สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 627 ปลอดภัย
ตอนที่ 627 ปลอดภัย
“ซิ่นอ๋องอาจทำเช่นนั้น ทว่า ผู้อื่นก็อาจทำเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่นหนานตูจวิ้นจู่หลิ่วรั่วฟู เหล่าทหารกองทัพหนานตูเดินทางเข้ามาในเมืองหลวงเพื่อร่วมแสดงความยินดีกับจวิ้นจู่คนเพียงคนเดียวของเมืองหนานตูของพวกเขา!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ “ที่สำคัญหลิ่วรั่วฟูเป็นคนแค้นฝังหุ่นเสียด้วย!”
“เสียนอ๋องจะรอเก็บผลประโยชน์ตอนท้ายที่สุดอย่างนั้นหรือเจ้าคะ” สีหน้าของไป๋จิ่นเซ่อย่ำแย่เป็นอย่างมาก
หลิวซื่อฟังไม่เข้าใจ ทว่า เมื่อเห็นสีหน้าของคุณหนูเจ็ดไป๋จิ่นเซ่อก็รู้ทันทีว่าสถานการณ์คงไม่ค่อยดีสักเท่าใด ทว่า นางฟังไม่เข้าใจคำกล่าวของเด็กทั้งสองคนจึงยิ่งร้อนใจยิ่งกว่าเดิม “พวกเจ้าทั้งสองคนกำลังกล่าวสิ่งใดกันแน่”
“ท่านอาสะใภ้สอง น้องหญิงเจ็ด พวกท่านไม่ต้องเป็นกังวล หากมีคนมาที่จวนองค์หญิงเจิ้นกั๋ว เสี่ยวชีจงพาคนคุ้มกันท่านอาสะใภ้สองไปหลบอยู่ที่เรือนฉางโซ่วของท่านย่า ไม่ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นก็ห้ามออกมาเด็ดขาด เข้าใจหรือไม่!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบจึงหันไปสั่งชุนเถา “ให้โรงครัวนำอาหารมาเร็วหน่อย ข้า ท่านอาสะใภ้สองและเสี่ยวชีจะทานอาหารกันที่นี่!”
“เจ้าค่ะ!” ชุนเถารับคำ จากนั้นแหวกม่านเดินออกไปสั่งให้สาวใช้นำอาหารเช้ามา
ไป๋ชิงเหยียนทานอาหารเช้าเสร็จ หญิงสาวปลอบโยนหลิวซื่อและไป๋จิ่นเซ่อ จากนั้นเดินไปส่งพวกเขาที่หน้าประตูเรือนชิงฮุย หลูผิงกลับมารายงานพอดี
“คุณหนูใหญ่ ข้าส่งฝูรั่วซีเข้าไปในค่ายทหารผิงอันอย่างปลอดภัยแล้วขอรับ ข้านัดแนะกับฝูรั่วซีว่าเมื่อเห็นดอกไม้ไฟสามดอกจากทางทิศตะวันออกของเมืองหลวงให้เขานำทัพบุกเข้ามาทางประตูทิศตะวันออกขอรับ”
สิ้นเสียงของหลูผิง องครักษ์ลับคนหนึ่งเข้ามารายงาน “นายหญิง จวนเสียนอ๋องมีความเคลื่อนไหวขอรับ มีคนออกมาจากจวนของเสียนอ๋อง มุ่งหน้าไปทางซอยหลิ่วไหวซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของเมืองหลวง ตอนนี้พวกเขานำกำลังทหารอย่างน้อยสามร้อยนายมุ่งหน้ามาทางจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วขอรับ!”
ชุนเถาใจกระตุกวูบ กำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น
ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยสั่งด้วยเสียงที่สงบนิ่ง “สั่งให้องครักษ์ลับแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งคุ้มกันเรือนฉางโซ่วขององค์หญิงใหญ่ไว้ อีกฝ่ายหนึ่งไปคุ้มกันคุณหนูรองที่จวนฉิน องครักษ์ตระกูลไป๋ของเราส่วนใหญ่อยู่ที่ซั่วหยาง จงแบ่งที่มีอยู่ตอนนี้จำนวนหนึ่งคุ้มกันหน้าจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋ว ส่วนที่เหลือไปคุ้มกันเรือนฉางโซ่ว! ชุนเถารีบไปแจ้งให้ท่านอาสะใภ้สองและคุณหนูเจ็ดไปหลบอยู่ที่เรือนฉางโซ่ว หากข้าไม่กลับมา ห้ามพวกนางออกมาจากเรือนฉางโซ่วเด็ดขาด! ข้าฝากเจ้าดูแลท่านอาสะใภ้สองและเสี่ยวชีด้วย!”
“เจ้าค่ะ!” ชุนเถารับคำแล้ววิ่งออกไปจากเรือนชิงฮุย
“ลุงผิงอยู่ดูแลความปลอดภัยของฮูหยินสองและคุณหนูเจ็ดที่จวน จัดยอดฝีมือดีติดตามข้าไปสิบคน…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
ไป๋ชิงเหยียนจะล่อทหารกองทัพหนานตูไปที่อื่นก่อนที่พวกเขาจะมาถึงจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋ว
เป้าหมายของกองทัพหนานตูคือไป๋ชิงเหยียน พวกเขากลัวว่าไป๋ชิงเหยียนจะออกจากเมืองไปนำทหารค่ายผิงอันสองหมื่นนายเข้ามาปกป้ององค์รัชทายาทและฮ่องเต้ หากนางทำเช่นนี้ท่านอาสะใภ้รองและน้องหญิงเจ็ดจะได้ปลอดภัย
“คุณหนูใหญ่จะล่อทหารกองทัพหนานตูไปที่อื่นหรือขอรับ!” หลูผิงเข้าใจความหมายของไป๋ชิงเหยียนทันที “มิได้นะขอรับคุณหนูใหญ่! กองทัพหนานตูแฝงกายอยู่ในเมืองหลวงไม่น้อย คุณหนูใหญ่พายอดฝีมือไปเพียงสิบคน ภายในจวนปลอดภัย ทว่า ความปลอดภัยของคุณหนูใหญ่เล่าขอรับ อย่างน้อยให้ข้าตามคุณหนูใหญ่ไปด้วยเถิดขอรับ!”
“ลุงผิงไม่ต้องห่วง ข้าแค่จะล่อพวกเขาอ้อมเมืองสักรอบ จากนั้นจะมุ่งหน้าไปยังจวนองค์รัชทายาท จวนองค์รัชทายาทมีหน่วยตรวจเมืองคุ้มกันอยู่ ข้าไม่เป็นอันตรายหรอก ไปจัดการเถิด!”
กล่าวจบ ไป๋ชิงเหยียนกลับไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายในห้อง หญิงสาวปลดถุงทรายที่พันรอบกายออก เปลี่ยนเป็นสวมชุดเกราะแทน
เมื่อคืนและเช้าวันนี้ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ฝึกซ้อมหอกเงินหงอิงเลย แม้เมื่อคืนจะมีข่าวรายงานมาตลอด ทว่า ไป๋ชิงเหยียนได้พักผ่อนสนิทในช่วงหลังของกลางคืน บัดนี้หญิงสาวมีกำลังและสติเต็มร้อย
เมื่อไป๋ชิงเหยียนสวมชุดเกราะเดินออกมาจากเรือนชิงฮุย หลูผิงพาองครักษ์ยอดฝีมือจำนวนสิบนายยืนถือคบเพลิงรออยู่ที่หน้าเรือนชิงฮุยเรียบร้อย
เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียน หลูผิงรีบก้าวเข้าไปทำความเคารพ “คุณหนูใหญ่ ข้าเลือกคนไว้ให้แล้วขอรับ ให้ข้าไปกับคุณหนูใหญ่ด้วยเถิดขอรับ!”
“ลุงผิงอยู่คุ้มกันจวนเถิด ข้าจะได้ไม่ต้องพะวงหลัง ฝากลุงผิงคุ้มครองท่านอาสะใภ้สองและน้องหญิงเจ็ดด้วย!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวพลางจัดระเบียบเกราะที่แขน “ข้ายังมีเรื่องต้องทำอีกมาก ไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองเป็นอันใดไปแน่ ลุงผิงไม่ต้องห่วง”
หลูผิงอึกอัก ทว่า สุดท้ายก็ได้แต่พยักหน้า เดินไปส่งไป๋ชิงเหยียนที่หน้าประตูจวน
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก!”
กลุ่มของไป๋ชิงเหยียนเดินไปถึงประตูจวนก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตู
หลูผิงและองครักษ์ไป๋ต่างชักดาบออกมา คุ้มกันไป๋ชิงเหยียนไว้ทางด้านหลัง
องครักษ์ไป๋ที่มีหน้าที่เฝ้าประตูมองลอดช่องประตูออกไปด้านนอก เยว่สือที่ยืนอยู่ด้านนอกโค้งกายคำนับพลางกล่าวขึ้น “เซียวหรงเหยี่ยน เซียวเซียนเซิงขอพบองค์หญิงเจิ้นกั๋วขอรับ!”
องครักษ์ไป๋รู้จักเยว่สือ แน่ใจว่าเขาคือคนของเซียวหรงเหยี่ยนจริงๆ เมื่อมองห่างออกไปก็เห็นร่างสูงโปร่งของเซียวหรงเหยี่ยนยืนรับลมอยู่ท่ามกลางแสงไฟของโคมไฟหน้าจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วด้วยท่าทีองอาจ
องครักษ์ที่เฝ้าประตูรีบวิ่งเข้ามารายงานไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่ คือเซียวเซียนเซิงขอรับ”
ไป๋ชิงเหยียนตะลึงไปเล็กน้อย เหตุใดเซียวหรงเหยี่ยนจึงมาที่นี่กัน
“เชิญเข้ามา” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
องครักษ์ไป๋เปิดประตูจวนออก เชิญเซียวหรงเหยี่ยนเข้ามาด้านใน
เซียวหรงเหยี่ยนก้มศีรษะขอบคุณองครักษ์ไป๋ ดวงตาล้ำลึกของชายหนุ่มจ้องไปยังร่างที่สวมชุดเกราะของไป๋ชิงเหยียนนิ่ง เขาขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล
บัดนี้เมืองหลวงกำลังวุ่นวาย ไป๋ชิงเหยียนคือหนึ่งในนั้น
ไม่ว่าจะเป็นซิ่นอ๋องหรือเหลียงอ๋อง ผู้ที่พวกเขาอยากสังหารมากที่สุดในตอนนี้ก็คือเทพสังหารไป๋ชิงเหยียนซึ่งอยู่ฝ่ายองค์รัชทายาทและเก่งกาจในการวางแผนรบผู้นี้แน่นอน
เซียวหรงเหยี่ยนรู้จักนิสัยของไป๋ชิงเหยียนดี องครักษ์ไป๋ส่วนใหญ่ล้วนอยู่ที่ซั่วหยาง หญิงสาวต้องสั่งให้องครักษ์ไป๋ที่เหลืออยู่ทั้งหมดอยู่คุ้มกันครอบครัวของนางอย่างแน่นอน!
เป็นดังคาด เซียวหรงเหยี่ยนเห็นองครักษ์ไป๋ที่อยู่ข้างกายของไป๋ชิงเหยียนในตอนนี้ที่แม้จะรวมหลูผิงเข้าไปแล้วมีอยู่ทั้งสิ้นเพียงสิบเอ็ดคนเท่านั้น สีหน้าของชายหนุ่มย่ำแย่อย่างมาก
ประตูจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วถูกปิดลงอีกครั้ง หลูผิงและองครักษ์ไป๋ลดดาบลง ถอยไปยืนอยู่ด้านข้าง
เซียวหรงเหยี่ยนเดินลงมาจากบันไดสูง หยุดอยู่ตรงหน้าของไป๋ชิงเหยียน จากนั้นทำความเคารพหญิงสาว “คุณหนูใหญ่ไป๋!”
“เซียวเซียนเซิง!” หลูผิงก้มศีรษะให้เซียวหรงเหยี่ยน
“เหตุใดเซียวเซียนเซิงถึงมาที่นี้ตอนนี้กันเจ้าคะ” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถาม
“องครักษ์ส่วนใหญ่ของตระกูลไป๋ล้วนอยู่ที่ซั่วหยาง เหยี่ยนคิดว่าตระกูลไป๋อาจมีคนไม่เพียงพอต่อการใช้งานจึงพาคนมาช่วยขอรับ” เซียวหรงเหยี่ยนชี้ไปเยว่สือที่อยู่ทางด้านหลัง “คุณหนูใหญ่รู้จักเยว่สือดี เขาคือองครักษ์ประจำตัวของเหยี่ยน มีฝีมือดีมาก! เหยี่ยนต้องเดินทางไปแคว้นต่างๆ เป็นประจำจึงมีองครักษ์ประจำตัวอยู่กลุ่มหนึ่ง พวกเขาล้วนมีฝีมือไม่ธรรมดา ลงมือได้อย่างเงียบเชียบ เหยี่ยนขอมอบพวกเขาให้คุณหนูใหญ่ยืมทั้งหมดขอรับ”
หลูผิงมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนอย่างซาบซึ้ง จากนั้นหันไปทางคุณหนูใหญ่ หวังว่าคุณหนูใหญ่จะไม่ปฏิเสธความหวังดีของเซียวหรงเหยี่ยน
ไป๋ชิงเหยียนรู้ว่าเซียวหรงเหยี่ยนเป็นห่วงตน หญิงสาวคลี่ยิ้มออกมาบางๆ จากนั้นพยักหน้า “ไป๋ชิงเหยียนขอบคุณเซียวเซียนเซิงมากเจ้าค่ะ”
“บัดนี้เมืองหลวงกำลังวุ่นวาย เซียวเซียนเซิงอย่าเพิ่งออกไปด้านนอกเลยเจ้าค่ะ หลบอยู่ในจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วก่อนดีกว่า คนของเซียวเซียนเซิงอยู่คุ้มกันท่านอาสะใภ้สอง น้องหญิงเจ็ดและเซียวเซียนเซิงที่จวนองค์หญิงเจิ้นกั๋ว ส่วนเยว่สือไปกับข้า” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
เซียวหรงเหยี่ยนขมวดคิ้วแน่น “เหยี่ยนจะอยู่คุ้มกันฮูหยินสองและคุณหนูเจ็ดไป๋ให้ปลอดภัย คุณหนูใหญ่พาองครักษ์ของเหยี่ยนและเยว่สือไปให้หมด เหยี่ยนสัญญาว่าจะปกป้องฮูหยินสองและคุณหนูเจ็ดด้วยชีวิต ไม่ให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย!”
เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเตรียมจะกล่าวสิ่งใดออกมาอีก เซียวหรงเหยี่ยนรีบหันไปโค้งคำนับหลูผิง “องครักษ์ผิง ข้าขอสนทนากับคุณหนูใหญ่ไป๋เป็นการส่วนตัวสักครู่”