สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 979 ในที่สุดก็มา
ตอนที่ 979 ในที่สุดก็มา
หลี่จือเจี๋ยกำหมัดแน่นพลางฝืนยิ้มออกมา ขณะที่เขากำลังหาคำแก้ตัวก็ได้ยินไป๋ชิงเหยียนกล่าวขึ้นต่อ “เหยียนอ๋องไม่รู้สาเหตุที่ต้าโจวยังไม่ตกลงทำสัญญากับแคว้นใดเสียทีจริงๆ หรือ”
“ฝ่าบาทได้โปรดชี้แนะด้วยพ่ะย่ะค่ะ” หลี่จือเจี๋ยทำความเคารพ
“องค์หญิงหลี่เทียนฟู่แห่งซีเหลียงส่งมือสังหารไปยังซั่วหยาง บัดนี้เหยียนอ๋องยังให้ไป๋สุ่ยอ๋องยืมมือสังหารของซีเหลียงก่อความวุ่นวายในเมืองหลวงของต้าโจวในวันราชาภิเษกของเราอีก ซีเหลียงไม่อยู่อย่างสงบ ประสงค์ร้ายต่อต้าโจวมากถึงเพียงนี้ ต้าโจวจะกล้าทำสัญญาผูกไมตรีกับซีเหลียงได้อย่างไรกัน”
“ฝ่าบาท!” แผ่นหลังของหลี่จือเจี๋ยชาวาบ เขารีบลุกขึ้นโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียน “กระหม่อมไม่ทราบเรื่องที่องค์หญิงส่งมือสังหารมาลอบสังหารฝ่าบาทจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมไม่เคยร่วมมือกับไป๋สุ่ยอ๋อง ยิ่งไม่เคยให้ไป๋สุ่ยอ๋องยืมมือสังหาร ฝ่าบาทได้โปรดวินิจฉัยให้แน่ชัดด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
“หลี่จือเจี๋ย…” ไป๋ชิงเหยียนวางถ้วยชาในมือลง จากนั้นมองไปทางหลี่จือเจี๋ยที่มีสีหน้าหวาดกลัว “แม้มือสังหารจะเสียชีวิตหมดแล้ว ทว่า ไป๋สุ่ยอ๋องยังมีชีวิตอยู่ ท่านคิดว่าท่านจะรอดจากเรื่องนี้ไปได้อย่างนั้นหรือ การที่เรายอมพบหน้าท่านในวันนี้ถือว่าไว้หน้าซีเหลียงมากแล้ว ทางที่ดีท่านควรรีบส่งจดหมายกลับไปถามจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงของท่านว่าจะทำสัญญากันเช่นไร ซีเหลียงจะแสดงความจริงใจให้ต้าโจวเห็นได้อย่างไร”
เมื่อกล่าวถึงขั้นนี้แล้ว หากซีเหลียงต้องการใช้ไป๋จิ่นถงเป็นหมากในการต่อรองจริงๆ ก็ควรเปิดไพ่ของตัวเองออกมาได้แล้ว
“ฝ่าบาท…” หลี่จือเจี๋ยเงยหน้าขึ้น ถึงแม้จะพยายามเพียงใดก็ปกปิดสีหน้าที่หวาดกลัวไว้ไม่มิด
“ท่านไม่ต้องห่วงตราบใดที่อ๋องหน้ากากผียังอยู่ในเมืองหลวงของต้าโจว หรงตี๋ไม่มีทางยกทัพบุกไปยังซีเหลียงแน่นอน แม้ต้าโจวจะยื้อเขาไว้ได้ไม่นาน ทว่า เหยียนอ๋องยังมีเวลาให้คนนำจดหมายไปยังซีเหลียงและนำกลับมาต้าโจวอีกครั้ง หากนานกว่านั้นต้าโจวก็คงไม่ช่วยยื้อเวลาให้แล้ว แน่นอนว่าซีเหลียงต้องรับปากว่าจะไม่โจมตีหรงตี๋ในตอนนี้ด้วย หากซีเหลียงบุกโจมตีหรงตี๋ตอนที่อ๋องหน้ากากผียังเป็นแขกอยู่ในเมืองหลวง ต้าโจวย่อมไม่อาจทนดูอยู่เฉยๆ ได้แน่”
หลี่จือเจี๋ยเดินออกจากตำหนักด้วยแผ่นหลังที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ทว่า เขาวางใจลงไม่น้อย
ฟังจากคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียนดูเหมือนว่าหญิงสาวไม่พอใจที่ซีเหลียงมอบเมืองให้ต้าโจวน้อยเกินไป
ขณะเดียวกันกลับถือโอกาสนี้ลอบช่วยเหลือไป๋สุ่ยอ๋องก่อกบฏ หญิงสาวต้องการผลประโยชน์จากซีเหลียงมากกว่าเดิม ไป๋ชิงเหยียนกลัวว่าเขาจะตัดสินใจเองไม่ได้จึงให้เวลาเขาส่งจดหมายกลับไปถามจักรพรรดินีแห่งซีเหลียง ไป๋ชิงเหยียนยินดีจะช่วยรั้งตัวอ๋องหน้ากากผีให้อยู่ต้าโจวต่ออีกสักพักเพื่อผลประโยชน์
แสดงว่าไป๋ชิงเหยียนอยากทำสัญญาผูกไมตรีกับซีเหลียง ทว่า ซีเหลียงให้ผลประโยชน์กับต้าโจวน้อยเกินไป
หลี่จือเจี๋ยกำหมัดแน่น ช่างเถิด…อย่างน้อยไป๋ชิงเหยียนก็ยังมีใจคิดเป็นพันธมิตรกัน ยื้อได้นานเท่าใดก็ยิ่งดี เขาจะได้มีเวลาคิดแผนสำรองว่าหากสุดท้ายแล้วต้าโจวไม่ยอมทำสัญญาพันธมิตรกับซีเหลียง ซีเหลียงควรทำเช่นไรต่อไปดี
หลี่จือเจี๋ยเงยหน้ามองหลังคาสีแดงของตำหนักใหญ่ที่ส่องสว่างเรืองรองท่ามกลางแสงอรุณแรกของวัน เขาลอบปาดเหงื่อแทนซีเหลียงอยู่ในใจ
ก่อนที่จะเดินทางมาพบจักรพรรดินีแห่งต้าโจว ก่อนเห็นฝีมือของจักรพรรดินีองค์นี้ หลี่จือเจี๋ยเคยมั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงใหม่ของซีเหลียงในตอนนี้จะทำให้ซีเหลียงกลับมาเป็นแคว้นที่แข็งแกร่งได้ในอีกไม่ช้า แม้จะแข็งแกร่งสู้ต้าโจวและต้าเยี่ยนไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องทำให้ต้าเยี่ยนและต้าโจวไม่กล้ารุกรานพวกเขาได้ง่ายๆ
ทว่า จนถึงบัดนี้หลี่จือเจี๋ยจึงตระหนักได้ว่าตัวเองเหมือนกบในกะลา
ก้าวเท้าผิดในก้าวแรก ก้าวถัดมาย่อมผิดตามไปด้วย
หากตอนนั้นซีเหลียงไม่ยืนกรานบุกโจมตีแคว้นต้าจิ้นจนสูญเสียทหารยอดฝีมือนับแสน สร้างความแค้นกับจักรพรรดินีแห่งต้าโจว ทว่า ลอบสร้างความแข็งแกร่งภายในแคว้นอย่างที่ต้าเยี่ยนทำ ตอนนี้พวกเขาคงไม่ต้องหวาดกลัวหรงตี๋เช่นนี้
น่าเสียดายที่ใต้หล้าแห่งนี้ไม่มียาแก้ไขอดีต
แม้จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงจะคิดหาวิธีต่างๆ มาสร้างความแข็งแกร่งให้ซีเหลียง ทว่า มีตระกูลสูงศักดิ์แปดตระกูลคอยคานอำนาจอยู่ ไม่สิ…ตอนนี้เหลือหกตระกูลแล้ว ความเร็วในการพัฒนาของซีเหลียงก็ยังช้ากว่าต้าโจวมาก
ต้าเยี่ยน ต้าโจวต้องการครอบครองใต้หล้า บัดนี้ซีเหลียงเหมือนเนื้อที่วางอยู่บนเขียง เขาควรจะช่วยเหลือซีเหลียงเช่นไรดี ควรทำเช่นไรดี!
หลี่จือเจี๋ยรู้สึกปวดใจมาก จู่ๆ เขาก็เกิดความรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมา ไม่รู้ว่าควรใช้วิธีใดช่วยเหลือซีเหลียงให้รอดพ้นจากวิกฤตในครั้งนี้ไปได้ ไม่รู้ว่าทางออกของซีเหลียงอยู่ที่ใด…
เมื่อเห็นหลี่จือเจี๋ยยืนนิ่งอยู่หน้าตำหนักไม่ขยับ ขันทีเล็กจึงเดินเข้าไปถามเสียงเบา “เหยียนอ๋องยังมีเรื่องอันใดอีกหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
เหยียนอ๋องแห่งซีเหลียงผู้นี้เป็นคนใจกว้างดังนั้นบรรดาขันทีจึงชอบมารับใช้เขา ทุกครั้งมักได้รางวัลตอบแทนอย่างงาม
ทว่า ครั้งนี้หลี่จือเจี๋ยได้สติหันกลับไปมองขันทีเล็กแวบหนึ่ง จากนั้นเดินลงจากบันไดสูงไป
ขันทีเล็กไม่ได้เงินรางวัลจึงรู้สึกเสียดายเล็กน้อย เขาถอนหายใจพลางเดินกลับไปยืนประจำตำแหน่งของตัวเอง
หลี่จือเจี๋ยเดินออกจากวังหลวง ขึ้นไปนั่งครุ่นคิดบนรถม้าของตัวเองก็ได้ยินองครักษ์รายงานข้างรถม้าเสียงเบา “ท่านอ๋อง ดูเหมือนว่าอ๋องหน้ากากผีจะไปขอเข้าเฝ้าฝ่าบาทในวังหลวงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
หลี่จือเจี๋ยลืมตาขึ้น ใช้พัดแหวกม่านของรถม้าออก เขาเห็นอ๋องหน้ากากผีกำลังลงมาจากหลังม้าสูงของตัวเองพอดี อ๋องหน้ากากผีเหลือบมองมาทางเขาด้วยแววตาเยือกเย็น
หลี่จือเจี๋ยกำพัดกลมแน่น เขาก้มศีรษะให้อ๋องหน้ากากผีเล็กน้อยอย่างคนใจกว้าง จากนั้นปิดม่านรถม้าลงตามเดิม รอยยิ้มบนใบหน้าหายไปทันที
เขาเพิ่งเข้าเฝ้าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเสร็จ คนของหรงตี๋ตามมาต่อทันที ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าพวกเขามาทำอันใด
ดูเหมือนว่าหลี่จือเจี๋ยต้องรีบส่งคนกลับไปถามจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงว่าจะมอบผลประโยชน์ให้ต้าโจวมากขึ้นเพื่อทำสัญญาพันธมิตรเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่แล้ว
หลังจากที่ไป๋ชิงอวี๋รู้ข่าวเมื่อคืนว่าวันนี้จักรพรรดินีแห่งต้าโจวจะพบเหยียนอ๋องก่อนไปทานอาหารเช้ากับไทเฮา เขาก็รู้ได้ทันทีว่าพี่หญิงใหญ่กำลังหาโอกาสให้เขาได้พบกับท่านแม่และพี่หญิงใหญ่อย่างเปิดเผย
ตั้งแต่ที่รู้ว่าหลี่จือเจี๋ยเข้าวังไปแล้ว ไป๋ชิงอวี๋ก็นั่งไม่ติดที่มาโดยตลอด เขากังวลว่าหากท่านแม่ให้เขาถอดหน้ากากออก เขาจะเผชิญหน้ากับท่านแม่ด้วยใบหน้าที่อัปลักษณ์นี้ได้อย่างไร
เขาไม่อยากเห็นท่านแม่และพี่หญิงใหญ่ต้องเสียน้ำตา
ขณะรออยู่นอกวังหลวงคือช่วงเวลาที่ทรมานสำหรับไป๋ชิงอวี๋มาก
ถึงแม้เขาจะทำตัวไม่ถูก ทว่า เขาทนความคิดถึงที่มีต่อท่านแม่และพี่หญิงใหญ่ไม่ไหว ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจมาที่นี่
ไป๋ชิงอวี๋เดินตามหลังขันทีเล็กเข้าไปตามทางที่ทอดยาวในวังหลวง
เขาเคยเดินตามหลังท่านปู่ ท่านพ่อ ท่านอาและพี่ชายน้องชายไปบนถนนสายนี้นับครั้งไม่ถ้วน ชายหนุ่มมองดูโคมไฟขนาดครึ่งตัวคนที่ประดับอยู่สองข้างทาง มองดูหลังคากระเบื้องสีแดง ไม่มีครั้งใดเลยที่เขาจะว้าวุ่นใจเท่าครั้งนี้
ขันทีเล็กเหลือบมองดูอ๋องหน้ากากผีที่ดูมีสง่าราศีทั้งๆ ที่สวมหน้ากากอยู่แวบหนึ่ง ในใจอดเปรียบเทียบอ๋องหน้ากากผีและอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนขึ้นมาไม่ได้
ตำหนักโซ่วเหอ
ต่งซื่ออยู่ไม่เป็นสุขตั้งแต่เมื่อเช้า เมื่อคืนไป๋ชิงเหยียนมาบอกนางว่าวันนี้อาจให้นางได้พบหน้าอาอวี๋ ต่งซื่อนอนไม่หลับทั้งคืน สีหน้าอ่อนล้ามาก
ไป๋ชิงเหยียนเห็นมารดากำตะเกียบในมือแน่นพลางลอบมองไปด้านนอกตลอดเวลา หญิงสาวจึงหันไปสื่อให้ฉินหมัวมัวไล่นางกำนัลคนอื่นออกไปจากตำหนักให้หมด ไม่จำเป็นต้องอยู่ปรนนิบัติข้างกาย
โหมดอ่านต่อเนื่อง
************************