สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 766 ไม่จำเป็น
ตอนที่ 766 ไม่จำเป็น
“เจ้าค่ะ…” สายตาของไป๋ชิงเหยียนหยุดอยู่ที่ชุดเกราะสีเงินในมือของต่งซื่อ หญิงสาวนั่งลงข้างกายต่งซื่อ จากนั้นเอื้อมมือไปกอดแขนของมารดาเอาไว้ “ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ เดินทางไปต้าเหลียงในครั้งนี้อาเป่าจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด อาเป่าสัญญาว่าอีกไม่นานอาเป่าจะรับอาอวี๋กลับมาอยู่ข้างกายท่านแม่อย่างเปิดเผยเจ้าค่ะ”
เมื่อเอ่ยถึงอาอวี๋ น้ำตาของต่งซื่อแทบไหลออกมาอีกครั้ง ทว่า นางพยายามกลั้นเอาไว้ จากนั้นตบไปที่มือของบุตรสาวซึ่งคล้องแขนนางอยู่เบาๆ “แม่รู้ดีว่าเจ้าและอาอวี๋ล้วนมีปณิธานยิ่งใหญ่ เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง แม่จะดูแลเบื้องหลังให้เจ้าเอง เจ้าไปต้าเหลียงอย่างสบายใจเถิด ไปควบคุมค่ายทหารเอาไว้ในมือให้ได้ มีเพียงกุมอำนาจทางทหารไว้ในมือเท่านั้น คนที่เมืองหลวงจึงจะเกรงกลัวเจ้า”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า
ต่งซื่อรวบตัวบุตรสาวเข้ามากอดไว้ในอ้อมกอด “สิ่งที่เจ้ากำลังจะทำถ้าชนะจะเป็นเจ้า หากแพ้จะเป็นโจรทันที หากชนะตระกูลไป๋จะมีชื่อเสียงสืบต่อไปอีกยาวนาน หากแพ้ชื่อเสียงที่สั่งสมมาทั้งหมดของตระกูลไป๋จะพังทลายลงทันที หากเจ้าไม่มั่นใจเต็มร้อย เจ้าห้ามวู่วามทำสิ่งใดลงไปเพราะเกิดเรื่องอันใดขึ้นที่ซั่วหยางเด็ดขาด เจ้าเข้าใจหรือไม่”
ต่งซื่อคิดล่วงหน้าไปไกลแล้ว นางกลัวว่าหากบุตรสาวของนางเผยคมดาบของตัวเองออกมาอีกครั้งตอนอยู่ในสนามรบ ฮ่องเต้และรัชทายาทจะเริ่มหวาดระแวงตระกูลไป๋อีกครั้ง จากนั้นมาจับตัวจุดอ่อนทั้งหมดของไป๋ชิงเหยียนเพื่อบีบบังคับนาง
หากมีวันนั้นขึ้นมาจริงๆ ต่งซื่อไม่อยากให้บุตรสาวหยุดเดินไปข้างหน้าต่อหรือยอมให้พวกนั้นจับตัวเพียงเพราะพวกนางหรือผู้ใดทั้งสิ้น
ไป๋ชิงเหยียนเข้าใจความหมายที่มารดาของตัวเองต้องการจะสื่อ หญิงสาวกอดแขนมารดาแน่นกว่าเดิม จากนั้นกล่าวขึ้นยิ้มๆ “ไม่มีทางมีวันนั้นเจ้าค่ะ ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเขามีโอกาสทำเช่นนั้น”
ในเมืองหลวง ฝูรั่วซีคือคนของนาง หน่วยทหารองครักษ์รักษาพระองค์ก็มีคนของนางอยู่เช่นเดียวกัน
หลังจากที่ตระกูลไป๋เกิดปัญหาขึ้น ไป๋ชิงเหยียนทำทุกอย่างอย่างรอบคอบและระมัดระวังเต็มที่ หญิงสาวไม่เคยผ่อนปรนหรือประมาท บัดนี้นางเตรียมการทุกอย่างเกือบพร้อมหมดแล้ว
“แม่ไม่ได้อยู่ข้างกายเจ้า ท่านพ่อของเจ้าต้องคุ้มครองเจ้าจากบนฟ้าเหมือนที่เขาคุ้มครองอาอวี๋แน่นอน…” ต่งซื่อลูบหลังบุตรสาวอย่างแผ่วเบาราวกับกำลังปลอบใจตัวเอง “ทว่า เจ้าต้องดูแลร่างกายของตัวเองให้ดี อย่าทำเหมือนเมื่อก่อนอีก”
“อาเป่าทราบแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ”
คืนนั้นต่งซื่อนอนที่เรือนปัวอวิ๋นเป็นเพื่อนไป๋ชิงเหยียน นางใช้พัดกลมพัดให้บุตรสาว บุตรสาวของนางจะได้หลับสบายกว่าเดิม
มองดูใบหน้าด้านข้างของบุตรสาวที่หลับสนิท ต่งซื่อเอื้อมมือเช็ดน้ำตาของตัวเอง คืนนั้นนางนอนไม่หลับทั้งคืน
เช้าวันต่อมาเมื่อแสงเริ่มสว่างขึ้น ต่งซื่อจึงผล็อยหลับไป ไป๋ชิงเหยียนไม่กล้าปลุกมารดาของตัวเอง หญิงสาวห่มผ้าผืนบางให้ต่งซื่อ จากนั้นย่องออกจากห้องไปเตรียมตัวที่ห้องด้านข้าง
ชุนเถามัดผมสูงให้ไป๋ชิงเหยียน จากนั้นสวมชุดเกราะให้หญิงสาว ชุนเถาอยากขอร้องให้คุณหนูใหญ่พานางไปสนามรบด้วย ทว่า นางรู้ดีว่าหากนางไปในที่เช่นนั้นมีแต่จะเป็นตัวถ่วงของคุณหนูใหญ่ นางจึงกลืนคำขอร้องลงไปในลำคอ
ถงหมัวมัวสวมเสื้อคลุมกันลมสีแดงทับชุดเกราะสีเงินให้ไป๋ชิงเหยียน จากนั้นกล่าวขึ้น “เมื่อคืนฮูหยินสาม ฮูหยินสี่และฮูหยินห้าช่วยกันเย็บเสื้อคลุมกันลมตัวใหม่นี้ทั้งคืนเจ้าค่ะ มีเครื่องรางนำโชคสี่อันเย็บติดอยู่ในเสื้อด้านใน ใหญ่จะได้กลับมาอย่างปลอดภัยเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนเอื้อมมือลูบไปที่เสื้อคลุมที่เย็บอย่างแน่นหนา จากนั้นกล่าวกัลถงหมัวมัว “ฝากขอบคุณท่านอาสะใภ้ทั้งสามด้วย”
ชุนเถาช่วยไป๋ชิงเหยียนจัดเสื้อกันลมให้เข้าที่ เมื่อลุกขึ้นยืนน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางชุนเถาที่ดวงตาบวมช้ำราวกับลูกวอลนัท จากนั้นเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของชุนเถา
“ตอนข้าไม่อยู่ เจ้าดูแลท่านแม่ของข้าให้ดี ดูแลเรือนปัวอวิ๋นให้ดี”
ชุนเถาใช้มือเช็ดหน้าตาของตัวเองอย่างสะอึกสะอื้นพลางพยักหน้า
หน้าโถงรับรองด้านหน้า องครักษ์ไป๋ยี่สิบนายสวมชุดเกราะเตรียมพร้อมเรียบร้อย เมื่อไช่จื่อหยวนในชุดสีเขียวอ่อนสะพายย่ามใบเล็กไว้บนบ่าเห็นความเป็นระเบียบเรียบร้อยขององครักษ์ไป๋ เขาจึงรีบก้มหน้าจัดเครื่องแต่งกายของตัวเองให้เรียบร้อยทันที
ไม่นานจึงได้ยินเสียงหลูผิงเอ่ยเรียกคุณหนูใหญ่
ไช่จื่อหยวนเงยหน้าขึ้นก็เห็นตรีในชุดนักรบที่รอบกายเต็มไปด้วยไอสังหารเดินถือหอกเงินหงอิงตรงมาตามระเบียงทางเดินที่ยังคงเปิดไฟสว่างด้วยฝีเท้าหนักแน่นและมั่นคง ปลายของเสื้อคลุมกันลมที่อยู่ทางด้านหลังปลิวสยายตามแรงลมราวกับมีปีก รอบกายของนางเต็มเปี่ยมไปด้วยบารมีและพลังที่ยากจะพบแม้ในตัวของบุรุษ ความดุดันและไอสังหารที่แผ่ออกมา หากไม่ใช่คนที่เคยผ่านสนามรบมาก่อนไม่มีทางมีอย่างแน่นอน
ไช่จื่อหยวนมองดูร่างผอมเพรียวของไป๋ชิงเหยียนแล้วลอบกำหมัดแน่น ร่างของสตรีตรงหน้าแข็งแกร่ง องอาจและโดดเด่นเหนือผู้ใด ไม่มีท่าทีอ่อนแอขี้โรคเหมือนก่อนหน้านี้แม้แต่น้อย
“คุณหนูใหญ่ ชาวบ้านมารอส่งคุณหนูใหญ่ที่ถนนยาวหน้าประตูจวนเป็นจำนวนมากขอรับ” หลูผิงก้าวเข้าไปรายงานไป๋ชิงเหยียนเสียงเบา
“ไม่ได้รบกวนไปถึงท่านปรมาจารย์หมินเชียนชิวเซียนเซิงใช่หรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนถาม
“แม้ท่านปรมาจารย์หมินเชียนชิวเซียนเซิงจะไม่ได้ออกไปด้านนอก ทว่า ลูกศิษย์ของเขาออกไปขอรับ ตอนนี้เขาอยู่ปะปนกับชาวบ้านที่ด้านนอก คุณหนูใหญ่ระวังด้วยนะขอรับ”
หลูผิงกล่าวพลางรับหอกเงินหงอิงมาจากมือของไป๋ชิงเหยียน จากนั้นเดินตามหลังไป๋ชิงเหยียนไปติดๆ
ท่านปรมาจารย์หมินเชียนชิวเซียนเซิงกำลังจะเขียนชีวประวัติให้ตระกูลไป๋ เขาต้องการความจริง หลูผิงเตือนให้ไป๋ชิงเหยียนทำตัวอ่อนแอต่อหน้าคนภายนอกเช่นเดิม
ไป๋ชิงเหยียนขยับเกราะที่ข้อมือเล็กน้อย จากนั้นกล่าวขึ้น “ไม่จำเป็น ท่านปรมาจารย์หมินเชียนชิวเซียนเซิงเคยเห็นข้าตอนร่างกายอ่อนแอมาก่อน เขาจะคิดว่าข้าแสร้งทำตัวเข้มแข็งเพื่อปลุกใจเหล่าทหารเท่านั้น”
หลูผิงพยักหน้าแล้วไม่กล่าวถึงเรื่องนี้อีก หลูผิงเล่าเรื่องที่ตระกูลบรรพบุรุษไป๋เร่งทำผ้าเช็ดหน้าที่แช่ยารักษาโรคระบาดเพื่อมอบให้เหล่าทหารของซั่วหยางนำไปป้องกันตัวทั้งคืน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตระกูลบรรพบุรุษไป๋ร่วมแรงร่วมใจกันทำสิ่งดีๆ พวกเขาทำผ้าเช็ดหน้าครบห้าพันผืนภายในคืนเดียว อีกทั้งยังมีสำรองให้เหล่าทหารอีกด้วย
“ลุงผิงขอบคุณประมุขไป๋และคนในตระกูลบรรพบุรุษไป๋แทนข้าด้วย บอกว่าไป๋ชิงเหยียนจะจำความดีของพวกเขาเอาไว้” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
ไป๋ชิงเหยียนหันกลับไปเห็นหมอหงแบกย่ามเดินมาทางนางอย่างรีบร้อน ไป๋ชิงเหยียนตะลึงไปเล็กน้อย นางไม่ได้บอกให้ท่านหมอหงเดินทางไปกับนางด้วย ท่านหมอหงอายุมากแล้ว ตอนท่านปู่ไปออกรบยังไม่กล้าพาท่านหมอหงไปด้วยเลย ต่อมานางเดินทางไปหนานเจียงทั้งๆ ที่ร่างกายไม่แข็งแรง นางจึงพาท่านหมอหงไปด้วยเพราะไม่อยากให้ทุกคนในตระกูลไป๋เป็นห่วง ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่มีทางพาท่านหมอหงไปด้วย
“ท่านหมอหง…” ไป๋ชิงเหยียนมองดูดาบล้ำค่าในมือของท่านหมอหง “ครั้งนี้ท่านไม่ต้องตามไปหรอกเจ้าค่ะ ท่านอยู่ดูแลท่านแม่และบรรดาท่านอาสะใภ้ที่ซั่วหยางเถิดเจ้าค่ะ”
“คุณหนูใหญ่ดูถูกคนแก่อย่างข้าหรือขอรับ” หมอหงแสร้งทำเป็นโมโห “คนแก่อย่างข้ากระดูกแข็งมาก! ท่านปู่ของคุณหนูใหญ่อายุมากกว่าข้า ข้าจำต้องฟังคำสั่งของเขา หากคุณหนูใหญ่ไม่อนุญาต ข้าจะขี่ม้าตามขบวนของคุณหนูใหญ่ไปทีหลังขอรับ!”
ไป๋ชิงเหยียนรู้สึกซาบซึ้ง หญิงสาวโค้งกายคำนับหมอหง อนุญาตให้เขาตามไปด้วย
ชุนเถาที่เดินตามหลังไป๋ชิงเหยียนก้าวไปด้านหน้าด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “คุณหนูใหญ่ ข้า…”
“เด็กดี เจ้าไม่ต้องเข้ามายุ่งเลย! วิธีนี้ใช้ได้แค่ครั้งแรกเท่านั้น ผู้อื่นใช้ไม่มีทางได้ผลแล้ว” หมอหงกล่าวกับชุนเถายิ้มๆ
ชุนเถากลืนถ้อยคำลงไปในลำคอ จากนั้นมองไปทางไป๋ชิงเหยียนทั้งน้ำตา
“อยู่ที่จวนดีแล้ว เชื่อคำข้าเถิด”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบก็ก้าวลงบันไดไป เมื่อไช่จื่อหยวนเห็นไป๋ชิงเหยียนเดินลงมาจึงรีบทำความเคารพอย่างนอบน้อม