สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 810 หลงกล
ตอนที่ 810 หลงกล
เฉาเหรินอี้คิดว่าต้าจิ้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายขององค์ชายสี่ที่ด่านชิงซีซาน ขอเพียงเขาตัดศีรษะของเทพสังหารองค์หญิงเจิ้นกั๋วแห่งแคว้นต้าจิ้นได้ก็ถือเป็นการแก้แค้นให้องค์ชายสี่แล้ว!
องค์ชายสี่จะได้นอนตายตาหลับเสียที!
บรรดาแม่ทัพต่างแยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ไป๋ชิงเหยียนเป็นผู้ที่ว่างที่สุด หญิงสาวนั่งอ่านตำราไม้ไผ่อยู่ในกระโจม รอสายลับกลับมารายงานจำนวนทัพของเฉาเหรินอี้ นางจะได้วางแผนการต่อไปได้ถูก
“รายงาน…”
ไม่นานสายลับคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาในกระโจม เขากำหมัดรายงานไป๋ชิงเหยียน
“รายงาน แม่ทัพเฉานำทหารบุกมาประมาณหกหมื่นนายพ่ะย่ะค่ะ!”
ไป๋ชิงเหยียนลูบนิ้วไปที่ม้วนไม้ไผ่ ทหารหกหมื่นนายอย่างนั้นหรือ แสดงว่าเฉาเหรินอี้นำทหารทั้งหมดของเมืองบุกมาที่นี่ เมืองต้าหมิงว่างเปล่าแล้ว
ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้าขึ้น จากนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “ถ่ายทอดคำสั่งไปยังจ้าวเซิ่งและจ้าวหร่าน เมื่อกองทัพของเฉาเหรินอี้บุกเข้ามาในค่ายทหารเมื่อใดให้พวกเขารีบนำทัพถือธงสัญลักษณ์ของกองทัพเฉาไปยังเมืองต้าหมิงทันที จงยึดเมืองต้าหมิงให้ได้ภายในคืนนี้ อย่าให้มีข้อผิดพลาดเด็ดขาด”
การให้กองทัพจิ้นชูธงของกองทัพเฉาอย่างน้อยก็สามารถทำให้ตีเนียนเข้าไปในเมืองต้าหมิงได้ ถือเป็นการลดอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตของเหล่าทหาร
“ขอรับ” สายลับรีบไปถ่ายทอดคำสั่งให้จ้าวเซิ่งและจ้าวหร่านที่จุดซ่อนตัวของพวกเขา
เซียวหรงเหยี่ยนมองไปทางไป๋ชิงเหยียนที่ตัดสินใจเด็ดขาด เขารู้สึกว่าหญิงสาวเกิดมาเพื่อรบในสนามรบ หญิงสาวมีแผนการรบที่แยบยล มีปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วและรอบคอบมาก
กองทัพหกหมื่นนายที่เฉาเหรินอี้นำทัพไปยังค่ายทหารของต้าจิ้นไม่ได้จุดคบเพลิงไฟ พวกเขามุ่งหน้าไปยังค่ายทหารโดยอาศัยความมืดอำพรางตัว ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินทหารคุ้มกันประตูค่ายทหารของต้าจิ้นตะโกนออกมาเสียงดังลั่น “มีศัตรูบุกลุก!”
เสียงกลองของต้าจิ้นดังสนั่นขึ้นทันที
สิ้นเสียงเฉาเหรินอี้จึงชักดาบออกมาจากเอวพลางตะโกนลั่น “ทหารต้าเหลียงทุกคน! วันนี้พวกเราต้องขับไล่สุนัขต้าจิ้นออกไปจากแคว้นต้าเหลียงของเราให้ได้! บุก!”
พริบตานั้นเองเสียงโห่ร้องของทหารต้าเหลียงดังสนั่นขึ้นทันที ทหารต้าจิ้นที่คุ้มกันอยู่ด้านนอกค่ายทหารทำตามแผนโดยการต่อสู้กับพวกเขาอยู่พักหนึ่ง จากนั้นถอยหนีเข้าไปในค่ายทหาร เสียงอาวุธกระทบกันถูกเสียงตะโกนโห่ร้องของทหารต้าเหลียงกลบในทันที
ทหารที่อยู่ในค่ายทหารต้าจิ้นยืนตัวเกร็งไปทั้งร่าง พวกเขากลั้นลมหายใจซ่อนตัวอยู่ภายใต้ความมืดกลางค่ายทหาร แขนข้างหนึ่งมีผ้าสีขาวที่มองเห็นได้ชัดผูกอยู่ พวกเขาล้วนกำดาบแน่นอยู่ในท่าเตรียมพร้อม เสียงสัญญาณแตรดังขึ้นเมื่อใด พวกเขาจะบุกออกไปทันที
ภายในค่ายทหารต้าจิ้นนอกจากแสงไฟจากคบเพลิงสูงที่ตั้งอยู่ทางสี่ทิศของค่ายที่ยังคงสว่างอยู่ ที่อื่นในค่ายล้วนมืดสนิท มีเพียงแสงไฟจากกระโจมแม่ทัพใหญ่กลางค่ายทหารเท่านั้น…
สัตว์กลัวแสงไฟ มนุษย์ชอบเข้าใกล้แสงไฟ นี่คือสัญชาตญาณ
กระโจมใหญ่ที่ยังมีแสงไฟสว่างจ้าเป็นเครื่องดึงดูดเฉาเหรินอี้และทหารของต้าเหลียงให้ไปยังกระโจมที่มีแสง ล่อให้พวกเขาไปยังใจกลางของค่ายทหาร
ทหารต้าเหลียงบางคนบุกเข้าไปกลางกระโจมใหญ่ที่มืดสนิท เมื่อเข้าไปด้านในก็ถูกทหารกองทัพจิ้นที่ซ่อนตัวอยู่สองฝั่งของกระโจมจับและปิดปากแน่น จากนั้นใช้มีดปาดคออย่างรวดเร็ว ทหารที่ผ่านสนามรบมานับครั้งไม่ถ้วนลงมืออย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว
ไป๋ชิงเหยียนนั่งอยู่ในกระโจมเพียงหนึ่งเดียวที่มีไฟสว่าง หญิงสาวเงยหน้ามองไปทางประตูใหญ่ของค่ายทหารที่เต็มไปด้วยเสียงสู้รบด้วยแววตานิ่งขรึม
ไป๋ชิงเหยียนกำลังรอ…
เฉาเหรินอี้ชอบสร้างผลงาน หากดูตามพฤติกรรมการรบของเขาอย่างที่แล้วมา เขาจะสั่งห้ามไม่ให้ลูกน้องของตัวเองตัดศีรษะของแม่ทัพใหญ่ทุกครั้ง เขาจะทำมันด้วยตัวเอง
ดังนั้นการบุกมาโจมตีค่ายทหารของต้าจิ้นยามวิกาลในครั้งนี้ เฉาเหรินอี้ต้องอยากจับเป็นแม่ทัพที่ไม่เคยพ่ายแพ้ในการรบอย่างนางเพื่อสร้างบารมีให้แคว้นต้าเหลียงและข่มขวัญแคว้นต้าจิ้นอย่างแน่นอน
ต่อให้ครั้งนี้เฉาเหรินอี้ไม่ได้กำชับไว้ ทว่า แม่ทัพที่ติดตามเฉาเหรินอี้มานานย่อมรู้กฎข้อนี้ดี พวกเขาต้องช่วยชี้ทางให้เฉาเหรินอี้แน่นอน
เฉาเหรินอี้ไม่ได้ทำให้ไป๋ชิงเหยียนผิดหวังจริงๆ เมื่อเข้ามาในค่ายทหารและรู้ที่อยู่ของไป๋ชิงเหยียน เขาก็ขี่ม้ามุ่งตรงไปยังกระโจมที่พักของหญิงสาวทันที
เสิ่นชิงจู๋ในชุดเสื้อเกราะสีดำยืนกอดดาบอยู่บนหลังคากระโจม หญิงสาวถือแตรไว้ในมือ เมื่อเห็นเฉาเหรินอี้ที่มุ่งตรงมาทางกระโจมแม่ทัพใหญ่ทันทีที่เข้ามาในค่ายทหาร หญิงสาวจึงเป่าแตรในทันที
เสียงแตรดังขึ้นจากทั่วทุกทิศของค่ายทหาร ทหารกองทัพจิ้นที่ซ่อนตัวอยู่ในกระโจมมืดต่างบุกเข้าไปหาทหารต้าเหลียงที่อยู่กลางค่ายทหารต้าจิ้นทันที
เสียงอาวุธกระทบกันและเสียงสู้รบดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
เฉาเหรินอี้รีบกระชากบังเหียนม้าให้หยุดลงทันที เขาหันกลับไปมองก็เห็นบรรดาทหารต้าจิ้นในชุดเกราะพร้อมรบกรูเข้ามาล้อมทหารต้าเหลียงไว้
“แย่แล้ว หลงกลพวกมันแล้ว!”
เฉาเหรินอี้ร้องตะโกนออกมาอย่างตกใจ ทันใดนั้นเขาเห็นแสงไฟสว่างขึ้นรอบค่ายทหาร ค่ายทหารสว่างราวกับอยู่ในเวลากลางวัน เสียงสู้รบดังอยู่ไม่ไกล
“ทุกคนจงมีสติ รีบถอย!” เฉาเหรินอี้หมุนหัวม้ากลับพลางตะโกนลั่นสุดเสียง ทว่า เสียงตะโกนถูกกลบด้วยเสียงร้องอย่างเจ็บปวดและเสียงอาวุธกระทบกัน
ทหารต้าเหลียงที่เมื่อครู่บุกเข้ามาในค่ายทหารต้าจิ้นด้วยความฮึกเหิมและดุดัน บัดนี้เมื่อเห็นไฟรอบค่ายทหารสว่างจ้า บรรดาทหารต้าจิ้นในชุดเกราะโอบล้อมเข้ามา อีกทั้งแม่ทัพใหญ่ของพวกเขาตะโกนให้พวกเขาถอยทัพ บรรดาทหารจึงเสียขวัญกลายเป็นลูกแกะให้บรรดาทหารต้าจิ้นเชือดในทันที
“ท่านแม่ทัพ ทหารต้าจิ้นดักพวกเราอยู่ทางด้านหลัง พวกเราติดกับแล้วขอรับ” แม่ทัพของต้าเหลียงคนหนึ่งขี่ม้าเข้าไปหาเฉาเหรินอี้อย่างรวดเร็ว จากนั้นตะโกนขอความเห็นลั่น “ท่านแม่ทัพ ทำเช่นไรดีขอรับ!”
สิ้นเสียงของแม่ทัพผู้นั้น จู่ๆ ลูกธนูที่มาจากทางใดก็ไม่รู้พุ่งปักเข้าที่หน้าอกของแม่ทัพผู้นั้น แรงปะทะของธนูแรงจนแม่ทัพผู้นั้นกลิ้งตกจากหลังม้า แม่ทัพยังไม่ทันลุกขึ้นยืนก็ถูกทหารต้าจิ้นที่โผล่มาจากทางใดก็ไม่รู้ตัดศีรษะจนขาด
เฉาเหรินอี้ขบกรามแน่น ใช้หอกยาวแทงทะลุร่างของทหารต้าจิ้นที่ตัดศีรษะแม่ทัพต้าเหลียงอย่างแรง จากนั้นตะโกนขึ้นอีกครั้ง “ถอยทัพ รีบถอยทัพด่วน!”
เฉาเหรินอี้คิดว่าครั้งนี้เขาจะรบชนะด้วยกำลังทหารที่น้อยกว่า ทำให้ชื่อเสียงของเฉาเหรินอี้โด่งดังไปทั่วทุกแคว้น
ทว่า เขาไม่รู้ว่าเกิดข้อผิดพลาดตรงที่ใด เขาจึงหลงกลกองทัพจิ้นเช่นนี้
เฉาเหรินอี้สงสัยว่าในกองทัพของตัวเองมีคนทรยศ มิเช่นนั้นต้าจิ้นจะรู้ว่าเขาจะบุกมาโจมตีค่ายยามวิกาลและเตรียมพร้อมรับมือเช่นนี้ได้อย่างไรกัน
“ถอย! ถอย! ถอย…!” เฉาเหรินอี้รู้สึกหวาดกลัวมาก เขาตะโกนลั่น ทว่า รอบกายเต็มไปด้วยทหารต้าเหลียงและทหารต้าจิ้นที่กำลังทำศึกกันอย่างดุเดือด ไม่มีที่ว่างให้ม้าของเขาวิ่งผ่านไปสักนิด
ม้าศึกที่เฉาเหรินอี้นั่งอยู่เหมือนจะรับรู้ถึงอันตราย มันหมุนตัวกลับ ยกเท้าถีบทหารที่คุ้มกันอยู่ข้างกายเฉาเหรินอี้จนล้มลงไปบนพื้น จากนั้นวิ่งออกไปด้านนอกอย่างบ้าคลั่ง เฉาเหรินอี้ที่ไม่ได้ตั้งตัวถูกสลัดตกจากหลังม้าทันที
“ท่านแม่ทัพ!” ทหารต้าเหลียงรีบเข้าไปคุ้มกันเฉาเหรินอี้
เฉาเหรินอี้ที่ถูกสะบัดตกจากหลังม้าจนใบหน้าเปื้อนฝุ่นมอมแมม เขาใช้หอกยาวพยุงกายลุกขึ้นยืน รู้สึกเจ็บจนหน้าซีดเผือด เขาเห็นม้าศึกของตัวเองมุ่งหน้าไปยังประตูค่ายทหาร ทว่า ยังไม่ทันออกจากค่ายทหารก็ถูกหอกยาวแทงจนล้มลงบนพื้นเสียก่อน
บรรดาทหารต้าเหลียงช่วยพยุงกันลุกขึ้น พลทหารโล่คุ้มกันเฉาเหรินอี้ให้อยู่ตรงกลาง จากนั้นค่อยๆ ถอยหนีไปด้านนอกทีละก้าวอย่างยากลำบาก
เฉาเหรินอี้สงบสติลงแล้ว เขามองดูทหารต้าจิ้นที่กรูกันเข้ามาไม่หยุดหย่อน เขารู้ดีว่าตนเองถูกล้อมทั้งจากด้านนอกและด้านใน หากสู้ต่อไปพวกเขาไม่มีทางชนะแน่นอน มีแต่จะสูญเสียมากขึ้นเรื่อยๆ ถอยทัพตอนนี้ก็คงไม่ได้เช่นเดียวกัน
ในเมื่อองค์หญิงเจิ้นกั๋วต้องการซื้อใจทหาร อีกทั้งเขามีความสัมพันธ์อันดีกับหยางอู่เช่อ
บัดนี้เขามีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น ทางแรกคือบุกไปสังหารองค์หญิงเจิ้นกั๋ว ถือศีรษะขององค์หญิงเจิ้นกั๋วออกมา ทำให้ทหารต้าเหลียงที่เคยเข้าร่วมกับองค์หญิงเจิ้นกั๋วหันกลับมาร่วมกับต้าเหลียงอีกครั้ง อีกทางคือ…ยอมจำนน การสังหารองค์หญิงเจิ้นกั๋ว และทำให้ทหารหนึ่งแสนห้าหมื่นนายกลับคืนสู่ต้าเหลียงกับการยอมจำนน…สิ่งใดมีความดีความชอบมากกว่ากันนะ