สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 830 ไร้ที่พึ่ง
ตอนที่ 830 ไร้ที่พึ่ง
“เสด็จอาเก้า เราจะทำเช่นไรต่อไปดีพ่ะย่ะค่ะ” มู่หรงผิงใช้มือปาดน้ำตาทิ้ง จากนั้นถามเสียงสะอื้น
“บรรดาคนจากตระกูลสูงศักดิ์เก่าแก่ของแคว้นเว่ยยังรออยู่หน้าตำหนักพ่ะย่ะค่ะ”
ภายในตำหนักเงียบสนิท มีเพียงเสียงลมหายใจของคนในตำหนักเท่านั้น
ครู่ใหญ่เซียวหรงเหยี่ยนจึงเอ่ยขึ้นเสียงแหบพร่า
“ลุงเฝิงหาคนมาฉลององค์ให้เสด็จพี่ให้เรียบร้อย จากนั้นส่งกลับต้าเยี่ยนเช้าวันพรุ่งนี้”
“พ่ะย่ะค่ะ!” เฝิงเย่าก้มศีรษะรับคำ
“อาผิงเช็ดน้ำตาให้สะอาด ออกไปพบคนเหล่านั้นกับข้า” เซียวหรงเหยี่ยนค่อยๆ วางร่างของมู่หรงอวี้ลง
“ทว่า ชุดของเสด็จอาเก้า…” มู่หรงผิงเห็นว่าแขนเสื้อและเสื้อบริเวณหน้าอกของเซียวหรงเหยี่ยนเปื้อนไปด้วยเลือด “เต็มไปด้วยเลือดนะพ่ะย่ะค่ะ”
“ให้คนไปนำชุดที่เหมือนกันมาให้ข้าอีกชุด” น้ำเสียงของเซียวหรงเหยี่ยนราบเรียบและเยือกเย็น
“ด่วนที่สุด!”
ทั้งๆ ที่เจ็บปวดจนแทบขาดใจกับการจากไปของพี่ชาย ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนยังต้องรวบรวมสติออกไปรับมือกับบรรดาขุนนางสูงศักดิ์ของแคว้นเว่ย
เซียวหรงเหยี่ยนก้มหน้ามองใบหน้าสงบนิ่งและซีดเผือดไร้สีเลือดของพี่ชายนิ่ง ชายหนุ่มนึกถึงใบหน้าตอนจากไปของมารดาขึ้นมาทันที เขาเจ็บปวดราวกับร่างจะแหลกสลาย ชายหนุ่มหลับตาลงนิ่ง
นับจากนี้…เขาไม่มีพี่ชายอีกแล้ว
บรรดาคนของตระกูลสูงศักดิ์ยืนถกเถียงกันอยู่หน้าตำหนัก พวกเขาไม่รู้ว่าเหตุใดเมื่อจักรพรรดิต้าเยี่ยนเข้าไปในตำหนักแล้วองครักษ์เหล่านั้นจึงปิดประตูตำหนักลงทันที อีกทั้งไม่ยอมเรียกพวกเขาเข้าเฝ้าเสียที
ไม่นานประตูตำหนักถูกเปิดออกอีกครั้ง อ๋องเก้ามู่หรงเหยี่ยนที่อยู่บนรถม้าศึกคันเดียวกับจักรพรรดิต้าเยี่ยนตอนที่เข้ามาในวังเดินออกมาจากตำหนักพร้อมกับองค์ชายรองมู่หรงผิง
บรรดาคนของตระกูลสูงศักดิ์ต่างชะโงกหน้ามองหาร่างของจักรพรรดิต้าเยี่ยน ทว่า มองอย่างไรก็ไม่พบ
เซียวหรงเหยี่ยนที่สวมหน้ากากสีเงินยืนเอามือไขว้หลังท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่สว่างไสว ชายหนุ่มกล่าวเสียงเย็น “เสด็จพี่ทรงทราบดีว่าพวกเจ้าหลายมารวมตัวกันอยู่นี่นี่เพราะต้องการเจรจาแลกเปลี่ยนเงื่อนไข พวกเจ้าไม่ยอมรับการปกครองระบอบใหม่ของต้าเยี่ยน เสด็จพี่ไม่อยากเสียเวลากับพวกเจ้าจึงให้ข้าเป็นตัวแทนออกมาบอกพวกเจ้า ทุกคนจงฟังให้ดี บัดนี้เมืองชางคือเมืองชางของต้าเยี่ยนแล้ว ดินแดนทุกแห่งของต้าเยี่ยนต้องใช้การปกครองแบบใหม่ของต้าเยี่ยน ผู้ใดไม่ทำตามจะถูกลงโทษตามกฎหมายของต้าเยี่ยน!”
สิ้นเสียงของเซียวหรงเหยี่ยน คนตระกูลสูงศักดิ์คนหนึ่งก้าวออกมาอย่างไม่พอใจ
“แคว้นเว่ยของพวกเราใช้ระบอบการปกครองนี้มาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ! พวกเราก็เคยเป็นแคว้นที่แข็งแกร่งเหนือแคว้นอื่นเช่นเดียวกัน! บัดนี้ต้าเยี่ยนเพิ่งยึดเมืองชางได้ พวกท่านควรปรองดองกับขุนนางเก่าแก่อย่างพวกเราเพื่อควบคุมสถานการณ์รวมให้มั่นคงถึงจะถูก พวกท่านควรนำการปกครองของสองแคว้นมาใช้รวมกันและปรับเปลี่ยนส่วนที่ไม่เหมาะสมออกเพื่อแสดงให้เห็นว่าแคว้นเว่ยและต้าเยี่ยนเป็นครอบครัวเดียวกันอย่างแท้จริง ควรแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกันโดยไม่แบ่งแยก เหตุใดพวกท่านต้องเหยียดหยามพวกเราโดยบีบบังคับให้แคว้นเว่ยใช้ระบอบการปกครองของท่านโดยไร้เหตุผลเช่นนี้ด้วย!”
“ลืมบอกพวกเจ้าไปอีกเรื่อง บัดนี้แม่ทัพเซี่ยสวินโจมตีเมืองเว่ยสู่แตกแล้ว แคว้นเว่ยดับสูญแล้ว!”
น้ำเสียงทุ้มของเซียวหรงเหยี่ยนกล่าวออกมาอย่างช้า ทว่า ทรงพลัง ชายหนุ่มตั้งใจทำให้บรรดาคนของตระกูลสูงศักดิ์เหล่านี้เสียขวัญ เขาไม่ได้สนใจบรรดาคนของตระกูลสูงศักดิ์ของแคว้นเว่ยเหล่านี้แม้แต่น้อย “แคว้นเว่ยเอาแต่ใช้การปกครองแบบเก่าจึงถูกแคว้นต้าเยี่ยนโจมตีจนดับสูญ บัดนี้แผ่นดินที่พวกเจ้ายืนอยู่คือแผ่นดินของต้าเยี่ยน เมื่อยืนในแผ่นดินของต้าเยี่ยนก็ต้องใช้การปกครองของต้าเยี่ยน! ผู้ใดกล้าขัดขืน ข้าจะฝังศพให้คนผู้นั้นอย่างงาม ผู้ใดก็ได้เอาดาบมาให้ใต้เท้าผู้นี้ที”
เมื่อทหารต้าเยี่ยนได้ยินคำสั่งของเซียวหรงเหยี่ยนจึงรีบหยิบดาบที่เอวส่งให้ผู้อาวุโสตระกูลสูงศักดิ์ของแคว้นเว่ยที่กำลังโมโหจนหน้าแดงก่ำผู้นั้น
“ผู้ใดอยากพลีชีพเพื่อชาติอีก เชิญตามสบาย…” เซียวหรงเหยี่ยนก้มหน้าจัดเครื่องแต่งกายของตัวเอง เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้งแววตาของเขามีแต่ความเยือกเย็น ชายหนุ่มกล่าวขึ้น “เป็นเพียงเชลยของต้าเยี่ยนยังคิดกล้าจะต่อรองเงื่อนไขกับข้า พวกเจ้ามองตัวเองสูงไปกระมัง”
กล่าวจบเซียวหรงเหยี่ยนมองไปทางผู้อาวุโสตระกูลสูงศักดิ์ที่เมื่อครู่กล่าวอย่างมั่นใจ “ใต้เท้าท่านนี้ยังไม่ลงมืออีกหรือ หรือว่าท่านกลัวตาย ไม่กล้าพลีชีพเพื่อบ้านเมืองกัน”
ผู้อาวุโสผู้ตระกูลสูงศักดิ์ตระหนักได้ทันทีว่าจักรพรรดิต้าเยี่ยนไม่เหมือนกับจักรพรรดิแคว้นเว่ย เขารีบก้าวไปทำความเคารพด้านหน้า
“ท่านอ๋องเก้าโปรดอภัยให้ด้วยพ่ะย่ะค่ะ พวกกระหม่อมอาศัยความเป็นตระกูลสูงศักดิ์ถึงได้มีหน้ามีตาในแคว้นเว่ยแห่งนี้ ระบอบการปกครองแบบใหม่มีแต่ผลเสียต่อตระกูลสูงศักดิ์ พวกกระหม่อมย่อมทนไม่ได้เป็นธรรมดา หวังว่าจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนจะยอมปรับเปลี่ยนระบอบการปกครองใหม่นี้สักเล็กน้อย ลูกหลานของพวกกระหม่อมจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้พ่ะย่ะค่ะ!”
“ตระกูลเก่าแก่คือตระกูลเก่าแก่ของแคว้นเว่ย ไม่ใช่ตระกูลเก่าแก่ของต้าเยี่ยน ต่อให้เป็นของต้าเยี่ยนก็ไม่มีผู้ใดกล้าต่อต้านกฎหมายของแคว้น!” เซียวหรงเหยี่ยนแสยะยิ้มเย็นออกมา นอกจากตระกูลสูงศักดิ์เก่าแก่ของต้าเยี่ยนบางตระกูลที่รู้จักยอมถอยแล้ว ตระกูลเก่าแก่ตระกูลอื่นในต้าเยี่ยนไม่มีตระกูลใดมีจุดจบที่ดีสักตระกูล
“ต้าเยี่ยนให้ความสำคัญกับชาวบ้านเป็นหลัก ไม่มีผู้ใดเป็นข้อยกเว้นทั้งสิ้น ข้ายังยืนยันคำเดิมหากพวกเจ้าไม่พลีชีพเพื่อบ้านเมือง พวกเจ้าก็ต้องทำตามกฎของต้าเยี่ยน ยอมเป็นชาวบ้านของต้าเยี่ยน”
“มู่หรงเหยี่ยน! แม้พวกข้าจะยอมจำนนกับต้าเยี่ยน ทว่า ตระกูลของพวกข้าฝังรากลึกอยู่ในแคว้นเว่ย หากพวกข้าทั้งหมดเสียชีวิตอยู่ที่นี่ เจ้าคิดว่าแคว้นเยี่ยนของพวกเจ้าจะปกครองแคว้นเว่ยได้อย่างสงบสุขอย่างนั้นหรือ!” ผู้อาวุโสตระกูลสูงศักดิ์คนหนึ่งตะโกนออกมา
มู่หรงเหยี่ยนพยักหน้า หยิบดาบไปจากเอวของมู่หรงผิง จากนั้นเดินเข้าไปหาผู้อาวุโสตระกูลสูงศักดิ์ผู้นั้น
ผู้อาวุโสตระกูลสูงศักดิ์ถอยหลังไปสองสามก้าว ยังไม่ทันได้กล่าวสิ่งใดออกมา ประกายคมของอาวุธปรากฏขึ้นตรงหน้า เลือดสดกระจายไปทั่วบริเวณภายในพริบตาเดียว
บรรดาตระกูลสูงศักดิ์คนอื่นๆ ต่างพากันถอยหลังหนีด้วยความหวาดกลัว ทว่า ถูกทหารที่อยู่ด้านหลังพวกเขาชักดาบใส่จนพวกเขาไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อย
เซียวหรงเหยี่ยนโยนดาบคืนให้มู่หรงผิง มู่หรงผิงมองเสด็จอาเก้าของตัวเองด้วยความอึ้ง เขาเห็นเสด็จอาเก้าหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมือที่เปื้อนเลือดช้าๆ จากนั้นโยนผ้าเช็ดหน้าลงบนศพของผู้อาวุโสตระกูลสูงศักดิ์ผู้นั้นแล้วกล่าวขึ้น “มีผู้ใดอยากเป็นรายถัดไปหรือไม่”
บรรดาตระกูลสูงศักดิ์ต่างกลั้นลมหายใจนิ่ง
“คนผู้นั้นเตือนสติข้าได้อย่างหนึ่ง ในเมื่อรากฐานของตระกูลพวกเจ้าฝังรากลึก ไม่สู้…” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวเสียงเยือกเย็น
“ถ่ายทอดคำสั่งให้จับองครักษ์ของตระกูลเหล่านี้ไว้ทั้งหมด จากนั้นกวาดล้างทั้งตระกูล ตระกูลใดที่แอบเลี้ยงทหารหน่วยกล้าตายไว้จงสังหารให้หมด หากคนในตระกูลใดขัดคืนไม่จำเป็นต้องไว้ชีวิต บอกชาวบ้านในเมืองชางว่าไม่ต้องหวาดกลัว เมื่อกวาดล้างตระกูลสูงศักดิ์เก่าแก่เหล่านี้จนหมดสิ้นแล้ว ข้าจะแจกจ่ายเครื่องมือทำนาและที่นาให้พวกเขาตามจำนวนคนในครัวเรือน เช่นนี้ชาวบ้านก็จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ข้าจะดูสิว่าชาวบ้านคนใดจะคิดกบฏบ้าง”
โค่นล้มอำนาจของตระกูลสูงศักดิ์ มอบผลประโยชน์ให้ชาวบ้าน
ไม่ว่าอย่างไรชาวบ้านก็มีจำนวนมากกว่าอยู่ดีเมื่อเทียบกับตระกูลสูงศักดิ์
ที่สำคัญชาวบ้านเหล่านั้นจะไม่รู้สึกโกรธแค้นตระกูลสูงศักดิ์ที่ใช้อำนาจกดขี่ รังแกพวกเขาหรืออย่างไรกัน
การจัดการโค่นล้มอำนาจของตระกูลสูงศักดิ์อย่างเด็ดขาดจะทำให้วิธีการเชือดไก่ให้ลิงดูมีประสิทธิภาพสูงสุดอย่างแท้จริง เมื่อพวกเขามอบความเมตตาให้ชาวบ้าน พวกเขาจะเป็นต่อในทันที สถานการณ์ในแคว้นเว่ยจะสงบสุขอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านแคว้นเว่ยจึงจะเต็มใจกลายเป็นชาวเมืองต้าเยี่ยน ไม่คิดก่อกบฏ
“พ่ะย่ะค่ะ!” มู่หรงผิงกำหมัดรับคำ จากนั้นจากไปอย่างรวดเร็ว
“ท่านอ๋องเก้าได้โปรดไว้ชีวิตด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” ผู้อาวุโสตระกูลสูงศักดิ์รีบคุกเข่าขอร้อง
“ท่านอ๋องเก้าได้โปรดไว้ชีวิตด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
เสียงร้องไห้ของคนตระกูลสูงศักดิ์ดังก้องไปทั่วบริเวณ
เซียวหรงเหยี่ยนกวาดสายตามองตระกูลสูงศักดิ์เหล่านี้ด้วยแววตาเย็นชา เมื่อมองดูขุนนางสูงศักดิ์ที่มีใบหน้าคุ้นเคยเหล่านี้ น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นยิ่งกว่าเดิม “สูญเสียบ้านเมือง ไร้ที่พึ่งพาแล้วยังไม่ประมาณตน กล้ายโสโอหังคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ คิดมาต่อรองกับข้า พวกเจ้าคู่ควรอย่างนั้นหรือ!”
กล่าวจบ เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวต่อนิ่งๆ “จับไปขังไว้ทั้งหมด หากผู้ใดไม่ยอมอยู่อย่างสงบ ส่งคนผู้นั้นและครอบครัวไปยังปรโลกทั้งหมด!”