สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 724 ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้
ตอนที่ 724 ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้
“แม่ทัพฝูลุกขึ้นนั่งเถิด ท่านมาเวลานี้ มีเรื่องสำคัญอันใดอย่างนั้นหรือ”
น้ำเสียงชัดเจนมั่นคงของไป๋ชิงเหยียนดังออกมาจากฉากกั้นด้านใน น้ำเสียงของหญิงสาวไม่ได้อิดโอยอ่อนแอดังที่ฝูรั่วซีจินตนาการไว้ เขาจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ฝูรั่วซีลุกขึ้นยืน เขาถูกไป๋จิ่นซิ่วเชิญให้นั่งลงบนเก้าอี้กลม จากนั้นกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนผ่านฉากกั้น “ฝูรั่วซีมาพบองค์หญิงเจิ้นกั๋วในวันนี้เพราะมีเรื่องต้องการมาทูลให้ทราบสองเรื่องพ่ะย่ะค่ะ สามวันก่อนเฉวียนอวี๋กงกงข้างกายของรัชทายาทมาบอกให้กระหม่อมเตรียมตัวให้พร้อม รัชทายาทจะถือโอกาสช่วงที่ฝ่าบาททรงยินดีเรื่องการประสูติของเด็กในครรภ์ของพระชายาเอกเสนอให้กระหม่อมรับตำแหน่งหัวหน้าหน่วยตรวจเมืองพ่ะย่ะค่ะ”
“รัชทายาทเมตตาท่าน ท่านควรรับความเมตตาจากพระองค์…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ
“กระหม่อมแสดงความจงรักภักดีต่อรัชทายาทต่อหน้าเฉวียนอวี๋กงกงไปแล้ว อีกทั้งฝากเฉวี๋ยนอวี๋กงกงไปขอบพระทัยรัชทายาที่พระองค์ทรงเมตตาไม่ถือสาเรื่องก่อนหน้านี้ ฝากกงกงไปบอกว่าฝูรั่วซะจงรักภักดีต่อรัชทายาทไปตลอดชีวิตแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฝูรั่วซีกล่าว
ฝูรั่วซีเป็นคนฉลาด ตั้งแต่ที่ไป๋ชิงเหยียนช่วยชีวิตเขาเอาไว้ เขาสาบานไว้แล้วว่าจะจงรักภักดีต่อไป๋ชิงเหยียน คนตระกูลไป๋รักพวกพ้องและรักษาคำสัญญายิ่งกว่าราชวงศ์
มิเช่นนั้นตอนนั้นฝูเหล่าไท่จวินคงไม่ไปหาองค์หญิงเจิ้นกั๋ว
ทว่า ตอนนี้ไป๋ชิงเหยียนแสดงให้คนภายนอกเห็นว่านางจงรักภักดีต่อรัชทายาท ฝูรั่วซีจึงทำตามหญิงสาวเช่นเดียวกัน
รัชทายาทในสายตาของฝูรั่วซีเป็นเพียงองค์ชายที่ชอบฟังคำสรรเสริญและหยิ่งผยองเท่านั้น เขาไม่ใช่คนรับมือยากเท่าใดนัก
“วันนี้ข้าเพิ่งกลับมาจากจวนของรัชทายาท พระชายาเอกเริ่มเจ็บครรภ์แล้ว โชคของแม่ทัพฝูใกล้จะมาเยือนแล้ว…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
ฝูรั่วซียังคงมีท่าทีไม่ยินดียินร้ายเช่นเดิม เขาเอ่ยถามไป๋ชิงเหยียน “ไม่ทราบว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วมีสิ่งใดจะจัดการในหน่วยตรวจเมืองหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ ต้องการแทรกคนเข้าไปหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
ขุนนางที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ต้องแสดงความสามารถของตัวเองออกมาให้เห็น หากฝูรั่วซีได้รับตำแหน่งหัวหน้าหน่วยตรวจเมือง เขาย่อมต้องเปลี่ยนแปลงหน่วยตรวจเมืองใหม่ นี่คือโอกาสดีที่จะแทรกแซงคนของตัวเองเข้า บัดนี้ฝูรั่วซีคือคนขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว เขาย่อมต้องมาถามว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วอยากแทรกคนเข้าไปในหน่วยตรวจเมืองหรือไม่
อีกอย่างฝูรั่วซีเพิ่งสวามิภักดิ์กับองค์หญิงเจิ้นกั๋วกลางคัน เขาทำเช่นนี้เพื่อแสดงความจงรักภักดีของตัวเองให้ไป๋ชิงเหยียนเห็น ให้ไป๋ชิงเหยียนกล้ามอบคนให้เขาได้อย่างไม่ต้องกังวล
ล้วนเป็นคนฉลาด ไป๋ชิงเหยียนจะไม่เข้าใจความหมายของฝูรั่วซีได้อย่างไร หญิงสาวกล่าวขึ้น
“แม่ทัพฝูจัดการเรื่องนี้ได้ตามสบาย ต้องควบคุมหน่วยตรวจเมืองให้อยู่ในมือของท่านให้ได้ ตระกูลไป๋ใช้คนไม่เคยคิดสงสัย หากสงสัยจะไม่เลือกใช้ แม่ทัพฝูยินดีรับใช้ตระกูลไป๋ ข้าย่อมเชื่อใจแม่ทัพอยู่แล้ว”
ฝูรั่วซีตะลึง ความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามาในใจ ตระกูลไป๋และกองทัพไป๋ในความทรงจำของเขาล้วนเป็นเช่นนี้!
“ฝูรั่วซีจะไม่ทำให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วต้องผิดหวังพ่ะย่ะค่ะ” ฝูรั่วซีกล่าวเสียงหนักแน่น
“แล้วเรื่องที่สองเล่า” ไป๋ชิงเหยียนถามต่อ
ฝูรั่วซีกล่าวเสียงเบาหวิวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “วันนี้ตอนกระหม่อมออกไปนอกจวนกับฮูหยินของกระหม่อม กระหม่อมเห็นบุตรชายของแม่ทัพหวังเจียงไห่แห่งกองทัพหนานตูที่ถูกตัดสินโทษประหารในข้อหากบฏพ่ะย่ะค่ะ ขุนนางหนานตูที่ร่วมกบฏถูกประหารหมดสิ้นแล้ว บุตรชายของหวังเจียงไห่ก็อยู่ในรายชื่อประหารด้วย ดังนั้นกระหม่อมจึงให้ฮูหยินกลับไปก่อน ส่วนกระหม่อมลอบตามเขาไป กระหม่อมเห็นว่าบุตรชายของหวังเจียงไห่ลอบเข้าไปในจวนของเหลียงอ๋อง ดูเหมือนด้านในจวนจะมีคนรอรับเขาอยู่พ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนนึกถึงเรื่องที่องครักษ์ลับมารายงานเมื่อครู่ เขากล่าวว่ามีคนลอบเข้าไปในจวนเหลียงอ๋อง ทว่า เขาพลัดหลงกับคนผู้นั้น
ที่แท้ก็คือหวังชิวลู่นี่เอง
ฮ่องเต้สั่งให้ขังเหลียงอ๋องไว้ในจวนเหลียงอ๋อง บ่าวรับใช้ในจวนเหลียงอ๋องถูกสังหารและขายออกไปหมดจวน บัดนี้อาหารและของใช้ในชีวิตประจำวันของเหลียงอ๋องยังสู้หมัวมัวตำแหน่งสูงของจวนไป๋ไม่ได้ด้วยซ้ำ ข้างกายไม่มีแม้คนคอยรับใช้ ทว่า ไม่รู้ว่าข่าวลือที่ว่าคือเรื่องจริงหรือไม่ คนในจวนของเหลียงอ๋องน้อยลง ดังนั้นนางจึงไม่อาจแทรกคนของนางเข้าไปสืบได้
“พี่หญิงใหญ่…” ไป๋จิ่นซิ่วมองเข้าไปในฉากกั้น หากนางจำไม่ผิดพี่หญิงใหญ่สั่งให้หลี่หมิงรุ่ย บุตรชายของมหาอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายหลี่เม่าช่วยหวังชิวลู่บุตรชายของหวังเจียงไห่ออกมาจากคุก หวังชิวลู่จะไปสมคบคิดกับเหลียงอ๋องได้อย่างไรกัน
ไป๋ชิงเหยียนนั่งครุ่นคิดท่ามกลางเปลวเทียนที่สะบัดไปมาอยู่บนแท่นไม้สูงสีแดงครู่ใหญ่ จากนั้นกล่าวขึ้น
“ข้ารับรู้เรื่องนี้แล้ว แม่ทัพฝูไม่จำเป็นต้องสืบเรื่องนี้ต่ออีก มิเช่นนั้นรัชทายาทอาจสงสัยในตัวท่านขึ้นมาได้ ข้าจะให้คนสืบเรื่องนี้ต่อเอง”
“พ่ะย่ะค่ะ!” ฝูรั่วซีรับคำโดยไม่ได้ถามต่อให้มากความ
“ฮูหยินฝูสบายดีหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถามถึงฮูหยินของฝูรั่วซี
“ขอบพระทัยที่องค์หญิงเจิ้นกั๋วทรงนึกถึงพ่ะย่ะค่ะ ภรรยาของกระหม่อมสบายดี เพียงแต่นางเป็นห่วงอาการขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว วันนี้ได้ยินว่าองค์หญิงทรงกระอักเลือดที่จวนของรัชทายาท เดิมทีนางตั้งใจจะมาเยี่ยม ทว่า กลัวรบกวนการพักผ่อนขององค์หญิงจึงตั้งใจจะมาพรุ่งนี้แทนพ่ะย่ะค่ะ ไม่ทราบว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วสะดวกหรือไม่พะย่ะค่ะ”
ฝูรั่วซีไม่ได้บอกความจริงทั้งหมด วันนี้เมื่อหลัวซื่อได้ยินว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วกระอักเลือด นางจึงรีบไปเปิดคลังเก็บสมบัติของจวนแล้วหยิบโสมที่เก็บรักษาไว้หลายร้อยปีออกมาเตรียมนำไปให้องค์หญิงเจิ้นกั๋ว ทว่า ถูกฝูรั่วซีห้ามไว้เสียก่อน
ฝูรั่วซีกล่าวว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วกระอักเลือด เวลานี้หากไม่มีท่านหมอคอยดูอาการอยู่ องค์หญิงเจิ้นกั๋วก็คงกำลังพักผ่อนแล้ว หากหลัวซื่อไปในเวลานี้เท่ากับเป็นการสร้างความวุ่นวายให้องค์หญิงเจิ้นกั๋ว หลัวซื่อเห็นด้วยจึงยกเลิกความคิดนั้นไป ทว่า ผู้ใดจะคิดว่าเมื่อผ่านไปครู่หนึ่งหลัวซื่อกลับถามฝูรั่วซีขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยว่าเขาเสียดายโสมหลายร้อยปีของตระกูลอย่างนั้นหรือ ฝูรั่วซีไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี
หลัวซื่อเป็นคนให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ ก่อนท่านแม่จะจากไปท่านบอกหลัวซื่อว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วคือคนที่จะช่วยเหลือตระกูลฝู ในสายตาของหลัวซื่อไป๋ชิงเหยียนคือผู้มีพระคุณของนาง บุญคุณเพียงเล็กน้อยยังต้องตอบแทน อย่าว่าแต่หนี้ชีวิตเลย
เมื่อเอ่ยถึงภรรยา ใบหน้าของฝูรั่วซีเต็มไปด้วยรอยยิ้มบางๆ ราวกับในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นและอ่อนหวาน
“ข้ารับน้ำใจของฮูหยินเอาไว้แล้ว คนในเมืองหลวงต่างเอนเอียงไปทางทิศทางของอำนาจ พรุ่งนี้คงมีรถม้ามากมายมาที่จวนองค์หญิงเจิ้นกั๋ว ท่านไม่ต้องให้ฮูหยินมาเบียดเสียดกับผู้อื่นหรอก ข้ารับน้ำใจไว้ก็พอ จวนฝูอยู่ห่างจากจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วมากเท่าใด รัชทายาทจึงจะวางพระทัยมากเท่านั้น…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบ จากนั้นเอ่ยเสริมขึ้นมาอีกประโยค “หากท่านสามารถลอบทำให้รัชทายาทเข้าใจว่าท่านโกรธที่ข้าตัดแขนของท่าน รัชทายาทจะยิ่งให้ความสำคัญกับท่านมากขึ้น…”
การคานอำนาจคือสิ่งที่จักรพรรดิองค์ปัจจุบันชอบที่สุด รัชทายาทเองก็เช่นเดียวกัน
หากภรรยาของหัวหน้าหน่วยตรวจเมืองสนิทสนมกับไป๋ชิงเหยียน รัชทายาทต้องหวาดระแวงในตัวพวกเขาอย่างแน่นอน ต่อให้รัชทายาทไม่หวาดระแวง ฟางเหล่าผู้นั้นก็ต้องยั่วยุให้รัชทายาทหวาดระแวงอยู่ดี
“ฝูรั่วซีเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฝูรั่วซีรับคำ “องค์หญิงเจิ้นกั๋วทรงพักรักษาตัวให้สบายพระทัยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ฝูรั่วซีจะควบคุมหน่วยตรวจเมืองให้ได้โดยเร็วที่สุดพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “เมื่อวันหน้าข้ากลับไปซั่วหยางแล้ว หากแม่ทัพฝูมีปัญหาใดในเมืองหลวงสามารถไปหาจิ่นซิ่วน้องสาวคนรองของข้าได้ คำสั่งของจิ่นซิ่วก็คือคำสั่งของข้า รบกวนแม่ทัพฝูทำตามคำสั่งของนางด้วย”
ฝูรั่วซีหันไปทำความเคารพไป๋จิ่นซิ่ว ไป๋จิ่นซิ่วลุกขึ้นยืนเคารพกลับเช่นเดียวกัน