สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 905 ล้มเหลว
ตอนที่ 905 ล้มเหลว
องค์หญิงใหญ่ได้ยินเรื่องที่เมืองต่างๆ ก่อกบฏมาบ้างแล้ว นางได้ยินว่าการเกณฑ์เด็กไปยังหอบูชาเก้าชั้นทำให้เมืองเหล่านั้นราวกับตกอยู่ในนรก
องค์หญิงใหญ่หลับตาลง หมดวาสนาแล้วจริงๆ !
ไม่นานองค์หญิงใหญ่จึงขยับกายอีกครั้ง นางหยิบผ้าเช็ดหน้าจากอกออกมาซับน้ำตา จากนั้นมองไปทางไป๋ชิงเหยียนด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป แววตาแจ่มชัดไม่ได้เศร้าสร้อยเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว นางกล่าวด้วยน้ำเสียงกังวาน…
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้เจ้าก็ไม่ควรมาที่นี่! ในเมื่อเจ้าจะขึ้นเป็นจักรพรรดินีแห่งต้าโจว เจ้าก็ควรรู้ว่าจักรพรรดินีไม่ควรเอาตัวเองมาเสี่ยงอันตรายเช่นนี้ เจ้าคือจักรพรรดินีของต้าโจว คือรากฐานของต้าโจว! เจ้าจะเป็นอันใดไปไม่ได้เด็ดขาด ต้าโจวเพิ่งถูกสถาปนาขึ้น เจ้ายังมีเรื่องมากมายที่ต้องทำ ทหารยอมจำนนของต้าเหลียงที่เจ้าพากลับมาด้วยล้วนจงรักภักดีต่อเจ้าคนเดียวเท่านั้น หากเจ้าเกิดเป็นอันใดขึ้นมา ต้าโจวต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นแน่นอน! เจ้าทำให้แคว้นต้าโจวทั้งแคว้นต้องตกอยู่ในอันตรายเพียงเพราะย่าคนเดียว นี่ไม่ใช่สิ่งที่จักรพรรดิควรทำ!”
เมื่อได้ยินคำกล่าวขององค์หญิงใหญ่ จักรพรรดิต้าจิ้นที่นั่งอยู่ด้านหลังฉากกั้นผุดลุกขึ้นยืนทันที แววตาของเขาเต็มไปด้วยไอสังหาร นี่คือสิ่งที่องค์หญิงใหญ่ควรกล่าวกับกบฏอย่างนั้นหรือ!
เขาตวาดออกมาเสียงดังลั่น “องค์หญิงใหญ่!”
เฉวียนอวี๋ที่ยืนอยู่อย่างกระวนกระวายรีบคุกเข่าลงบนพื้นทันที สุราในจอกสุราพิษที่วางอยู่บนถาดสี่เหลี่ยมหกลงในถาด เฉวียนอวี๋ตัวสั่นเทาไปทั้งร่าง เขาคุกเข่าก้มหน้ามองพื้นไม้ที่มันวาวอยู่ทางด้านหลัง ไม่กล้าหายใจแม้แต่น้อย
ชีวิตนี้เขาเป็นเพียงบ่าวรับใช้มาทั้งชีวิต แม้โชคดีได้กลายเป็นขันทีข้างกายขององค์รัชทายาท ถึงแม้อาจได้กลายเป็นขันทีข้างกายของจักรพรรดิ ทว่า บ่าวก็คือบ่าวอยู่ดี ธรรมชาติของบ่าวมักหวาดกลัวเจ้านาย เมื่อเจ้านายเหลือบมองมาพวกเขาจะรู้สึกหวาดกลัวในทันที ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงเมื่อเห็นจักรพรรดิเดือดดาลเช่นนี้เลย
องค์หญิงใหญ่ไม่สนใจเสียงตะคอกของจักรพรรดิต้าจิ้นแม้แต่น้อย นางมองไปทางหลานสาวนิ่งอย่างปวดใจ นางกำมือหลานสาวแน่นพลางขยับเข้าไปใกล้แล้วกล่าวเสียงหนักแน่น “เจ้าคือจักรพรรรดิ ไม่ใช่แม่ทัพผู้วู่วาม! เจ้าไม่ควรเอาชีวิตตัวเองเข้ามาเสี่ยงเพื่อย่าที่ใกล้ตายคนนี้ บนบ่าของเจ้าคือแคว้นทั้งแคว้น ตั้งแต่วันที่เจ้ากลายเป็นจักรพรรดิ เจ้าก็ไม่ใช่เจ้าของชีวิตตัวเองอีกต่อไป! ชีวิตเจ้าเป็นของชาวบ้านแคว้นต้าโจว เจ้าควรเห็นแก่ชาวบ้านต้าโจวเป็นหลัก การเสียสละง่ายๆ เช่นนี้เจ้าไม่เข้าใจอย่างนั้นหรือ เหตุผลที่ท่านพ่อของเจ้าจำต้องยิงธนูสังหารน้องชายห้าคนของเจ้า เจ้าไม่เข้าใจอย่างนั้นหรือ!”
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องปวดใจ องค์หญิงใหญ่ร้องไห้ออกมาในที่สุด
“องค์หญิงใหญ่!” จักรพรรดิต้าจิ้นตวาดลั่น
ทว่า องค์หญิงใหญ่ราวกับไม่รับรู้ความโกรธของจักรพรรดิต้าจิ้น ในสายตาของนางมีเพียงหลานสาวของนางเท่านั้น “ตอนนั้นเซี่ยงอวี๋จับบิดาของจักรพรรดิเกาจู่ไป กล่าวว่าจะจับเขาต้มปรุงอาหารเสีย จักรพรรดิเกาจู่กล่าวว่าหากต้มบิดาของเขาแล้ว อย่าลืมแบ่งมาให้เขาชิมบ้าง! เหตุนี้จักรพรรดิเกาจู่จึงประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ หากจักรพรรดิเกาจู่เป็นเหมือนเจ้า เขาจะประสบความสำเร็จได้อย่างไรกัน!”
เมื่อเห็นจักรพรรดิต้าจิ้นเตรียมเดินออกไปจากฉากกั้น เฉวียนอวี๋ที่ตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวรีบกอดขาของเขาไว้ทันที “ฝ่าบาททรงระงับโทสะด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
ถาดวางสุราพิษหล่นลงบนพื้น สุราพิษหกราดเสื้อผ้าของเฉวียนอวี๋จนเปียกปอน เศษกระเบื้องที่หล่นแตกปักลงบนหัวเข่าของของเฉวียนอวี๋ เฉวียนอวี๋ควรรู้สึกเจ็บปวด ทว่า ตอนนี้เขากลับไม่มีความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น ในใจเขามีแต่ความหวาดกลัวจนเสียงสั่นระริก ทว่า เขายังคงกอดขาของจักรพรรดิต้าจิ้นแน่นไม่ยอมปล่อย
เกาเต๋อเม่าที่ยืนอยู่ในหอลั่วหงไม่ได้จากไปที่ใดเขาคุกเข่าลงบนพื้นเช่นเดียวกัน “ฝ่าบาทได้โปรดระงับโทสะด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
“หลีกไปบ่าวชั้นต่ำ!”
แววตาของจักรพรรดิต้าจิ้นวาวโรจน์ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าขันทีเล็กที่ปกติขี้ขลาดอย่างเฉวียนอวี๋จะกล้าเขามากอดขาขวางเขาไว้เช่นนี้ จักรพรรดิต้าจิ้นรวบรวมแรงทั้งหมดถีบไปที่หัวไหล่ของเฉวียนอวี๋ ทว่า ไม่สามารถสลัดเฉวียนอวี๋ออกไปได้
เฉวียนอวี๋ถูกจักรพรรดิต้าจิ้นถีบจนชาไปทั้งหัวไหล่ ทว่า เขายังคงกอดขาของจักรพรรดิต้าจิ้นไว้แน่น จากนั้นตะโกนลั่น “องค์หญิงเจิ้นกั๋วรีบหนีไปพ่ะย่ะค่ะ รีบหนีไปเร็วพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อได้ยินเสียงของเฉวียนอวี๋ ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองทางฉากกั้น
เมื่อจักรพรรดิต้าจิ้นเห็นว่าสลัดเฉวียนอวี๋ไม่หลุด เขาจึงเดินลากขาที่มีร่างของเฉวียนอวี๋ติดอยู่ด้วยออกมาจากฉากกั้น เขาจ้องไปทางองค์หญิงใหญ่และไป๋ชิงเหยียนด้วยแววตาวาวโรจน์
“จำไว้ให้ดี!” องค์หญิงใหญ่บีบมือหลานสาวแน่น นางใช้มือประคองใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนให้มองสบตาตน จากนั้นกล่าวออกมาทีละคำอย่างชัดเจน “เจ้าคือจักรพรรดิ เจ้าควรเรียนรู้การควบคุมขุนนาง การเลือกใช้คน ใจของจักรพรรดิต้องกว้างพอที่จะรับคนทั่วทั้งใต้หล้า ต้องเสียสละความรู้สึกส่วนตัวเพื่อส่วนรวม บัลลังก์และแผ่นดินคือสิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งอื่นสำคัญรองลงมา การเห็นแก่ความรู้สึกส่วนตัวโดยไม่สนความปลอดภัยของแคว้นจะทำให้ต้าโจวดับสูญ นั่นไม่ใช่สิ่งที่จักรพรรดิควรทำ!”
เมื่อได้ยินองค์หญิงใหญ่กล่าวเช่นนี้ จักรพรรดิต้าจิ้นยิ่งคุ้มคลั่ง เขามองหาของที่สามารถโยนแตกได้ เสียงแตกของสิ่งของคือสัญญาณที่จะทำให้ทหารคุ้มกันเมืองลั่วหงบุกเข้ามาสังหารไป๋ชิงเหยียน
“อาเป่าไม่ต้องเป็นห่วงย่า สังหารจักรพรรดิต้าจิ้นเสีย นับจากนี้จะไม่มีแคว้นต้าจิ้นอีกต่อไป!” องค์หญิงใหญ่กล่าวเสียงหนักแน่น
จักรพรรดิต้าจิ้นเพิ่งมองเห็นแจกันปักดอกไม้ที่วางอยู่บนแท่นสูง เขาเอื้อมมือไปหยิบลงมา ทว่า ยังไม่ทันเขวี้ยงลงบนพื้นก็ได้ยินเสียงสู้รบดังมาจากด้านนอกเสียก่อน
จักรพรรดิต้าจิ้นมองไปทางนอกหอลั่วหงอย่างหวาดกลัว
“ท่านย่า หากไม่มั่นใจข้าไม่มีทางมาที่นี่เจ้าค่ะ ตอนนี้จิ่นซิ่วกำลังบุกโจมตีเมือง บางทีอาจโจมตีแตกแล้วเจ้าค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางแผ่นหลังของจักรพรรดิต้าจิ้น “ในเมืองก็คงวุ่นวายขึ้นแล้วเช่นกัน”
จักรพรรดิต้าจิ้นรีบหันกลับไปมองไป๋ชิงเหยียน เขาเห็นไป๋ชิงเหยียนกำลังมองมาที่เขาด้วยแววตาล้ำลึก “เสียงแตกของสิ่งของคือสัญญาณอย่างนั้นหรือ ของแตกไปแล้วนี่ มีผู้ใดเข้ามาหรือไม่”
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางแจกันในมือของจักรพรรดิต้าจิ้น “หากไม่เชื่อจะลองดูอีกสักครั้งก็ได้ ดูสิว่าเมื่อแจกันนี้แตกจะมีผู้ใดเข้ามาช่วยท่านหรือไม่…”
ในเมื่อเสิ่นเทียนจืออยู่ด้านนอก เขาย่อมไม่มีทางปล่อยให้คนของจักรพรรดิต้าจิ้นเข้ามาด้านในได้แน่นอน นอกเสียจากว่าไป๋ชิงเหยียนจะออกคำสั่ง
จักรพรรดิต้าจิ้นมองไปทางองค์หญิงใหญ่ที่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจขึ้นมาทันที…
องค์หญิงใหญ่ยอมสละชีวิตของตัวเองเพื่อเขาและองค์รัชทายาทได้ ทว่า ไม่ได้หมายความว่าองค์หญิงใหญ่จะยอมทำตามคำสั่งของเขาและองค์รัชทายาททุกอย่าง โดยเฉพาะการสังหารหลานสาวของตัวเอง
ดังนั้นองค์หญิงใหญ่เตรียมการทุกอย่างไว้ล่วงหน้าแล้ว!
องค์หญิงใหญ่ยอมตามเหลียงอ๋องมาที่เมืองลั่วหงเพราะต้องการเป็นสายลับให้ไป๋ชิงเหยียน ทำให้พวกเขาเข้าใจว่าพวกเขามีข้อต่อรองกับไป๋ชิงเหยียน เช่นนี้ไป๋ชิงเหยียนจะได้กำจัดพวกเขาทุกคนได้ในทีเดียว จะไม่มีคนในราชวงศ์หนีไปได้เหมือนที่ไทเฮาของแคว้นเว่ยพาจักรพรรดิน้อยของแคว้นเว่ยหนีไป
“ฝ่าบาท ฝ่าบาท!” เกาเต๋อเม่าคลานเข่าเข้าไปหาจักรพรรดิต้าจิ้น จากนั้นเอื้อมมือไปกอดขาอีกข้างของเขาเอาไว้ มืออีกข้างเอื้อมไปหยิบแจกันมาจากมือของจักรพรรดิต้าจิ้นอย่างระมัดระวัง “ฝ่าบาท เรื่องทุกอย่างล้มเหลวแล้วพ่ะย่ะค่ะ ต่อให้ทรงคิดจะให้ทุกฝ่ายตายไปด้วยกันทั้งหมด ทว่า ทหารในเมืองลั่วหงไม่มีความกล้าและความสามารถถึงเพียงนั้นนะพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อเห็นเกาเต๋อเม่าเริ่มเกลี้ยกล่อมจักรพรรดิต้าจิ้น เฉวียนอวี๋จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาปล่อยมือที่กอดขาของจักรพรรดิต้าจิ้นออก ร่างทั้งร่างทรุดลงนั่งกับพื้น ทว่า เมื่อเขาเห็นเศษกระเบื้องที่ปักอยู่ในหัวเข่าของเขา สมองของเขาขาวโพลนในทันที