไป หากนางยังดึงดันจะแต่งงานกับเหลียงอ๋องให้ได้ การหมั้นหมายกับเฉินเจาลู่คงไม่เกิดขึ้น”
ซ่งซื่อเศร้าใจ น้ำตาไหลพราก ทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง “เหตุใดข้าถึงได้คลอดบุตรอกตัญญูเช่นนี้ออกมา!”
“พรุ่งนี้เจ้าไปบอกฮูหยินถานด้วยตัวเองว่าของแนบกายของถิงเจินถูกสาวใช้ไห่ถังแอบขโมยไป ต่อมาไม่รู้ว่าตกไปอยู่ในมือของเหลียงอ๋องได้เช่นไร ถิงเจินรู้เรื่องนี้ก็หวาดกลัวจนล้มป่วย ตอนนี้คงยังหมั้นหมายกับตระกูลเฉินไม่ได้”
ซ่งซื่อกำผ้าเช็ดหน้าแน่นพลางพยักหน้า “ท่านพี่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ!”
…
ไป๋ชิงเหยียนกล้าให้ไป๋จิ่นจื้อไปรายงานองค์รัชทายาท หญิงสาวย่อมรู้ว่าฟางเหล่าต้องก่อเรื่องแน่นอน
พรุ่งนี้นางกับไป๋จิ่นจื้อจะเดินทางกลับซั่วหยางแล้ว กำลังคิดหาวิธีตัดโอกาสไม่ให้เหลียงอ๋องได้แต่งงานกับต่งถิงเจิน นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้รับรายงานจากจวนองค์รัชทายาทและจวนเหลียงอ๋องเสียก่อน
ไป๋ชิงเหยียนยืนก้มหน้าใช้ความคิดอยู่ในเรือนชิงฮุยท่ามกลางแสงจันทร์
เดาได้ไม่ยากว่าเหตุใดเหลียงอ๋องจึงไปที่จวนต่ง ฮ่องเต้ไม่อนุญาตให้เหลียงอ๋องแต่งงานกับต่งถิงเจิน เหลียงอ๋องย่อมต้องไปขอร้องและแสดงความจริงใจให้ท่านลุงและเด็กโง่อย่างต่งถิงเจินเห็น
คนที่องค์รัชทายาทส่งไปแพร่กระจายข่าวเรื่องที่เหลียงอ๋องมีของแนบกายของต่งถิงเจินอยู่ในมือ ถูกคนของหลูผิงจัดการราบเรียบหมดแล้ว
ส่วนทหารหน่วยกล้าตายที่ถูกส่งออกมาจากจวนองค์รัชทายาทอีกหกคน…สามคนมุ่งหน้าไปยังจวนต่ง อีกสามคนไปยังจวนท่านตาของหลิ่วรั่วฟู
ลมพัดผ่าน ใบไม้บนต้นไม้สูงตระหง่านตรงกำแพงด้านตะวันตกของเรือนชิงฮุยพัดปลิวไปตามแรงลม ไป๋ชิงเหยียนกำหมัดพลางเงยหน้าขึ้น ดวงตาเป็นประกายในทันที
จักรพรรดิแห่งต้าจิ้นผู้นี้หวาดระแวงในตัวโอรสของตัวเองมาก ไม่ว่าโอรสของเขาจะทำเรื่องเลวร้ายเพียงใด เขาสามารถให้อภัยได้ ทว่า สิ่งเดียวที่ยอมไม่ได้ก็คือการที่โอรสของตนใกล้ชิดสนิทสนมกับขุนนางที่มีอำนาจทางทหารมากเกินไป