สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน - บทที่ 239 เที่ยวผู้หญิง โหมโรง
บทที่ 239 เที่ยวผู้หญิง โหมโรง
เย้นหว่านกับฉูรั่วไป๋เดินตรงไปยังห้องข้อมูลทันที
นี่เป็นเพราะการแลกเปลี่ยนระหว่างสองเมือง โห้ถิงกรุ๊ปก็เลยจัดทำห้องข้อมูลขึ้นเป็นพิเศษ เนื้อหาการออกแบบส่วนใหญ่ ก็ถูกย้ายมาอยู่ที่นี่ทั้งหมด เป็นเหมือนกับห้องสมุดเฉพาะทางขนาดย่อม
เย้นหว่านเดินเข้าไปข้างใน แล้วยืนอยู่หน้าชั้นหนังสือ แล้วเริ่มค้นหาข้อมูลตามคำแนะนำของฉูรั่วไป๋
ฉูรั่วไป๋มองเธอที่พอเข้าก็เริ่มยุ่งขึ้นมา ก็เลยรู้สึกวางใจขึ้นมาเล็กน้อย ดูแล้ว ความรู้สึกที่เย้นหว่านมีต่อโห้หลีเฉินคงจืดจางไปแล้ว จังหวะแบบนี้คงเป็นจังหวะที่ปล่อยมือได้อย่างสมบูรณ์แล้ว
ส่วนเขาก็แค่ต้องคอยเคียงข้างเย้นหว่านต่อไป อยู่เป็นเพื่อนให้เธอผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ ใจของเธอก็จะเริ่มเข้าใกล้เขาเข้ามาเอง
“เสี่ยวหว่าน เดี๋ยวฉันจะช่วยหาทางนี้ด้วยนะ”
ฉูรั่วไป๋ยืนอยู่ตรงชั้นหนังสือด้านหลังเย้นหว่าน เรียกดูหนังสือข้อมูลเหล่านี้อย่างรวดเร็ว
เย้นหว่านจ้องมองหนังสือข้อมูลที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่วางตา เหมือนว่ากำลังตั้งใจหาหนังสืออยู่ แต่ตอนที่สายตาของเธอเลื่อนผ่านไปที่หนังสือข้อมูลที่ใช้งานได้นั้น กลับเลื่อนผ่านมันไปอย่างแผ่วเบา ไม่ได้หยุดอยู่บนนั้นแต่อย่างใด
ขณะนี้ก็มีเพียงตัวของเธอเองเท่านั้นที่รู้ ว่าตาที่กำลังมองหนังสือข้อมูลตรงหน้าอยู่ แต่ในสมองของเธอ กลับมีภาพใบหน้าของโห้หลีเฉินวาบผ่าน
ไม่อาจสลัดมันให้หลุดออกไปได้เลย
“เสี่ยวหว่าน หาเจอหรือยัง”
ฉูรั่วไป๋หยิบหนังสือมาเล่มหนึ่ง แล้วเดินไปตรงหน้าของเย้นหว่าน
เสียงของเขาเรียกเอาวิญญาณที่หลุดลอยไปของเย้นหว่านกลับมา
สายตาของเย้นหว่านสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้า “ยังเลย” ที่จริงแล้วเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อกี้เธอเห็นหนังสืออะไรมาแล้วบ้าง ก็ถือซะว่ายังหาไม่เจอก็แล้วกัน
สายตาของฉูรั่วไป๋กวาดไปมองหนังสือเล่มนั้นที่ใช้งานได้ที่อยู่ตรงหน้าของเย้นหว่านเงียบๆ ก่อนจะเอ่ยปากอย่างอ่อนโยนว่า
“พักสักหน่อยเถอะ เดี๋ยวค่อยหากันต่อ”
เย้นหว่านคิดว่าตอนนี้จิตใจของเธอเองก็ยังไม่สงบลง เลยพยักหน้าตอบรับไป แล้วเดินไปพักตรงโต๊ะที่อยู่นอกชั้นหนังสือกับฉูรั่วไป๋
“เล่มนี้ใช้ได้นะ เธอลองเปิดดูสิ”
ฉูรั่วไป๋ยื่นหนังสือที่อยู่ในมือให้เย้นหว่าน “จริงสิ เธอยังไม่ค่อยได้กินอะไรเลยนี่ หิวไหม ให้ฉันเรียกคนเอาของหวานมาให้ดีหรือเปล่า”
“ไม่ต้องหรอก”
เย้นหว่านส่ายหน้าปฏิเสธ ช่วงนี้เธอก็ไม่ค่อยมีความอยากอาหารเท่าไหร่ด้วย
ฉูรั่วไป๋เห็นเธอเริ่มก้มหน้าดูหนังสือ ก็ไม่ได้บังคับเธออีก แต่คิ้วกลับค่อยๆขมวดกันแน่นขึ้น
เย้นหว่าน ต้องอีกนานแค่ไหนเธอถึงจะยอมปล่อยวางจากคนๆนั้น ไม่ต้องไปอาลัยอาวรณ์อีกเลย
เมื่อไหร่ ถึงจะมองเห็นเขาที่คอยอยู่ข้างกาย
“ก๊อก ก๊อก”
ตอนที่จิตใจของฉูรั่วไป๋กำลังล่องลอยไปไกลอยู่นั้น ตรงหน้าประตูก็มีเสียงเคาะเบาๆดังขึ้น
เห็นเพียงเว่ยชียกถาดอันหนึ่งเข้ามา ข้างบนมีกาแฟสองแก้วกับขนมหวาน เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า
“คุณเย้น เชิญดื่มน้ำชายามบ่ายครับ”
ของหวานที่อยู่บนถาด เป็นของที่เย้นหว่านชอบกินทั้งหมด คล้ายกันกับชุดน้ำชาที่โห้หลีเฉินเคยเตรียมให้เธอเมื่อก่อนนี้
เย้นหว่านชะงักไปเล็กน้อย ภาพของคนๆนั้นที่อยู่ในหัวยิ่งชัดเจนขึ้นมากกว่าเดิม หัวใจของเธอก็ยุ่งเหยิงขึ้นทันที บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร
และแทบจะปฏิเสธออกไปทันที “ไม่ต้องลำบากหรอก ฉันไม่อยากดื่มชา ยกออกไปเถอะ”
เว่ยชียืนอยู่กับที่ไม่ยอมขยับ แล้วพูดคำที่เตรียมเอาไว้แต่แรกแล้วออกมา
“คุณเย้นอย่าเพิ่งเข้าใจผิดไปเลยครับ นี่เป็นสวัสดิการของบริษัท ทุกคนต่างก็ได้รับกันคนละชุดทั้งนั้น ถ้าคุณรู้สึกไม่ชอบจริงๆ ก็ส่งคืนให้หัวหน้าทีมของพวกคุณได้ครับ ผมก็แค่ผ่านทางมาก็เลยยกมาให้ก็เท่านั้น”
ดังนั้น เรื่องที่จะคืนก็ไม่เกี่ยวกับเขา
เย้นหว่านตกตะลึง แล้วหันไปมองที่เว่ยชี อยากจะดูว่าจะเห็นความผิดปกติอะไรจากสีหน้าของเขาบ้าง แต่บนใบหน้าที่มีรอยยิ้มใบนั้น นอกจากความเคารพที่ผิวเผินแล้ว ก็ดูอย่างอื่นไม่ออกอีกเลย
และไม่รู้ด้วยว่าที่เขาพูดมันจริงหรือไม่จริงกันแน่
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ขอบคุณผู้ช่วยเว่ยมากนะครับ รบกวนเวลาของคุณแล้ว คุณไปทำงานของคุณต่อเถอะครับ”
ฉูรั่วไป๋ไม่ได้สนใจว่าขนมพวกนี้จะเป็นลูกเล่นอะไร ก็เลยตอบรับไปส่งๆแบบนั้น
เมื่อส่งของเสร็จ เว่ยชีก็ควรออกไปตามความสมควรแล้ว
แต่เขากลับมองดูหนังสือที่อยู่ในมือของเย้นหว่าน “คุณเย้นกำลังค้นคว้าเกี่ยวกับหัวข้อการออกแบบ9Qเหรอครับ”
เย้นหว่านตกใจ “คุณก็รู้เหรอ” ผู้ช่วยเว่ยเป็นผู้ช่วยคนพิเศษของโห้หลีเฉิน มีความสามารถในการจัดการกับทุกสิ่งอย่าง คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเข้าใจแม้กระทั่งงานออกแบบ
เว่ยชีเม้มปากอย่างนอบน้อม “รู้แค่ผิวเผินครับ”
มุมปากของเย้นหว่านกระตุกเล็กน้อย 9Qเป็นศัพท์ทางเทคนิคเฉพาะ สามารถมองออกได้ในพริบตาเดียวว่ากำลังค้นคว้าเรื่อง9Q เว่ยชีจะต้องความรู้อยู่ไม่น้อยแน่ๆ
เย้นหว่านฉันอดไม่ได้ที่จะชื่นชมเขาด้วยความจริงใจ คนที่สามารถทนอยู่ข้างกายโห้หลีเฉินมาตั้งนานหลายปีขนาดนี้ จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
เว่ยชีกลับไม่ได้ใส่ใจความชื่นชมของเย้นหว่านเลยแม้แต่น้อย แล้วยังพูดต่ออีกว่า
“ถ้าคุณอยากจะดูหนังสือที่เกี่ยวข้องกับด้านนี้ ไปที่ห้องข้อมูลเล็กน่าจะเหมาะสมกว่านะครับ”
“ห้องข้อมูลเล็ก ?”
เย้นหว่านรู้สึกแปลกใจ ที่นี่ไม่ใช่ห้องข้อมูลขนาดเล็กที่พวกเขาสร้างเพื่อให้คนทีมออกแบบใช้กันเหรอ เป็นห้องสมุดขนาดย่อมไม่ใช่เหรอ ?
ฉูรั่วไป๋เองก็สงสัยและไม่เข้าใจอยู่เหมือนกัน ในฐานะหนึ่งในหัวหน้าทีม เขากลับไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องห้องข้อมูลเล็กที่เว่ยชีพูดถึงมาก่อนเลย
เว่ยชีพยักหน้า “ที่นี่เป็นข้อมูลสำหรับทีมงานทั้งหมด เลยเป็นข้อมูลทั่วไปซะส่วนใหญ่ แต่โดยรวมก็ยังไม่ละเอียดพอ เพราะคำนึงถึงจุดนี้ ทางบริษัทก็เลยจัดเตรียมห้องข้อมูลเล็กไว้อีกห้องหนึ่ง ข้อมูลกับหนังสือที่อยู่ในนั้นจะเป็นพวกข้อมูลเจาะลึกเฉพาะทางทั้งหมด ล้วนเป็นหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการค้นคว้าทั้งหมด ถ้าผมจำไม่ผิด ใน9Qเองก็มีการแบ่งโซนเฉพาะอยู่ด้วยครับ”
เฉพาะทาง หรือว่าแบ่งโซน ก็หมายความว่าจะมีข้อมูลล้ำค่ามากมายที่ปกติเธอหาไม่ได้จากที่อื่นน่ะสิ
ตรงส่วนนี้ของโห้ถิงกรุ๊ปช่างยอดเยี่ยมมากจริงๆ
เย้นหว่านรู้สึกปลื้มอกปลื้มใจ “แล้วห้องข้อมูลอยู่ที่ไหนเหรอคะ ผู้ช่วยเว่ย คุณจะช่วยพาฉันไปได้ไหม”
จู่ๆก็แก้ปัญหาใหญ่ได้ในพริบตา ความสนใจของเย้นหว่านถูกเบี่ยงเบนไปโดยสิ้นเชิง เธอดีใจมาก กระทั่งลืมที่จะรู้สึกถึงความผิดปกติของห้องข้อมูลไปเลย
แต่ฉูรั่วไป๋กลับมีสีหน้าวิตกกังวล คิ้วขมวดกันแน่น มองประเมินเว่ยชีครั้งแล้วครั้งเล่า
เว่ยชีพึ่งพาความเป็นมืออาชีพในการจัดการ เลยทำให้สามารถเมินเฉยต่อสายตาอันเย็นยะเยือกของฉูรั่วไป๋ได้อย่างหมดจด
เขายิ้มแล้วพูดกับเย้นหว่านว่า “อยู่ในห้องที่อยู่สุดทางเดินของชั้นนี้แหละครับ พื้นที่ไม่ใหญ่ แต่ข้อมูลครบถ้วนมากครับ”
“งั้นฉันขอไปดูหน่อยนะ”
เย้นหว่านเดินออกไปข้างนอกทันทีโดยไม่คิดอะไร
ตอนที่เดินไปถึงหน้าประตู เธอก็คิดอะไรขึ้นมาได้ แล้วหันกลับมาพูดกับฉูรั่วไป๋ที่ยังยืนนิ่งอยู่กับที่ว่า “คุณฉู ไม่ได้ด้วยกันเหรอคะ”
เขากับเธอมาที่นี่เพื่อหาหนังสือด้วยกัน เธอไม่มีเหตุผลที่จะทิ้งที่ปรึกษาไว้กลางทาง
“ไป ไปสิ”
ฉูรั่วไป๋ยิ้มออกมา แล้วเดิมอ้อมเว่ยชีแล้วเดินตามเย้นหว่านออกไป
อารมณ์ของเขากลับไม่ได้สวยงามเหมือนรูปลักษณ์ภายนอก แต่กลับวิตกกังวล รู้สึกว่าการที่จู่ๆก็มีห้องข้อมูลเล็กโผลขึ้นมาแบบนี้ มันไม่น่าไว้วางใจเลย
แต่เขากลับหาเหตุผลที่เหมาะสมเพื่อพูดออกมาไม่ได้เลย
เว่ยชีมองดูทั้งสองที่เดินจากไปทีละคน และมุมปากของเขาก็ผุดรอยยิ้มแห่งชัยชนะขึ้นมา จากนั้นก็ยกถาดอาหารว่างขึ้นมา แล้วตามเย้นหว่านไปทางห้องข้อมูลเล็ก
“แกร่ก”
ผลักประตูให้เปิดเบาๆ เย้นหว่านเดินเข้าไปข้างใน แล้วก็เห็นว่าในห้องที่ไม่ได้กว้างใหญ่ มีชั้นหนังสือที่ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบอยู่หลายชั้น
และก็เป็นไปตามที่เว่ยชีบอกไว้ หนังสือทุกชนิดจะมีการจัดโซน จัดแบ่ง และล้วนเป็นข้อมูลที่หาได้ยากทั้งนั้น สำหรับเธอแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสมบัติล้ำค่าที่หาไม่ได้ง่ายๆ
เย้นหว่านเดินเข้าไปด้วยความดีใจ
ฉูรั่วไป๋เองก็เดิมตามเข้าไปด้วย เมื่อกวาดตามองหนังสือพวกนี้แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัว
เขาตามหามาตั้งหลายปี ขนาดหนังสือจำนวนจำกัดที่นี่ก็ยังมีเลยเหรอ
โห้ถิงกรุ๊ปเป็นสัตว์ประหลาดจากไหนกันแน่